แต่ว่า เด็กไม่กี่คนก่อนหน้านี้ยังพอจะจับได้ แต่ตอนนี้มีเด็กหลายสิบคนวิ่งออกมา พวกเขาจะจับได้ทีละคน แต่จะให้จับทีละสิบกว่าคนคงไม่ไหว
ยิ่งกว่านั้นพวกเขายังต้องต่อสู้กับตระกูลหยูอีก คนของตระกูลหยูก็เหมือนใบมีดที่แทรกเข้ามา พวกผู้ชายในองค์กรแทบจะรับมือไม่ไหว ปวดหัวจนใกล้จะระเบิดแล้ว
เด็กหลายคนใช้ประโยชน์จากช่องว่างรีบวิ่งเข้าไปในป่าข้างถนน พอร่างเล็กๆ มุดเข้ามาไปในป่า แล้วหายตัวไปในไม่ช้า
หัวหน้ากลุ่มรีบตะโกนสั่ง “ไปจับกลับมา ต้องจับกลับมาให้หมด! ถ้าปล่อยให้หนีไปได้ เราจะส่งงานให้สำนักงานใหญ่ไม่ได้!”
แต่ว่า ไม่ว่าเขาจะเรียกจนเสียงแหบเสียงแห้ง ก็ไม่สามารถหยุดพวกเด็กๆ ที่กำลังหลบหนีไปไม่ได้
สถานการณ์ตกอยู่ในความวุ่นวาย นี้เป็นสิ่งที่ยันวันต้องการอย่างแท้จริง
สถานการณ์วุ่นวายแบบนี้ คือสิ่งที่เย้นหว่านต้องการ
ตระกูลหยูและคนในองค์กรต่อสู้กัน พวกเขาก็จะขัดขวางกันและกัน และคงจะแก้ปัญหาไม่ได้ง่ายๆ
ขณะที่เด็กๆ วิ่งไปกันวุ่นวาย พวกเขาก็จัดการลำบาก
มีเด็กบางคนที่วิ่งหนีได้สำเร็จ สามารถหลบหนีจากการควบคุมของคนเหล่านี้ และได้รับอิสรภาพ
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ การสร้างความวุ่นวายแบบนี้ จะสามารถชะลอการเดินทางของพวกเขาได้ และยืดเยื้อเวลาให้โห้หลีเฉิน
แต่ว่า……
ตอนที่เย้นหว่านปล่อยตัวเด็กๆ เธอพยายามตามหาแรบบิทในกลุ่มเด็กๆ
แต่ที่น่าตกใจก็คือ มีเด็กหลายสิบคนวิ่งหนีออกมา เธอมองจนครบทุกคน แต่ก็ไม่เจอแรบบิทอยู่ในกลุ่ม
ทำไมแรบบิทถึงไม่อยู่ที่นี่
ทั้งกลุ้มองค์กรลักพาตัว มีแค่รถสองคันนี้นี่นา
เย้นหว่านมือไม้เย็นเฉียบ รู้สึกกลัวเอามากๆ
แรบบิทอยู่ที่ไหน?
แรบบิทถูกลักพาตัวมาพร้อมกับโห้หยูเซิงอย่างแน่นอน แต่ทำไมเธอถึงไม่อยู่ที่นี่ด้วย ทำไมเธอไม่อยู่ในกลุ่มเด็กพวกนี้?
เกิดอะไรขึ้นกันแน่?
หรือว่าเธอจะขัดขืนรุนแรงเกินไป จึงถูกเฆี่ยนตี ถูกเฆี่ยนตีจน…
ความเป็นไปได้นี้ ทำให้เย้นหว่านไม่กล้าจะคิดต่อ
“บ้าเอ๊ย นี่มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมเด็กพวกนี้ถึงหนีออกมาหทก นายรีบไปดูที่รถเร็ว”
พวกผู้ชายพูด หนึ่งในนั้นรีบเดินไปที่รถที่ขังเด็กไว้
ในเวลานี้ เย้นหว่านกำลังยืนอยู่ข้างรถ ใบหน้าของเธอก็ซีดเผือด ร่างกายของเธอเย็นเยียบ เธอตกอยู่ในภวังค์ความกลัวและไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้
ผู้ชายคนนั้นเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อยๆ
พอเห็นว่ากำลังจะเข้ามาใกล้เย้นหว่านแล้ว…
ในเวลานี้เอง จู่ๆ ก็มีมือยื่นออกมา แล้วดึงเย้นหว่านไปซ่อนตัวอยู่ที่อีกฟากหนึ่งของรถ
โห้หยูเซิงก็ถูกดึงมาด้วยเช่นกัน เขาต่อต้านการแตะต้องสัมผัสนี้อย่างรุนแรง สีหน้าบึ้งตึงพยายามดิ้นรน มือนั้นจึงรีบปล่อยมือนั้นทันที
คนคนนั้น ก็คือเด็กหนุ่มนั่นเอง
ใบหน้าของเด็กหนุ่มเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก เขาเหลือบมองไปที่ทิศทางของผู้ชายคนนั้นอย่างระมัดระวัง แล้วกระซิบพูดกับเย้นหว่าน
“คุณตกใจอะไร? ถ้าพวกเขาพบคุณ พวกเขาฆ่าคุณแน่นอน”
พวกเขายังต้องการเด็กๆ ไปส่ง ดังนั้นพวกเขาจะไม่ฆ่าเด็ก แต่ว่าคนที่สร้างความวุ่นวายอย่างเย้นหว่านพวกเขาต้องฆ่าทิ้งทันทีแน่ๆ
เธอจะต้องไม่ถูกเจอเด็ดขาด
“ตอนนี้สถานการณ์วุ่นวาย คุณรีบพาลูกชายออกไปเร็วเข้า”
เด็กหนุ่มผลักเย้นหว่านสุดแรง
เย้นหว่านถูกผลักออกไปเพียงสองก้าว แต่เธอยังไม่ไปไหน
เธอหันกลับมา แล้วคว้าแขนเสื้อของเด็กหนุ่มไว้ ดวงตาสั่นเครือ ใบหน้าเต็มไปด้วยความร้อนใจและความวิตกกังวล
เธอถามอย่างร้อนใจ “ลูกสาวของฉันอยู่ที่ไหน ลูกสาวของฉันอยู่ที่ไหน”
มีความหวาดกลัวแฝงอยู่ในเสียงของเธอ
สีหน้าของชายหนุ่มชะงักไปทันที แล้วเขาก็พูดด้วยความรู้สึกผิดว่า
“หาไม่เจอเหรอครับ จะวิ่งออกไปกับเด็กๆ กลุ่มเมื่อกี้หรือเปล่า คุณไม่ทันได้สังเกต บางทีเธออาจจะวิ่งหนีไปไกลแล้ว คุณรีบพาลูกชายออกไปจากที่นี่ก่อน แล้วค่อยไปตามหาเธอ”
“เป็นไปไม่ได้ ฉันมองไม่ผิดแน่ๆ เธอไม่ได้อยู่ในรถคันนั้น”
เย้นหว่านพูดด้วยความหนักแน่น เธอจับเสื้อของเด็กหนุ่มแน่นขึ้นอีกครั้ง
“บอกมานะ ลูกสาวฉันอยู่ที่ไหน แล้วเธอถูกพาตัวไปที่ไหน”
เธอถามอย่างร้อนใจ เธอก็กำลังจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
และเด็กหนุ่มคนนี้คือคนเดียวที่เธอสามารถถามได้ในตอนนี้ เหมือนกับคนที่ตกลงไปในทะเล แล้วอีกฝ่ายเหมือนฟางเส้นสุดท้ายที่เธอจะจับไว้ได้
แต่ว่า เด็กหนุ่มกลับส่ายหน้า “ผมไม่รู้ ผมนึกว่าเธออยู่ในรถนั้น จะไม่มีได้ยังไงกัน”
จะไม่มีได้ยังไงอย่างนั้นเหรอ
คำถามนี้ จะให้เธอไปถามกับใคร ความไม่รู้อะไรแบบนี้ ทำให้เย้นหว่านใกล้จะบ้าตายอยู่แล้ว
“ทำไมนายจะไม่รู้ เธอจะไปที่ไหน เธอจะถูกพาไปที่ไหน”
เย้นหว่านตัวสั่นเทาไปทั้งตัว ขาของเธอสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“เขากำลังโกหกคุณค่ะ”
ในเวลานี้ จู่ๆ ก็มีเสียงของเด็กผู้หญิงดังขึ้น
ถังเซียงวิ่งมาจากด้านหน้ารถแล้วชี้ไปที่เด็กหนุ่มอย่างมั่นใจ แล้วพูดว่า “เขากำลังโกหกค่ะ เด็กหญิงตัวเล็กๆ ที่ถูกพามาพร้อมกับ โห้หยูเซิงถูกพาตัวไปเพียงลำพังตั้งแต่นานแล้วค่ะ เขารู้ เขากำลังโกหกคุณ”
ถูกพาตัวไปเพียงลำพังตั้งแต่นานแล้ว?
เย้นหว่านสูดหายใจเข้าลึก แล้วรีบถามถังเซียง “หนูรู้ไหมว่าเธอถูกพาไปที่ไหน”
ถังเซียงส่ายหน้า “หนูไม่รู้ค่ะ” ในขณะที่เธอพูด เธอก็ชี้ไปที่เด็กหนุ่มอีกครั้ง แล้วพูดอย่างมั่นใจ “เขาต้องรู้แน่ๆ ค่ะ”
เด็กหนุ่มขมวดคิ้วแน่นทันที
เขามองดูเด็กสาวด้วยแววตาซับซ้อน ดูไม่ออกว่าเขาอยู่ในอารมณ์ไหน
เย้นหว่านคว้าคอเด็กหนุ่มไว้ สีหน้าของเธอเย็นชามาก
เธอพูดเสียงลอดไรฟัน “โกหกฉันทำไม รีบบอกมานะ ลูกสาวฉันอยู่ที่ไหน!”
เด็กหนุ่มพูดเสียงต่ำมาก “ผมไม่รู้”
“เพี๊ยะ—”
เด็กหนุ่มถูกตบหน้าอย่างแรง ใบหน้าของเขาที่เดิมทีไม่ค่อยมีสีเลือด ตอนนี้มีรอยแดงของนิ้วทั้งห้าก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าทันที
เย้นหว่านใช้แรงทั้งหมดตบลงไปอย่างแรง ดวงตาแดงก่ำ เธอโกรธมาก
“นายพูดมาตามตรง ลูกสาวของฉันถูกพาตัวไปที่ไหน”
เด็กหนุ่มเอียงศีรษะ สีหน้าเคร่งขรึม หลังจากพยายามขยับริมฝีปากอยู่หลายครั้ง เขาก็พูดด้วยน้ำเสียงที่ต่ำมาก
“ไม่มีประโยชน์หรอก เธอถูกพาตัวไปนานแล้ว จะตามไปตอนนี้ก็คงไม่ทัน”
“ตอนนี้คุณหนีไป ยังสามารถช่วยชีวิตลูกชายของคุณไว้ได้”
คำพูดเหล่านี้ ทำให้เย้นหว่านแทบกระอักเลือดด้วยความโมโห
เขารู้จริงๆ ด้วย เขารู้ตั้งแต่นานแล้ว แต่เขาไม่ยอมบอกเธอ แล้วยังหลอกเธอมาตลอด
แล้วยังบอกให้เธอรอ รอให้ขบวนรถไปก่อน ให้เธอพลาดโอกาสที่จะไปช่วยแรบบิท
เย้นหว่านตาแดงเถือก แทบอยากจะฆ่าเขาให้ตาย
“ทำไม? ทำไมถึงไม่บอกฉัน ทำไมนายถึงทำแบบนี้ นายอยากจะฆ่าลูกสาวของฉันหรือไง! เธอยังเด็กขนาดนี้ นายมีความแค้นอะไรกับเธอ?”
เด็กหนุ่มก้มหน้าลง “บอกคุณไป คุณก็รั้งไว้ไม่อยู่ ถ้าคุณไปตามลูกสาวของคุณ เด็กพวกนี้จะหมดหวังทันที”
แม้ว่าสามีของเย้นหว่านจะยังมาไม่ถึง แต่เด็กหนุ่มวางแผนทุกอย่างไว้ ก่อนจะไปหาเธอแล้ว
ถึงแม้แผนนี้จะเสี่ยงเกินไป แต่เกิดเรื่องแบบนี้ ก็สร้างความวุ่นวายให้พวกคนขององค์กรได้ แล้วยังช่วยชีวิตเด็กส่วนใหญ่ได้
นี่คือจุดประสงค์ของเขา
เขายอมสูญเสียส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนมาก
เย้นหว่านรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัว เด็กหนุ่มคนนี้ได้ตัดสินใจส่วนตัวแล้วเมื่อเขากำลังมองหาเธอ
เขาสละแรบบิท แล้วให้เธอช่วยเด็กพวกนี้
เขายอมสูญเสียส่วนน้อยเพื่อรักษาส่วนมาก แต่เขาเคยถามความคิดเห็นของเธอบ้างไหม?
เด็กจำนวนมากเหล่านี้เป็นเด็ก แล้วแรบบิทไม่ใช่เด็กหรือไง เธอเป็นแค่เด็กที่อายุไม่ถึงสองขวบด้วยซ้ำ!