ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้สติจะเข้าใจว่าเธอคือเย้นหว่าน ทุกอย่างที่เกี่ยวกับเย่ซือซือไม่มีความเกี่ยวข้องที่แท้จริงกับเธอเลย แต่ว่าเรื่องที่เกิดขึ้นในช่วงนี้ สำหรับการหักหลังต่อเสิ่นเคอหาน ก็จะมีความหลังต่ออารมณ์ของเธอบ้างเล็กน้อย
เหมือนกับว่าในใจมีก้อนหินก้อนใหญ่ๆ ทับอยู่เป็นบ่อยครั้ง รู้สึกหนักๆ ในใจ
ตอนนี้ก้อนหินก้อนนั้น เบาขึ้นเยอะเลย
โห้หลีเฉินกุมมือของเธอไว้ พยักหน้าแล้วถามต่อ “ทำไมเธอถึงออกมาคนเดียว ป่ายฉีล่ะ?”
“การสะกดของเขาจะลึกกว่า น้าเมย์บอกว่าระหว่างที่สะกดจิตเขา ถูกกระทบหนักมาก รู้สึกจะหนักมือหน่อย น้าเมย์ก็ยังทำการใช้การสะกดจิตกับเขา เดี๋ยวเขาถึงจะออกมา”
หยุดไปสักพัก เย้นหว่านพูดต่อ “หลังจากที่ฉันยอมรับการนอกใจของนาย การสะกดจิตของฉันก็ได้ถูกทำลายแล้ว ดังนั้นอาการของฉันจะดีกว่า แต่ว่าป่ายฉีเพื่อการแสดงสมจริง ยอมรับความเจ็บปวดและความทุกข์ทรมานของการทรยศ เขาต้องออกมาจากอารมณ์แบบนั้นก่อน อาจจะต้องใช้เวลาเยอะหน่อย”
ก็หมายความว่าการแก้ผลกระทบจากการสะกดจิตอย่างเด็ดขาดของเย้นหว่าน ต้องใช้เวลา 1 อาทิตย์ ส่วนป่ายฉีกลับต้องใช้เวลาที่มากกว่านั้น
นี่ก็หมายความว่า พวกเขาต้องอยู่ที่นี่ไม่น้อยกว่า 1 อาทิตย์แล้ว
โห้หลีเฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย แสดงสีหน้าไม่เต็มใจออกมาแต่ก็แค่แว๊บเดียว เขาจูงมือของเย้นหว่านไว้
“การสะกดจิตวันนี้เสร็จแล้วหรอ?”
เย้นหว่านพยักหน้า “อื้ม วันนี้ทำครั้งเดียวก็พอแล้ว ต้องย่อยด้วยตัวเอง”
“ถ้าอย่างนั้นคืนนี้พวกเราออกไปเที่ยวเล่นข้างนอกกันเถอะ” โห้หลีเฉินพูด
เย้นหว่านรู้สึกแปลกใจเล็กน้อย ไม่อยากจะเชื่อเลยว่าโห้หลีเฉินจะพูดเรื่องการออกไปเที่ยวได้?
ลองคิดอีกที เธอก็เข้าใจแล้ว
รวมเวลาทั้งหมด โห้หลีเฉินถูกขังอยู่ในบ้านตระกูลหยูเป็นเวลา 2 ปีเต็มๆแล้ว นอกจากครั้งนี้ที่หนีออกมา เขาแทบไม่เคยออกจากตระกูลโห้เลย
ในที่สุดก็หนีออกมาแล้ว อยากจะเที่ยว มองดูโลกภายนอก ถึงจะเป็นโลกที่ธรรมดาที่สุด
คิดถึงตรงนี้ เย้นหว่านรู้สึกสงสารเขา
เธอจับมือของเขาไว้แน่น พยักหน้า “ก่อนหน้านี้ฉันเคยอาศัยที่นี่ช่วงหนึ่ง ก็ถือว่าคุ้นเคยกับหมู่บ้านนี้ ฉันพานายไปเที่ยวที่ที่สนุก”
…….
ทำการสะกดจิตติดต่อกันหลายชั่วโมง น้าเมย์ก็ได้กลับไปในห้องของตัวเองอย่างเหนื่อยล้า
เธอพึ่งเดินเข้าประตู ก็เห็นแองเจล่าที่นอนเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียงของเธอ
เธอยิ้ม “ลูกมาที่นี่ได้ยังไง?หิวแล้วหรอ?เดี๋ยวก่อนนะ แม่เปลี่ยนชุดเสร็จก็ไปทำกับข้าว”
แองเจล่าวางโทรศัพท์ลง แล้วเงยหน้ามองน้าเมย์ ถามว่า : “เย้นหว่านและป่ายฉีเป็นยังไงบ้าง?”
“สภาพของเย้นหว่านดีหน่อย 4-5วันก็สามารถแก้การสะกดจิตได้อย่างสมบูรณ์แล้ว สภาพของป่ายฉีแย่หน่อย ถ้าแม่พยายามหน่อย หนึ่งอาทิตย์ก็น่าจะเคลียร์เสร็จ”
พูดเสร็จ น้าเมย์มองแองเจล่าอย่างแปลกใจ “แต่ว่าฉันบอกพวกเขาแล้ว สถานการณ์ของยาป่ายฉีแย่กว่า อาจจะต้องใช้เวลาหนึ่งอาทิตย์กว่า ไม่ได้บอกอะไรแน่ชัด ก่อนหน้านี้ที่ลูกตั้งใจบอกให้แม่ทำการตรวจก่อน เพราะอะไร?”
เป็นเพราะว่าท่าทีของแองเจล่า ดังนั้นน้าเมย์ก็เลยตั้งใจพูดเวลาให้มาก
แองเจล่าพยักหน้าอย่างพอใจ “การรักษาของป่ายฉีแม่ยื่อให้นานหน่อย ยิ่งนานยิ่งดี”
ยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่ “ทำไม ลูกคิดจะทำอะไรหรอ?”
บนหน้าของแองเจล่าเต็มไปด้วยรอยยิ้ม ลุกขึ้นยืน แล้วโชว์หน้าจอโทรศัพท์ต่อหน้าน้าเมย์
ข้างบน เป็นรูปที่ถูกโห้หลีเฉินลบไปเมื่อกี้แล้ว
ตอนนั้นเธอได้โพสต์ลงโซเชียลอย่างเงียบๆ จึงทำการเก็บไว้ได้
น้าเมย์เห็นรูปของโห้หลีเฉิน ก็ยิ่งตะลึงเข้าไปใหญ่
“แองเจล่า ลูกเก็บภาพของคุณโห้ไว้ทำไม?หรือว่า ลูกเปลี่ยนไอดอล ชอบคุณโห้?แต่ว่าเขาก็ไม่ใช่ดารานิ”
“แต่เขาหล่อกว่าดาราหลายเท่าเลย นี่เป็นครั้งแรกในชีวิตของฉันที่เจอผู้ชายที่หล่อขนาดนี้”
ในตาของแองเจล่าเต็มไปด้วยแสงและความมั่นใจ “ฉันต้องได้เขาให้ได้!”
น้าเมย์ตกใจ รีบห้าม “คุณโห้ไม่เหมือนกับพวกดาราพวกนั้น ลูกจะเล่นดาราไม่มีปัญหา แต่ว่าตัวตนและฐานะของคุณโห้และวิธีการของเขา ก็ไม่เหมือนกับพวกผู้ชายในวงการบันเทิง เขาไม่ใช่คนที่ลูกจะเล่นได้ง่ายๆ ”
แองเจล่าเป็นพวกตามดารา แต่ว่าการไล่ตามดาราของเธอนั้นแตกต่างกับคนอื่นมาก เพราะว่าพวกดาราที่ถูกเธอชอบ สุดท้ายก็จะถูกเธอนอน
คนที่ชอบอาจจะเลี้ยงไว้ช่วงเวลาหนึ่ง เบื่อแล้วก็แค่เตะออก
เธอเป็นพวกชอบคนที่หน้าตา หลายปีมานี้ ผู้ชายที่ถูกเธอนอนมานับไม่ถ้วน
ไม่มีคนไหนที่เธอไม่ได้มือเลย
“ดังนั้นถึงยิ่งมีความท้าทายไม่ใช่หรอ?”
แองเจล่าอยากจะลอง “มีแต่การพิชิตผู้ชายอย่างโห้หลีเฉิน ถึงจะเป็นการพิชิตที่แท้จริง ไม่แน่ หนูอาจจะหลงรักเขาก็ได้ แม่อยากให้หนูหารักรักแท้เจอเร็วๆ แล้วแต่งงานไม่ใช่หรอ บางทีเขาอาจจะเป็นโห้หลีเฉินก็ได้ มีแค่เขาเท่านั้นที่จะคู่ควรกับหนู”
น้าเมย์เหงื่อเย็นไหลทันที ทั้งตกใจและกลัว
“แม่ทูนหัวของฉัน ลูกจะคิดแบบนั้นไม่ได้นะ ไม่พูดอย่างอื่น โห้หลีเฉินได้แต่งงานแล้ว ยังมีลูกอีกสองคน เป็นผู้ชายที่แต่งงานแล้ว ลูกทำอย่างนี้ มันไม่ได้นะ”
“หนูไม่สน”
แองเจล่าท่าทางแน่วแน่มาก
น้าเมย์รู้จักนิสัยของแองเจล่าดี พอตัดสินใจจะทำอะไรแล้ว ใช้วัวมาลากก็ลากไม่กลับมา
เรื่องเมื่อก่อนที่ไม่ว่าจะเหลวไหลแค่ไหน ขอแค่เธอชอบ น้าเมย์ก็ต้องตามใจของเธอ แต่ว่าเรื่องของโห้หลีเฉินครั้งนี้ มันเรื่องใหญ่เกินไปแล้ว
ไม่เพียงแต่ฐานะของโห้หลีเฉินสูงเกินไป ยังมีปัญหาทางด้านศีลธรรม
“แองเจล่า ลูกทำอย่างนี้ คืออยากจะเอากระบองตีคู่รักหรอ?การแทรกเข้าไปในครอบครัวคนอื่น ลูกจะเป็นมือที่สามนะ”
“สามารถเข้าไปแทรกในครอบครัวคนอื่น ไม่โทษมือที่สาม จะโทษก็โทษพวกเขาที่รักกันไม่พอ ผู้หญิงเสน่ห์ไม่แรงพอ ผู้ชายสติไม่มั่นคงพอ” แองเจล่าพูดต่อ “ถ้าพวกเขารักกันจริง หนูจะไปทำลายได้ยังไง?”
“เป็นอย่างนี้ก็จริง แต่ว่า……”
“พอแล้ว ไม่ต้องพูดแล้ว หนูตัดสินใจแล้ว” สายตาแองเจล่าเย็นชาลงเล็กน้อย ยืนอยู่บนเตียง มองน้าเมย์จากที่สูงลงมา “แม่แค่เพียงทำตามที่หนูบอกก็พอ พยายามให้ป่ายฉีอยู่นานหน่อย”
น้าเมย์ขมวดคิ้วแน่น “แองเจล่า อย่าทำเรื่องอย่างนี้ได้ไหม?เธอเป็นเด็กที่ดีนะ”
“เด็กดี?” แองเจล่าหัวเราะอย่างประชด “มีแค่คนโง่ๆ อย่างแม่เท่านั้นแหละ ที่จะพูดเรื่องผิดชั่วร้ายดี ฉันจะใช้ชีวิตเพื่อตัวเอง ไม่สนว่ามันจะผิดหรือดี สิ่งที่ฉันอยากได้ก็ต้องได้”
สีหน้าของน้าเมย์ยิ่งดูไม่ดีเข้าไปใหญ่ คิ้วแทบจะเข้าหากันแล้ว
เธอมองแองเจล่าแล้วลังเลไปสักพัก จากนั้นก็กัดปากพูดว่า “แม่ตกลงเรื่องแบบนี้กับลูกไม่ได้ แม่จะพยายามรักษาป่ายฉีให้เสร็จเร็วๆ แล้วให้พวกเขาจากไป ลูกเองก็ตายใจไปซะเถอะ โห้หลีเฉินไม่ใช่ผู้ชายที่ลูกควรไปยุ่งด้วย”
“เพี้ยะ!”
พึ่งพูดเสร็จ ก็ได้ยินเสียงตบดัง ตกอยู่บนหน้าของน้าเมย์
น้าเมย์มองแองเจล่าอย่างช็อกและตะลึง