บทที่ 573 หลักฐาน
“หูหลี จ้าวซินเย่ว” เฉินเฟิงพยักหน้าเล็กน้อยจำชื่อของพวกเขาไว้
และเขาก็พูดอีกครั้ง “หลินหวั่นชีวก็ฝากพวกนายแล้ว พาเธอไปที่สหพันธ์สงครามโดยเร็วที่สุดและถ้าเป็นไปได้ให้ส่งเธอกลับในคืนนี้”
“ไม่ต้องกังวล รุ่นพี่พวกเราจะพาหลินหวั่นชีวกลับอย่างปลอดภัยแน่นอน” หูหลีพยักหน้า วันนี้ไม่เหมือนเมื่อก่อน ก่อนหน้าหลินหวั่นชีวเป็นเพียงนักศึกษาหญิงธรรมดา ๆ แต่ตอนนี้หลินหวั่นชีวเป็นทายาทของมหาปรมาจารย์หลิน
สถานะของเธอเป็นที่เคารพและสถานะของเธอได้ก้าวข้ามขีดจำกัดที่คนธรรมดาทั่วไปสามารถจินตนาการได้มานานแล้ว
“แล้วรุ่นพี่ล่ะ…คุณจะไม่กลับไปหรือ?” ในตอนนี้จ้าวซินเย่วอดไม่ได้ที่จะถามเมื่อเทียบกับหลินหวั่นชีวเธอสงสัยมากกว่าว่าเฉินเฟิงจะกลับไปหรือไม่
“ตอนนี้ฉันกลับไปไม่ได้แล้ว ฉันยังมีเรื่องที่ต้องจัดการ” เฉินเฟิงส่ายหัวตอนนี้เขาไม่สามารถย้อนกลับไปได้แม้ว่าเขาจะต้องการก็ตาม
ไม่ผิดคาด วงการศิลปะการต่อสู้และผู้มีอิทธิพล ตอนนี้รู้เกี่ยวกับการฆ่าล้างของครอบครัวซงเต่าและการช่วยเหลือ หลินหวั่นชีวของเขา สิ่งต่อไปที่รอเขาอยู่คือการตามล่า
ในกรณีนี้ เขาและหลินหวั่นชีวอยู่ด้วยกัน มีแต่จะลากหลินหวั่นชีวลงไปด้วยเท่านั้น
“รุ่นพี่ ถ้าอยู่ที่นี่ตอนนี้เกรงว่าจะเป็นอันตรายมาก” จ้าวซินเยว่ดูกังวล แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าเฉินเฟิงช่วนออกมาได้ไง แต่ก็มั่นใจได้ว่าเฉินเฟิงฆ่าคนอย่างแน่นอนและคงฆ่าคนไม่ใช่น้อย
ในกรณีนี้วงการศิลปะการต่อสู้และผู้มีอิทธิพลจะไล่ตามและฆ่าเฉินเฟิงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
“ไม่เป็นไรฉันจัดการได้” เฉินเฟิงส่ายหัว ทันใดนั้นเขาก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาและส่งวิดีโอที่บันทึกไว้ที่บ้านของซงเต่าเฟิงและรูปที่ถ่ายในสวนสนุกให้หูหลีและจ้าวซินเย่ว
“หลังจากที่คุณกลับไป คุณจะติดต่อพี่สือและขอให้เขาโพสต์วิดีโอนี้และรูปภาพเหล่านี้ในบูโดฟอรัม”
“ในนี้มีหลักฐานว่าสมาคมการค้าเชียสุ่ยลักพาตัวหลินหวั่นชีว”
หลักฐานว่าสมาคมการค้าเชียสุ่ยลักพาตัวหลินหวั่นชีว?
เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง ใบหน้าของหูหลีและจ้าวซินเย่ว ก็แสดงความดีใจสิ่งที่พวกเขาขาดมากที่สุดในตอนนี้คือหลักฐาน
ตราบใดที่มีหลักฐานทั้งโลกก็จะยืนหยัดอยู่ข้างพวกเขาและประณามสมาคมการค้าเชียสุ่ยร่วมกับพวกเขา
ทั้งสองรีบเปิดวิดีโอที่เฉินเฟิงส่งมา
ในวิดีโอซงเต่าโสงเหย่ที่กำลังจะตายนอนอยู่บนพื้น อธิบายแผนการของหอการค้าเฉียนสุ่ย
เมื่อพวกเขาได้ยินว่ามีนินจาหลายสิบคนซุ่มโจมตีในสำนักขวัญนินจา ใบหน้าของพวกเขาก็ดูตกใจทันที นินจาหลายสิบคน สามารถสร้างการต่อสู้ขนาดเล็กได้แล้ว ความแข็งแกร่งเช่นนี้ เฉินเฟิงกลับช่วยคนออกมาได้
เขาทำได้อย่างไร?
เมื่อทั้งสองคิดว่าทั้งหมดนี้คือทั้งหมด ซงเต่าโสงเหย่ในวิดีโอก็พูดอีกครั้ง
“นอกจากพวกเขาแล้ว ยังมีนินจาระดับสูงอีกสองคน นินจาระดับสูงสองคนนี้เป็นนักฆ่าที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในครั้งนี้…”
นินจาระดับสูง?!
ทั้งสองตกตะลึงพร้อมกันไม่ได้นัด สมาคมการค้าเชียสุ่ยยังส่งนินจาระดับสูงสองคนไปจัดการกับเฉินเฟิง!
เป็นแบบนี้ได้ยังไง!
“รุ่นพี่ นินจาระดับสูงสองคนนั้น…” หูหลี่และจ้าวซินเยว่อดไม่ได้ที่จะพูด พวกเขาอยากรู้ว่าเฉินเฟิงช่วยหลินหวั่นชีวจากมือของทั้งนินจาระดับสูงทั้งสองคนได้อย่างไร แต่ก่อนที่เขาจะพูดจบเขาก็ถูกเฉินเฟิงตัดบท “ตายแล้ว”
“ตายแล้ว?!”
ทั้งสองหายใจเข้าอีกครั้ง
เฉินเฟิงได้ฆ่านินจาระดับสูงสองคน เท่ากับเขาเที่ยบเท่ากับนินจาระดับสูง!
ถ้าข่าวนี้แพร่ออกไป เกรงว่าโลกจะต้องสั่นสะเทือน!
“ฉันส่งรูปของพวกเขาไปให้คุณแล้ว กลับไปให้พี่สือตรวจสอบตัวตนของพวกเขา” เฉินเฟิงพูดเบา ๆ คนที่แข็งแกร่งเช่นจายเถิงเหย่สุงและเชียนเย่จี๋เจิ้ง ไม่ใช่คนที่ไม่มีใครรู้จักแน่นอน สหพันธ์สงครามต้องการเพียงแค่ขยับนิดเดียว ก็สามารถรู้ตัวตนของทั้งสอง
เมื่อพบตัวตนของทั้งสองแล้ว พวกเขาจะสามารถรู้ได้ว่าสมาคมการค้าเชียสุ่ยอยู่เบื้องหลังการลักพาตัวหลินหวั่นชีว
หูหลีและจ้าวซินเย่วพยักหน้าอย่างรีบร้อนจากนั้นกวาดนิ้วไปบนหน้าจอโทรศัพท์และเริ่มดูรูปถ่ายที่เฉินเฟิงส่งมา
ฮะ!
ทันใดนั้น ใบหน้าของทั้งสองก็ซีดลง
แม้พวกเขาได้เห็นฉากการฆ่ามากมาย แต่พวกเขาก็ยังตกใจกับรูปถ่ายของเฉินเฟิง!
ฉากในภาพถ่ายเหล่านี้เรียกว่านรกบนโลก!
ซากศพของนินจาหลายร้อยคนถูกจัดแสดงในสถานที่ต่างๆในสวนสนุกและใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความกลัวและความสิ้นหวัง
ในหมู่พวกเขามีศพไม่กี่ศพที่สะดุดตาเป็นพิเศษ
หนึ่งในนั้นคือซงเสี้ยจื้อจิ่วเขาเป็นหัวหน้าพิธีกรรมของสำนักขวัญนินจาในทั่วหล้าของญี่ปุ่น ซงเสี้ยจื้อจิ่วเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงระดับโลกอย่างแน่นอน แต่ภาพการตายของเขาสามารถอธิบายได้ว่าน่าเวทนา
นอกจากซงเสี้ยจื้อจิ่วแล้วยังมีศพอีกสองศพ เฉินเฟิงถ่ายรูปแยกกัน
หลังจากดูภาพถ่ายทั้งสองนี้หูหลีและจ้าวซินเย่ว ก็อดไม่ได้ที่จะเหลือบมองกันและกัน ทั้งคู่สัมผัสเห็นความจริงจังในดวงตาของกันและกัน ไม่น่าแปลกใจภาพถ่ายทั้งสองนี้เป็นภาพของนินจาระดับสูงที่ถูกส่งตัวมาจากสมาคมการค้าเชียสุ่ย
นินจาระดับสูงทั้งสองถูกเฉินเฟิงลงมือจนกลายเป็นแบบนี้…………..
หากข่าวนี้แพร่กระจายออกไป จอมยุทธ์ในวงการศิลปะการต่อสู้ที่นี่อาจจะคลั่งไคล้ไปหมด
“รุ่นพี่ คุณวางแผนที่จะอยู่ที่นี่จริง ๆ หรือ?” น้ำเสียงของจ้าวซินเย่วสั่นเล็กน้อย ก่อนที่จะดูรูปถ่ายเธอรู้สึกว่าเฉินเฟิงอยู่ที่นี่จะเป็นอันตราย แต่มันก็จะไม่อันตรายเกินไป
แต่หลังจากดูรูปเหล่านี้แล้วเธอรู้สึกว่าถ้าเฉินเฟิงอยู่ที่นี่ ต้องตายแน่ ๆ !
เขาทำให้คนทั้งโลกที่นี่โกรธ!
ต่อไปวงการศิลปะการต่อสู้จะพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดการกับเขา!
เป็นไปได้ว่าจะส่งมหาปรมาจารย์แห่งบูโดออกมาก็เป็นไปได้!
“รีบส่งหลินหวั่นชีวกลับเถอะ” เฉินเฟิงถอนหายใจและไม่ได้ตอบคำถามของจ้าวซินเย่ว
เขารู้อยู่แล้ว ถ้าเขาอยู่ที่นี่ต่อไปจะไม่มีชีวิต
แต่เขาไม่มีทางถอยได้แล้ว
“พี่เฉินเฟิง พี่ต้องมีชีวิตอยู่” ดวงตาของหลินหวั่นชีวเป็นสีแดงเล็กน้อย จากคำพูดของจ้าวซินเย่วและหูหลี เธอก็คิดอะไรได้บางเรื่อง เพื่อช่วยเธอ เฉินเฟิงได้ฆ่าคนสำคัญหลายคนในสมาคมการค้าเชียสุ่ย
ต่อไปเฉินเฟิงจะถูกตามล่าโดยวงการศิลปะการต่อสู้ทั้งหมด
“แน่นอน” เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อย ก่อนจะมาที่นี่ในครั้งนี้เขาเตรียมพร้อมที่จะเผชิญกับอันตรายมากมาย
ความเสียใจเพียงอย่างเดียวก็คือเขารีบร้อนเกินไป จนไม่มีเวลาบอกข่าวคราวกับเสี้ยเมิ่งเหยา
ในไม่ช้าหูหลีและจ้าวซินเย่วก็จากไปพร้อมหลินหวั่นชีว
และร่างของเฉินเฟิงก็ค่อยๆหายไปในความมืด
ไม่นานหลังจากที่หูหลีและจ้าวซินเย่วกลับมา พวกเขาก็ส่งวิดีโอและรูปถ่ายที่เฉินเฟิงส่งมาให้แก่สือโพ่จุน
สือโพ่จุนส่งภาพถ่ายและวิดีโอไปยังยันเจียงสำนนักงานใหญ่สหพันธ์สงคราม
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเมื่อภาพถ่ายและวิดีโอจำนวนมากปรากฏในห้องประชุมของสหพันธ์สงคราม ห้องประชุมทั้งหมดก็ตกอยู่ในความเงียบ
เงียบกันหมด!
แม้แต่โจวโพ่คองซึ่งเป็นประธานในการประชุมก็ตกอยู่ในสภาพอึ้ง
