ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 545

ตอนที่ 545

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 545 ทยอยเกิดทีละคน

แต่ว่า เจ้าสำนักของสำนักคุนหลุนในยุคสมัยนั้น โจวโพ่เทียน เคยเป็นหนึ่งในคนที่มีชื่อเสียงของวงการศิลปะการต่อสู้ในหวาเซี่ย เขาคือจอมยุทธ์ที่บรรลุระดับหั้วจิ้งเร็วที่สุดในวงการศิลปะการต่อสู้ของหวาเซี่ย

ปีที่อายุสามสิบสามปี โจวโพ่เทียนขึ้นไปอยู่ในระดับหั้วจิ้ง

ปีนี้โจวโพ่เทียน อายุห้าสิบแปดปีแล้ว

ในอายุเท่านั้น สำหรับจอมยุทธ์ เรียกได้ว่าเป็นปีทอง

แดนของโจวโพ่เทียนก็บรรลุจากระดับหั้วจิ้งชั้นต้น ไปยังหั้วจิ้งชั้นสุด!

ความเร็วในการบรรลุของเขาเร็วจนน่ากลัว

แม้ว่าหลายปีที่ผ่านมานี้ชื่อเสียงของสำนักคุนหลุนจะหายไปบ้าง แต่ยังคงไม่มีใครกล้าดูถูกสำนักคุนหลุน

เช้าตรู่ ดวงอาทิตย์ขึ้น แสงยามเช้าพาดผ่านท้องฟ้าทางทิศตะวันออกไปยังทางทิศตะวันตก แสงแดดยามเช้าสาดส่องไปยังหิมะบนเทือกเขา ราวกับมีทองคำแผ่นบางปกคลุมเทือกเขาหิมะเอาไว้ สวยงามมาก

ตรงกลางเทือกเขาหิมะ บ้านไม้ส่วนหนึ่งถูกสร้างขึ้นที่นั่น ซ่อนตัวอยู่กลางป่า แทบจะถูกต้นไม้บดบังจนหมด แม้จะมองจากที่สูงก็ยากจะเห็น

ที่นี่คือที่ตั้งของสำนักคุนหลุน มีอายุมานานกว่าพันปี ราวกับเป็นสวรรค์บนดิน ไร้ซึ่งความชิงดีชิงเด่นกับโลก

บนยอดเขาที่ห่างจากสำนักคุนหลุนประมาณสิบกิโลเมตร ชายผมยาวผู้นั้น สวมเสื้อคลุมสีขาวตัวยาว นั่งอยู่บนก้อนหิน

ชายหนุ่มหลับตาทั้งสองข้าง หันมองแสงแดดยามเช้าบนท้องฟ้าแล้วพ่นลมออกมา หน้าอกของเขาราวกับคางคงกำลังหายใจ เดี๋ยวพองตัว เดี๋ยวเหี่ยวแห้ง น่าแปลกพิลึก

กระบี่ล้ำค่าสีขาววางอยู่ข้างกายชายหนุ่ม กระบี่เป็นสีขาวโพลน คล้ายกับคริสตัล ด้ามจับมีตัวอักษรสลักเอาไว้ว่าชิงหลง

กระบี่ชิงหลง กระบี่ล้ำค่าของสำนักคุนหลุน

เมื่อหนึ่งพันปีก่อน กระบี่เล่มนี้ไม่ได้ชื่อนี้ ทว่าในตอนหลังหักไปหนึ่งครั้ง ทำการหลอมขึ้นใหม่ หลังจากซ่อมแซมแล้วนั้นได้เปลี่ยนชื่อเป็นกระบี่ชิงหลง

เวลานี้ กระบี่ล้ำค่าวางไว้ข้างกายชายหนุ่ม สามารถยืนยันได้ถึงตัวตนและตำแหน่งของชายหนุ่มในสำนักคุนหลุน

เขานามสกุลโจวชื่อห้าว เป็นทายาทในตอนนี้ของสำนักคุนหลุน และเป็นลูกศิษย์เพียงคนเดียวของโจวโพ่เทียน

“ฟ่อ……ฟ่อ…….”

ขณะที่โจวห้าวกำลังหลับตาแล้วพ่นลมออกมานั้น รอบๆมีเสียงดังขึ้นเบาๆ เป็นเสียงของสัตว์ที่กำลังเดินอยู่บนพื้นหิมะ

จากนั้น——ราวกับโจวห้าวไม่ได้ยิน ราวกับเป็นพระภิกษุกำลังนั่งฌาน ไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย

อย่างช้าๆ เสียงนั้นค่อยๆดังขึ้น หมาป่าสีเทานับสิบตัวปรากฏตัวออกมาทั่วทุกสารทิศ ล้อมรอบโจวห้าวเอาไว้

หมาป่าสีเทา เป็นสัตว์ที่ดุร้าย อยู่รวมตัวกันเป็นกลุ่ม เป็นสัตว์สำคัญในห่วงโซ่อาหารของธรรมชาติ แทบจะอยู่ทั่วทุกพื้นที่ของโลก

โดยทั่วไปนั้น หมาป่าหนึ่งตัวไม่สามารถสร้างอันตรายให้กับสัตว์อื่นได้เท่าไหร่ แม้แต่มนุษย์ก็ยังไม่กลัว แต่หากพวกมันรวมตัวกันเป็นกลุ่ม แม้แต่ราชาเสือในป่าก็ยังต้องถอยหนี!

เวลานี้ หมาป่าสีเทานับสิบตัวอยู่ทั่วทุกสารทิศของโจวห้าว สายตาของพวกมันกระหายเลือด

“บรู้ว~”

จู่ๆก็มีเสียงหมาป่าหอนดังขึ้น หมาป่าที่เป็นจ่าฝูงส่งเสียงหอน ออกคำสั่งจอมตี

เฟี้ยวเฟี้ยวเฟี้ย……

หลังจากเสียงหอนออกคำสั่งของหมาป่าที่เป็นจ่าฝูงแล้วนั้น หมาป่านับสิบตัวก็พุ่งเข้าหาโจวห้างราวกับเป็นน้ำ พวกมันเริ่มโจมตี!

ในเวลานี้เอง……โจวห้าวลืมตาขึ้นมา แววตาของเขาฉายแสง รังสีอาฆาตเย็นยะเยือกแผ่ซ่านออกมาจากตัวของเขา ร่างกายของเขาเป็นจุดศูนย์กลาง แผ่ซ่านไปรอบๆ

เขาได้ยินเสียงวิ่งของฝูงหมาป่า และได้เห็นหมาป่ากระหายเลือด

แต่เขาไม่ได้ชักกระบี่ออกมา เพียงแค่ค่อยๆยืนขึ้นเท่านั้น

จากการลุกขึ้นของเขา ร่างกายของเขามีรังสีอาฆาตแผ่ซ่านออกมา ตัวของเขาราวกับเป็นกระบี่ล้ำค่าที่สุดของโลก คมจนไม่มีสิ่งใดมาเทียบได้

วินาทีถัดมา หมาป่าแทบจะทุกตัวที่เข้าใกล้โจวห้าว ต่างตกตะลึงกับรังสีอาฆาตที่แผ่ซ่านออกมาของโจวห้าว

พวกมันหยุดฝีเท้าพร้อมกันโดยไม่ได้นัดไม้ กรงเล็บขูดบนพื้น มองดูโจวห้าวด้วยความระมัดระวัง

พวกมันที่ผ่านการล่ามานานหลายปี รู้สึกได้ถึงความอันตรายจากตัวของโจวห้าว ความอันตรายนี้ เพียงพอที่จะทำให้จิตวิญญาณของพวกมันสั่นเทา

ดังนั้น แม้ว่าหมาป่าที่เป็นเจ้าฝูงจะสั่งให้จอมตี พวกมันก็ไม่กล้าโจมตี

ตามด้วย ท่ามกลางการจดจ้องของฝูงหมาป่า โจวห้าวชักกระบี่ชิงหลงออกมา เขาก้าวเท้ามุ่งหน้าลงหุบเขาด้วยความใจเย็น ท่าทีสบายใจนั้นราวกับไม่ได้ถูกฝูงหมาป่าล้อมโจมตี แต่เป็นภาพที่กำลังชื่นชมวิวของภูเขา

“บรู๊ววว!”

เมื่อเห็นภาพนี้ ฝูงหมาป่าเห่าหอนด้วยความรู้สึกหวาดกลัว ไม่เพียงแต่ไม่กล้าโจมตีโจวห้าว ในทางกลับกันพวกมันกลับถอยหนีอย่างควบคุมไม่ได้

“บรู๊ว!”

จู่ๆ เสียงของหมาป่าจ่าฝูงเห่าหอน หมาป่านับสิบตัวหันหลังแล้ววิ่งทันที วิ่งไปไกลห่าง

คนหนึ่งคน ดาบหนึ่งเล่ม

เขายังไม่ทันได้ชักดาบ ก็ทำให้ฝูงหมาป่าตกใจจนถอยหนี

นี่คือชีวิตประจำวันของโจวห้าวทายาทคนปัจจุบันของสำนักคุนหลุน

หลังจากนั้นหนึ่งชั่วโมง โจวห้าวกลับไปยังสำนักคุนหลุน

โจวโพ่เทียนเรียกโจวห้าวไปที่ห้องของตน

“เสี่ยวห้าว คู่ต่อสู้ของนายปรากฏตัวแล้ว” โจวโพ่เทียนพูดเข้าประเด็นทันที

“คู่ต่อสู้?” โจวห้าวทวนคำถาม ดวงตาของเขาเปล่งประกายขึ้นมาทันที เขาอยู่บนเทือกเขาคุนหลุนมานับยี่สิบปี นี่เป็นครั้งแรกที่ได้ยินอาจารย์พูดคำว่าคู่ต่อสู้สองคำนี้

คนที่สามารถเป็นคู่ต่อสู้ของโจวห้าวนั้น ต้องไม่อ่อนแอไปถึงไหนแน่นอน

“อื้ม คู่ปรับ”

“เขาเป็นชายหนุ่มที่เก่งกาจมาก สถิติของอาจารย์ในระดับหั้วจิ้ง มีความเป็นไปได้ว่าถูกเขาทำลายไปแล้ว” โจวโพ่เทียนพูดด้วยสีหน้านิ่งเฉย เขาเชื่อแตกต่างไปจากคนภายในส่วนใหญ่ของวงการศิลปะการต่อสู้ เขาเชื่อในอีกเวอร์ชั่นหนึ่ง ซึ่งก็คือว่าตอนนี้เฉินเฟิงเป็นหั้วจิ้งชั้นต้น ไม่ใช่อ้านจิ้งชั้นสูงสุด

“ท่านอาจารย์ เรื่องนี้……คงเป็นไปไม่ได้” โจวห้าวพูดติดขัดเล็กน้อย อาจารย์โจวโพ่เทียน เป็นอัจฉริยะที่โลกภายนอกต่างบอกกันว่าพบยากในร้อยปี เขาอายุสามสิบสามก็บรรลุเป็นระดับหั้วจิ้งชั้นต้น จะเป็นไปได้ยังไงที่จะมีคนทำได้เร็วกว่าเขา?

“ไม่มีอะไรที่เป็นไปไม่ได้” โจวโพ่เทียนยิ้มแล้วส่ายหน้า เขาพูดขึ้น:“คลื่นลูกหลังผลักคลื่นลูกหน้าของแม่น้ำแยงซี รุ่นของพวกนาย ถูกกำหนดให้มีคนแข็งแกร่งกว่าของพวกอาจารย์ แม้ว่าคนคนนั้นจะไม่ได้ทำลายสถิติของอาจารย์ นายก็จะเป็นคนทำลายสถิติของอาจารย์เอง”

น้ำเสียงของโจวโพ่เทียนมั่นใจ ไม่มีใครรู้ดีไปกว่าเขา ว่าโจวห้าวที่อยู่ตรงหน้าเก่งกาจแค่ไหน

ตอนที่เขาอายุสามสิบสามบรรลุหั้วจิ้ง ถูกเรียกว่าเป็นอัจฉริยะที่หายากในร้อยปีกของวงการศิลปะการต่อสู้ แต่โจวห้าวที่อยู่ตรงหน้า ปีนี้ยังอายุไม่ถึงยี่สิบหกปี ก็บรรลุระดับอ้านจิ้งชั้นสูงสุดแล้ว

อย่างมากก่อนที่เขาจะอายุยี่สิบแปดปี เขาต้องบรรลุไปถึงระดับหั้วจิ้งแน่นอน!

ถึงเวลานั้น สถิติของอาจารย์อย่างเขา จะไม่ถูกทำลายได้ยังไง?

“ท่านอาจารย์ เขาอายุเท่าไหร่?” จู่ๆโจวห้าวก็ถามขึ้น

“ไม่ต้องถาม ถามไปก็ไม่มีความหมาย ที่ฉันบอกนายเรื่องนี้ ไม่ใช่เพื่อให้นายแข่งกับใคร แต่ให้นายแข่งกับตัวเอง” โจวโพ่เทียนพูดเสียงเคร่งขรึม เส้นทางแห่งบูโด ถึงแม้การบรรลุแดนจะเป็นเรื่องสำคัญ แต่พื้นฐานของบูโดกลับสำคัญยิ่งกว่า

หากโจวห้าวทำเพื่อบรรลุแดนบูโด แล้วเพิกเฉยต่อพื้นฐานของบูโด เช่นนั้นจะเป็นการขัดต่อความตั้งใจเดิมของเขา

“เสี่ยวห้าว อาจารย์อยากให้นายจำเอาไว้ให้ขึ้นใจอยู่เรื่องหนึ่ง ในประวัติศาสตร์ ใช่ว่าไม่เคยมีอ้านจิ้งชั้นสูงสุดฆ่าหั้วจิ้งชั้นต้น สำหรับจอมยุทธ์ แดน ไม่ใช่ทุกอย่าง พลังในการต่อสู้ต่างหาก จึงจะเป็นทุกอย่าง!”

“ขอบคุณคำสอนของอาจารย์” โจวห้าวประสานมือทำความเคารพ

โจวโพ่เทียนพยักหน้าเล็กน้อย :“พอได้แล้ว ลงจากเทือกเขาเถอะ ถึงเวลาที่จะให้คนในวงการศิลปะการต่อสู้รู้ถึงการมีอยู่ของสำนักคุนหลุนของเราแล้ว”

“ครับ ท่านอาจารย์! ศิษย์จะไม่ทำให้ท่านอาจารย์ผิดหวัง จะทำให้สำนักคุนหลุนมีชื่อเสียงไปยังวงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลก!” โจวห้าวพูดด้วยสีหน้ามั่นใจ

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท