เย้นหว่านพูดอย่างเรียบง่ายว่า “รู้ไหมว่าทำไมเธอถึงต้องเข้ามาในฐานะผู้ช่วย ไม่ได้มาในฐานะหมอ?”
แคทเธอรีนตอบ “ฉันก็ต้องรู้อยู่แล้วล่ะสิ โห้หลีเฉินเป็นคนบอกฉันด้วยตัวเอง ว่าตอนนี้สถานการณ์ของตระกูลหยูค่อนข้างซับซ้อน ทางที่ดีไม่ควรให้ความรู้เกี่ยวกับอาการป่วยของเขา”
“ในเมื่อเป็นแบบนั้น ในฐานะที่เป็นภรรยาของเขา เธอไม่คิดว่าฉันควรจะร่วมแสดงละครกับเขาเหรอ?”
เย้นหว่านจ้องแคทเธอรีน รอยยิ้มของเธอถากถางมากกว่าเดิม
รอยยิ้มที่หยิ่งผยองและพึงพอใจของแคทเธอรีนก็ขังนิ่งอยู่กับที่ สายตาคลุมเครือและมองเย้นหว่านไม่หยุด
“ฉันไม่เชื่อ!แม้แต่ตอนที่พวกเธอสองคนอยู่ด้วยกัน เขายังเรียกฉันว่าผู้ช่วย พวกเธออยู่ในการสองคนไม่มีความจำเป็นต้องแสดงอะไร”
“ถ้าเกิดว่าเธอรู้จริงๆ ถ้าจะอาศัยโอกาสตอนที่ไม่มีคนอื่นอยู่ด้วย มาถามฉันเกี่ยวกับอาการป่วยของเขา”
นี่คือเหตุผลที่ทำให้แคทเธอรีนแน่ใจว่าเย้นหว่านไม่รู้เรื่องนี้
เย้นหว่านตอบ “ทำไมฉันต้องไปถามกับเธอด้วย? อาการป่วยทั้งหมดของโห้หลีเฉิน เขาเป็นคนบอกฉันด้วยตัวเอง”
แคทเธอรีนชะงักไป ใบหน้าของเธอซีดเผือด
เย้นหว่านพูดต่อ “เมื่อครึ่งเดือนก่อนหน้านี้ ครั้งแรกที่เกิดอาการป่วย เนื้อ 10 วันก่อนคือครั้งที่ 2 หลังจะได้รับการรักษา อาการก็คลี่คลายลงและได้รับการควบคุม แต่ว่าเมื่อ 3 วันก่อน อาการของเขาก็กำเริบขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง”
เวลาพวกนี้ มันไม่ได้แตกต่างจากเวลาของแคทเธอรีนเลย
แคทเธอรีนมองไปที่เย้นหว่านด้วยความช็อก “นี่มันเป็นไปไม่ได้ เธอไม่เคยมีส่วนร่วมในการรักษาขั้นตอนไหนเลย แม้แต่ไม่เคยพูดถึงมันด้วยซ้ำ นี่ไม่ใช่เรื่องที่โห้หลีเฉินบอกเธอ แต่ว่าเธอไปตามซื้อมาเองใช่ไหม?!”
“รู้ไหมว่าทำไมฉันถึงไม่เข้าร่วม?”
เย้นหว่านกำมือแน่น ใบหน้าของเธอก็ซีดลงเรื่อยๆ
แม้แต่เสียงของเธอก็ทุ้มต่ำลงเรื่อยๆ เช่นกัน “เพราะว่าเขาบอกฉัน ว่ามันเป็นแค่โรคธรรมดา แต่ว่ามันเจ็บมาก แต่ว่ามันสามารถรักษาให้หายได้ ทุกอย่างก็จะเป็นไปในทางที่ดีขึ้น ขอแค่รอจนกว่าลูกของเราจะเกิดออกมา ทุกอย่างก็จะดีขึ้น”
“แต่ฉันรู้ว่าโรคพวกนี้ แม้แต่การรักษา อย่างมากก็แค่ผ่อนคลายลง แต่ว่ามันไม่สามารถดีขึ้นได้ อาการป่วยของเขา มันร้ายแรงกว่าที่เขาพูดเยอะมาก แต่ว่าเขาแค่ไม่อยากให้ฉันเป็นห่วง”
เย้นหว่านไม่ได้พูดอะไรต่อ แต่ว่าแคทเธอรีนจะไม่เข้าใจได้ยังไง
ที่โห้หลีเฉินปิดบังเรื่องอาการป่วยที่แย่ลงของเขา เพราะไม่อยากจะให้เย้นหว่านต้องเป็นห่วง แต่ว่าเย้นหว่านกลับหรือยังชัดเจน ไม่อยากจะไปเจาะ แล้วก็ไม่อยากจะไปสถานที่รักษา ไม่ไปเป็นห่วงเกี่ยวกับเรื่องอาการป่วย ทั้งหมดก็เพื่อช่วยโห้หลีเฉิน ไม่ให้เขาต้องเป็นห่วงเธอ
ระหว่างพวกเขาไม่ได้มีอะไรปิดบังกัน แล้วก็ต่างเข้าใจซึ่งกันและกัน
แคทเธอรีนนั่งอึ่งๆ ใบหน้าของเธอสั่นเทา และแก้มก็สิ้นเหมือนคนโง่
เธอนึกว่า เย้นหว่านไม่รู้เกี่ยวกับอาการป่วยของโห้หลีเฉิน เพราะว่ามันเกิดความร้าวฉานระหว่างพวกเขาขึ้น
นี่คือโอกาสของเธอ
เธอหน้าตาดี สวย แล้วก็อยู่กับโห้หลีเฉินทั้งวัน ตอนนี้โห้หลีเฉินก็อยู่ห่างจากเธอไม่ได้ ระหว่างพวกเธอทั้งสองคน ไม่ช้าก็เร็วก็จะเกิดประกายไฟขึ้น
และเธอ ตั้งแต่ครั้งแรกที่ได้เจอกัน เธอก็ตกหลุมรักผู้ชายรูปหล่อคนนี้เข้าซะแล้ว
เธออยากจะอยู่ข้างกายเขา กลายเป็นผู้หญิงของเขา แม้แต่ยอมที่จะเป็นเมียน้อย มีสามีคนเดียวกับเย้นหว่าน
เธอวางแผนมาอย่างดีมาก
ขอแค่ตอนนี้เธอทำให้เย้นหว่านพ่ายแพ้ได้ ทำให้เย้นหว่านเชื่อว่าเธอกับโห้หลีเฉินคบกันจริงๆ ตอนที่เย้นหว่านอกหักและเศร้านั้น หลังจากที่รับรู้เหตุผลแล้วก็ทำให้เย้นหว่านตกลงยอมมีสามีคนเดียวกับเธอ
แม้แต่ว่าถ้าสุดท้ายเธอไม่ยินยอม ก็จะเพิ่มความในใจของเย้นหว่าน ทำให้เกิดความเข้าใจผิดระหว่างเธอกับโห้หลีเฉิน
ถ้าเกิดว่ามีความเข้าใจผิดกันแล้ว เมื่อเวลาผ่านไปความขัดแย้งมันก็จะสะสมขึ้นไปเรื่อยๆ ไม่กลัวหรอกว่าเธอจะไม่มีโอกาส
แต่ว่า เธอกลับไม่คิดเลยว่า ระหว่างเย้นหว่านกับโห้หลีเฉิน จะไม่มีความลับระหว่างกันเลยจริงๆ
แผนการทั้งหมดของเธอ ได้กลายเป็นเพียงแค่ความฝัน ความฝันลมลมแรง
เย้นหว่านมองไปที่แคทเธอรีนอย่างเย็นชา แล้วก็ไล่เธอกลับอย่างตรงไปตรงมา
“ไปเถอะ อย่ามารบกวนการกินข้าวของฉันเลย”
แคทเธอรีนเต็มไปด้วยความอารมณ์เสียและไม่พอใจ แต่ว่าก็นึกคำพูดยั่วยุไม่ออก
เธอแพ้ราบคาบ
แคทเธอรีนเดินออกไปยังเศร้าซึม
เย้นหว่านไม่ได้มองเธอ ก้มหน้าลงมองสุดในชาม แต่ว่ากลับไม่มีความอยากอาหารเลยแม้แต่นิดเดียว
แต่กลับรู้สึกคลื่นไส้แทน
เธอไม่ได้แพ้ท้องมานานแล้ว แต่ว่าตอนนี้ เธอรู้สึกรังเกียจมากจนอยากจะอาเจียนออกมา
เธอไม่เคยคิดเลยว่า ระหว่างการรักษา จะทำให้แคทเธอรีนมีความคิดแบบนี้ได้ อยากได้โห้หลีเฉิน
และเพราะว่าเธอเป็นหมอที่ดูแล โห้หลีเฉินเราจำเป็นต้องเผชิญหน้ากับเธอทั้งวันทั้งคืน
เธอมีความคิดที่น่ารังเกียจแบบนี้ ตอนที่อยู่กับโห้หลีเฉินมาตลอดเลยงั้นเหรอ?
มีไฟก่อตัวขึ้นที่หน้าอกของเธอ ทำให้เธออยากที่จะไล่แคทเธอรีนออกไป
เธอจะไม่ให้คนที่เจตนาไม่ดีแบบนี้อยู่ข้างๆ โห้หลีเฉินเพียงลำพังเด็ดขาด
เธอรู้สึกรังเกียจ แต่ว่ามากกว่านั้นคือเป็นห่วงความปลอดภัยของโห้หลีเฉิน
และยิ่งไปกว่านั้น……
เย้นหว่านมองชามนั้นด้วยแววตาที่ซับซ้อน ภาพที่ซ้อนมาจากถ้วยซุป คือสีหน้าของเธอที่เต็มไปด้วยความเจ็บปวดและโศกเศร้า
เธอสงสารโห้หลีเฉิน
ไม่มีใครคิดว่าจู่ๆ โห้หลีเฉินจะป่วย แถมสถานการณ์อย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ 1ครั้ง สองครั้ง จนไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
เมื่ออาการกำเริบขึ้นได้เรื่อยๆ โห้หลีเฉินก็เหมือนไต่เชือกอยู่บนหน้าผา ชีวิตตกอยู่ในอันตรายได้ตลอดเวลา
ตอนนี้ลูกเพิ่งมีอายุแค่ 4 เดือนเท่านั้น กว่าจะคลอด ก็ยังต้องใช้เวลาอีกกว่า 5 เดือน
โห้หลีเฉินจะสามารถยื้อได้ถึงตอนนั้นไหม?
ไม่มีใครรู้ เรื่องนี้มันเหมือนการที่ขอให้ใครสักคนหนึ่งไปเดินอยู่ในทะเลทราย 5 เดือนด้วยน้ำแร่เพียง 1 ขวด
และก็เพราะว่าแบบนี้ แคทเธอรีนถึงได้มีความคิดเช่นนั้น คิดว่าเธอสำคัญ ก็เลยมีความคิดแบบนั้นกับโห้หลีเฉิน
ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร เย้นหว่านไม่สามารถนั่งรอความตายได้อีกแล้ว
เย้นหว่านไม่ได้แตะต้องข้าวเช้าเลยแม้แต่นิดเดียว เธอยืนขึ้น แล้วก็เดินออกไปด้านนอก
เหมือนกับคาดการณ์เอาไว้แล้ว ตอนที่เธอเดินไปถึงประตู ก็มีบอดี้การ์ดมาขวางทางไว้ในทันที
เขาพูดอย่างมีมารยาทและเคารพ:
“คุณนาย จะไปไหนเหรอครับ?”
เย้นหว่านตอบ “ฉันจะไปข้างนอก ไปหาโห้หลีเฉิน”
สีหน้าของบอดี้การ์ดดูลำบากใจ ร่างสูงยืนนิ่งอยู่ที่ประตูไม่ยอมหลีก
“ขอโทษด้วยครับคุณนาย คุณชายได้สั่งไว้ ว่าช่วงนี้คนห้ามออกจากบ้านนี้ ข้างนอกมันอันตราย คุณเข้าไปเถอะครับ ถ้าเกิดว่าอยากเจอคุณชาย ก็โทรหาเขาสิครับ ให้เขารีบกลับมา?”
“ฉันอยากไปที่ทำงานเขา”
ท่าทางของเย้นหว่านดูแน่วแน่ “ฉันรู้ว่าอันตราย แล้วก็รู้ว่าตอนนี้ฉันตั้งท้องอยู่ คนของตระกูลหยูเพื่อหลานแล้ว ส่วนใหญ่จะไม่มีทางแตะต้องฉัน ตอนนี้ฉันถือว่าปลอดภัย แค่จะไปหาโห้หลีเฉินเท่านั้น ไม่เกิดอะไรขึ้นระหว่างทางหรอก”
“ถ้าเกิดว่านายไม่สบายใจ ก็ส่งบอดี้การ์ดตามฉันไปสิ”
บอดี้การ์ดคนนั้นลังเล”แต่ว่า……”
“ตอนนี้ฉันจำเป็นต้องออกไป”เย้นหว่านมองเขา และออกคำสั่ง “ถอยไป”
บอดี้การ์ดคนนั้นสีหน้าเปลี่ยนไปในทันที
ถึงแม้ว่าจะได้รับคำสั่งจากโห้หลีเฉิน แต่ว่าเย้นหว่านก็เป็นเจ้านายของพวกเขาเหมือนกัน ความต้องการอย่างหนักหน่วงของเธอทำให้พวกเขาไม่กล้าขวาง
ทำได้แค่ระดมบอดี้การ์ดจำนวนมาก คอยติดตามเย้นหว่านไป
โห้หลีเฉินจัดการเรื่องต่างๆ ในปราสาทเล็กๆ ที่อยู่ตามลำพัง อยู่ห่างจากที่อยู่ของเย้นหว่าน ไม่ใกล้ไม่ไกลเท่าไหร่นัก
เย้นหว่านนั่งอยู่บนรถราง ถูกบอดี้การ์ดกลุ่มหนึ่งคุ้มกัน ขับรถอยู่บนถนน
ตอนที่กำลังจะถึงนั้น ก็ได้เจอกับหยูฉู่สอง