ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 543

ตอนที่ 543

บทที่ 543 จี๋เต้าเจินเจี่ย

“สะดวกสิ มีอะไรไม่สะดวกกันละ” ฉู่ยี่เฟยหัวเราะ แล้วพูด:“ต่อให้นายไม่ถาม ฉันก็คิดจะบอกนายเหมือนกัน”

“สมบัติล้ำค่าทั้งสองอย่างนี้ คือเจินเจี่ยสองเล่ม”

“เจินเจี่ย?” เฉินเฟิงชะงัก ทำไมฟังดูแล้วเหมือนมีพลังบางอย่าง

“ถูกต้อง เจินเจี่ย”

“ซึ่งชื่อเต็มก็คือจี๋เต้าเจินเจี่ย” ฉู่ยี่เฟยพูด

“จี๋เต้าเจินเจี่ย?!” ม่านตาของเฉินเฟิงหดเล็ก ถ้าเป็นจริงอย่างที่เขาคิดเอาไว้ มูลค่าของจี๋เต้าเจินเจี่ย สูงกว่าเงินสองแสนล้านหยวนไม่น้อย

ถึงขั้นกล่าวได้ว่าเป็นสมบัติล้ำค่าที่ไม่สามารถประเมินมูลค่าได้

“เสี่ยวเฟิง เมื่อก่อนนายเคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับจี๋เต้าเจินเจี่ยมาก่อนใช่หรือไม่?” ฉู่ยี่เฟยถาม ฟังจากน้ำเสียงตกใจของเฉินเฟิง เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่ครั้งแรกที่ได้ยินชื่อจี๋เต้าเจินเจี่ยชื่อนี้เป็นครั้งแรก

“เคยได้ยินครับ” เฉินเฟิงพยักหน้า ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินเซียวกั่วจงพูดถึงจี๋เต้าเจินเจี่ยมาก่อน

จี๋เต้าเจินเจี่ย คำว่าจี๋ในที่นี้ หมายถึงสูงสุด

เต้า สื่อถึงบูโด

จี๋เต้ารวมกัน หมายถึงบูโดสูงสุด

สำหรับคำว่าเจินเจี่ย สามารถเข้าใจว่าเป็นพลัง หรือไม่ก็คือความรู้สึก

ความรู้สึกความเข้าใจที่มีต่อบูโดทองแท้ นี่ก็คือจี๋เต้าเจินเจี่ย!

ทุกวันนี้บนโลกใบนี้ สามารถเขียนบูโดทองแท้ มีแค่คนประเภทเดียว ซึ่งก็คือมหาปรมาจารย์แห่งบูโด!

อย่างไม่ต้องสงสัย จี๋เต้าเจินเจี่ยในมือของฉู่ยี่เฟย เป็นสิ่งที่มหาปรมาจารย์แห่งบูโดท่านหนึ่งเหลือทิ้งเอาไว้

ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงยังไม่เข้าใจ ว่ามันเป็นของอะไรกันแน่ ที่มีมูลค่ามากกว่าเงินสองแสนล้านหยวน

ตอนนี้เฉินเฟิงเข้าใจแล้ว คือจี๋เต้าเจินเจี่ย!

คือจี๋เต้าเจินเจี่ยที่สามารถทำให้บรรลุเป็นมหาปรมาจารย์แห่งบูโด!

ถ้าหากปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ระดับหั้วจิ้งชั้นสูงสุดได้จี๋เต้าเจินเจี่ยไปหนึ่งบท เขาก็จะมีแนวโน้มที่จะขึ้นระดับไปเป็นมหาปรมาจารย์แห่งบูโด มีมากกว่าเดิมอย่างน้อยห้าเท่า!

พูดได้อย่างไม่โอเวอร์ จี๋เต้าเจินเจี่ยหนึ่งบท สามารถสร้างมหาปรมาจารย์แห่งบูโดขึ้นมาหนึ่งคน!

ไม่แปลกที่สมาคมการค้าเชียสุ่ยและสมาคมการค้าจงไห่บ้าคลั่งขนาดนี้ ถึงขั้นต้องการเอาชนะเดิมพันโดยยอมทุ่มสุดตัว

เพราะจี๋เต้าเจินเจี่ยบทนี้ เป็นสิ่งที่สำคัญมาก

ถ้าฝ่ายนั้นสามารถได้จี๋เต้าเจินเจี่ยไปครอบครัว ฝ่ายนั้นก็จะมีมหาปรมาจารย์แห่งบูโดเพิ่มขึ้นมาหนึ่งคน!

สิ่งนี้เพียงพอที่จะส่งผลกระทบต่อวงการศิลปะการต่อสู้ของโลก!

“ในเมื่อนายเคยได้ยินเกี่ยวกับจี๋เต้าเจินเจี่ยมาก่อน ถ้าอย่างนั้นนายน่าจะรู้ว่าจี๋เต้าเจินเจี่ยสำคัญแค่ไหน”

“พูดตามตรงอย่างไม่ปิดบังนะ จี๋เต้าเจินเจี่ยบทนี้ที่อยู่ในมือของฉัน เป็นสิ่งที่มหาปรมาจารย์หลินเหลือทิ้งเอาไว้” ฉู่ยี่เฟยพูดเสียงเคร่งขรึม

“มหาปรมาจารย์หลิน?” เฉินเฟิงชะงัก มีกฎอย่างไม่เป็นทางการของวงการศิลปะการต่อสู้ในหวาเซี่ย ซึ่งก็คือห้ามเรียกชื่อปรมาจารย์

แต่จากนามสกุลที่ฉู่ยี่เฟยพูดมานั้น เฉินเฟิงสามารถวิเคราะห์ได้ว่า มหาปรมาจารย์หลินที่ฉู่ยี่เฟยพูดถึงคือใคร

หลินชิงตี้!

มหาปรมาจารย์แห่งบูโดเพียงคนเดียวของเมืองจงไห่!

แต่ว่าเฉินเฟิงไม่ได้ยินชื่อของหลินชิงตี้มานานกว่ายี่สิบปีแล้ว คิดไม่ถึง วันนี้ฉู่ยี่เฟยจะพูดขึ้นมา

“อืม จากคำเล่าลือ บอกว่าจี๋เต้าเจินเจี่ยนี้เป็นของมหาปรมารจารย์หลินที่เหลือทิ้งเอาไว้เมื่อสิบแปดก่อน”

“หลังจากทิ้งจี๋เต้าเจินเจี่ยเอาไว้แล้วนั้น ก็ถูกลูกศิษย์ในสำนักแย่งชิง สุดท้าย จี๋เต้าเจินเจี่ยจึงถูกแบ่งเป็นสองส่วน ส่วนหนึ่งอยู่ในมือของสมาคมการค้าจงไห่ ส่วนอีกส่วนอยู่ในมือของสมาคมการค้าเชียสุ่ย”

ฉู่ยี่เฟยเล่าเรื่องในอดีตของจี๋เต้าเจินเจี่ยออกมาด้วยเสียงเคร่งขรึม

ภายในใจของเฉินเฟิงรู้สึกเย็นวูบขึ้นมา เขาคิดไม่ถึงว่า จี๋เต้าเจินเจี่ยจะมีประวัติแบบนี้ด้วย

“พี่ใหญ่ฉู่ ตอนนี้พวกพี่คิดจะทำยังไงกับจี๋เต้าเจินเจี่ยบทนี้?” เฉินเฟิงเอ่ยถาม จี๋เต้าเจินเจี่ยมีแค่หนึ่งบท แต่ในสมาคมการค้าจงไห่ กลับมีอยู่ถึงสี่ตระกูลใหญ่

ตระกูฉู่ ตระกูลวัง ตระกูลฉินและตระกูลส้ง

ไม่ว่าตระกูลไหนจะเป็นฝ่ายได้จี๋เต้าเจินเจี่ยไป อีกสามตระกูลย่อมไม่พอใจอย่างแน่นอน

เพราะตระกูลที่ได้จี๋เต้าเจินเจี่ยไปครอบครองนั้น มีความเป็นไปได้ที่จะใช้จี๋เต้าเจินเจี่ยในการสร้างมหาปรมาจารย์แห่งบูโดออกมาหนึ่งคน

มหาปรมาจารย์แห่งบูโดหนึ่งคน สามารถทำลายสถานะของเมืองจงไห่ในตอนนี้

เมื่อสิบแปดปีก่อน ตอนที่หลินชิงตี้อยู่ในเมืองจงไห่ ทั่วทั้งเมืองจงไห่ต่างเคารพนับถือหลินชิงตี้

เวลานั้น เมืองจงไห่มีแค่เสียงเดียวเท่านั้น ซึ่งก็คือเสียงของหลินชิงตี้

วันนี้ หากตระกูลใดตระกูลหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ได้จี๋เต้าเจินเจี่ยไปครอบครอง เช่นนั้นอนาคตของเมืองจงไห่ ตระกูลนั้นพูดสิ่งใดต้องเป็นสิ่งนั้น

“ตอนนี้ยังคิดไม่ออก ถึงแม้พวกเราจะได้จี๋เต้าเจินเจี่ยมาครอบครองแล้ว แต่พวกเรายังไม่เจอทายาทของมหาปรมาจารย์หลิน จี๋เต้าเจินเจี่ย มีแค่ทายาทของมหาปรมาจารย์หลินเท่านั้นที่จะสามารถเปิดได้” ฉู่ยี่เฟยพูด

ถึงแม้จี๋เต้าเจินเจี่ยจะเป็นพลังเล่มหนึ่ง แต่มันกลับแตกต่างจากพลังทั่วไป

พลังทั่วไป แค่เขียนบันทึกลงในหนังสือ ทุกคนก็สามารถถ่ายทอดได้

แต่จี๋เต้าเจินเจี่ย เป็นหนังสือที่มหาปรมาจารย์ใช้จิตและพลังในการเขียน มหาปรมาจารย์แห่งบูโดทุกคน ชีวิตนี้ทั้งชีวิต เขียนจี๋เต้าเจินเจี่ยได้เพียงแค่บทเดียวเท่านั้น

จี๋เต้าเจินเจี่ยทุกเล่ม มีการเปิดที่แตกต่างกัน

วิธีการเปิดจี๋เต้าเจินเจี่ยที่หลินชิงตี้เหลือทิ้งเอาไว้นั้น ซ่อนอยู่ในตัวทายาทของเขา

ต้องหาทายาทของเขาเจอเท่านั้น จึงจะสามารถหาวิธีเปิดจี๋เต้าเจินเจี่ยได้

อีกทั้ง แม้ว่าจะเปิดจี๋เต้าเจินเจี่ยได้ ก็มีแค่คนๆเดียวเท่านั้นที่จะสามารถตระหนักรู้ได้

นี่คือเหตุผลที่ก่อนหน้านี้เฉินเฟิงถามว่าควรจะจัดการกับจี๋เต้าเจินเจี่ยอย่างไร

จี๋เต้าเจินเจี่ย สามารถสร้างมหาปรมาจารย์ได้แค่คนเดียว

แต่ภายในของสมาคมการค้าจงไห่ กลับมีสี่ตระกูลใหญ่ที่ไม่ถูกกัน

“ทายาทของมหาปรมาจารย์หลิน?”

เฉินเฟิงขมวดคิ้วเป็นปม ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ตอนที่ฉู่ยี่เฟยพูดคำนี้ออกมา สมองของเขากลับมีหน้าตาของหลินหวั่นชีวแล่นออกมา

หลินหวั่นชีว คงไม่ใช่ลูกสาวของหลินชิงตี้หรอกมั้ง?

เฉินเฟิงอดไม่ได้ที่จะตกใจกับความคิดของตนเอง

ที่เขาสงสัยแบบนี้ ใช่ว่าไม่มีหลักฐาน

ก่อนหน้านี้ตอนที่ลูกศิษย์ของนักบุญมีดบุกเข้ามาฆ่าเขา หลินหวั่นชีวเข้ามารับการถูกทำร้ายแทนเขา ตอนนั้น ร่างกายของหลินหวั่นชีวแผ่ซ่านไปด้วยพลังระดับมหาปรมาจารย์

พลังนั้น ช่วยชีวิตหลินหวั่นชีวเอาไว้

ตอนนี้คิดดูแล้ว พลังที่อยู่ในตัวของหลินหวั่นชีว มีโอกาสเป็นไปได้ว่าจะเป็นพลังที่หลินชิงตี้เหลือเอาไว้ เพราะถึงอย่างไรมหาปรมาจารย์ในแดนหวาเซี่ยมีไม่มาก มีแค่เก้าคนเท่านั้น อีกทั้งประจวบเหมาะที่หลินหวั่นชีวเองก็นามสกุลหลิน

ถึงแม้เธอจะไม่ใช่ทายาทของหลินชิงตี้ แต่เกรงว่าเธอน่าจะมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับหลินชิงตี้

ความคิดต่างๆแล่นเข้ามาในสมองของเฉินเฟิง แต่เฉินเฟิงไม่ได้พูดออกไป

เรื่องแบบนี้พูดไม่ได้

หลินหวั่นชีวในตอนนี้ เป็นแค่คนธรรมดา

ถ้าเธอคือกุญแจสำคัญในการเปิดจี๋เต้าเจินเจี่ยจริงๆ เช่นนั้นเธอก็จะกลายเป็นหมากตัวสำคัญที่ทั้งสี่ตระกูลต้องแย่งชิง เธอจะเข้ามาเกี่ยวข้องกับอันตรายในทันที

หากไม่ทันได้ระวังตัว ก็จะแตกสลายกลายเป็นผุยผง

ดังนั้น ถึงแม้เขาจะสนิทกับฉู่ยี่เฟย เขาก็ไม่สามารถพูดเรื่องนี้ออกไปได้

สันดานคน ไม่สามารถทดสอบได้

โดยเฉพาะเรื่องนี้เกี่ยวข้องกับการบรรลุเป็นมหาปรมาจารย์ ไม่ว่าใครก็พากันบ้าคลั่ง

หลังจากวางสายจากฉู่ยี่เฟย เฉินเฟิงหนักใจขึ้นมาเล็กน้อย

เรื่องมาถึงวันนี้ เขาพอจะมั่นใจได้แล้ว หลินหวั่นชีวกับหลินชิงตี้ต้องมีอะไรเกี่ยวข้องกันแน่ๆ

ถึงแม้ก่อนหน้านี้หลินหวั่นชีวจะอยู่ที่เมืองชางโจวมาโดยตลอด ไม่เคยมาที่เมืองจงไห่

แต่มีความเป็นไปได้สูงว่าหลินชิงตี้เคยไปเมืองชางโจวมาก่อน

การที่เขากับแม่หลินมีลูกด้วยกันแล้วคลอดหลินหวั่นชีวออกมาไม่ใช่เรื่องยาก

หลังจากสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เฉินเฟิงตัดสินใจโทรหาหลินหวั่นชีว เพื่อถามถึงสถานการณ์ต่างๆ

ทว่ากลับคิดไม่ถึง เพิ่งหยิบโทรศัพท์ออกมา ก็มีคนโทรเข้ามา

คนที่โทรเข้ามาคือเฉินจื๋อหลี่!

ม่านตาของเฉินเฟิงหดเล็ก ทำไมเฉินจื๋อหลี่ถึงโทรมาตอนนี้?

หรือว่าเกิดเรื่องขึ้นกับหลินหวั่นชีว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท