แรบบิทถูกคนกลุ่มหนึ่งพามายังข้างในห้องหนังสือของหัวหน้าเจมส์
เขาสายตาแหลมคม จมูกยาวแหลมงุ้ม อายุสี่สิบกว่าปี เหมือนกับเหยี่ยวตัวหนึ่ง
ในมือของเขาถือไวน์แดงแก้วหนึ่ง มองดูเด็กหญิงตัวเล็กที่ถูกมัดอยู่บนเปลกำลังดิ้นรนเจ็บปวดอย่างเย็นชา
“เด็กคนนี้ดูแล้วก็ปกติธรรมดา แม้แต่ยาก็อาจจะทนไม่ไหว มีอะไรแตกต่างตรงไหน?”
“ถ้าทนไม่ไหว ก็ไม่มีอะไรแตกต่างน่ะสิ”
แถวหน้าต่างของห้อง มีชายอีกคนหนึ่งเดินมา ฝู้ยวน
เขามองดูแรบบิทอย่างเย็นชา “แต่ถ้าหากเธอทนผ่านไปได้ ไม่ตาย ก็จะมีประโยชน์อย่างมาก”
“หมายความว่าไง?” เจมส์ถาม
“เด็กคนนี้ เป็นลูกสาวของโห้หลีเฉิน เจ้าหญิงน้อยของตระกูลหยู”
เจมส์เดินเข้ามา มองใบหน้าของแรบบิทอย่างละเอียด จากนั้นก็ใช้มือลูบเล็กน้อย
ยิ้มออกมา “ที่แท้ก็เป็นการแปลงโฉมขั้นสูง หลอกคนของฉันได้สนิท หากไม่ใช่เพราะคุณมา คงไม่รู้ว่าเด็กหญิงคนนี้มีสถานะนี้ด้วย”
“จำเธอได้นั้นง่ายมาก ร่างกายแบบนั้นของเธอ คือแช่ออกมาจากในบ่อน้ำร้อนของตระกูลหยู บนโลกนี้มีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น”
ก็เพราะสภาพร่างกายของแรบบิทนั้นพิเศษ ถึงถูกส่งมาตัวคนเดียว
เด็กคนอื่นต่างต้องตรวจสอบ ฝึกฝนเป็นเวลานานช่วงหนึ่ง ถึงจะเริ่มลองฉีดยา แต่ว่าแรบบิทเพิ่งมา ก็ฉีดยาเลย
เจมส์พนันไว้แต่แรกแล้ว ว่าเธอแตกต่างจากคนอื่น
ก็แค่เมื่อกี้ฝู้ยวนมา ถึงรู้ว่า เด็กหญิงที่แตกต่างจากคนอื่นคนนี้ เป็นถึงลูกสาวของโห้หลีเฉิน เจ้าหญิงน้อยที่หนีออกมาจากตระกูลหยูคนนั้น
แบบนี้ ยิ่งน่าสนใจ
หากสาวน้อยคนนี้ทนผ่านครั้งนี้ไปได้ ไม่ถึงแก่ความตาย ก็จะกลายเป็นดาบในมือของเขาที่ร้ายกาจที่สุดเล่มหนึ่ง สามารถทำให้โห้หลีเฉินและตระกูลเย้นไม่กล้าลงมือ
อีกอย่าง สภาพร่างกายของเธอ จะทำให้เธอกลายเป็นเครื่องจักรสังหารที่เก่งกาจที่สุดบนโลกนี้
“เพียงแต่ว่า โห้หลีเฉินไม่มีทางรามือง่ายๆแน่นอน ลูกสาวของเขา เขาจะต้องแลกทุกอย่างเพื่อแย่งชิงกลับไปแน่”
เจมส์ไม่คิดแบบนั้น “เขาไม่มีโอกาสนั้นหรอก”
“ไม่แน่หรอก ฐานทัพของคุณที่อ่างเก็บน้ำเกิดเรื่องครั้งนี้ ผมสงสัย ว่าจะเป็นฝีมือของเขา ยังไง อ่างเก็บน้ำของคุณ ทำไมถึงจะต้องมาเกิดเรื่องขึ้นในเวลาแบบนี้?”
เจมส์ขมวดคิ้ว “จะเป็นไปได้ยังไง? คนในฐานทัพของผม ทุกคนล้วนผ่านการคัดเลือกมาอย่างเข้มงวด ไม่มีทางมีไส้ศึกแน่นอน อีกอย่าง คนพวกนี้ ล้วนเป็นคนที่อยู่มาตั้งหลายปีก่อน ไม่มีคนใหม่ โห้หลีเฉินแม้อยากจะวางแผน ก็ไม่มีทางเป็นเวลานี้ได้”
ดังนั้นเรื่องที่อ่างเก็บน้ำเสียหาย เขาก็ไม่ได้คิดไปทางนั้นเลยตั้งแต่แรก
ฝู้ยวนยิ้มเยาะ “คุณดูถูกโห้หลีเฉินเกินไป เขาเป็นคนที่ขาทั้งสองข้างเป็นอัมพาต ก็ยังสามารถหนีออกจากตระกูลหยูไปได้”
“คุณรู้มั้ยว่าทำไมตอนนี้หยูฉู่สองถึงตามจับตัวเขาไปทั่วโลก?”
“ไม่เพียงแค่เพราะว่าเขาถึงจะสามารถเปิดกล่องสมบัติได้เท่านั้น ยังเพราะว่าโห้หลีเฉินอันตรายเกินไป ขอแค่เขามีชีวิตอยู่ สักวันจะต้องมาทำลายตระกูลหยูของหยูฉู่สอง ดึงเขาลงจากบัลลังก์แน่”
“และโห้หลีเฉิน มีความสามารถนี้”
เจมส์ตกตะลึง “แค่เขาคนเดียว? ตระกูลหยูเป็นถึงสิ่งยิ่งใหญ่ที่ยืนอยู่จุดสูงสุดของโลก พวกเราเตรียมการมาหลายปี ก็ยังไม่กล้ากินมันลงไปเลย”
ฝู้ยวนพยักหน้า “อำนาจของเขาตกลงว่ามีเท่าไหร่ ผมและหยูฉู่สองตรวจสอบมาสองปี ยังขุดออกมาไม่หมด อีกอย่าง เขาไม่ใช่แค่ตัวคนเดียว เขายังมีตระกูลเย้นอีก”
ดังนั้น นี่ถึงเป็นสิ่งที่หยูฉู่สองวิตกกังวล
โห้หลีเฉินรวมกับตระกูลเย้น เป็นคู่ต่อสู้และหนามที่ใหญ่ที่สุดของเขา
จะต้องมีสักวัน ที่ล้มเขาได้
ดังนั้นพวกเขาจำเป็นต้องเอาชนะพวกเขาให้ได้ ก่อนที่จะถูกเอาชนะ กระทั่ง…ฆ่าโห้หลีเฉินทิ้งซะ
เจมส์แววตาชั่วร้าย “เดิมทีว่าจะให้พวกเขาสู้กัน จนหัวร้างข้างแตก พวกเรารอรับผลประโยชน์ กำจัดตระกูลหยูและตระกูลเย้นทิ้งซะ แต่ว่าตอนนี้คงจะต้องเปลี่ยนแผนซะแล้ว”
จับตัวแรบบิทมา โห้หลีเฉินจะต้องเข้ามาถึงที่ และขัดแย้งกับเขาแน่
ฝู้ยวนแสยะยิ้ม “หยูฉู่สองตอนนี้ยังคงเชื่อใจผมทุกอย่าง ให้ผมช่วยเขาจับโห้หลีเฉิน แผนการเมื่อก่อนคือรอรับผลประโยชน์ ตอนนี้ร่วมมือกันกับหยูฉู่สองก็ได้ จัดการโห้หลีเฉินทิ้งก่อน”
“ครั้งนี้ตระกูลเย้นเข้าจู่โจม หยูฉู่สองบาดเจ็บสาหัส ถึงตอนนั้นเราก็โจมตีซ้ำ เขาก็จบแห่”
เจมส์ชูแก้วไปทางฝู้ยวน
“แผนการใหญ่ที่พวกเราวางเอาไว้หลายปี กำลังจะเป็นจริงแล้ว”
ฝู้ยวนยกแก้วไวน์ขึ้น ชนแก้วกับเจมส์
“ตอนนี้ก็ต้องรอดูสาวน้อยคนนี้แล้วล่ะ ถ้าเธอสามารถกลายเป็นดาบในมือเราได้ โลกนี้ ก็จะตกเป็นของเขาอย่างง่ายดาย”
มีแรบบิทอยู่ โห้หลีเฉินและตระกูลเย้นก็ไม่กล้าลงมือ
วันนี้ เขาก็จะจับโห้หลีเฉินได้ และฆ่าโห้หลีเฉิน
และกลับไปรายงานกับหยูฉู่สอง หยูฉู่สองก็จะยิ่งเชื่อใจเขามากขึ้น ให้อำนาจเขามากขึ้น
ส่วนตระกูลเย้นเนื่องจากการตายของโห้หลีเฉินและเย้นหว่าน ยิ่งมาล้างแค้นอย่างบ้าคลั่ง ถึงตอนนั้นก็คงจะไม่แยกแยะผิดชอบชั่วดี
แม้ว่าหยูฉู่สองจะได้รับชัยชนะ ก็ต้องได้รับบาดเจ็บสาหัส ถึงตอนนั้น เขาหักหลัง หยูฉู่สองก็ต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย
นี่ถึงเป็นเหตุผล ว่าทำไมสองสามครั้งนี้เขาถึงกระตือรือร้นอาสาช่วยหยูฉู่สองจับตัวคน
ทางด้านนี้ โห้หลีเฉิน เย้นหว่านและเด็กหนุ่ม เดินผ่านประตูเล็กๆบานนั้น ไปตามหาแรบบิท
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่น “ข้างในนี้ผมไม่ค่อยได้มา ไม่รู้ว่าด้านหลังเป็นอะไร พวกคุณเข้าไปเช่นนี้ เกรงว่าจะอันตราย”
ขณะพูด เขามองโห้หลีเฉินที่บนมือมีเลือดหยดลงมาไม่หยุด
บาดแผลของเขาสาหัสมาก
ถ้าหากเจอเข้ากับหุ่นแข็งแกร่งอีกคน พวกเขาก็จบสลาย
โห้หลีเฉินส่ายหน้า “เสียเวลามากแล้ว”
ชีวิตของแรบบิทแขวนอยู่บนเส้นด้าย
“แต่ว่า…” เด็กหนุ่มอ้าปาก เห็นทั้งสองคนตั้งใจแน่วแน่ ก็พูดอะไรไม่ออก
ตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยสัมผัสถึงความรักของพ่อแม่ ไม่รู้ว่าพ่อแม่จะรู้สึกอย่างไรกับลูก แต่ว่าเขารู้ เมื่อเขารู้ว่าถังเซียงคือน้องสาวของเขาในตอนนั้น เขายินดีแลกชีวิตเพื่อปกป้องเธอ
คิดดูแล้ว โห้หลีเฉินและเย้นหว่านก็คงจะเป็นเช่นนี้
โห้หลีเฉินไม่ใช่คนประมาท ถึงแม้ใจร้อนดั่งไฟที่เสียเวลาปลอบแรบบิท ก็ไม่ใช่จะฝ่าเข้าไปยังไงก็ได้ หลีกเลี่ยงคนอย่างระมัดระวัง พยายามไม่ให้ถูกพบ
พวกเขาไม่มีใครรู้ทาง ได้แต่ตามหาไปตามความรู้สึก
ขณะนั้น พวกเขาเดินมาถึงระเบียงทางเดินแห่งหนึ่ง ด้านหน้าก็มีคนสวมเสื้อกาวน์สีขาวหลายคนเดินเข้ามา
พวกโห้หลีเฉินรีบหลบทันที
คนสองสามคนนั้นเดินไปพูดคุยไป
“เรียกพวกเราเข้าไปเร่งด่วนขนาดนี้ เกิดเรื่องอะไรขึ้นงั้นหรอ?”
“ได้ยินว่ามีเด็กผู้หญิงที่มีสภาพร่างกายพิเศษอยู่คนหนึ่ง เพิ่งจะฉีดยาไป อาการไม่ค่อยดี แต่ว่าหัวหน้าบอกว่า ต้องทำทุกวิถีทางให้เธอผ่านไปให้ได้ ให้มีชีวิตต่อไป”
“ฉีดยาไปแล้ว เราช่วยไม่ได้แล้วนี่นา เป็นชะตาชีวิตของเธอเองแล้ว”
“ยังไงก็ต้องไปช่วย นี่เป็นคำสั่งเด็ดขาด หากเด็กผู้หญิงคนนั้นตาย พวกเราก็ต้องตาย”
……
เย้นหว่านฟังบทสนทนานี้ หัวใจเกือบจะเต้นออกมานอกลำคอ
เธอและโห้หลีเฉินมองตาประสานกันแวบหนึ่ง ความคิดทั้งหมด อยู่ในนั้นโดยไม่ต้องพูด
คนพวกนี้จะไปตรงที่แรบบิทอยู่ ตามพวกเขาไปก็พอ
เพียงแค่ เย้นหว่านยังมีความคิดที่ใจกล้าอย่างหนึ่ง