บทที่ 575 ดินแดนทั้งหมดถูกปิดกั้น
ในบูโดฟอรัมนอกจากจอมยุทธ์ญี่ปุ่นแล้วจอมยุทธ์จากทั่วโลกกำลังพูดคุยเกี่ยวกับเฉินเฟิง
มีเพียงจอมยุทธ์ของญี่ปุ่นเท่านั้นที่เงียบอย่างน่าประหลาดใจในขณะนี้
ไม่ใช่เพราะพวกเขาไม่รู้ว่าเฉินเฟิงได้ช่วยชีวิตคนออกไปแล้ว พวกเขารู้ทุกอย่างเกี่ยวกับเรื่องนี้สักครึ่งชั่วโมงก่อนที่สหพันธ์สงครามจะปล่อยภาพถ่าย
เพียงแต่ ในขณะนี้พวกเขาไม่รู้ว่าจะพูดอะไร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าเฉินเฟิงเล่นกลอุบายในวงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่นและตบผู้มีอำนาจสูงสุดในวงการศิลปะการต่อสู้ของญี่ปุ่น
ในขณะนี้จอมยุทธ์ญี่ปุ่นทุกคนรู้สึกว่าใบหน้าของพวกเขาแสบร้อนด้วยความเจ็บปวด
มีผู้มีอำนาจสูงสุดจำนวนนับไม่ถ้วนในประเทศญี่ปุ่น แต่เฉินเฟิงก็ได้ช่วยหลินหวั่นชีวภายใต้สายตาของผู้มีอำนาจสูงสุดจำนวนนับไม่ถ้วนเหล่านี้
ยิ่งไปกว่านั้นเขาช่วยหลินหวั่นชีวยังไม่พอ แต่ยังฆ่านินจาระดับสูงสองคนจากสมาคมการค้าเชียสุ่ยและชนชั้นสูงเกือบร้อยคน
มันจะต่างอะไรกับการที่ฉี่รดบนหัวของวงการศิลปะการต่อสู้กันของญี่ปุ่น?
เป็นเวลาดึกแล้ว แต่ฐานในเขตชานเมืองรอบนอกของอ่าวโตเกียวในญี่ปุ่นยังคงมีแสงสว่างจ้า
ในขณะนี้ที่ล็อบบี้ของฐานผู้บริหารของกองกำลังชั้นนำของญี่ปุ่นจำนวนมากได้รวมตัวกัน กงปุ่นป้านฉางผู้นำของครอบครัวกงปุ่นก็อยู่ท่ามกลางพวกเขา
“ป้านฉาง คุณไม่มีอะไรจะพูดเหรอ” หลังจากเงียบไปนาน ชายชราชุดดำที่นั่งอยู่บนเบาะก็เหลือบมองไปที่กงปุ่นป้านฉางด้วยสีหน้าเศร้าหมองตั้งแต่เข้ามาในฐานะ กงปุ่นป้านฉางก็ทำหน้าบึ้งตึงพูด ไม่พูดอะไร
“เรื่องนี้เป็นความผิดของฉัน ฉันประเมินความแข็งแกร่งของเจ้านั้นต่ำไป” กงปุ่นป้านฉางหายใจเข้าลึก ๆ และพูดด้วยน้ำเสียงที่ทุ้ม
“เหอะ มีประโยชน์ไหมที่จะยอมรับความผิดพลาดในตอนนี้? ท่านโสงเหย่ก็ตายไปแล้ว” ทางด้านซ้ายของชายชรา ชายในชุดกิโมโนพูดอย่างไม่พอใจ มันเป็นเวลานานเจ็ดหรือแปดปีในญี่ปุ่นที่ไม่เคยมีครอบครัวใหญ่ที่ถูกฆ่าตายหมดแบบนี้
แต่คราวนี้ เพราะเรื่องของสมาคมการค้าเชียสุ่ย ซงเต่าโสงเหย่ถูกกวาดล้างจนหมด
“ป้านฉาง อาจารย์ไม่พอใจคุณมาก” ชายชราชุดดำขมวดคิ้วและเหลือบมองไปที่กงปุ่นป้านฉาง “เขาต้องการให้คุณกำจัดเรื่องนี้ที่มีต่อจักรวรรดิโดยเร็วที่สุด”
“ขอรับ!”
กงปุ่นป้านฉางหรี่ตาลงและเขาก็รับคำสั่งทันทีด้วยความเคารพ อาจารย์ที่ชายชราสวมชุดดำเอ่ยถึงคือหัวหน้าสามของเสินอิ่นและเป็นหนึ่งในหกมหาปรมาจารย์ในญี่ปุ่น
ในสถานการณ์ที่ทั้งหัวหน้าใหญ่ของเสินอิ่นและหัวหน้าคนที่สองจำศีลไม่สามารถออกมาได้ หัวหน้าสามคือคนที่สูงสุดของเสินอิ่น!
คำพูดของเขาคือคำสั่ง!
“ครั้งนี้ เสินอิ่นจะร่วมมือกับคุณอย่างเต็มที่”
“ในด้านของทางการ หัวหน้าสามได้ออกคำสั่งแล้ว สนามบินทุกแห่งจะหยุดบิน ดินแดนทั้งหมดถูกปิดกั้นเป็นเวลาสองวัน วิธีเดียวที่เฉินเฟิงจะออกจากญี่ปุ่นได้คือทางเรือ”
“ภายในสองวันนี้ ให้กลุ่มซานโข่วและสำนักขวัญนินจาส่งสมาชิกทั้งหมดไปทำการค้นหา ทุกซอกทุกมุมแม้แต่มดก็อย่าให้รอดไปได้”
“จำไว้ คุณมีเวลาแค่สองวัน ภายในสองวันคุณต้องหาเฉินเฟิงและฆ่าเขาที่ญี่ปุ่น!”
“ถ้าคุณไม่สามารถใช้ชีวิตของเขาเพื่อล้างความอัปยศอดสูของวงการศิลปะการต่อสู้ คุณก็ควรฆ่าตัวตายซะเถอะ” ชายชราที่สวมชุดดำมองกงปุ่นป้านฉางอย่างเย็นชา เหตุการณ์นี้เกิดจากกงปุ่นป้านฉาง เช่นนี้ก็ควรให้กงปุ่นป้านฉางจัดการ
“ขอรับ!”
กงปุ่นป้านฉางเหงื่อแตกพลั่กและรับคำสั่งทันทีด้วยความเคารพ
ไม่บอกไม่ได้ว่า การสนับสนุนของเสินอิ่นสำหรับเขาในเรื่องนี้เป็นสิ่งที่เหนือจินตนาการของเขา
ดินแดนทั้งหมดของญี่ปุ่นถูกปิดกั้นเป็นเวลาสองวันและสมาชิกทั้งหมดของกลุ่มซานโข่วและสำนักขวัญนินจาถูกส่งไป นี่เป็นความพยายามทั่วประเทศในการตามล่า เฉินเฟิง
ถ้าในกรณีนี้เขายังจัดการเฉินเฟิงไม่ได้ก็ต้องตัดสินฆ่าตัวตายจริงๆ
เมื่อการประชุมสิ้นสุดลงและมีการออกคำสั่งออกมา ญี่ปุ่นทั้งประเทศก็ตกอยู่ในภาวะตื่นตัวอย่างมาก
กลุ่มซานโข่วและจิตวิญญาณนินจาสองกลุ่มที่ยิ่งใหญ่ของผู้มีอิทธิพลถูกส่งไปทั้งหมดและสมาชิกนับแสนเริ่มการปูพรมค้นหาทั่วประเทศ
ในช่วงเวลานี้สถานที่หาหลักของสมาชิกหลายคนเป็นท่าเรือเนื่องจากสนามบินของญี่ปุ่นถูกปิดกั้นโดยสิ้นเชิงและหากเฉินเฟิงต้องการออกไปวิธีเดียวที่จะไปได้คือทางเรือ
กลุ่มซานโข่วและสำนักขวัญนินจาค้นหาทั้งเมือง กงปุ่นป้านฉางไม่ได้นิ่งนอนใจเขาเข้าไปหาสหพันธ์สงคราม
หลังจากมาถึงสหพันธ์สงคราม กงปุ่นป้านฉางไม่ได้เข้าไปแต่รออย่างเงียบ ๆ ไม่ไกลจากสหพันธ์
ไม่กี่นาทีต่อมาชายร่างดำก็ปรากฏตัวต่อหน้ากงปุ่นป้านฉาง “ท่าน หลินหวั่นชีวกลับเมื่อครึ่งชั่วโมงก่อน แต่ไม่มีเงาของเจ้านั้น”
“แน่ใจเหรอ?” กงปุ่นป้านฉางถามด้วยสีหน้าเศร้าหมอง ในความคิดของเขาเฉินเฟิงมีแนวโน้มที่จะเดินทางออกจากญี่ปุ่นโดยผ่านสหพันธ์สงคราม
“แน่ใจหรือไม่ สองคนที่กลับมาพร้อมกับหลินหวั่นชีวเป็นคนเก่าแก่ของสหพันธ์สงคราม พวกเขาอยู่ในสหพันธ์มาห้าปีแล้ว เป็นไปไม่ได้เลยที่ ผมจะจำผิด” ชายร่างดำพูดอย่างเคารพ.
“พวกเขาบอกว่าเจ้านั้นไปไหน?” กงปุ่นป้านฉางถามอย่างไม่เต็มใจ
“ไม่ได้พูด” ชายร่างดำหยุดชั่วคราวแล้วพูดว่า “ท่าน สหพันธ์สงครามของผมส่งคนไปรับหลินหวั่นชีวแล้ว แล้วเราควรจะหยุดเธอได้ไหม…”
“ปล่อยเธอไป!”
ก่อนที่ชายร่างดำจะพูดจบกงปุ่นป้านฉางก็กัดฟันและพูดตัดบท
ถ้าเฉินเฟิงอยู่ข้างหลินหวั่นชีว เขาก็ยังมีเหตุผลที่จะหยุดหลินหวั่นชีว แต่เฉินเฟิงไม่ได้อยู่ข้างหลินหวั่นชีว เขาหยุดหลินหวั่นชีวได้แต่เขาจะประกาศสงครามกับวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย
นอกจากนี้ถ้าเฉินเฟิงมีสมองสักหน่อย เขาจะไม่บอกร่องรอยของเขาให้หลินหวั่นชีว
ดังนั้นแม้ว่า Lจะถูกหยุดเขาก็จะไม่สามารถถามอะไรจากปากของหลินหวั่นชีวได้ ตรงกันข้ามมันจะทำให้ความคิดเห็นของสาธารณชนเกี่ยวกับวงการศิลปะการต่อสู้ตกไปอยู่ข้างวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ย
หลังจากคำสั่งของกงปุ่นป้านฉาง นินจาจำนวนมากที่ซ่อนอยู่ในสำนักสหพันธ์สงครามได้ลดลงเหมือนกระแสน้ำ
หลินหวั่นชีวขึ้นเฮลิคอปเตอร์ของสหพันธ์สงครามอย่างปลอดภัย
หลังจากหลินหวั่นชีวขึ้นเครื่องบินหูหลีก็หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาแก้ไขข้อความและส่งออก…
ในไม่ช้าการปิดล้อมดินแดนทั้งหมดของญี่ปุ่นก็เข้าไปอยู่ในบูโดฟอรัม
วงการศิลปะการต่อสู้ทั่วโลกสั่นสะเทือนอีกครั้ง!
ทั้งการสั่นสะเทือนเรื่องการตอบสนองที่รวดเร็วของญี่ปุ่น ก็ยังทำให้เกิดความตกใจและการปรับตัวของญี่ปุ่น
สนามบินถูกหยุด พื้นที่ทั้งหมดถูกปิดกั้นและสมาชิกหลายแสนคนจากกลุ่มซานโข่วและสำนักขวัญนินจาถูกส่งตัวไปด้วยกัน…
เรียกได้ว่าใช้แรงทั้งประเทศเพื่อฆ่าเฉินเฟิง!
“เฉินเฟิงคนนั้น ตายแน่ๆ!”
“ใช่ ต้องตายแน่นอน!”
จอมยุทธ์ทั่วโลกเริ่มแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้และไม่มีใครคิดว่าเฉินเฟิงจะออกมาจากญี่ปุ่นได้ทั้งชีวิต
ในสถานการณ์แบบนี้ ถ้าเขาสามารถออกมาจากญี่ปุ่นได้ต้องเป็นปาฏิหาริย์แน่ๆ
“พวกเธอเดาสิว่า เฉินเฟิงจะหนีออกจากญี่ปุ่นด้วยวิธีใด?”
“ยังจะใช้วิธีอะไรได้อีก? ต้องเป็นทางเรือแน่นอน ตอนนี้สนามบินทุกแห่งในญี่ปุ่นถูกปิด เส้นกั้นพรมแดนนั้นก็ถูกปิดล้อม ในกรณีนี้เขาต้องการหนีออกจากญี่ปุ่น มีเพียงวิธีเดียวที่เขาทำได้คือทางเรือ”
“เหอะ เฉินเฟิงคนนั้นโง่หรือไง? เรื่องที่พวกเราคิดได้ เขาก็ต้องคิดถึงเป็นแน่ เขาจะไม่รู้เหรอว่ามีจอมยุทธ์ซุ่มอยู่ที่ท่าเรือ?”
