ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 516

ตอนที่ 516

บทที่ 516 จายเถิงจวั่นจู้

“เดี๋ยวอีกพักทางจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าจงไห่กับจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะขึ้นเวทีพร้อมกัน ทางผู้ร่วมเข้าแข่งขันจะของทางสมาคมจงไห่จะเลือกหยิบฉลากสีขาว ผู้ลงแข่งของทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยจะหยิบสีดำ”

“หลังจากผู้เข้าร่วมแข่งขันได้หยิบฉลากแล้วทุกคน จะทำการเปิดออกในตอนนั้นทันที จากนั้นก็บอกเลขที่ตนเองจับฉลากได้”

“จับได้สีดำเลข1 และสีขาวเลข1ถือว่าเป็นคู่ต่อสู้กัน”

“จับได้สีดำเลข 2 จับได้สีขาวเลข 2เป็นคู่ต่อสู้กัน เป็นเช่นนี้ จนถึงทั้ง 10 เลข”

“อีกอย่าง ลำดับผู้เข้าลงแข่งของอีกฝั่ง ก็จับฉลากเช่นกัน สีดำเลข 1 คู่กับสีขาวเลข 1 ถ้าสีดำหมายเลข 1 แพ้ สีขาวหมายเลข 1 ชนะ งั้นสีดำหมายเลข 1 ลงจากเวทีไป”

“จากนั้น สีขาวหมายเลข 1ยังสามารถเลือกที่จะอยู่บนเวทีเพื่อจะสู้กับ สีดำหมายเลข 2 หรือจะเลือกลงจากเวทีก็ได้ เพื่อให้สีดำหมายเลข 2 กับสีขาวหมายเลข 2 ได้ทำการประลองฝีมือบนเวที”

“การประลองก็จะเป็นลักษณะเช่นนี้ จอมยุทธ์ที่สามารถอยู่บนเวทีได้คนสุดท้ายนั้นถือว่าเป็นคนชนะในการแข่งขันการเดิมพันประลองฝีมือในครั้งนี้”

“กฎเกณฑ์ก็เป็นเช่นนี้ ทุกคนเข้าใจไหม?”

เจ้าหน้าที่ของสหพันธ์บูโดถามย้ำอีกครั้ง

แต่คนที่อยู่บนเวทีต่างไม่มีปฏิกิริยาตอบโต้แต่อย่างใด

ความจริงแล้ว ก่อนที่จะขึ้นไปบนเวทีนั้น เฉินเฟิงและคนอื่นๆ ต่างรู้กฎกติกาของการจับฉลากในการแข่งครั้งนี้แล้ว

เจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดพูดย้ำอีกครั้งนั้น ความจริงแล้วคือการบอกให้คนที่อยู่ในเหตุการณ์ได้ยินแจ่มแจ้งกันอย่างทุกคน

การเดิมพันในครั้งนี้ นอกจากจอมยุทธ์ของทั้งสองสมาคมแล้ว ยังมีวงการศิลปะการต่อสู้ของจงไห่จำนวนไม่น้อยและคนมีชื่อเสียงอันโด่งดังของวงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นมาด้วย คนที่ไม่รู้เรื่องกฎเกณฑ์การเดิมพันในครั้งนี้ ทางสหพันธ์ต้องการให้พวกเขาต่างรับทราบให้หมด

“เช่นนั้นทุกคนต่างเข้าใจกันหมดแล้ว เช่นนั้นเรียนเชิญให้ทุกคนขึ้นเวทีขึ้นมาจับฉลากเถอะ”

เจ้าหน้าที่สหพันธ์มองมาทางทุกคน แล้วกล่าวขึ้น

เมื่อสิ้นเสียงของเขา ทางด้านจอมยุทธ์ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยก็เริ่มขยับตัวก่อน

เมื่อเอามาเทียบกับทางด้านสมาคมการค้าจงไห่นั้น วินัยของเหล่าจอมยุทธ์ทางฝั่งสมาคมการค้าเชียสุ่ยเห็นได้ชัดว่าเข้มงวดอยู่ไม่น้อย

ในเวลาเดียว อายุของพวกเขาค่อนข้างสูงวัยนิดหน่อย โดยรวมอายุอยู่ที่เกือบจะสามสิบปีเห็นจะได้ อายุมากกว่าจอมยุทธ์ทางฝั่งสมาคมการค้าจงไห่อยู่สามสีปี

“ไปกันเถอะ”

จางเทียนเซอมองคนอื่นๆ ที่อยู่ด้านหลังเขา จากนั้นก็ลุกขึ้นยืน

เมื่อขึ้นไปบนเวทีแล้ว ทุกคนต่างต่อแถวเพื่อทำการจับฉลาก

ไม่ถึงสิบนาที ลูกบอลฉลากทั้งยี่สิบลูกก็ถูกหยิบไปทั้งหมด

ในมือของเฉินเฟิงก็มีลูกบอลฉลากสีขาวที่ให้ความรู้สึกสว่างไสวอยู่ในมือ

หลังจากที่เปิดออกมาแล้ว ด้านในมีตัวเลข 8 เขียนเอาไว้

หมายเลข 8 เป็นตัวเลขที่เฉินเฟิงจับฉลากได้ นั่นย่อมหมายความว่า เฉินเฟิงจะขึ้นเวทีเป็นคนที่8 ในการเป็นผู้เข้าแข่งขัน

เฉินเฟิงมองไปทางจอมยุทธ์คนอื่นๆ ของสมาคมการค้าจงไห่ พลันเห็นว่าบนหน้าของเหล่าจอมยุทธ์หลายคนไม่แสดงความรู้สึกใดๆ ออกมาเลย นอกจากหูฉี่ซิงคนเดียว

สีหน้าของหูฉี่ซิงดูย่ำแย่จนดูไม่ได้ เพราะว่าเขาจับฉลากได้หมายเลข 1

ย่อมหมายถึง เขาจะเป็นคนแรกในการขึ้นเวที

“เอาล่ะ ทุกคนเอาลูกบอลฉลากของตนเองเอามาคืนเถอะ” เจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดมองไปที่ทุกคน

จากนั้น จอมยุทธ์ทางฝั่งสมาคมการค้าเชียสุ่ยก็เริ่มเอาลูกบอลฉลากมาคืน

เวลานั้นเอง หูฉี่ซิง ทำตาพริ้มพรายเดินไปหาจางเทียนเซอทางด้านข้าง แล้วเอ่ยถามเสียงกระซิบ “ศิษย์พี่จาง พี่จับฉลากได้หมายเลขอะไร?”

“เลข 3” จางเทียนเซอพูดแล้วก็หันไปหาหูฉี่ซิง “ทำไม?”

“ศิษย์พี่จาง ฉันจับได้หมายเลข1” หูฉี่ซิงตอบด้วยสีหน้าลำบากใจ

“เลข 1?” จางเทียนเซอขมวดคิ้วให้ หมายเลข 1 เป็นตัวเลขแรก แต่ความสามารถของหูฉี่ซิง เป็นคนที่ความสามารถอ่อนแอที่สุดของสมาคมการค้าเชียสุ่ย ถ้าเข้าขึ้นเวที เกรงว่าจะทำให้ทางสมาคมการค้าเชียสุ่ยแพ้ราบคาบเป็นคนแรก

ถ้าหูฉี่ซิงแพ้ ความเชื่อมั่นของทางสมาคมการค้าจงไห่จะส่งผลกระทบเป็นอย่างมาก

“ศิษย์พี่จาง สามารถที่จะ….” หูฉี่ซิงอดไม่ได้ที่จะมองจางเทียนเซออยู่สักครู่ เพื่อที่ต้องการจะส่งแผนในการสลับหมายเลขกับจางเทียนเซอ เวลานั้นเอง ทางด้านสหพันธ์ก็พาจอมยุทธ์ของญี่ปุ่นเดินเข้ามาหา จอมยุทธ์ญี่ปุ่นคนนั้นเป็นผู้ตรวจสอบของสมาคมการค้าเชียสุ่ย

“รบกวนสองท่านด้วย เอาลูกบอลฉลากส่งคืน” เจ้าหน้าที่สหพันธ์ยิ้มและมองมาที่จางเทียนเซอและหูฉี่ซิง

“ได้”

จางเทียนเซอพยักหน้ารีบอย่างไร้ความรู้สึก จากนั้นก็เอาลูกบอลฉลากใส่ลงไปในถาดไม้

ทางด้านเจ้าหน้าที่สหพันธ์กล่าวย้ำ “ศิษย์พี่จางหมายเลข 3 เดี๋ยวรอการแข่งขันรอบสามเกิดขึ้น รบกวนศิษย์พี่จางจำหมายเลขไว้ด้วย”

พูดไป ก็เบนสายตามาทางหูฉี่ซิง

ถึงแม้ว่าจะไม่ยอมรับก็ตาม แต่ต่อหน้าทุกคน หูฉี่ซิงย่อมไม่กล้าเล่นตุกติก

เขาจัดการเอาลูกบอลฉลากวางลงบนถาดไม้อย่างเชื่อฟัง

เมื่อเห็นหมายเลขของหูฉี่ซิง แววตาของทางด้านเจ้าหน้าที่สหพันธ์ก็แปลกใจ “ศิษย์พี่หูได้หมายเลข 1 ..”

“หมายเลข 1 ของสมาคมการค้าเชียสุ่ยคือใคร?” หูฉี่ซิงพยายามกระซิบถาม เขาอยากรู้ ว่าคู่ต่อสู้ของเขาคือใคร

“จายเถิงจวั่นจู้…” ทางเจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดมองมาทางหูฉี่ซิงอย่างเห็นใจอยู่แวบหนึ่ง

จายเถิงจวั่นจู้ เป็นผู้สมัครลงแข่งที่อยู่ในขั้นเก่งกาจระดับสูงมากสมาคมการค้าเชียสุ่ย เมื่อเอามาเทียบตำแหน่งในสมาคมการค้าเชียสุ่ย ตำแหน่งก็ไม่แตกต่างไปจากจางเทียนเซอที่อยู่ในสมาคมการค้าจงไห่

เมื่อได้ยินชื่อจายเถิงจวั่นจู้ชื่อนี้ สีหน้าของหูฉี่ซิงซีดเผือดลงไปถนัดตา ทำไมถึงเป็นคนนี้?

“ศิษย์พี่หูเตรียมตัวเตรียมใจไว้ก่อนเถอะ” เจ้าหน้าที่สหพันธ์บูโดถอนหายใจ เขาก็มองหูฉี่ซิงในแง่ลบ ความสามารถของจายเถิงจวั่นจู้ เมื่อเอามาเทียบกับจางเทียนเซอก็ไม่ต่างกันมากนัก

หูฉี่ซิงชนะจางเทียนเซอมาแล้วกี่ครั้ง งั้นเขาต่อสู้กับจายเถิงจวั่นจู้ ก็คือเท่านั้นเอง

ส่วนเรื่องเปลี่ยนหมายเลขนั้น….

เขาแค่พูดได้ว่า หูฉี่ซิงโคตรปัญญาอ่อนเลย

ทางฝั่งญี่ปุ่นมีหั้วจิ้งตัวพ่อทั้งสามคนอยู่ด้วย พวกเขาต่างจับตามองทางนี้อยู่ตลอดเวลา ถ้าพวกเขาเห็นว่าหูฉี่ซิงแอบเปลี่ยนหมายเลข เช่นนั้นหูฉี่ซิงกับจางเทียนเซอ คงหมดสิทธิ์ในการแข่งขันในทันที

หลังจากทำงานเก็บฉลากลูกบอลหมดแล้ว จอมยุทธ์ของทั้งสองสมาคมต่างลงจากเวที

เจ้าหน้าที่ที่เพิ่งเข้ามาเก็บลูกบอลฉลากก่อนหน้านี้เริ่มขึ้นไปบนเวทีอีกครั้ง พร้อมทั้งพูดอย่างชัดถ้อยชัดคำ “การจัดเรียงลำดับขึ้นเวทีและหมายเลขฉลากของทุกท่าน อีกสักครู่ผมจะมาติดประกาศให้ทราบ”

“อีกอย่าง การเดิมพันในการประลองฝีมือจะเริ่มขึ้นเวลาบ่ายสองโมง รบกวนทุกท่านขึ้นเวทีตรงเวลาด้วย”

บ่ายสองเหรอ?

เมื่อเจ้าหน้าที่สหพันธ์พูดจบแล้ว คนที่อยู่ด้านล่างเวทีต่างพูดคุยขึ้นมา

“บ่ายสอง? ทั้งหมดมีสิบคู่ บ่ายสองเพิ่งลงแข่งวันนี้ทั้งวันจะแข่งจบไหม?”

“ใครบอกล่ะว่าวันนี้จะแข่งเสร็จกัน? การเดิมพันในครั้งนี้ต้องใช้เวลาในการแข่งทั้งหมดสามวัน วันนี้ทำการแข่งเพียงสองคู่ พรุ่งนี้กับมะรืนนี้แข่งขันวันละ4คู่”

“ทำไมต้องแยกแข่งเป็นสามวันล่ะ? จัดการแข่งให้มันเสร็จสิ้นไปวันเดียวไม่ได้เหรอ?”

“วันเดียว? แกคิดว่าการเดิมพันประลองฝีมือนั้นมันง่ายดายเหมือนแสดงให้เด็กดูหรือไง? วันหนึ่งถึงจะแข่งเสร็จ”

เขาไม่ได้สนใจที่ผู้ชมกำลังพูดคุยกันอยู่ เฉินเฟิงเดินตามผู้ชมของทางสมาคมจงไห่ กลับไปที่เขตชุมชนวิลล่า

ในห้องโถงของวิลล่า

จอมยุทธ์ที่เข้าร่วมการประลองฝีมือในครั้งทั้งหมดสิบคนก็มากันครบ

นอกจากใบหน้าของหูฉี่ซิงที่ดูลำบากใจเอามาก ส่วนคนอื่นๆ สีหน้ายังคงเป็นปกติ

หลายนาทีผ่านไป ฉู่ยี่เฟยกับวังโฉงหยางก็เดินเข้ามา

“ลำดับการขึ้นเวทีและหมายเลขในการจับฉลากของทุกคนก็ออกมาแล้ว” ฉู่ยี่เฟยยิ้มให้พร้อมยกกระดาษสีแดง บนกระดาษสีแดงมีชื่อของตนเองและคู่ต่อสู้เขียนกำกับเอาไว้

“การเดิมพันในวันนี้ ผู้โชคดีที่ขึ้นเวทีท่านแรก เขาต้องต่อสู้กับจายเถิงจวั่นจู้”

จากนั้นก็เอากระดาษสีแดงยื่นด้านหน้าและด้านหลังให้ทุกคนดู ฉู่ยี่เฟยเบนสายตามาทางหูฉี่ซิง

“พี่ฉู่ สามารถเอาเลขฉลากของฉันกับศิษย์พี่จางเปลี่ยนกันได้ไหม? ฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจายเถิงจวั่นจู้ ถ้าเป็นศิษย์พี่จางแล้วละก็…เขาขึ้นเวที มี8ถึง9ใน10เปอร์เซ็นต์ที่เขาสามารถชนะจายเถิงจวั่นจู้ได้อย่างดี” เมื่อเห็นว่าทุกคนมองมาทางตนเอง ใบหน้าของหูฉี่ซิงก็ฉีกยิ้มให้ จากนั้นสีหน้าก็ค่อยๆ ยิ้ม

เรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว ไม่สนใจที่จะไม่รักษาภาพพจน์เอาไว้ เขามั่นใจว่าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจายเถิงจวั่นจู้ มีความเป็นไปได้มากว่า เขาลงมือประลองยุทธ์กับจายเถิงจวั่นจู้แค่สิบท่าก็เอาไม่อยู่แล้ว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท