บทที่ 547 กองกำลังพิเศษมังกร
เวลานี้ ภายในห้องโถงของกองกำลังพิเศษมังกร
บุรุษวัยกลางคนสวมชุดทหารหลายนายกำลังนั่งประชุมทั้งสองด้าน พวกเขากำลังมองไปยังหน้าจอขนาดใหญ่ภายในห้องประชุมด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ตรงหน้าจอกำลังแสดงวิดีโอที่เฉินเฟิงกำลังต่อสู้กับลูกศิษย์ของนักบุญมีด
เมื่อเห็นดาบที่น่าตกตะลึงของลูกศิษย์นักบุญมีดตกลงมา ม่านตาของทุกคนต่างหดเล็กน้อย เรื่องบางอย่าง ตอนที่ได้ยินก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง พอได้เห็น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง
ก่อนหน้านี้พวกเขารู้แค่ว่าเฉินเฟิงเก่งมาก แต่ว่าเฉินเฟิงเก่งแค่ไหนนั้น พวกเขาไม่เคยรู้แน่ชัดมาก่อน
ตอนนี้ พวกเขารู้แล้ว
แค่เห็นมีดของที่น่าตกตะลึงของลูกศิษย์นักบุญมีดก็รู้แล้ว ความสามารถของเฉินเฟิง เกินกว่าระดับอ้านจิ้งอย่างสิ้นเชิง！
อย่างน้อยภายในกองกำลังพิเศษมังกรในตอนนี้ ไม่มีใครสามารถสู้เฉินเฟิงได้
แม้แต่ลูกศิษย์ของนักบุญมีด สู้กับเจ้าหน้าที่ของกองกำลังพิเศษมังกรเพียงลำพัง ก็ไม่มีใครเคยสู้ด้วย
อย่างรวดเร็ว คลิปวิดีโอจบลง
ภายในห้องประชุม เกิดความเงียบขึ้นครู่หนึ่ง
หลังจากผ่านไปครู่หนึ่ง ก่วนหนานเทียนที่นั่งตรงเก้าอี้ตัวแรกทำลายความเงียบ：“พวกนายรู้สึกยังไงบ้าง?”
“เฉินเฟิงคนนี้ เก่งมากจริงๆ” ชายวัยกลางคนที่นั่งอยู่ทางด้านขวาของก่วนหนานเทียนพูดขึ้น ชายวัยกลางคนคนนี้มีรูปหน้าทรงเหลี่ยมมาตรฐาน ทำให้คนรู้สึกเกรงขาม
หลังจากที่ชายวัยกลางคนพูดจบ ชายชราในชุดเครื่องแบบทหารนั่งอยู่ทางด้านซ้ายของก่วนหนานเทียนพูดขึ้น：“ท่านผู้อาวุโสก่วน คนนี้คือคนของตระกูลเฉิน？”
“ทำไมก่อนหน้านี้ผมไม่เคยได้ยินว่าตระกูลเฉินมีคนที่เก่งขนาดนี้มาก่อน?”
“เขาคือลูกนอกสมรสของตระกูลเฉิน” ก่วนหนานเทียนมองไปที่ชายชรา พูดเสียงเรียบ
ลูกนอกสมรส?
ทหารชราน้ำเสียงนิ่งลง แล้วหายไปในทันที
ที่แท้ก็เป็นลูกนอกสมรสนี่เอง ไม่แปลกที่ตระกูลเฉินไม่เคยพูดถึง
ถ้าเป็นคนของตระกูลเฉินที่ถูกต้องอย่างแท้จริง สร้างชื่อเสียงขนาดนี้ เวลานี้ตระกูลเฉินคงโอ้อวดไปทั่ว
“พวกนายรู้สึกอย่างไรกับข้อเสนอของฉันก่อนหน้านี้?” ก่วนหนานเทียนมองไปที่ทุกคนอีกครั้ง พูดถึงจุดประสงค์ของตนอีกรอบ
บุรุษวัยกลางคนและทหารชราสบตากัน หลังจากผ่านไปนานครู่หนึ่ง ทหารชราค่อยๆพูดขึ้น：“ท่านผู้อาวุโสก่วน ผมรู้สึกว่า ข้อเสนอของคุณไม่มีปัญหาอะไร แต่ว่าความสามารถของคนๆนี้ เพียงพอที่จะเป็นอาจารย์สอนกองกำลังพิเศษมังกร แต่ว่า……”
พูดถึงตรงนี้ ทหารชราพูดตะกุกตะกัก：“แต่ว่า คนๆนี้เป็นลูกนอกสมรสของตระกูลเฉิน ถ้าพวกเราให้เขามาเป็นอาจารย์สอนของกองกำลังพิเศษมังกร ถ้าอย่างนั้นทางด้านตระกูลเฉิน…..”
“การทำงานของทหารอย่างพวกนาย จำเป็นต้องคิดพิจารณาถึงความคิดเห็นของตระกูลเฉิน?” ก่วนหนานเทียนพูดขัดทหารชรา ถึงแม้ทหารชรายังไม่ทันพูดจบ แต่เขารู้ว่าทหารชราหมายความว่าอะไร
ทหารชรากลัวตระกูลเฉิน
เพราะ ถ้าหากเฉินเฟิงกลายเป็นอาจารย์สอนทีมเล็กๆของกองกำลังพิเศษมังกร ถือว่าประทับตราของทางทหารแล้ว
ซึ่งความหมายอีกอย่างหนึ่งก็คือ สามารถทำให้ฝ่ายทหารกลายเป็นเวทีของเฉินเฟิง
ถึงแม้ตระกูลเฉินไม่สามารถทำอะไรกับฝ่ายทหารได้ แต่ตระกูลเฉินสามารถทำอะไรบางอย่างกับคนที่ตัดสินใจเรื่องนี้ อย่างเช่น ทหารชราและบุรุษวัยกลางคน
“ท่านผู้อาวุโสก่วน ผมไม่ได้หมายความแบบนั้น……” ถูกก่วนหนานเทียนพูดความในใจออกมา ทหารชรารู้สึกอับอาย
“พอได้แล้ว ฉันรู้ว่านายหมายความว่าอะไร”
“ทางด้านตระกูลเฉิน ถ้าพวกเขาหาเรื่องพวกนาย พวกนายก็ให้พวกเขามาหาฉัน”
“พวกนายบอกไปว่าเรื่องนี้ฉันเป็นคนขอร้องให้พวกนายทำ” ก่วนหนานเทียนพูดเสียงเรียบ ตำแหน่งของทหารชราในประเทศ ความเป็นจริงถือว่าไม่น้อยแล้ว แต่เมื่อเทียบกับตระกูลเฉิน ยังห่างไกลอยู่หลายขุม
ดังนั้น การที่เขากลัวจึงเป็นเรื่องปกติ
แต่เรื่องที่ทหารชรากลัว ไม่ได้หมายความว่าก่วนหนานเทียนจะกลัว
ตระกูลเฉิน ถ้าคิดอยากจะหาเรื่องเขา ก็เชิญมาหาเถอะ
“ถ้าอย่างนั้น……ท่านผู้อาวุโสก่วน พวกผมจะเตรียมจดหมายนัดหมายให้พร้อมภายในวันนี้ ตามหลักการแล้ว คนที่จะมาเป็นอาจารย์สอนกองกำลังพิเศษมังกรควรจะมียศระดับพลตรี แต่เฉินเฟิงอายุยังน้อยมาก ให้เขาเลื่อนตำแหน่งเป็นพลตรีคงจะไม่เหมาะเท่าไหร่ ดังนั้น ผมจึงคิดจะให้เขาเป็นพลเอกก่อน” ชายชราพูดเชิงถาม ไม่รู้ว่าก่วนหนานเทียนให้ความสำคัญกับเฉินเฟิงตรงไหน ถึงให้เฉินเฟิงเป็นพลตรี ต้องรู้ก่อนว่า เฉินเฟิงปีนี้อายุแค่ยี่สิบห้าปี
ไม่มีหลักการที่ให้คนอายุยี่สิบห้าเป็นพลตรี
“ไม่จำเป็น ให้เขาเป็นพลตรีเลย เขาสามารถเป็นได้” ก่วนหนานเทียนผายมือ หั้วจิ้งชั้นต้นในวัยอายุยี่สิบห้า คนหนุ่มหวาเซี่ยคนแรกที่ได้รับตำแหน่งอย่างควรค่า คนแบบนี้ สามารถดึงตัวเข้ามาอยู่ในค่ายทหาร ถือว่าฝ่ายทหารได้เปรียบ
อย่าว่าแต่ยศพลตรีเลย แม้แต่ยศพลโท ฝ่ายทหารก็สามารถให้เขาได้
รับตำแหน่งนี้ได้?
ทหารชราตกใจกับคำพูดของก่วนหนานเทียนอีกครั้งหนึ่ง แต่ว่าก่วนหนานเทียนพูดขนาดนี้แล้ว ถ้าอย่างนั้นยศพลตรี เขาก็ไม่สามารถที่จะไม่ให้
ขณะที่ฝ่ายทหารกำลังพูดคุยตกลงเรื่องยศของเฉินเฟิง ภายในลานของตระกูลเฉิน บุคคลสำคัญของตระกูลเฉินหลายคนกำลังรวมตัวกัน
นำโดย เฉินโป๋ยุง
เฉินโป๋ยุงในตอนนี้ สีหน้าดูแย่มาก
เขาไม่ได้โมโหแบบนี้มานานมากแล้ว โมโหครั้งที่แล้ว เป็นเพราะลูกสาวเฉินอิงโรถูกเฉินเฟิงทำให้พิการ
ครั้งนี้ ก็เป็นเพราะเฉินเฟิงอีก！
“พี่รอง ไอ้เด็กนอกสมรสคนนั้นบรรลุระดับหั้วจิ้งแล้วจริงๆหรอ?”
ด้านล่างของเฉินโป๋ยุง ชายวัยกลางคนรูปร่างกำยำอดไม่ได้ที่จะพูด เขาชื่อเฉินเจี้ยนหยุ่ง เป็นหัวหน้าครอบครัวของครอบครัวเจ็ดตระกูลเฉิน
ทั้งชีวิตของคุณท่านเฉินมีภรรยาทั้งหมดสี่คน ภรรยาทั้งสี่คนนี้ มีลูกชายและลูกสาวให้คุณท่านเฉินทั้งหมดสิบสามคน
ลูกชายและลูกสาวทั้งสิบสามคนนี้ เรียงจากอายุมากน้อยแล้ว ถูกแบ่งเป็นตระกูลเฉินสิบสามครอบครัว
ครอบครัวใหญ่เฉินเจิ้นหนาน
ครอบครัวรอง เฉินโป๋ยุง
……
ครอบครัวสิบสาม เฉินห้าวเทียน
เฉินห้าวเทียนคือพ่อของเฉินเฟิง เขาเป็นพี่น้องในตระกูลเฉิน เป็นคนที่อายุน้อยที่สุด
ถึงแม้อายุของเฉินห้าวเทียนจะน้อยที่สุด แต่เขากลับเป็นคนที่คุณท่านเฉินรักมากที่สุด ถ้าไม่ใช่เพราะตอนนั้น เฉินห้าวเทียนดึงดันที่จะแต่งงานกับซูจ้าวชิง ทำให้คุณท่านเฉินโมโห
เกรงว่าตอนนี้หัวหน้าครอบครัวของตระกูลเฉินคงไม่ใช่เฉินเจิ้นหนาน แต่เป็นเฉินห้าวเทียน！
“เขาบรรลุถึงระดับหั้วจิ้งแล้วจริงๆ” เฉินโป๋ยุงพยักหน้าด้วยสีหน้าเคร่งขรึม หั้วจิ้งในวัยอายุยี่สิบห้า ไม่สามารถใช้คำว่าน่ากลัวมาบรรยายได้แล้ว ควรจะพูดว่าปีศาจระดับโลก！
ตระกูลเฉินที่ยิ่งใหญ่ทั้งสามชั่วอายุคน มีลูกหลานหลายร้อยคน แต่ลูกหลานหลายร้อยคนนี้ คนที่การฝึกตนสูงสุด เป็นแค่อ้านจิ้งชั้นสูงสุด
อ้านจิ้งชั้นสูงสุด ห่างจากหั้วจิ้งชั้นต้น มีแค่ก้าวเดียวเท่านั้น แต่ก้าวเดียวนี้ แตกต่างกันมาก！
มีคนมากมาย อยู่ที่ก้าวนี้ มานานกว่าเจ็ดแปดปี
แต่วันนี้ เฉินเฟิงกลับก้าวผ่านก้าวนี้ได้
เขาก้าวผ่านก้าวนี้ได้ เป็นการตบหน้าตระกูลเฉิน
ตามหลักการแล้ว ลูกหลานโดยตรงของตระกูลเฉินมีทรัพยากรด้านศิลปะการต่อสู้ที่เพียงพอควรจะนำหน้าลูกนอกสมรสอย่างเฉินเฟิงเป็นร้อยเท่า แต่สุดท้าย ความสามารถลูกนอกสมรสอย่างเฉินเฟิง กลับอยู่เหนือกว่าลูกหลานสายตรงของตระกูลเฉิน
หลังจากได้รับการยืนยันจากปากของเฉินโป๋ยุง หัวหน้าครอบครัวแต่ละครอบครัวพากันเงียบ
พวกเขารู้ดี การที่เฉินเฟิงบรรลุหั้วจิ้งมันหมายความว่าอะไร
