มนุษย์พันธุ์แกร่งนั้นมีน้อย ล้วนเลือกมาจากหนึ่งในล้าน และก็ต้องปลูกฝังความภักดีตั้งแต่เล็ก ๆ อีกทั้งยังแยกโลกแห่งจิตวิญญาณกับร่างกายออกจากกัน ทำให้พวกเขาเหมือนกับหุ่นยนต์ประดิษฐ์ในร่างคน
ดังนั้นเจมส์กับคนขององค์กร ไม่มีทางคลางแคลงการทรยศของพวกเขา
หานจื่อคือสิ่งที่ผิดคาด
คนที่ทำให้เจมส์ องค์การล้วนต่างคาดไม่ถึง
เธอถูกป่ายฉียุแยงสำเร็จ
เพราะว่าเจมส์พวกเขาไม่เคยป้องกันมนุษย์พันธุ์แกร่ง ดังนั้น ไม่ว่าเจมส์จะอยู่ที่ไหน หานจื่อก็มีวิธีที่หาพวกเขาเจอได้โดยเฉพาะ
หานจื่อพาป่ายฉีมาถึงเมืองแห่งหนึ่ง
ที่นี่ดูธรรมดา แต่ด้านใต้ของโรงงานเคมีที่ธรรมดาที่อยู่ในเมืองนี้ ก็คือสถานที่ที่เจมส์ใช้หลบซ่อน
หากไม่ใช่ว่าหานจื่อเป็นคนนำทาง ป่ายฉีคงต้องใช้เวลาหลายปีในการพลิกแผ่นดินทุกตารางนิ้วถึงจะตามหาสถานที่นี้เจอ
หานจื่อคุ้นเคยกับการเตรียมการและการป้องกันของพวกเขาเป็นอย่างดี อีกอย่างเมื่อพวกเขาเจอหานจื่อ ก็ไม่มีทางที่จะโจมตีเธอเลย ดังนั้นแผนการของป่ายฉีกับหานจื่อ ก็คือให้หานจื่อเข้าไปก่อน
เธอไปสำรวจทางก่อน จากนั้นป่ายฉีค่อยตามเข้าไป
หานจื่อเตรียมตัวลุกขึ้น ก่อนที่จะโดดลงไป ได้หันมามองป่ายฉี “คุณเชื่อใจฉันจริงเหรอ ฉันสามารถเข้าไปแล้ว ไม่ออกมาอีกก็ได้ หนำซ้ำยังอาจจะเรียกคนมาฆ่าพวกคุณทิ้งทั้งหมด”
ป่ายฉีพิงอยู่ที่ตัวรถแล้วส่ายหน้า
“คุณไม่ทำหรอก”
น้ำเสียงบางเบาแต่กลับหนักแน่น
แววตาที่เชื่อมั่นทำให้หานจื่อสั่นไหวเล็กน้อย เธอที่สังหารคนอย่างเลือดเย็น วันนี้กลับมีคนเชื่อใจเธอขนาดนี้
ช่างทำให้รู้สึกว่าถึงความแดกดัน
หานจื่อเปิดตัวรถแล้วก็จากไป
เธอหายไปกับถนน จากทางเข้าที่ซ่อน เข้าไปในโรงงานเคมี และก็ลงไปยังใต้ดิน
ทั้งหมดล้วนเป็นไปอย่างราบรื่นตามแผนที่วางไว้
แต่ หลังจากที่ผ่านไปนาน หานจื่อย้อนกลับมาพร้อมกับข้อมูลที่ทำให้ตกใจ “เกิดเรื่องแล้ว คนที่นี่ถูกฆ่าตายหมดแล้ว คุณรีบลงมา”
ป่ายฉีหน้าถอดสี ถูกฆ่าหมดเลยเหรอ
แล้วโห้หลีเฉินล่ะ
เขารีบจะกระโจนออกไป แต่ลูกน้องที่อยู่ข้างๆกลับรั้งเขาไว้
“คุณชายป่ายฉีครับ นี่มันผิดปกติเกินไป สถานที่ลึกลับซับซ้อนแบบนี้ จะถูกสังหารจนหมดได้อย่างไร เกรงว่าหานจื่อคนนี้คงจะสมรู้ร่วมคิดกับพวกมัน หลอกให้ท่านไปหา”
พวกเขาต่างไม่เชื่อหานจื่อ
แต่ป่ายฉีกลับส่ายหน้าอย่างหนักแน่น “ผมเชื่อเธอ เธอไม่มีทางแบบนี้ ด้านล่างจะต้องเกิดเรื่องอย่างแน่นอน พวกนายคุ้มกันอยู่ด้านนอก อีกกลุ่มหนึ่งตามผมมา”
ป่ายฉีกระโดดลงจากรถอย่างไม่ปฏิเสธและก็ไม่ต่อต้าน
ตลอดทางเขาเดินเข้าไปตามที่หานจื่อบอก ผ่านทางเข้าท่อระบายน้ำ ในสภาพที่ส่งกลิ่นเหม็น แล้วเปิดประตูพัดหนึ่งบานออก จากนั้นเดินเข้าไปอาคารในชั้นใต้ดิน
ทางเดินที่ยาว ดวงไฟที่สลัว เลือดสดๆที่ไหลไปทั่ว และคนที่ล้มกองอยู่กับพื้น
เส้นทางนี้มีคนเฝ้าสิบคน ทั้งหมดถูกฆ่าทิ้งหมด
ยิ่งกว่านั้นเมื่อตรวจสภาพศพแล้ว น่าจะเสียชีวิตไม่เกินหนึ่งวัน
อย่างนั้นก็แปลว่า สิบชั่วโมงก่อนที่พวกเขาจะมาถึง อาจจะมีคนหาที่นี่เจอก่อน และก็ฆ่าคนที่นี่ทั้งหมด
ใครกัน?
อย่างน้อยไม่ได้รับข่าวคราวจากตระกูลเย้น ยิ่งไม่มีทางที่จะเป็นกองกำลังของพวกเราทำ
ทางฝั่งเว่ยชี กองกำลังของโห้หลีเฉินก็ไม่เคยมีวิธีการแบบนี้
ยังมีใครที่สามารถหาสถานที่แบบนี้เจอได้อีก และก็สังหารคนที่นี่ ป่ายฉีจิตใจกระสับกระส่ายกระวนกระวาย
เขารีบเดินเข้าไป ตลอดทาง ทางที่เดินผ่านสิ่งที่เห็นล้วนเป็นคนทั้งนั้น วิธีการที่สังหารคนนั้นแม่นยำรวดเร็วและโหดเหี้ยม โจมตีเพียงครั้งเดียวก็เสียชีวิต
หานจื่อยืนอยู่บนระเบียงทางเดิน หน้าประตูห้องหนึ่ง
เธอเห็นป่ายฉีเดินเข้ามา จึงชี้เข้าไปในห้อง “บางทีคุณอาจต้องการดู”
ป่ายฉีขมวดคิ้ว แทบไม่กล้าคิด และก็เดินเข้าไป
เขาเห็นบนเก้าอี้เหล็กมีภาพหยูฉู่สองถูกมัดอยู่บนนั้น ร่างของเขาเต็มไปด้วยบาดแผล และเกล็ดเลือดก่อตัวเป็นชั้น ๆ ในสภาพที่ดูแย่มาก
และบาดแผลเหล่านี้ เกิดจากการถูกทรมาน ไม่ถึงขั้นเสียชีวิต แต่ทว่ารอบคอของเขากลับมีรอยบาดแผลใหม่ ที่ถูกปาดเข้าทีลำคอของเขา จนทำให้เสียชีวิต
เลือดของหยูฉู่สองได้ไหลจนหมดตัว และไม่มีชีพจรแล้ว ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตกใจและเคียดแค้น และยังคงเบิกกว้าง ตายตาไม่หลับ
ก่อนที่เขาจะเสียชีวิต เขาเห็นใครกันถึงได้มีสีหน้าเช่นนี้
เสียชีวิตอย่างตกใจและเคียดแค้นแบบนี้
ป่ายฉีมีร่างหลายคนผุดแวบขึ้นมาในจิตใจ แต่ก็หาข้อสรุปไม่ได้
ยิ่งทำให้เขากังวลก็คือ หยูฉู่สองที่เดิมทีควรจะถูกฝังอยู่ในขุมทรัพย์ที่ถล่มลงมากลับปรากฏตัวอยู่ที่นี่ อย่างนั้นก็แสดงว่า เจมส์พวกเขาได้แอบขุดสถานที่ระเบิด และนำช่วยหยูฉู่สองออกมา
ในเมื่อสามารถช่วยหยูฉู่สองออกมาได้ในสถานที่ระเบิดแบบนั้น อย่างนั้นเสี่ยวหว่านล่ะ
ความหวังที่ยิ่งใหญ่ได้ประกายขึ้นในหัวใจของป่ายฉี
แต่ก็มาพร้อมกับความตระหนกที่ท่วมท้น
ถ้าหากว่าเสี่ยวหว่านอยู่ที่นี่ แต่ว่าที่นี่เกิดการสังหารครั้งยิ่งใหญ่ อย่างนั้นเสี่ยวหว่านจะเป็นอย่างไร
จะถูกสังหาร หรือว่าถูกพาตัวไป
ยิ่งคิดเขาก็ยิ่งอยากรู้ว่าใครเป็นคนที่มาจัดการที่นี่
ป่ายฉีรีบเดินออกมาจากห้อง และมุ่งเดินไปด้านหน้า “ด้านหน้าคือเกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“เมื่อกวาดตามอง ล้วนเป็นร่างคนตาย แต่เป็นสภาพแบบไหนนั้นยังไม่ได้เข้าไปดู” หานจื่อใบหน้าเรียบเฉยและเดินมาที่ด้านหลังของป่ายฉี
สำหรับเธอแล้ว เดิมทีมาที่นี่มาเพื่อจัดการ แต่เมื่อมีคนทำแทนเธอ เธอก็ไม่มีข้อโต้แย้ง
ป่ายฉีตามหาทุกห้อง และเช็กหน้าคนตายทุกคน แต่ว่านอกจากหยูฉู่สองแล้ว ก็ไม่เจอคนที่พิเศษ
ไม่มีเย้นหว่าน
ไม่มีโห้หลีเฉิน
มีเพียงห้องหนึ่งที่เต็มไปด้วยเครื่องมือวัด เจอศพของฝู้ยวนและก็เจมส์
หานจื่อยืนอยู่หน้าประตู มองดูอดีตลูกพี่ของตัวเองด้วยใบหน้าเรียบเฉย ไม่มีอาการสั่นไหวแม้แต่นิดเดียว
เขาตายแล้ว เธออิสระแล้ว
ป่ายฉีมองดูคนตายที่กองเต็มบนพื้น ทั้งปวดหัวทั้งกระวนกระวาย เขาไม่รู้ว่าควรโล่งใจหรือกังวลต่อไป
หาร่างของโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านไม่เจอ อย่างน้อยก็แปลได้ว่า พวกเขาไม่ได้ตายอยู่ที่นี่
แล้วพวกเขาล่ะ
พวกเขาอยู่ที่ไหน ยิ่งทำให้เขากระวนกระวาย
ถ้าหากว่าคนที่มาสังหารนั้นเป็นมิตร ช่วยโห้หลีเฉินกับเย้นหว่านก็ดีไป แต่ถ้าเป็นศัตรูล่ะ หรือว่ากองกำลังอื่นล่ะ
อย่างนั้นหลีเฉินกับเย้นหว่านก็คงตกอยู่ในอันตราย
หานจื่อเห็นท่าทางที่กังวลของป่ายฉีจนหน้าดูแก่ไปกว่าสิบปี จึงเปล่งเสียงที่เย้ยหยันถากถาง “ที่นี่มีกล้องวงจรปิด ดูกล้องวงจรปิดก็จะรู้เองว่าใครเป็นคนทำ”
กล้องวงจรปิด?
ป่ายฉีประหลาดใจ เมื่อสักครู่เขาก็ตรวจสอบแล้วว่าใต้ดินนี้ ไม่มีกล้องแต่อย่างใด
“กล้องวงจรปิดที่นี่คือกล้องที่คุณไม่สามารถมองเห็นได้”
หานจื่อไม่ได้พูดมากอีก มุ่งเดินตรงไปที่แผนกควบคุมคอมพิวเตอร์
ป่ายฉีรีบเดินตามไป ระหว่างทางได้สำรวจมองรอบ ๆ ก็ยังมองไม่เห็นกล้องวงจรปิดว่าตั้งอยู่ตรงไหน
เทคโนโลยีนี้ถือว่าค่อนข้างขั้นสูง
คนที่นี่เสียชีวิตแล้ว แต่ว่าข้อมูลทุกอย่างยังอยู่ คอมพิวเตอร์ก็ยังสภาพเดิมไม่เสียหาย
แต่ด้วยไฟร์วอลล์ขั้นสูง หากต้องการจะทำลาย ต้องใช้แฮกเกอร์มืออาชีพโจรตีติดต่อกันหลายวันถึงจะได้ผล
หานจื่อกลับผลักเขาออกหน้าดื้อ “ฉันเอง”