ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 513

ตอนที่ 513

บทที่ 513 เจ้าหน้าที่ของสหพันธ์บูโด

“ไม่ล่ะ อาหวาง ฉันกินข้าวเย็นมาแล้ว พวกคุณทานกันเถอะ” เฉินเฟิงยิ้มให้ พร้อมทั้งปฏิเสธคำเชื้อเชิญของหวางหงอี้อย่างมีมารยาท เพราะว่าตอนนี้เขามีเรื่องเร่งด่วนต้องไปตามหัวตัววังโฉงหยาง ส่วนเรื่องที่ต้องกินข้าวกับหวางหงอี้นั้น ต่อไปมีเวลามี เวลาไหนก็กินได้

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงเอาแต่ปฏิเสธ หวางหงอี้ก็ไม่กดดันต่อ เขายิ้มให้ แล้วพูดว่า “งั้นดี คราวหน้าพวกเราค่อยมากินข้าวด้วยกัน”

“ใช่ คราวหน้า เราค่อยหาเวลามากินข้าวด้วยกัน”

หลี่สื้อผิวรีบพูดเสริม ในเวลานี้หวางซือหยวนอยู่ในสภาวะใกล้จะระเบิดเต็มทนแล้ว สายตาที่เธอมองมาทางเฉินเฟิงคือการมองอย่างกินเลือดกินเนื้อต้องการที่จะฆ่าคน ถ้าให้เธอต้องมานั่งกินข้าวกับเฉินเฟิงด้วย งั้นไม่แน่เธอก็ทำเรื่องอะไรบางอย่าง….

หลังจากที่บ้านของหวางหงอี้ไปแล้ว หัวคิ้วของเฉินเฟิงก็ขมวดไว้แน่นไม่คลายลง

เมื่อครู่หวางซือหยวนจ้องเขาด้วยสายตากินเลือดกินเนื้อนั้นเขาก็เห็นชัด

แต่ว่า…

หวางซือหยวนจำเป็นต้องมาเกลียดเขาขนาดนี้ไหม?

ครั้งที่แล้วที่คฤหาสน์ฉู่ ตนเองก็ไม่ได้ทำอะไรกับเธอนี่?

หลังจากส่ายหน้าไปมา เฉินเฟิงก็ไม่ได้คิดเรื่องพวกนี้ต่อ พลันเริ่มสนใจตามหาร่องรอยเบาะแสของวังโฉงหยางบนชายหาดต่อไป

จนเวลาสี่ทุ่มกว่าแล้ว เฉินเฟิงก็ยังไม่เห็นวังโฉงหยางเลย

หลังจากถอนหายใจเฮือกใหญ่ เฉินเฟิงก็ยอมล้มเลิกในการตามหา จากนั้นก็หันตัวมุ่งหน้ากลับไปที่โรงแรม

คืนหนึ่งคืนเสียเวลาไปเปล่าประโยชน์

เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินเฟิงตื่นนอนแต่เช้าตรู่ หลังจากที่อาบน้ำล้างหน้าล้างตาเสร็จเรียบร้อยแล้ว เฉินเฟิงกับเสี่ยวอู่และบรรดาบอดี้การ์ดก็มีที่เขตชุมชนวิลล่า

วันนี้เขตชุมชนวิลล่านั้นมีการตรวจตราที่เข้มงวดมาก เห็นได้ชัดว่าเข้มงวดกว่าเมื่อวานหลายขั้นตอนมาก

เมื่อวานนี้พนักงานที่เข้ามาตรวจตราเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัยที่เป็นคนทั่วไป แต่วันนี้ ยามรปภ.เหล่านั้นเปลี่ยนเป็นจอมยุทธ์ทั้งหมด

บนตัวของจอมยุทธ์เหล่านี้ต่างใส่ชุดเครื่องกายของสหพันธ์บูโด เห็นได้ชัดว่า ทางสหพันธ์บูโดจัดการให้พวกเขาเข้ามาคุ้มกันผู้บริหารชั้นสูงทั่วไปตามที่สือโพ่จุนพูดเอาไว้ก่อนหน้านี้มา

ตำแหน่งภายในของทางสหพันธ์บูโดตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับสูงมีทั้งหมดห้าระดับ ตำแหน่งเจ้าหน้าที่ระดับทั่วไปเป็นตำแหน่งสุดท้าย จากนั้นก็เป็นผู้บริหารชั้นสูง

ตำแหน่งผู้บริหารชั้นสูงต่อมาก็เป็น ท่านผู้อาวุโส หัวหน้าพิธีกรรม ประมุข…

ในตำแหน่งพวกนี้ หัวหน้าพิธีกรรมกับประมุขก็มือตำแหน่งไล่ลงมา..

สหพันธ์บูโดอยู่ที่เมืองหวาเซี่ยเป็นฐานใหญ่ มีทั้งหมด 36 สหพันธ์

ทั้ง 36 สหพันธ์นี้ เอามารวมจอมยุทธ์ในหวาเซี่ยทั้งหมด ทั้งหมดทั้งมวลแล้ว นั่นย่อมรวมจอมยุทธ์ในอาณาสำนักและจอมยุทธ์ที่ฝึกเองด้วย

ไม่ว่าจอมยุทธ์อาณาสำนักจะมีอำนาจเป็นของตนเองอยู่ภายในสำนักของตนเอง แต่ว่าที่หวาเซี่ยเมืองหลักนั้น จอมยุทธ์อาณาสำนักก็ต้องฟังคำสั่งของสหพันธ์เช่นกัน

ในเวลานี้เอง การดูแลรักษาความสงบบริเวณด้านหน้าประตูวิลล่า โดยส่วนใหญ่เป็นบุคคลทั่วไปในสหพันธ์เป็นคนทำ

วิทยายุทธ์ของพวกเขา ธรรมดานั่นหมายความอยู่ในขั้นหมิงจิ้งชั้นกลาง

ถึงแม้ว่าไม่สูง แต่ว่าการตรวจสอบพนักงานที่เข้ามาในวิลล่า ทว่าเป็นดำเนินการได้อย่างเต็มที่

เป็นเพราะว่าเฉินเฟิงได้เป็นผู้ที่ถูกเลือกให้เข้าร่วมการเดิมพัน ดังนั้นยังไม่ได้ตรวจสอบด้วยซ้ำ ก็ถูกปล่อยตัวไปเลย

แต่เสี่ยวอู่กับบรรดาบอดี้การ์ดนั้น กลับถูกตรวจตามร่างกาย เพื่อมั่นใจว่าไม่ได้เป็นคนของตระกูลฉู่แล้ว ถึงได้ปล่อยตัวให้เข้ามาด้านในได้

หลังจากที่เฉินเฟิงเข้าไปด้านในไม่นาน บริเวณด้านนอกของวิลล่าก็มีคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้น

ถ้าเฉินเฟิงอยู่ที่นี่ในตอนนี้ ต้องตกใจจนหัวใจตกไปอยู่ที่ตาตุ่มแน่

เพราะว่า กลุ่มคนที่มาปรากฏตัวอยู่ที่ด้านนอกวิลล่านั้น กลับกลายเป็นครอบครัวของหวางหงอี้!

นอกจากครอบครัวของหวางหงอี้แล้ว ยังมีคนคนหนึ่งที่สีผิวคล้ำหน่อย ชายหนุ่มวัยกลางคนที่ใส่เครื่องแต่งกายของสหพันธ์บูโด

ในเวลานี้เอง ชายวัยกลางคนที่ใส่ชุดเครื่องแต่งกายของสหพันธ์บูโดอยู่นั่นเป็นคนเดินนำหน้า ครอบครัวของหวางหงอี้อยู่ด้านหลังของชายวัยกลางคน

ตอนที่ใกล้เข้าวิลล่านั้น ชายวัยกลางคนหันกลับไปหาครอบครัวหวางหงอี้ แล้วพูดว่า “ไม่ได้เอาโทรศัพท์กับกล้องมาใช่ไหม?”

“ไม่…ไม่ได้เอามา” เพิ้งเย้นฟางส่ายหน้าไปมา

“ไม่ได้เอามาก็ดีแล้ว” ชายวัยกลางคนพยักหน้าให้ ในเวลานั้น เขาก็หันไปมองหวางหงอี้ พร้อมทั้งพูดกำชับ “หงอี้ นิสัยของคุณค่อนข้างหนักแน่น เดี๋ยวตอนที่เข้าไป คุณต้องคอยจับตามองเย้นฟางกับซือหยวนและสื้อผิงพวกเขาเอาไว้ อย่าให้พวกเขาเดินมั่วไปทั่ว”

“คนที่เข้ามาเข้าร่วมการเดิมพันในวันนี้ เป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงของวงการศิลปะการต่อสู้ทั้งสิ้น นอกจากจอมยุทธ์หวาเซี่ยของพวกเราแล้ว ยังมีจอมยุทธ์ของประเทศญี่ปุ่นอีก มีจอมยุทธ์หลายคนที่นิสัยแปลกประหลาดอยู่ ถ้าพวกคุณเดินมั่วซั่วไปเรื่อย แล้วไปเดินชนกับพวกเขาเข้า พวกเขาอาจจะฟาดพวกคุณให้ตายตรงนั้นเลยก็ได้”

“ห๊ะ?” เมื่อได้ยินคำพูดของชายวัยกลางคนแล้ว สีหน้าของเพิ้งเย้นฟางซีดเผือดในทันที ก็เพราะว่าแค่เดินชน ถึงก็ต้องถูกฟาดให้ตายเลยเหรอ?

“พี่ใหญ่ หรือว่าพวกเราไม่เอาแล้ว ไม่เข้าไปดูแล้วไหม” เพิ้งเย้นฟางหดคอ แล้วถาม

ความจริงแล้ว การที่ครอบครัวของพวกเขามาเที่ยวเกาะมุ๋ยลายในครั้งนี้ ไม่ใช่มาเที่ยว แต่มาเพื่อดูโลกอีกใบให้เห็นกับตา

ด้วยเพราะว่าเผิงจื๋อหลินมีตำแหน่งในสหพันธ์อยู่แล้ว ดังนั้นตั้งแต่แรกแล้ว ครอบครัวของพวกเขาเลยรู้เรื่องการมีตัวตนอยู่ของพวกจอมยุทธ์

หลายวันก่อน เผิงจื๋อหลินเกิดพูดเรื่องการเดิมพันประลองฝีมือของจอมยุทธ์ที่บนเกาะมุ๋ยลายขึ้นมา ในเวลานั้น เพิ้งเย้นฟางเกิดรู้สึกสนใจขึ้นมา เธอกับเผิงจื๋อหลินเลยคิดว่า อยากจะมาชมการประลองฝีมือของจอมยุทธ์

เพราะว่าเธออายุปูนนี้แล้ว ยังไม่เคยจอมยุทธ์ลงมือเลยสักครั้ง

การเผชิญหน้ากับการร้องขอของเพิ้งเย้นฟางแล้ว เผิงจื๋อหลินไม่มีทางปฏิเสธได้อยู่แล้ว

ถึงแม้ว่าทางการหวาเซี่ยจะยังปิดบังเรื่องนี้เป็นความลับไม่มีการแพร่งพรายแต่อย่างใด ทว่าคนที่ทำงานกับพวกสหพันธ์บูโดนั้น เรื่องของจอมยุทธ์ย่อมไม่ได้แปลกใจกันมากนัก ครอบครัวของพวกเขา โดยส่วนใหญ่ต่างรู้เรื่องการมีตัวตนอยู่ของจอมยุทธ์ดี

ดังนั้นเพิ้งเย้นฟางจะมาเข้าดูการประลองฝีมือการเดิมพันนั้น ใช่ว่าจะเป็นไปไม่ได้

ขอแค่เพิ้งเย้นฟางไม่อัดวิดีโอ ไม่ถ่ายรูป ไม่เอาเรื่องการประลองฝีมือป่าวประกาศออกไป ทางด้านสหพันธ์บูโดก็ทำได้แค่เอามือปิดตาไว้ข้างหนึ่งเท่านั้นเอง

เผิงจื๋อหลินคิดว่าตนเองจะเอาครอบครัวของเพิ้งเย้นฟางเข้าไปอย่างง่ายดาย แต่ใครจะคิดเล่า มาถึงตรงนี้แล้ว เพิ้งเย้นฟางดันตกใจกับคำพูดของเขาจนยอมถอยกลับซะงั้น

“เย้นฟาง พี่ใหญ่พูดก็แค่จะทำให้แกตกใจเท่านั้นเอง จอมยุทธ์ไม่สามารถจะฟาดใครตายได้ตามสบายใจ” หวางหงอี้ยิ้มให้อย่างขมขื่น เมื่อเห็นว่าโดยปกติเพิ้งเย้นฟางจะเป็นใครใจกล้ากว่าใครๆ เสียอีก แต่เมื่อพูดถึงเรื่องที่เอาชีวิตตนเองไปเกี่ยวข้องแล้ว ความกล้าบ้าบิ่นของเธอมันหดลงยิ่งกว่าตัวหนูซะอีก

“หงอี้พูดถูกแล้ว จอมยุทธ์ไม่สามารถที่จะเที่ยวไปฟาดใครให้ตายได้ แต่ว่าก็ต้องเตือนเอาไว้ ว่าแกอย่าไปก่อเรื่องให้เขา” เผิงจื๋อหลินพูดอย่างเบื่อหน่าย เมื่อครู่ที่เขาพูดออกมานั้นย่อมเป็นการขู่เพิ้งเย้นฟางให้ตกใจไว้ก่อน ไม่คิดเลยว่า เพิ้งเย้นฟางจะเอาเรื่องนั้นมาคิดเป็นจริง

“ฉันจะไม่ไปยุ่มย่ามแน่นอน ฉันจะไม่ไปก่อเรื่อง!” เพิ้งเย้นฟางรีบทำท่าทางรับประกันกับเรื่องนี้

“พอแล้ว เข้าไปด้านในกันเถอะ”

เผิงจื๋อหลินส่ายหน้าไปมา จากนั้นก็เดินเข้าไปเป็นคนแรก

พอมาหน้าประตูวิลล่า คนที่ทำหน้าที่ตรวจสอบหลายคนนั้นก็โค้งตัวทำความเคารพทันที “พี่เผิง”

“มีคนที่น่าสงสัยไหม?” เผิงจื๋อหลินเอามือไพล่หลังกวาดตามองพวกเขาอยู่แวบหนึ่ง แล้วถามกลับ เขาทำงานอยู่ในตำแหน่งผู้บริหารระดับสูงของสหพันธ์บูโดจงไห่ ด้วยตำแหน่งหน้าที่ เขาตำแหน่งยังสูงกว่าเจ้าหน้าที่ทั่วไปที่รับผิดชอบตรวจตราที่อยู่ตรงหน้าหลายคนนี้อยู่อีกขั้น

“ตอนนี้ยังไม่พบ” เจ้าหน้าที่สามัญทั่วไปมองมาที่เผิงจื๋อหลินแล้วตอบคำถาม

“’ งั้นดี” เผิงจื๋อหลินพยักหน้าให้ พร้อมทั้งชี้มาทางพวกของเพิ้งเย้นฟางและหวางหงอี้ แล้วพูดว่า “พวกเขาเป็นน้องสาวและน้องเขย และนี่หลานสะใภ้กับหลานเขยของฉัน ก่อนหน้านี้ ฉันได้ให้พวกเขาเอาโทรศัพท์และกล้องออกจากตัวก่อน แต่ว่า เพื่อความปลอดภัยกันไว้ก่อน พวกแกก็ต้องตรวจสอบใช่หรือไม่”

คนที่เป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่สามัญทั่วไปนั้นมองมาที่เพิ้งเย้นฟางแวบหนึ่ง ยิ้มให้แล้วพูดว่า “ไม่ต้องตรวจแล้ว พี่เผิงเป็นคนที่ให้ฉันเชื่อถือได้ พวกคุณเข้าไปด้านในเถอะ”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท