ป่ายฉีมีประสบการณ์และความรู้ที่กว้างขวาง ก็เป็นครั้งแรกที่เห็นเลือดแบบนี้
ดวงตาคู่นั้นของเขาระยิบระยับ สนใจร่างกายของผู้หญิงคนนี้ยิ่งขึ้นไปอีกแล้ว เขาจึงไม่ล้อเล่นอีก ทว่าอยากจะผ่าตัดเธอดูด้วยใจจริง
หญิงสาวถูกสายตาของป่ายฉีมองจนขนลุกทั่วทั้งร่างกาย ทว่ากลับกัดฟันพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา
“ทั้งชีวิตนายไม่มีทางที่จะจัดการให้ชัดเจนได้หรอก!”
ทั้งชีวิตไม่สามารถจัดการให้ชัดเจนได้?
ในขอบเขตวิชาการแพทย์ ไม่มีสิ่งที่ป่ายฉีจัดการไม่ได้ และทะลวงผ่านไปไม่ได้
จิตใจที่ชอบเอาชนะของเขาถูกกระตุ้นขึ้นมาแล้ว “เธอมองดูฉันดี ๆ ว่าฉันจะจัดการกับความลับร่างกายทั้งหมดของเธอให้ชัดเจนได้ยังไง!”
สีหน้าของหญิงสาวเย็นชาสุด ๆ
ให้ตายสิ เขาจะมาจัดการความลับของร่างกายเธอให้ชัดเจน คนระยำที่ไร้ยางอายนี่ เธอจะฆ่าเขาไม่ช้าก็เร็วอยู่แล้ว
ป่ายฉีใช้เวลาไปไม่น้อย จึงจะจัดการบาดแผลของหญิงสาวอย่างยืดยาดจนเสร็จเรียบร้อย ในระหว่างที่กำลังครุ่นคิดพิจารณาอยู่
ตอนนี้ประมาณบ่ายสองโมง พระอาทิตย์ส่องอยู่บนศีรษะ ร้อนแรง
เขาเช็ดเหงื่อที่อยู่บนหน้าผาก ลุกขึ้นยืนมองดูรอบกาย ทะเลทรายสีเหลืองทอดตัวยาวเหยียดกว้างไกลไร้ขอบเขต ทั้งที่สูงและที่ต่ำอ้างว้างปราศจากผู้คน
เขาใช้เครื่องมือที่ยังไม่พังบนตัวของเขากำหนดแยกแยะทิศทาง สถานที่ที่เดินออกจากทะเลทรายที่ใกล้ที่สุด ก็ต้องใช้เวลาสองสามวัน
ด้วยกำลังร่างกายเขาในตอนนี้ อยากเดินออกไป กำลังหยั่งเชิงความหิวโซ และความเหนื่อยล้าทั้งสองอย่างสุดความสามารถ
บนตัวเขามีเพียงน้ำ
น้ำสามารถรับรองได้ว่าเขาจะยังมีชีวิตอยู่ แต่ว่าเขาไม่รู้ว่าไม่ได้กินของกินสองสามวัน ไม่รู้ว่าความหิวโหยแบบนี้ จะทำให้เขาดำเนินชีวิตอย่างยากลำบากได้กี่วัน
นี่ล้วนยังไม่แน่นอน แต่ว่ามีสิ่งหนึ่ง กลับแน่ใจมาก ๆ
เขาไม่มีทางที่จะแบก หรือว่าลากผู้หญิงคนนี้ออกไปจากทะเลทรายได้ เขาไม่หิวตายก็คงเหนื่อยตาย ดังนั้นเธอจำเป็นจะต้องลุกขึ้นมาเดินออกไปด้วยตัวเอง
ป่ายฉีมองดูเธอที่ใบหน้าเปี่ยมไปด้วยความเย็นชาและระแวดระวัง พลางกล่าวขู่
“ฉันจะตัดเชือกที่ขาเธอออก ให้เธอสามารถเดินได้ แต่ฉันขอเตือนเธอ อย่าคิดที่จะใช้ขาของเธอทำอะไร ไม่อย่างนั้นฉันจะถอดเสื้อผ้าของเธอออก!”
หญิงสาวใบหน้าขาวซีด “ไร้ยางอาย!”
ป่ายฉีเผยรอยยิ้มพอใจ พบว่ามีเพียงแค่คำว่า ไร้ยางอาย ถึงจะควบคุมหญิงแกร่งคนนี้ได้ เขาก็ไม่ถือสาที่จะทำลายขีดจำกัดต่ำสุด
คุกคามผู้หญิงคนนี้แล้ว ป่ายฉีจึงตัดเชือกบนขาหญิงสาว
จากนั้น พอตัดออกแล้ว เท้าของเธอก็เตะไปที่เขาราวสายฟ้าฟาด
ป่ายฉีตอบโต้ไม่ทัน ถูกเตะที่ช่วงเอว เจ็บปวดจนเขาแยกเขี้ยวยิงฟัน ทว่าหญิงสาวไม่หยุดเลยแม้แต่น้อย โจมตีถี่ยิบ แล้วเตะไปที่ศีรษะของเขาอย่างไม่ลังเลสักนิดเดียว
คราวนี้ป่ายฉีมีการเตรียมป้องกัน หลบหลีก ไล่จับ จึงมัดขาที่อยู่ไม่สุขของหญิงสาวได้
ร่างกายเขาเอนไปข้างหน้า ทับบนขาของเธอไปเลย
ใบหน้าหล่อเหลาที่เย็นชาของป่ายฉีโน้มไปยังใบหน้าของหญิงสาว จนใกล้แค่ลัดมือเดียว
เขากำลังจะเริ่มขู่ หญิงสาวกลับเงยศีรษะขึ้นอย่างรวดเร็ว อ้าริมฝีปากประกบ ฟันก็กัดบนริมฝีปากของป่ายฉีอย่างรุนแรง!
ป่ายฉีแข็งทื่อฉับพลัน ใจเขาลุกเป็นไฟ
เขา นี่เขาถูกบังคับจูบอย่างนั้นเหรอ?!
จูบแรกของเขานะ!
หึ้ย!
สูญเสียไปโดยไม่ทันตั้งตัว……
ความรู้สึกนี้ไม่รู้สึกดีแบบซับซ้อนอย่างที่เล่าลือเลยสักนิด ทว่ากลับ……เจ็บมาก ๆ !
อีกทั้งยังคาวเลือด เจ็บขึ้นเรื่อย ๆ !
ป่ายฉีได้สติกลับคืน ก็ตกใจผู้หญิงคนนี้คิดอยากจะกัดเนื้อของเขาออกสินะ
เกินไปแล้ว จูบแรกของเขาถูกเธอทำลายถึงอกถึงใจเช่นนี้ กระทำอย่างโหดเหี้ยมปนด้วยคาวเลือดเช่นนี้
ป่ายฉียื่นมือออกแรงบีบคางของหญิงสาวอย่างรุนแรง ฟันของเธอสูญเสียแรงกัดในชั่วพริบตา
รู้ว่าเนื้อส่วนนี้กัดไม่ลงแล้ว หญิงสาวก็ไม่ลังเลแม้แต่น้อยที่จะถอยออก
ทว่า ป่ายฉีเม้มเลือดที่ริมฝีปาก ยิ้มเยาะอย่างชั่วร้ายสุด ๆ
“สาวน้อย เธอกล้าช่วงชิงจูบแรกของฉัน ฉันก็จะตอบโต้ให้เธอแบบที่รุนแรงยิ่งกว่า!”
พร้อมกับน้ำเสียงที่หยุดลง ป่ายฉีสลับจากแขกเป็นเจ้าบ้านกะทันหัน จูบหญิงสาว งัดฟันขาวสะอาดของเธอออกอย่างดิบเถื่อนยิ่งกว่า เข้าไปเผาฆ่าปล้นสะดม……
“อื้อ!”
หญิงสาวเบิกตาโตโพลงด้วยความตกตะลึงพรึงเพริด ใบหน้าซีดเผือดกลายเป็นสีแดงระเรื่อในทันที
เขา เขา เขา ทำไมถึงกล้าทำเรื่องน่ารังเกียจขนาดนี้!
ไม่ใช่จู่โจม กลับเป็น……
ทั่วทั้งร่างกายของหญิงสาวกำลังสั่นเทาด้วยความระอา ดิ้นรนต่อต้านด้วยความตื่นเต้น แต่ว่ายิ่งเธอดิ้นรน ป่ายฉีก็ยิ่งบดขยี้เธอแนบแน่น จูบอย่างโหดเหี้ยมยิ่งกว่าเดิม
ระหว่างริมฝีปากของสองคน ก็เต็มไปด้วยกลิ่นคาวเลือดที่เข้มข้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นเลือดของใครแล้ว
ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน เสมือนอยู่ในขุมนรกชั้นที่สิบแปดหลายหมื่นปี จูบเลือดนี้ ในที่สุดก็จบลง
ริมฝีปากของหญิงสาวทั้งแดงเถือกและบวมเป่ง ยังชุ่มด้วยเลือด
เธอถลึงตามองป่ายฉีด้วยความโกรธแค้น ทุกคำทุกประโยค ออกมาจากความคิด “นายสมควรตาย!”
สมควรตายก็สมควรตายเถอะ ป่ายฉีไม่สนใจแม้แต่น้อย
เขาเช็ดคราบเลือดบนริมฝีปากออกอย่างเอื่อยเฉื่อย หัวเราะยิ่งกว่าปีศาจร้าย
“ไม่เชื่อฟัง ฉันจะจูบเธออีก”
สีหน้าหญิงสาวซีดเผือดเหมือนกระดาษ ทั้งโมโหและอับอาย “นายฝันไปเถอะ ฉันตายก็ไม่ยอมให้นายได้สมปรารถนา!”
ว่าแล้ว เธอก็เม้มริมฝีปากจนแน่น เหมือนเปลือกหอยที่ไม่สามารถงัดออกได้อย่างนั้น
ป่ายฉีเห็นท่าทางนี้ของฉัน ถลึงตากลมโต เม้มริมฝีปากแน่น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโมโห มีชีวิตชีวามากกว่าตอนที่เย็นชาเป็นน้ำแข็งก่อนหน้านี้อยู่หลายส่วน
ทว่าท่าทีนี้ ดูดีขึ้นมาเล็กน้อยอย่างคาดไม่ถึง
เศษเสี้ยวความโกรธที่ป่ายฉีถูกบังคับจูบ ก็สลายหายไปในทันที
เขาบีบคางของเธอไว้อย่างหยอกล้อ ยิ้มกล่าว “ฉันบีบคางของเธอไว้แล้ว เธอจะเม้มปากยังไงก็ไร้ประโยชน์อยู่ดี ต้องปล่อยให้ฉันทำตามต้องการไม่ใช่หรอกเหรอ?
ดังนั้น เธอตั้งใจจะดื้อรั้นกับฉันต่อไปอย่างนี้เหรอ? ให้ฉันจูบอีกครั้งหนึ่ง? สองครั้ง? สามครั้ง?”
พริบตาเดียวหญิงสาวก็รังเกียจจนใบหน้ามีสีเขียวปี๋
ตอนนี้เวลานี้ ในที่สุดเธอก็เข้าใจความหมายแฝงของตายทั้งเป็นคำคำนี้ได้อย่างลึกซึ้งแล้ว
ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยการยอมแพ้และความเกลียดชัง กัดฟันออกเสียงพูดอย่างยากลำบาก
“ฉัน…เดินเองได้”
ได้ยินดังนั้น ป่ายฉีเผยรอยยิ้มอย่างดีใจ “เพิ่งจะมาว่านอนสอนง่าย”
ครั้นแล้ว หญิงสาวถูกมัดไว้ค่อนครึ่งตัว ถูกป่ายฉีใช้เชือกยาวห้าเมตรเส้นหนึ่งจูง ประหนึ่งจูงสุนัข เดินตามหลังในทะเลทรายที่ร้อนระอุ
หญิงสาวถูกเชือกจูงเดินอยู่ด้านหลัง นัยน์ตาของเธอ จ้องมองแผ่นหลังของป่ายฉีอย่างเย็นชาตลอด นัยน์ตานั้นมีความต้องการฆ่าและความเกลียดชังที่ไม่สามารถหายไปตามกาลเวลาได้เลย
ป่ายฉีเดินทีละก้าว ๆ รู้สึกได้ถึงสายตาเย็นชาที่ด้านหลังได้อย่างชัดเจน เผยรอยยิ้มเล็กน้อย อืม ไม่เลว ในอากาศที่ร้อนขนาดนี้ ยังสามารถให้รสชาติที่เย็นสบายได้
สองคนเดินในทะเลทรายอย่างยากลำบาก
ป่ายฉีจัดเตรียมเวลาและปริมาณการดื่มน้ำด้วยแผนการที่สมเหตุสมผลมาก ระหว่างทางพวกเขาไม่ขาดน้ำเลย
และพวกเขาจับสัตว์ที่มีชีวิตมากินตอนที่พบเจอ เช่น ประเภทแมงป่อง งูมีพิษ กิ้งก่า……
ตอนแรกนั้นหญิงสาวไม่กิน ป่ายฉีก็บังคับยัดเข้าปากของเธออย่างหยาบคาย
ต่อมา หญิงสาวถูกทารุณจนไร้ความรู้สึกแล้ว เพื่อจะหลีกเลี่ยงการสัมผัสแขนขากับป่ายฉี เธออ้าปากกินเอง สายตาที่มองป่ายฉียังคงเป็นความเกลียดชังและความเย็นชาที่พระอาทิตย์ร้อนแรงไม่สามารถแผดเผาให้หลอมละลายได้
ป่ายฉีไม่สนใจเลยแม้แต่น้อย
เขาเห็นว่าเธอเป็นสุนัขพันธุ์หมาป่าที่ไม่ได้ทำให้เชื่อง เขาจะต้องค่อย ๆ ลับเขี้ยวของมันออกได้อย่างแน่นอน
หญิงสาวยังไม่รู้ป่ายฉีกำลังทำกับเธอเป็นสุนัขที่กำลังเชื่อฟัง ถ้าหากรู้ เกรงว่าจะใช้เพียงฟันก็กัดคอของเขาจนขาดได้
วันแล้ววันเล่า
พวกเขาเดินอยู่ในทะเลทรายอย่างยากลำบากมาหลายวันแล้ว ในทะเลทรายที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้ ในที่สุดพละกำลังร่างกายของหญิงสาวก็ไม่สามารถประคองตัวไว้ได้ จู่ ๆ ก็ล้มลงไป……