ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 511

ตอนที่ 511

เราจะทยอยไล่แก้ให้ยามว่างอยากให้แก้เรื่องไหนคอมเมนต์ไว้นะคะ
แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 511 หยกเขียวมรกตจักรพรรดิ

“แกหมายความว่า ไอ้คนที่แซ่เฉินมันดูแปลกประหลาดอยู่ใช่ไหม?” หูฉี่ซิงทำหน้าแปลกใจมองมาทางหยางเสี่ยนหมิง

“ไม่มั่นใจ แต่ฉันสัมผัสได้ว่าเขาไม่ธรรมดา” หยางเสี่ยนหมิงส่ายหน้าไปมา

“ศิษย์พี่จาง พี่คิดว่าไง?” หูฉี่ซิงรีบเบนสายตาหันกลับไปหาจางเทียนเซออีกครั้ง

ทว่าจางเทียนเซอขมวดคิ้วเข้าหากัน “ตอนนี้มามัวแต่หมกมุ่นกันแต่เรื่องนี้แล้วมันจะมีประโยชน์อะไร พรุ่งนี้การเดิมพันประลองฝีมือก็จะเริ่มแล้ว ไอ้แซ่เฉินจะเป็นลาหรือม้า ขึ้นเวทีเดี๋ยวก็รู้เรื่องเอง”

เมื่อเห็นว่าจางเทียนเซอไม่ค่อยพอใจเรื่องที่พูดถึงเฉินเฟิงสักเท่าไหร่ หูฉี่ซิงเริ่มพูดต่อ “ศิษย์พี่จางพูดก็ถูกอีก พวกเราไม่ต้องไปใส่ใจเรื่องของไอ้แซ่เฉินคนนั้นว่ามันจะแปลกประหลาดหรือเปล่า พวกเราแค่จัดการทำเรื่องของตนเองให้ดีก็พอ”

เกาะมุ๋ยลายยามค่ำคืน แสงไฟสว่างจ้า

หาดทรายขาวริมทะเล ต่างมีนักท่องเที่ยวจับกลุ่มสี่ถึงห้าคนรวมตัวกันเป็นกลุ่มก้อน

หลังจากที่จัดหาโรงแรมห้องพักให้เสี่ยวอู่กับพวกเสร็จเรียบร้อยแล้ว เฉินเฟิงก็เดินออกมาที่ชายหาดคนเดียว

ในเวลานั้น บนเกาะมุ๋ยลาย ก็มีแต่ชายหาดทางฝั่งนี้ที่มีนักท่องเที่ยว

ดังนั้น วังโฉงหยางและพวกพ้องมีความเป็นไปได้ว่าจะอยู่ที่นี่มากที่สุดแล้ว

เม็ดทรายที่อยู่บนชายหาดเนียนละเอียด เมื่อสัมผัสเวลาเหยียบ เหมือนได้ยินเสียงอันสดใส

ยามเมื่อลมทะเลหอบความเค็มตีพัดโดนใบหน้า มันทำให้ร่างกายของคนเราผ่อนคลายลง

เฉินเฟิงไม่เคยรู้สึกอบอุ่นเช่นนี้มานอนแล้ว ตั้งแต่ออกจากบ้านตระกูลเฉิน เขาก็แบกรับความอับอายหนักหนาสาหัสมาโดยตลอด ราวกับไม่ได้มีโอกาสปล่อยให้ตนเองได้ผ่อนคลายลงบ้างเลย

การเดินทางมาพักผ่อนที่เกาะมุ๋ยลายในครั้งนี้ ถือว่าเป็นโอกาสอันดีที่ทำให้เขาได้แอบมาพักผ่อนไปในตัวด้วย

แต่สิ่งที่น่าเสียดายก็คือ ความรู้สึกสบายใจอย่างอบอุ่นแบบนี้ไม่สามารถครอบครองไว้ได้นาน

หลังจากที่เดินออกไปเพียงไม่กี่ก้าว ด้านหน้าของเฉินเฟิงก็เจอกับคนสองกลุ่ม

หลายคนที่อยู่ในสองกลุ่มนั้นมีคนที่เฉินเฟิงคุ้นหน้าคุ้นตาอยู่

หวางหงอี้ หลี่สื้อผิง หวางซือหยวน เพิ้งเย้นฟาง ยังมี …หลิ่วซวนคนที่เคยเจอตอนที่ไปเที่ยวอยู่บนเรือสำราญก่อนหน้านี้ด้วย

เฉินเฟิงไม่เข้าใจ ว่าทำไมคนในบ้านของหวางหงอี้ถึงไปเจอกับหลิ่วซวนได้ แต่ว่าในเวลานี้ ครอบครัวของเขากำลังเผชิญหน้ากับหลิ่วซวนที่กำลังหน้าแดงก่ำ

ในมือของเพิ้งเย้นฟางกำลังหยิบกำไลข้อมือหยกสีเขียวแต่หักเป็นสองชิ้น พร้อมทั้งกำลังตะคอกใส่หลิ่วซวน “ทำกำไลคนอื่นเขาหักราคามันตั้งห้าล้านเลยเหรอ? นี่แกคิดแต่เรื่องเงินๆ ทองๆ จนบ้าไปแล้วหรือเปล่าเนี่ย?!”

“ทำไมราคามันจะไม่ถึงล่ะ?” หลิ่วซวนเอามือกอดอก พร้อมทั้งยิ้มให้และมองมาทางเพิ้งเย้นฟางอย่างเย็นชาแล้วพูดว่า “อีคนบ้านนอก ผลงานกำไลชิ้นนี้ของของคุณกงปุ่น เป็นหยกจักรพรรดิมรกตที่หาได้น้อยมาก อีกอย่าง ฉันบอกว่าห้าล้าน นั่นเป็นราคาที่ฉันประมาณเอาไว้ว่าเป็นราคาที่ต่ำที่สุดแล้ว ถ้าเอาหยกจักรพรรดิมรกตของคุณกงปุ่นออกไปประมูลราคาแล้ว ราคาประมูลก็อาจจะแตะไปถึงแปดล้านก็ได้!”

“ดังนั้น ฉันเลยให้พวกแกจ่ายค่าเสียหายให้กับคุณกงปุ่นห้าล้าน จริงๆ ก็ให้เกียรติพวกแกแล้วนะ พวกแกอย่าทำตัวพูดไม่รู้เรื่องว่าอะไรดีหรือไม่ดี!”

คุณกงปุ่นเหรอ? ฟังชื่อแล้วเหมือนว่าเป็นคนญี่ปุ่น?

หัวคิ้วของเฉินเฟิงขมวดเข้าหากัน เขามองไปที่หลิ่วซวน แวบนั้นก็เห็นว่า ข้างกายหลิ่วซวนนั้น มีชายวัยกลางคนที่แต่งกายชุดกิโมโนยืนอยู่ด้วย

ชายวัยกลางคนคนนี้ผิวพรรณขาวเกลี้ยงเกลา การวางตัวสง่างาม ดูจากลักษณะภายนอกแล้ว คล้ายคนญี่ปุ่นอยู่บ้าง

มีความเป็นไปได้ว่า ชายวัยกลางคนคนนี้น่าจะเป็นคุณกงปุ่นที่หลิ่วซวนคอยพูดถึงอยู่

แต่ว่า ทำไมเพิ้งเย้นฟางถึงไปชนกำไลของคุณกงปุ่นจนมันแตกได้ล่ะ?

“แกพูดว่ากำไลของเขาคือหยกมรกตจักรพรรดิ งั้นกำไลของเขาเป็นหยกมรกตจักรพรรดิเหรอ? งั้นฉันยังพูดว่ากำไลของฉันก็เป็นหยกมรกตจักรพรรดิบ้างล่ะ!”

เพิ้งเย้นฟางดึงกำไลของตนเองออกมาจากมือ ท่าทางดูทำตัวเหนือกว่าพร้อมทั้งโบกไปมาต่อหน้าหลิ่วซวน

หลังจากที่หลิ่วซวนแสยะยิ้มให้แล้ว “ฉันรู้ว่าแกต้องพูดแบบนี้”

“แกไม่เชื่อว่ากำไลของคุณกงปุ่นเป็นหยกมรกตจักรพรรดิแล้วละก็ แกก็ไปดูใบcertificateของคุณกงปุ่นได้นี่ อีกอย่าง ตอนนี้มีคนคอยดูมาตรงนี้ตั้งเยอะ ที่นี่ต้องมีคนถนัดทางเรื่องนี้แน่ แกก็ไปหาคนที่ถนัดทางนี้มาดูให้หน่อยสิ กำไลของคุณกงปุ่น จริงๆ แล้วมันใช่หยกมรกตจักรพรรดิหรือเปล่า?!”

หลิ่วซวนแสยะยิ้มให้อย่างเย็นชา พร้อมทั้งแสดงความเหยียดอย่างสุดทาง

เมื่อเห็นสภาพของเธอที่เป็นเช่นนี้ เฉินเฟิงได้แต่ส่ายหน้าไปมาอย่างอดไม่ได้ ถ้าไม่ผิดไปตามคาดละก็ กำไลของคุณกงปุ่นอันนี้ เกรงว่าเป็นกำไลหยกมรกตจักรพรรดิที่เขาว่ากันมา….

“กำไลลักษณะเช่นนี้ คล้ายคลึงกับหยกมรกตจักรพรรดิ ตัวสีของมันจะเป็นลักษณะใกล้เคียงกัน อีกอย่างในความเขียวของมันนั้นยังมีสีฟ้าปะปนอยู่ด้วย…”

ไม่นาน ก็มีคนที่แต่งตัวดูดีเดินผ่านมาวิพากษ์วิจารณ์ แต่คำพูดของเขายังพูดไม่ทันจบ แต่ก็โดนเพิ้งเย้นฟางตะคอกใส่อย่างหยาบคาย “แกหุบปากไปเลย! กูให้คนอย่างมึงพูดแล้วหรือยังไง?! มึงเป็นพวกเดียวกันกับอี้คนขี้โกงหรือเปล่า?!”

“ผมไม่ใช่นะ…” คนที่แต่งตัวดูดีที่เดินผ่านมาปฏิเสธเถียงจนคอเป็นเอ็น

“ไม่ใช่พวกเดียวกัน งั้นแกช่วยมันพูดทำไม?!” เพิ้งเย้นฟางแสยะยิ้มให้ “ฉันว่าพวกแกเป็นพวกเดียวกัน! พวกแกอยากจะมาหลอกเงินกู!”

“อีคนบ้านนอก มี่มึงจงใจพูดมั่วๆ ออกมาใช่ไหม?!” สีหน้าหลิ่วซวนนิ่งลงมาเยอะ คนใส่ชุดดูดีที่เดินผ่านมานั้น เธอไม่ได้เป็นคนวางแผนเอาไว้เลย เธอก็ไม่จำเป็นที่ต้องมาวางแผนอะไรอยู่ดี

เพราะว่า กำไลของกงปุ่นสองอี มันเป็นหยกมรกตจักรพรรดิจริงๆ

“อีนางนี่ แกพูดว่าใครเป็นคนบ้านนอก? กูจะตบแกให้ปากฉีกแกเชื่อไหม?!”

เพิ้งเย้นฟางโกรธกระฟัดกระเฟียด พร้อมทั้งเตรียมตั้งท่ากระโจนใส่

เวลานั้นเอง กงปุ่นสองอีที่เอาแต่เงียบมาตลอดโบกมือไปมาทันที

เวลานั้น วัยรุ่นสองคนที่ใส่ชุดซามูไรก็เดินเข้ามา พร้อมทั้งยืนกั้นข้างหน้าเพิ้งเย้นฟาง

หลังจากที่สองหนุ่มที่ใส่ชุดซามูไรตีหน้าขรึมออกมานั้น สีหน้าที่ภายนอกดูแข็งกร้าวแต่ภายในกลับอ่อนแอของเพิ้งเย้นฟางขึ้นมา “พวกแกทำอะไร?! อยากจะทำร้ายคนหรือยังไง?!”

“ฉันขอเตือนพวกแกเอาไว้ ฉันเป็นคนของหวาเซี่ย พวกแกกล้าลงมือกับฉัน หวาเซี่ยคงไม่ปล่อยพวกแกไปง่ายๆ แน่!”

“คุณผู้หญิงท่านนี้ คนหวาเซี่ยทำผิด ก็ไม่ต้องออกมารับผิดชอบความผิดนี้เหรอ?” กงปุ่นสองอีเอ่ยปากพูด เขาพูดภาษาที่เน้นย้ำทุกถ้อยคำ ถ้าไม่ใช่ว่าร่างกายกำลังใส่ชุดกิโมโนอยู่ เกรงว่ามีคนบอกว่าเขาเป็นคนหวาเซี่ยก็ต้องมีคนเชื่อแน่ๆ

“คนหวาเซี่ยทำผิด ย่อมต้องออกมารับโทษตามความผิดนั้น” เวลานี้ หวางหงอี้ลุกขึ้นยืน พร้อมทั้งพูดเสียงเข้ม

เขามองไปที่กงปุ่นสองอี แล้วพูดว่า “คุณกงปุ่น อันดับแรก เรื่องที่ภรรยาของผมเดินชนกำไลของคุณ ผมต้องขอโทษด้วย”

“อีกเรื่องถ้ากำไลของคุณกงปุ่นเป็นกำไลหยกมรกตจักรพรรดิแล้ว ไม่ว่าจะราคาสักกี่มากน้อย ผมจะยินดีชดใช้ค่าเสียหายตามจริงทั้งหมดให้คุณกงปุ่นเอง ขอให้คุณกงปุ่นอย่างได้กังวลใจไปเลย”

“จ่ายค่าเสียหายตามจริง?!” เมื่อได้ยินคำพูดนี้ สีหน้าของเพิ้งเย้นฟางเปลี่ยนไปจากเดิมทันที พร้อมทั้งรีบดึงมือของหวางหงอี้มาอีกทาง แล้วใช้เสียงกระซิบพูด “หงอี้ นี่คุณบ้าไปแล้วเหรอ กำไลของคนญี่ปุ่นนั่น ถ้าเป็นหยกมรกตจักรพรรดิขึ้นมาจริงๆ งั้นพวกเราต้องชดใช้ค่าเสียหายห้าล้านเลยนะ!”

“เงินตั้งห้าล้าน! เราเงินขนาดนี้พวกเราสามารถเอามาซื้อห้องห้องหนึ่งที่จงไห่ได้เลยนะ!”

“เย้นฟาง กำไลของคนอื่นเขา คุณก็เป็นคนเดินไปชนจะแตกใช่ไหม?” หวางหงอี้ขมวดคิ้วแล้วมองมาทางเพิ้งเย้นฟาง

“ฉันเดินชนจนมันแตกเอง แต่ว่าฉันไม่ได้ตั้งใจ…” เพิ้งเย้นฟางยังคงพูดอย่างหน้าด้าน

“ไม่ว่าคุณจะจงใจหรือไม่ได้จงใจก็ตาม วันนี้ กำไลข้อมือของเขามันแตกไปแล้ว เรื่องนี้มันคือความจริง จะพูดยังไง พวกเราก็เป็นฝ่ายผิดอยู่ดี ดังนั้น เงินพวกนี้พวกเราจำเป็นต้องจ่ายชดใช้ค่าเสียหาย” หวางหงอี้พูดเสียงเข้ม

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท