ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 520

ตอนที่ 520

บทที่ 520 เลวทรามต่ำช้า

“หั้วจิ้ง?” ท่านเต๋าชิงเย้นตกตะลึงอยู่ชั่วขณะ หั้วจิ้งที่มาที่เกาะมุ๋ยลายในครั้งนี้ มีทั้งหมดสิบกว่าคน ในสิบกว่าคนนั้นล้วนอยู่ในวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย เขารู้จักทั้งหมด แต่ตอนนั้น คนเหล่านั้นก็นั่งอยู่กับเขา พวกเขาก็อยู่ห่างจากเวทีเกือบร้อยเมตรเช่นกัน พวกเขาแทบไม่มีโอกาสในการช่วยเห้อซงด้วยซ้ำ…

“ท่านอาจารย์อาก่วนรู้ไหมว่าหั้วจิ้งคนนั้นคือใคร? ” ท่านเต๋าชิงเย้นอดถามไม่ได้ ว่าอีกฝ่ายที่เข้ามาช่วยเห้อซงนั้นเป็นใคร เช่นนั้นสำนักบู๊ตั๊งของพวกเรา ก็เท่ากับติดค้างบุญคุณอีกฝ่ายเอาไว้

บุญคุณเช่นนี้ พวกเขาต้องทดแทน

“ไม่รู้ ตอนนั้นคนอยู่เยอะมาก ฉันมองเห็นไม่ชัด” ก่วนหนานเทียนส่ายหน้าไปมา ถึงแม้ว่าพลังภายในของเขาจะเป็นหั้วจิ้งขั้นสุดแล้ว แต่ในเหตุการณ์นั้นมีคนจำนวนมากมาย เขาเองย่อมไม่สามารถจ้องมองทุกคนได้ เขาแค่รู้ว่า คนที่เข้ามาช่วยในตอนนี้ อยู่ใกล้กับเวทีมาก

“ได้” ท่านเต๋าชิงเย้นเริ่มเหนื่อยล้าเล็กน้อย เขาเพิ่งจะเคยเห็นแบบนี้เป็นครั้งแรก ทำเรื่องดีๆ แล้วไม่ยอมบอกชื่อแซ่นี่แหละ

อีกฝั่ง จายเถิงจวั่นจู้เพิ่งจะกลับมาที่ทีมสมาคมการค้าเชียสุ่ย จนที่สุดมีคนทนไม่ไหวจนพูดออกมา “จวั่นจู้ เมื่อครู่ทำไมแกไม่ฆ่าไอ้หวาเซี่ยคนนั้นไปเลย?”

จายเถิงจวั่นจู้มองไปที่คนที่พูด ด้วยสีหน้าถมึงทึง “แกคิดว่าฉันไม่อยากฆ่าหรือไง?”

คนนั้นตะลึง “หมายความว่าไง?”

“มีคนแอบขัดขวางฉันเอาไว้” จายเถิงจวั่นจู้พูดเสียงเข้ม ตอนที่อยู่บนเวที เขาไม่เข้าใจว่าทำไมมีดสั้นถึงได้หักเหไป แต่เมื่อลงจากเวทีแล้ว เขาก็คิดออกทันควัน

ตอนที่เขากำลังลงมือนั้น มีคนปล่อยพลังภายในออกมา พลังภายในนั้นทำให้มีดสั้นของเขาหักเหไปหลายเซนติเมตร

เวลานั้นเอง เปียนตู้ไท่อีและชายชราหั้วจิ้งของญี่ปุ่นอีกสองคนก็เดินเข้ามา

เมื่อเห็นทั้งสามคน จายเถิงจวั่นจู้และจอมยุทธ์หนุ่มก็รับโค้งคำนับทำความเคารพทันที “ท่านอาจารย์!”

“ลำบากเจ้าแล้ว จวั่นจู้” ชายชราหั้วจิ้งคนตรงกลางมองมาที่จายเถิงจวั่นจู้อย่างพอใจ จายเถิงจวั่นจู้ในวันนี้ สามารถทำให้จอมยุทธ์ทางฝั่งหวาเซี่ยเสียหน้าไปได้ เขาไม่เพียงทำให้จอมยุทธ์ทางหวาเซี่ยพ่ายแพ้อย่างราบคาบอย่างเดียว แถมยังทำให้พวกนั้นอับอายไปด้วย

“ท่านอาจารย์ชมเกินไป สามารถทำให้อาจารย์พอใจ ถือว่าเป็นความโชคดีแก่จวั่นจู้แล้ว” แววตาจายเถิงจวั่นจู้เปล่งประกายอย่างตื้นตัน ชายชราที่อยู่ตรงหน้าชื่อว่ากงปุ่นป้านฉาง เขาดำรงตำแหน่งเป็นรองหัวหน้าองการเทียนซาเขตการปกครองของญี่ปุ่น ห้าปีก่อน พลังวรยุทธ์ของกงปุ่นป้านฉางก็ไปถึงขั้นสุดนินจาแล้ว

ในระยะหลายปีนี้ในประเทศญี่ปุ่น เขาหวังเป็นอย่างมากที่จะฝึกวรยุทธ์ให้อยู่ในขั้นนินจาเทพของนินจาชั้นสูง!

“วันพรุ่งนี้คู่ต่อสู้ของเจ้าคือจางเทียนเซอ คนคนนี้อาจารย์ตรวจสอบมาแล้วเขาเป็นลูกศิษย์ในสำนักที่เก่าแก่มาคือสำหนักเขาหลงหู่ ความสามารถของเขาเก่งฉกาจกว่าสองคนในวันนี้อยู่มาก เจ้าอย่าได้ดูถูกคนคนนี้เป็นอันขาด” กงปุ่นป้านฉางพูดกำชับเสียงเข้ม วันนี้จายเถิงจวั่นจู้ชนะอย่างขาดลอยทั้งสองการต่อสู้ ความรู้สึกทางจิตใจย่อมโลดโผนเป็นธรรมดา ถ้าพรุ่งนี้เขาต่อสู้กับจางเทียนเซอ แล้วยังดูถูกจางเทียนเซออีก เช่นนั้นเขาก็คงต้องประสบชะตากรรมพ่ายแพ้ไม่เป็นท่าแน่

“อาจารย์โปรดวางใจ ศิษย์จะไม่ดูถูกคนคนนั้นเป็นอันขาด ศิษย์จะใช้ความสามารถทั้งหมดที่มี” จายเถิงจวั่นจู้รีบรับปากในทันที ชื่อของเขาหลงหู่ เขาก็ได้ยินมาตั้งแต่แรก ที่นั่นเป็นสำนักด้านศิลปะการต่อสู้ที่มีประวัติสืบทอดมายาวนานเป็นพันๆ ปีในหลายสำนักของหวาเซี่ย ถ้าเขายังทำตัวหยิ่งผยองสักเพียงใด ก็ไม่กล้าที่จะดูถูกผู้สืบทอดของเขาหลงหู่

“ใช่สิท่านอาจารย์ ก่อนหน้าที่ศิษย์จะฆ่าคนหวาเซี่ยในตอนนั้น มีคนขัดขวางศิษย์เอาไว้ คนที่เป็นคนเข้ามาขัดขวางศิษย์เป็นเจ้าหน้าที่ของหวาเซี่ยใช่หรือไม่…” จายเถิงจวั่นจู้เอ่ยปากถามเรื่องที่ตนเองสงสัย ทุกคนที่อยู่ด้วยกันในเวลานี้ มีเพียงกงปุ่นป้านฉางเท่านั้นที่วรยุทธ์สูงที่สุด ดังนั้น ถ้ามีคนทำเล่นตุกติก ก็มีแต่กงปุ่นป้านฉางเท่านั้นที่สามารถมองออก

“ไม่ใช่พวกเขา” สีหน้าของกงปุ่นป้านฉางเคร่งขรึมลงพร้อมทั้งส่ายหน้าไปมา พลางกล่าวว่า “คนที่เป็นคนขัดขวางเจ้าไว้ เป็นคนอื่น”

“คนอื่นหรือ?” จายเถิงจวั่นจู้ตะลึงไปชั่วครู่ ไม่ใช่ท่านอาวุโสก่วน เช่นนั้นเป็นใครกัน

“ไม่ผิดหรอก” กงปุ่นป้านฉางพยักหน้าให้ จากนั้นก็เอ่ยออกมาอย่างเคร่งขรึม “คนหวาเซี่ยช่างเลวทรามต่ำช้ามาก พวกเขาอาจจะให้จอมยุทธ์หั้วจิ้งแอบซ่อนตัวอยู่ในเหล่าจอมยุทธ์ธรรมดาหนึ่งในห้าคนนั้นก็ได้”

จายเถิงจวั่นจู้ใจเต้น “ท่านอาจารย์ ความหมายของท่านคือ คนหวาเซี่ยเดาทางพวกเราออกว่าพวกเราจะลงมือกับผู้เข้าแข่งขันของพวกเขา ดังนั้นพวกเขาเลยให้จอมยุทธ์หั้วจิ้งแอบซ่อนตัวอยู่ในกลุ่มจอมยุทธรรมดาทั้งห้าคน ตอนที่พวกเรากำลังลงมือจะฆ่าพวกเขา ก็จะได้คอยช่วยชีวิตผู้เข้าแข่งขันได้?”

“มีความเป็นไปได้สูง” กงปุ่นป้านฉางกล่าว สิ่งที่จายเถิงจวั่นจู้พูดมาทั้งหมด ช่างเหมือนกับการคาดเดาของเขาไม่ผิดเพี้ยนไปเลย ในเวลานั้นเขามั่นใจได้ว่า คนที่ลงมือมาช่วยไม่ใช่พวกของก่วนหนานเทียน เพราะว่าร่างกายของพวกก่วนหนานเทียนไม่ได้ใช้พลังภายในเลยสักนิด

ไม่ใช่พวกก่วนหนานเทียน เช่นนั้นย่อมหมายความว่าเป็นจอมยุทธ์ธรรมดาที่อยู่ใกล้กับเวทีเป็นคนลงมือแล้ว

“งั้นพรุ่งนี้ตอนที่ศิษย์ขึ้นเวทีกับจางเทียนเซอ…” จายเถิงจวั่นจู้เกิดความกังวลใจเล็กน้อย ถ้าพรุ่งนี้เขาเกิดพลาดพลั้งกับจางเทียนเซอในเวลานั้น จอมยุทธ์หั้วจิ้งคนนั้นใช้พลังภายในให้เขาอีก เขาเกรงว่ามีความเป็นไปได้ที่จะพ่ายแพ้ให้จางเทียนเซอ เพราะการแข่งขันกับผู้มากด้วยฝีมือ ผลกระทบเพียงน้อยนิดก็สามารถทำให้ชนะได้

“เจ้าวางใจเถอะ พรุ่งนี้ข้าจะให้เปียนตู้คอยจับตามองพวกเขาเอาไว้ ถ้าจอมยุทธ์หั้วจิ้งของพวกเขากล้าลงมืออีกครั้ง งั้นข้าก็จะเอาเรื่องนี้แจ้งไปที่สหพันธ์วูซูนานาชาติ ให้ทางสหพันธ์วูซูนานาชาติช่วยจัดการตัดสินให้พวกเรา” กงปุ่นป้านฉางกล่าวด้วยถ้อยคำเคร่งขรึม ถึงแม้ว่าจะเป็นผู้รับผิดชอบในการเดิมพันประลองฝีมือในครั้งนี้ เป็นเจ้าหน้าที่ของหวาเซี่ยและญี่ปุ่นทั้งสองประเทศ แต่ว่าสหพันธ์วูซูนานาชาติ ก็คอยจับตามองการแข่งขันเดิมพันในครั้งนี้เช่นเดียวกัน

ถ้าจอมยุทธ์หวาเซี่ยมีการแอบทำผิดกฎ เช่นนั้นพวกเขาก็สามารถแจ้งรายละเอียดไปที่สหพันธ์วูซูนานาชาติ จนให้การเดิมพันประลองฝีมือในครั้งนี้ของทางสมาคมการค้าจงไห่ถูกตัดสินว่าพ่ายแพ้

สหพันธ์วูซูนานาชาติ เป็นสมาคมศิลปะป้องกันตัวที่มีโครงสร้างสูงที่สุดของโลกใบนี้ คำสั่งของพวกเขา ไม่ว่าจะเป็นสหพันธ์บูโดแห่งหวาเซี่ย ย่อมต้องปฏิบัติตาม

หลังจากที่ได้รับคำยืนยันจากกงปุ่นป้านฉางแล้ว จายเถิงจวั่นจู้ถึงได้ถอนหายใจผ่อนคลายลง

ชั่วพริบตาเดียว เวลาก็มาถึงวันที่สอง

เมื่อเทียบกับเมื่อวาน สภาพความรู้สึกของทุกคนในสมาคมการค้าจงไห่ในวันนี้เคร่งขรึมลงไปไม่น้อย

ขนาดคนที่มีชีวิตชีวาอย่างหวู่เหวินเชี่ยน วันนี้ก็พูดน้อยลงไปเยอะ

ท่ามกลางทุกคน มีเพียงหวังเฉียนเท่านั้น ที่สีหน้ายังไร้ความรู้สึกเช่นเดิม

การเดิมพันประลองฝีมือจะเริ่มขึ้นในเวลาเก้าโมง ทว่ากลุ่มของเฉินเฟิง แปดโมงกว่าก็มาถึงขอบเวทีแล้ว

เฉินเฟิงและพวกมาถึงบริเวณรอบๆ ขอบเวทีนั้น ในหอประชุมที่ห่างจากขอบเวทีไปร้อยเมตรนั้นก็มีเหล่าจอมยุทธ์มานั่งอยู่เต็มไปตั้งแต่แรกแล้ว

เพิ้งเย้นฟางกับหลี่สื้อผิงก็นั่งอยู่ในแถวด้วย ตำแหน่งของทั้งสองคนค่อนข้างอยู่ด้านหลัง อีกอย่างยังอยู่มุมห้องต้องแถวหลัง เป็นตำแหน่งที่คนไม่สามารถเห็นตำแหน่งตรงนั้นได้

เห็นได้ชัดว่าเผิงจื๋อหลินเป็นคนเข้ามาจัดการเรื่องนี้

“สื้อผิง ระยะนี้ป้าว่าป้าตาฝาดไปไหม? ทำไมเวลามองใครก็เหมือนไอ้ไร้ค่าคนนั้นไม่ซะหมด?” เวลานั้น เพิ้งเย้นฟางขยี้ตาไปด้วย เพราะมองไปที่ด้านล่างเวทีแต่ก็ไม่มั่นใจสักเท่าไหร่ เธอรู้สึกว่าตนเองเหมือนเห็นด้านหลังของเฉินเฟิง

“ป้า ป้าต้องตาฝาดแน่ สถานที่แห่งนี้มีแต่จอมยุทธ์ถึงเข้ามาได้ ไอ้ไร้ประโยชน์นั้นมันไม่สามารถมาปรากฏตัวที่นี่ได้” หลี่สื้อผิงเอ่ยอย่างมั่นใจ ถ้าเฉินเฟิงมาปรากฏกายบนเกาะมุ๋ยลายในที่แห่งใดก็ตามเขาก็ไม่ได้ดูถูก แต่ที่นี่ ตีเขาให้ตายยังไงก็ไม่เชื่อ

“ก็ใช่” เพิ้งเย้นฟางบ่นงึมงำ เลยคิดว่าตนเองต้องมองผิดคนไปแน่ๆ

เวลานั้นเอง หวางหงอี้กับหวางซือหยวนพ่อลูกก็เดินเข้ามา

สีหน้าของหวางซือหยวนก็ยังคงดูไม่ได้เช่นเดิม หลายวันมานี้เธอนอนไม่หลับทุกวัน ทุกครั้งที่ตนเองหลับตาลงก็จะเห็นภาพที่เฉินเฟิงมาทับอยู่บนตัวเธอ เธอก็รู้สึกขยะแขยงจนนอนไม่หลับทุกที

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน