ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 563

ตอนที่ 563

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 563 เซียนปืน

“ฟู่! ฟู่! ฟู่! ฟู่!”

กระสุนปืนได้ผ่าทะลุศีรษะของพวกเขาทั้งสี่คน เลือดสดๆ พุ่งออกมาเต็มเสื้อสีขาว และเปื้อนทั้งที่นั่ง

หลังจากนั้น ร่างของพวกเขาก็ล้มลงไป และมีหนึ่งคนในนั้นที่ร่างร่วงลงมาที่พื้น

เรื่องทั้งหมดนี้ ดูแล้วซับซ้อนมาก เพราะทุกอย่างเกิดพึ่งเพียงชั่วพริบตา ไม่ว่าจะเป็นนินจาสิบคนที่เฝ้าชิงช้าสวรรค์ตรงนั้น หรือว่าคนอื่นที่แบ่งกันสอดส่องตามจุด รวมถึงจายเถิงเหย่สุงและเชียนเย่จี๋เจิ้งที่อยู่บนชั้นสาม ทุกคนต่างไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นและยังไม่มีสติ!

ในตอนนี้ พวกเขาทั้งหลายต่างมีสีหน้าตกใจกันหมด!

ราวกับว่า จนถึงตอนนี้พวกเขาก็ยังไม่รู้ว่าเฉินเฟิงนั้นเข้ามาในประเทศญี่ปุ่นได้ยังไง และยังสามารถหาที่นี่เจอ พลันลงมือจัดการทุกอย่าง!

และคนที่ยังอึ้งอยู่นั้นก็ไม่ใช่แค่พวกเขา หลินหวั่นชีวเองก็ยังงงอยู่ว่าเกิดอะไรขึ้น

หลินหวั่นชีวถูกมัดอยู่ด้านบนของชิงช้าสวรรค์ ปากก็ถูกเอาผ้าอุดไว้ จึงไม่สามารถพูดอะไรได้ แต่นางสามารถได้ยินเสียงจากด้านนอกได้ชัดเจน และก็สามารถมองเห็นทุกอย่างที่เกิดขึ้น

นางได้ยินเสียงปืนที่ดังสนั่น และก็มองเห็นนักฆ่าทั้งสี่คนที่โดนยิงเข้าที่ศีรษะ จนนอนจมกองเลือด

“เป็นพี่เฉินเฟิงใช่มั้ย?”

และเป็นเพียงแวบนึง ที่ทำให้นางนั้นนึกถึงชื่อของเฉินเฟิงขึ้นมาทันที

นอกจากเฉินเฟิงแล้ว ก็ไม่มีใครที่จะมาช่วยนางที่นี่อีกแล้ว

เหตุการณ์ทั้งหมดนี้ ทำให้นางใจสั่นมาก นางเกือบจะลุกขึ้นดู แต่เพราะว่าถูกมัดด้วยเชือก จึงไม่สามารถขยับตัวได้เลย

และในตอนนี้ นางก็พยายามใช้แรงที่มีอยู่ดิ้นให้หลุดจากเชือก แต่กลับทำอะไรไม่ได้เลย และในเวลาเดียวกันนางก็พยายามใช้ลิ้นดันผ้าให้หลุดออกจากปาก แต่ทว่าสุดท้ายก็เหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นเลย

นางอยากจะพูดเตือนเขา แต่พูดได้เพียง “อือ อือ”

“พี่เฉินเฟิง ขอให้ท่านอย่าเป็นอะไรนะ!”

หลินหวั่นชีวเริ่มตาแดงขึ้นด้วยความกังวล ดวงตาก็เริ่มมีพร่ามัวเพราะน้ำตาที่กำลังหลั่งออกมา แต่นางก็ทำได้แค่ขอให้เขาปลอดภัย

นางเองก็ไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงถูกมัดอยู่ที่นี่ แต่ว่านางรู้อยู่อย่างหนึ่ง ก็คือสถานที่แห่งนี้มีนักฆ่าเกือบร้อยๆ คน

และคนพวกนั้น ตอนนี้ก็กำลังยืนปะทะกันกับเฉินเฟิง!

“เฉินเฟิงปรากฏตัวที่หวาเซี่ยแล้ว….”

และในตอนนี้ นินจาที่อยู่รอบชิงช้าสวรรค์ก็พากันได้สติ เพราะมีเสียงคนพูดขึ้นในวิทยุสื่อสาร และเป็นเสียงที่ไม่สามารถกลบเกลื่อนได้เลยว่าหวาดกลัวอย่างมาก

สำหรับคนที่อยู่ในสำนักนินจานั้น พวกเขาต่างรู้ดี ว่าครอบครัวกงปุ่นได้ติดต่อกับทุกสนามบินแล้ว เกี่ยวกับข้อมูลของคนที่เข้ามาในประเทศ แต่ว่ายังไม่ทันจะมีรายงานมาเฉินเฟิงมาเลย แล้วอยู่ดีๆ ก็มาปรากฏตัวขึ้น และเพียงชั่วพริบตาเฉินเฟิงก็สามารถจัดการกับนักฆ่าทั้งสี่คนได้อย่างง่าย

แล้ว…..แบบนี้จะไม่ให้พวกเขากลัวกันได้อย่างไร?

“ป้าง!”

ต่อมา เฉินเฟิงก็ไม่รอให้เขาได้พูดจบ พลันมีเสียงปืนดังขึ้นอีกรอบ

ในยามค่ำคืนเช่นนี้ เฉินเฟิงมีความสามารถในการฟังอย่างมาก แล้วสามารถรู้ตำแหน่งที่หลบของนินจาคนนั้นได้อย่างแม่นยำ แล้วเล็งไปที่นั่นทันที หลังจากนั้นก็ลั่นไกปืน พลันยิงออกไปและก็ยิงไปโดนศีรษะของนินจาผู้นั้นอย่างจัง

นัดเดียวโดนศีรษะเต็มๆ!

เหมือนกับสี่คนที่โดนยิงก่อนหน้านี้อย่างไงอย่างงั้น และเขาก็ใช้กระสุนเพียงนัดเดียวก็จัดการได้แล้ว

เหตุการณ์นี้ ทำให้นินจาที่หลบอยู่อีกเก้าคนต่างพากันตะลึงอย่างมาก ไม่กล้าขยุกขยิกเลย และก็ไม่กล้าแม้แต่ส่งเสียงออกมา เพราะกลัวว่าจะมีจุดจบแบบคนก่อนหน้านี้

“นี่……..นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”

และในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงของจายเถิงเหย่สุงดังขึ้นในวิทยุสื่อสาร ตอนนี้เขาดึงสติกลับมาได้แล้ว แล้วก็รู้ว่าตอนนี้เฉินเฟิงได้ปรากฏตัวขึ้นแล้ว จึงถามขึ้น

ไม่มีเสียงตอบกลับมา นินจาทั้งเก้าคนนั้นไม่กล้าปริปากออกมาเลยสักคน เพราะพวกเขากลัวว่าถ้าพูดขึ้นมาแล้วจะทำให้เฉินเฟิงรู้ตำแหน่ง!

“รายงานนายท่าน เสียงปืนนั้นดังมาจากทางด้านชิงช้าสวรรค์ ตอนนี้พวกเราก็ยังไม่ทราบเรื่องที่แน่ชัด!”

“นายท่าน พวกเรากำลังจะรีบไปที่ชิงช้าสวรรค์ขอรับ!”

นินจาทั้งเก้าคนที่เหลือนั้นไม่กล้าจะรายงาน แต่ว่าเป็นอีกกลุ่มหนึ่งที่คอยลาดตระเวนและสอดส่องเป็นคนพูดขึ้น แล้วก็รีบตรงดิ่งมาที่ชิงช้าสวรรค์ทันที

ดูตามแผนที่วางไว้ ถ้าหากว่าเฉินเฟิงปรากฏตัวขึ้น พวกเขาต้องรีบไปรวมตัวที่ชิงช้าสวรรค์โดยทันทีเพื่อเตรียมการรับมือ แล้วก็รวมกำลังกันเพื่อเอาชนะเฉินเฟิงให้ได้

พอได้ยินพวกนั้นรายงานดังนั้น เฉินเฟิงก็ถือปืน แล้วเก็บไว้ที่เอว จากนั้นก็หายตัวไปในความมืดทันที

“แม่ง จวั่นฉีโย่เอ้อ บอกข้าที ว่าตอนนี้สถานการณ์เป็นยังไงบ้าง?”

จายเถิงเหย่สุงที่อยู่ชั้นสามมีสีหน้าไม่ดี และพูดในวิทยุสื่อสารด้วยน้ำเสียงที่ต่ำมาก

จวั่นฉีโย่เอ้อที่เขาพูดนั้นก็คือ นินจาที่เป็นหัวหน้าของทั้งสิบคนนั้น และรับผิดชอบในการรับคำสั่งของนินจาที่เหลืออีกเก้าคนในการยิงเฉินเฟิง

“นายท่าน ที่หวาเซี่ยเฉินเฟิงได้เข้ามาใกล้บริเวณชิงช้าสวรรค์ ก่อนหน้านั้นเขาได้ฆ่านินจาไปสี่คน จากนั้นก็ได้ฆ่าพวกเราไปอีกหนึ่งคนขอรับ!”

จวั่นฉีโย่เอ้อนั่นห่างจากเฉินเฟิงอยู่มาก เขาหมอบมาตามพื้น และรีบหาต้นไม้ใหญ่เพื่อหลบการโจมตีของเฉินเฟิง หลังจากนั้นจึงหันไปรายงานซงเสี้ยจื้อจิ่ว

“อะ……อะไรนะ?”

ครั้งนี้ เขาไม่รอให้จายเถิงเหย่สุงได้พูดขึ้น เชียนเย่จี๋เจิ้งจึงรีบชิงพูดขึ้นก่อน: “เจ้าบอกว่ามันฆ่านินจาของเราไปสี่คนงั้นหรือ?”

“ใช่ขอรับ ท่านเชียนเย่จี๋เจิ้ง เขาเพียงแค่ง้างปืนสี่อัน ก็สามารถจัดการกับนินจามือปืนสี่คนของเราได้หมด…..” จวั่นฉีโย่เอ้อพูดไป ก็ขนลุกไป

ถึงตัวเขาเองจะเป็นถึงนินจาชั้นกลาง และก็เคยฝึกการใช้ปืนมาก่อน แถมเคยเจอกับมือปืนตัวฉกาจมาแล้ว แต่เขาก็ยังนึกไม่ถึงว่า ทำไมเฉินเฟิงถึงสามารถใช้เวลาเพียงชั่วพริบตาก็สามารถจัดการกับสี่คนนั้นได้!

อีกอย่าง ถ้าหากไม่ใช่ว่าเขาเห็นด้วยตาตัวเอง เขาก็ยังเชื่อว่าประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศที่บริสุทธิ์ และไม่มีทางเชื่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้นนี้อย่างแน่นอน!

“มัน……มันจะเป็นไปได้ยังไง? หรือว่าเป็นเพราะพวกนั้นยืนซื่อบื้อเลยโดนลอบทำร้ายกันแน่?” ไม่ว่าจะเป็นจวั่นฉีโย่เอ้อ หรือเชียนเย่จี๋เจิ้งต่างก็ทำหน้าไม่อยากจะเชื่อ เขาอุตส่าห์ให้นักฆ่าทั้งสี่คนแยกกันเพื่อที่จะได้มองเห็นได้ง่าย และก็ยังแบ่งนินจาออกเป็นข้างหน้าสองคนกับข้างหลังสองคนอีก แต่กลับถูกเฉินเฟิงง้างแค่ปืนสี่อันก็สามารถจัดการได้แล้ว เหตุการณ์ทั้งหมดนี้มันเกิดความคาดหมายของพวกเขาจริงๆ

“เขาปลอมเสียงเป็นคนของเรา เพื่อให้ทุกคนสนใจ หลังจากนั้นก็ใช้โอกาสนี้จัดการกับสี่คนนั้น และในระหว่างนั้นก็ใช้เวลาจัดการประมาณหนึ่งวินาที”

เชียนเย่จี๋เจิ้งพูดขึ้น เพื่ออธิบายให้จายเถิงเหย่สุงเข้าใจ และก็เหมือนยังสงสัยกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อครู่อยู่

“แม่ง มันเป็นเซียนปืนหรือไงกัน?”

แล้วเสียงก็ดังขึ้นในหูฟังเป็นคำตอบให้เชียนเย่จี๋เจิ้ง เพราะจายเถิงเหย่สุงทนไม่ไหวจึงด่าว่าเขาอย่างหนัก

สำหรับคนที่เป็นปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้อย่างเขานั้น ไม่ใช่ว่าไม่รู้ว่าการที่จะยิงปืนออกไปพร้อมกันสองด้าน และยิงถึงสี่คนนั้นมันยากขนาดไหน เขาเองก็รู้ดี

แต่ว่า……..

“ป้างป้างป้างป้างป้าง………”

และเสียงที่ตอบจายเถิงเหย่สุงนั้นกลับกลายเป็นเสียงปืนที่ดังต่อกันห้านัด และก็ดังออกมาจากหูฟังสนั่นหวั่นไหวอย่างมาก

“มันเกิดอะไรขึ้นอีก?” จายเถิงเหย่สุงพูดขึ้นอย่างตกใจ

“ท่านจาย…….จายเถิงเหย่สุง ข้ามองเห็นเขาแล้ว! เขาอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือ และเมื่อครู่เขาก็พึ่งฆ่านินจากลุ่มเก้าอีกห้าคน…….”

กองกำลังที่แปดที่หลบอยู่ด้านล่างของชิงช้าสวรรค์ทางตะวันออกเฉียงเหนือ พูดขึ้น

“ป้าง!”

แต่ทว่า——-

เขาไม่ทันจะพูดจบ กระสุนปืนก็ยิงทะลุศีรษะของเขาทันที และจบชีวิตลงทันที ทำให้เสียงของเขาหยุดลงเพียงเท่านั้น

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท