ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 435

ตอนที่ 435

บทที่ 435 ปากพาซวย

เฉินเฟิงไม่ได้โต้เถียงกับกลุ่มพวกนั้น ความจริงแล้ว ช่วยแก้ต่างให้ ก็จะทำให้เรื่องใหญ่โตขึ้นไปอีก

คนส่วนใหญ่ จะเชื่อในสิ่งตนเองมองเห็นเท่านั้น

การที่อยากจะเข้าไปจัดการเรื่องนี้ คนที่ปากสว่างเริ่มจากตัวหลินเย่น

แต่ว่าก่อนที่จะไปหาหลินเย่นนั้น ต้องจัดการข่าวลือสะพัดในบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ปให้สะอาดก่อน

“หลี่เล่อ ช่วยฉันหาข่าวหน่อยว่า คนที่เป็นคนเอาเรื่องนี้มากระพือใส่ไฟมีใครบ้าง” แววตาของเฉินเฟิงฉายความเยือกเย็นออกมา เรื่องในครั้งนี้ถึงแม้ว่าจะมาจากหลินเย่นก็ตาม แต่ภายในบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป กลับมีเรื่องซุบซิบนินทาไม่พอใจเสี้ยเมิ่งเหยาอยู่มากมาย

หลินเย่น ก็แค่เป็นคนขุดประเด็นเท่านั้นเอง

ไม่มีหลินเย่น ไม่ช้าเร็วคนพวกนี้ยังไงก็จะสร้างเรื่องใส่ร้ายอยู่ดี

ดังนั้น เขาต้องใช้โอกาสนี้ จัดการเรื่องทุเรศพวกนี้ช่วยให้เสี้ยเมิ่งเหยากลับมาบริสุทธิ์ให้ได้

“ได้สิ พี่เฟิง” หลี่เล่อพยักหน้าให้อย่างแข็งขัน เฉินเฟิงแสดงท่าทีจะออกหน้าแทนเสี้ยเมิ่งเหยา ถึงแม้ว่าไม่รู้ว่าเฉินเฟิงจะใช้วิธีไหนก็ตาม ไม่ว่าเฉินเฟิงมีคำสั่งอะไรลงมา เขาก็จะตามเช่นนั้น สำหรับเฉินเฟิงแล้ว เขาสามารถปิดตาทำตามคำสั่งได้ด้วยความเชื่อมั่น

ในเวลานี้เอง เสี้ยเมิ่งเหยาก็รู้วิธีของหลินเย่นทันที

แต่ว่าเธอก็ไม่ได้ตอบโต้อะไรออกมา

หลินหลันอยู่นั่งมองอยู่ข้างๆ กลับเดือดดาลจนกระทืบเท้าไปมา “โมโหจะตายแล้ว โมโหจะบ้าตายแล้วเนี่ย!”

“ทำเกินไปจริงๆ!”

หลินหลันกลัวที่สุดก็คือการที่เสี้ยเมิ่งเหยาเคยมีความสัมพันธ์ระหว่างเฉินเฟิง แต่ยังไงแล้ว กลัวอะไรมักจะได้สิ่งนั้น ตอนนี้ทุกคนในบริษัทต่างรู้เรื่อง ว่าเสี้ยเมิ่งเหย่าหย่าแล้ว แถมอดีตสามนั้นเป็นลูกเขยที่เข้ามาเกาะที่บ้านกิน

“ไม่ได้ ฉันจะไปหามัน!” หลินหลันตัดสินใจว่าจะไม่นิ่งดูดายไม่ทำอะไร เธอไม่สามารถปล่อยผ่าน มันไม่ง่ายเลยที่จะมาถึงจุดยิ่งใหญ่ขนาดนี้ได้แต่กลับมาถูกหลินเย่นทำลายไม่เหลือซาก

“ไปทำอะไรเธอ?” เสี้ยเมิ่งเหยามองหลินหลันอยู่แวบหนึ่ง

หลินหลันหยุดเท้าทันที เพราะว่าไม่เข้าใจสักเท่าไหร่ “ไปเรียกร้องความยุติธรรมไง ไปเรียกร้องความจริงนะสิ”

“ความจริงอะไร? ฉันไม่ได้หย่าเหรอ?” เสี้ยเมิ่งเหยาตอกกลับอย่างเย็นชา ถึงแม้ว่าการที่หลินเย่นจะถ่ายเอกสารแล้วข้อความที่อยู่บนนั้นเป็นการใส่ร้ายป้ายสีเธอทั้งสิ้น แต่ว่าเรื่องที่เธอหย่าร้าง มันเป็นความจริง

“ไม่ใช่ นี่แม่ลูกสาว แกหย่าร้าง มันเป็นเรื่องที่ไม่น่าเอามาโพนทะนาให้คนที่บริษัทรู้นี่”

“ทำไมไม่สามารถให้พวกเขารู้ล่ะ?” น้ำเสียงของเสี้ยเมิ่งเหยายังคงเย็นชาเช่นเดิม “แม่คิดว่าการหย่าร้างมันน่าอับอายมากเลยเหรอ?”

น้ำเสียงหลินหลันสะอึกทันที จนค้างเติ่ง

“ไม่จำเป็นต้องไปหาเขาหรอก ไปหาเธอก็ไม่มีทางเรียกความยุติธรรมกลับคืนมาได้อยู่ดี” เสี้ยเมิ่งเหยาเอ่ยขึ้น ในเวลานั้นเอง หลินเย่นน่าจะรอให้หลินหลันไปหาเธอ จากนั้นก็ใช้วิธีข่มขู่ เพื่อที่ให้ถางรั่วเสวี่ยนเข้ามาทำงานในคางเหม่ย ด้วยตำแหน่งรองประธานบริษัท

“แต่ว่า ไม่ไปหาเธอ คนในบริษัทพูดมั่วไปเรื่อยจะทำยังไง?” หลินหลันเอ่ยถามอย่างกังวล

“ก็ให้พวกเขาพูดไปสิ!” สีหน้าเสี้ยเมิ่งเหยายังคงเย็นชาขึ้นเล็กน้อย ถ้าหลินเย่นคิดว่าการใช้คำนินทาแล้วจะทำให้เธอยอมอ่อนข้อให้ งั้นเธอก็พูดได้เพียง หลินเย่นนี่ช่างไร้เดียงสาเสียจริง

ก่อนหน้าที่จะเข้ามาทำงานในบริษัทคางเหม่ยกรุ๊ป เธอได้เตรียมใจเอาไว้เรื่องที่ต้องโดนติฉินนินทาอยู่แล้ว ตอนนี้ หลินเย่นก็แค่เอาคำติฉินนินทาเหล่านั้นมาก่อนเวลาเท่านั้นเอง

ด้านในวิลล่าที่มีวิวทิวทัศน์น้ำใสสะอาดดอกไม้นานาพันธุ์งดงามดั่งภาพถ่าย สองแม่ลูกหลินเย่นกำลังนั่งหันหน้าเข้าหากัน

ถางรั่วเสวี่ยนอดกลั้นความโกรธไว้ไม่ไหว เธอเริ่มพูดแบบอารมณ์ไม่ดี “แม่ แม่ว่าอีนางนั่นมันจะมาหาพวกเราไหม?”

“มาสิ ลูกสาว แกวางใจได้เลย ถ้าอีนางนั่นไม่มาหาพวกเรา ชื่อเสียงของมันก็จะฉาวโฉ่เหม็นคลุ้งไปทั่วแล้ว” ถึงแม้ว่าปากของหลินเย่นจะพูดอย่างเป็นมั่นเป็นเหมาะ แต่ในใจยังคงรู้สึกกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่ เพราะว่าเธอดูเสี้ยเมิ่งเหยาไม่ออกเลย

เสี้ยเมิ่งเหยาในตอนนี้ กับเสี้ยเมิ่งเหยาแต่ก่อน เหมือนคนละคน ดังนั้นเธอไม่รู้ได้ชัด ว่าเสี้ยเมิ่งเหยาจะตัดสินใจอย่างไร

“แม่ หรือว่าเราจะลองถอยดูสักก้าว ให้อีนางนั่นมันเอาแค่ตำแหน่งหัวหน้าแผนกให้เรา…”

“ไม่ได้ ถอยไม่ได้! เราต้องให้อีนางนั่นมันให้แกนั่งตำแหน่งรองประธานบริษัท มีแค่ตำแหน่งรองประธานบริษัทเท่านั้นแหละที่คู่ควรกับแก”

หลินเย่นทำหน้าว่าทุกอย่างต้องเป็นไปตามนั้น

“แต่ว่า…”

“ปึง ปึง ปึง!”

ถางรั่วเสวี่ยนยังพูดไม่ทันจบ ก็เสียงทุบประตูดังลั่น

เสียงเคาะประตูที่ดังลั่นทำให้สองแม่ลูกตกใจอยู่ไม่น้อย

“ใคร!” หลินเย่นทั้งตกใจและสงสัยจนต้องลุกจากโซฟา เมื่อเดินมาที่หน้าประตู ดูจากช่องตาแมวเพื่อดูคนข้างนอกแล้ว ก็เห็นเงาคนที่คุ้นตาอยู่สองคน

หลิวคุน อู่จื้อเคอ

ไม่นานมานี้เอง เธอเพิ่งจะเจอกับสองคนนี้ที่ฮงเยคลับ ในเวลานั้นทั้งสองคนยังออกหน้าแทนเฉินเฟิง ดังนั้นหลินเย่นเลยจำหน้าพวกเขาได้บ้าง

หลังจากสงสัยอยู่สักพักแล้ว หลินเย่นถึงได้เปิดประตู

“แกสองคนทำไมรู้ว่าบ้านฉันอยู่ที่นี่?” หลินเย่นทำสีหน้าตื่นตกใจ ความจริงแล้วการที่ถามคำถามนี้ออกไปนั้น ในใจเธอย่อมรู้คำตอบนี้ดี

ที่ทั้งสองคนรู้ที่อยู่ของที่บ้านเธอ แน่นอนว่าต้องมีสองคนรู้เห็นด้วย

นี่เองเป็นเหตุผลที่ทำให้เธอยอมเปิดประตูให้สองคนนี้ มันคือโชคดีไม่ใช่โชคร้าย ถ้าเป็นโชคร้ายก็ไม่สามารถหลบได้ ถ้าเธอไม่ยอมเปิดประตูให้สองคนนี้ เดี๋ยวทั้งสองคนกลับไปแล้วใช้วิธีการทุเรศขึ้นมา มันยากแก่การรับมือ

“พี่เฟิงฝากมาบอกกับคุณ” หลิวคุนไม่ได้ตอบคำถามของหลินเย่น แต่พูดตรงๆ เลย

“พี่เฟิง?!”

เมื่อได้ยินคำเรียกของหลิวคุนตอนที่เอ่ยถึงเฉินเฟิง หลินเย่นถึงกับตกใจ “พวกแกไปเรียกไอ้ไร้ประโยชน์นั้นว่าพี่เฟิงเหรอ? พวกแกรู้ไหมว่ามัน…”

“บังอาจ!”

หลินเย่นยังพูดไม่จบ ก็ถูกหลิวคุนที่หน้าตาเย็นชาพูดแทรกแทน

“คุณลองพูดว่าพี่เฟิงไร้ประโยชน์อีกสักครั้งดูสิ?” อู่จื้อเคอที่อยู่ด้านข้างก็ตีหน้าขรึม ตั้งแต่ที่รู้ว่าเฉินเฟิงต่อสู้กับไป๋เหวินซั่วอย่างดุเดือดแล้วกลับมาไม่มีรอยบาดแผลสักขีด เขากับหลิวคุนก็เริ่มเป็นศิษย์น้องของเฉินเฟิง หลินเย่นกล้าพูดสาดเสียเทเสียเฉินเฟิงแบบนี้ต่อหน้าเขาสองคน พวกเขาย่อมไม่ปล่อยผ่านแน่นอน

“ไม่พูดแล้ว ไม่พูด” หลินเย่นส่ายหัวไปมาอย่างหวาดกลัว ถึงแม้ว่าในใจจะเห็นด้วย แต่จากสายตาที่ฉายอันตรายออกมานั้น ถ้าเธอกล้าพูดว่าไร้ประโยชน์อีกครั้ง ทั้งสองคนต้องเริ่มทำร้ายเธอในเวลานี้แน่ ทำเพื่อไอ้คนไร้ประโยชน์นั่น มันดูไม่คู่ควรสักเท่าไหร่

“เชอะ ต่อไปต้องระวังคำพูดหน่อย” อู่จื้อเคอส่งเสียงในลำคอ จากนั้นถึงได้ลดสายตาอันดุร้ายลง

“เอ่อ พี่เฟิง ฝากให้พวกแกมาบอกอะไรฉัน?” ถึงแม้ว่าในใจจะโกรธเกลียดเฉินเฟิงจนหมั่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน แต่เมื่อเห็นสีหน้าของหลิวคุนกับอู่จื้อเคอในตอนนี้ หลินเย่นไม่กล้าแม้แต่ต่อปากต่อคำด้วย ได้แต่เรียกพี่เฟิงตามน้ำไป

“ปากพาซวย” หลิวคุนพูดคำพูดธรรมดาออกมาจากปาก

“ปากพาซวยเหรอ?” หลินเย่นไม่ค่อยเข้าใจ นี่มันคำพูดที่ไอ้คนไร้ประโยชน์ฝากมาให้ตนเองเหรอ?

นี่มันเป็นการตักเตือน หรือว่าข่มขู่?

ไอ้คนไร้ประโยชน์นั้นทำไมไม่ให้ตนเองไปขอโทษเสี้ยเมิ่งเหยาล่ะ?

“เดี๋ยวคุณก็จะรู้เอง” ทำเหมือนว่ารู้ว่าหลินเย่นจะไม่เข้าใจแบบนั้น หลิวคุนเลยได้แต่ยิ้มให้เล็กน้อยตอนที่พูดออกมา

“เดี๋ยวก็รู้เหรอ?” หลินเย่นยิ่งงงหนักกว่าเดิมอีก คำพูดของหลิวคุนมันหมายความว่ายังไง?

หลิวคุนกับอู่จื้อเคอไม่ได้ให้โอกาสหลินเย่นถามกลับเลย หลังจากที่ทั้งสองพูดจบแล้ว ก็หันหลังกลับทันที

มีเพียงหลินเย่นที่ยืนอยู่ที่เดิมด้วยอาการมึนงงเบลอไปหมด

“แกล้งตีหน้าตายมาหลอกกัน!”

นานสักพัก หลินเย่นถึงได้หลุดส่งเสียงในลำคออย่างดูถูก จากนั้นก็หันหลังเดินเข้าบ้าน

ถึงแม้ว่าไม่เข้าใจคำพูดของหลิวคุนว่าหมายความว่าอะไร แต่เธอก็รู้สึกได้ว่า มีความเป็นไปได้มาก ที่เฉินเฟิงยืมมือหลิวคุนมาข่มขู่เธอเท่านั้นเอง เพื่อให้เธอเป็นคนไปขอโทษเสี้ยเมิ่งเหยาเอง

หลินเย่นได้แต่ปลอบใจตนเองแบบนี้ แต่พอเดินเข้าบ้านนั้น เธอก็รับสายโทรศัพท์ที่โทรเข้ามาพอดี

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน