ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 592

ตอนที่ 592

แต่บางเรื่องเราก็ไม่มีไฟล์แล้วเหมือนกัน

บทที่ 592 ครึ่งทางปรมาจารย์

หลังจากที่ถูกขวัญนินจาลักพาตัวไป เธอคงจะหมดหวังไปแล้ว

เพราะเธอไม่คิดว่า จะมีคนสามารถข้ามน้ำข้ามภูเขา ผ่านความยากลำบากและอัตราย ช่วยเธอออกมาจากขวัญนินจาได้ แต่แล้วเฉินเฟิงก็ปรากฏตัวขึ้น

ในคืนนั้น สำหรับยอดฝีมือขวัญนินจา เห็นเฉินเฟิงที่เดินออกมาจากความมืดนั้น เป็นเหมือนดั่งเทพแห่งนักฆ่า

แต่สำหรับหลินหวั่นชีว ที่หมดหวังแล้ว เห็นเฉินเฟิงที่เดินออกมาจากความมืดนั้น กลับเป็นเหมือนเทพแห่งนักสู้ เป็นเทพแห่งนักสู้ที่มาพร้อมกับเมฆมงคลหลากสี

ภาพที่ทั้งสองคนกอดกันแน่นิ่งอยู่ตรงนั้น

หลินหวั่นชีวไม่สนใจสายตาของผู้คนรอบๆอย่างสิ้นเชิง เธอกอดเฉินเฟิงไว้แน่นเพียงอย่างเดียว ใช้วิธีแบบนี้บ่งบอกว่าเฉินเฟิง มีความสำคัญต่อเธออย่างมาก

เมื่อตอนที่เธอถูกจับเป็นตัวประกันไปยังประเทศญี่ปุ่น เธอเตรียมพร้อมยอมรับความตายแล้ว แต่คิดไม่ถึงว่า เมื่อถึงวินาทีสุดท้าย เฉินเฟิงกลับปรากฏตัวขึ้นเหมือนดั่งเทพบุตร

เมื่อเธอถูกเฉินเฟิงช่วยเหลือออกมา หลังจากที่กลับมาถึงหวาเซี่ยอย่างปลอดภัย ก็ได้รู้ข่าวว่าเฉินเฟิงถูก วงการศิลปะการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่น กับอิทธิพลใต้ดินร่วมมือกันล่าสังหาร นาทีนั้นไม่มีใครรู้ว่าเธอหมดหวังขนาดไหน

เธอถึงขั้นแอบตัดสินใจอย่างแน่วแน่ว่า หากเฉินเฟิงตายอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น เธอก็จะไปหาวิธีฆ่าตัวตายอย่างดูดี ไปเป็นเพื่อนเฉินเฟิงในถนนยมโลก

ภาพที่ทั้งสองคนกอดกันแน่นนี้ แทบจะทำให้สีหน้าของผู้ชายทั้งหมดเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา อยากที่จะไปแทนที่เฉินเฟิง และพวกผู้หญิงก็อิจฉาเหมือนกัน อิจฉาความรักที่กล้าหาญขนาดนี้

อืม?

ในขณะเดียวกัน ชายหนุ่มตระกูลหลี่ประเทศกาวลี่ กับจีนสี่เย้นก็เดินออกมาจากทางออกสนามบิน มองเห็นภาพนี้อย่างชัดเจน

วินาทีนั้น พวกเขาต่างก็หยุดฝีเท้าลงอย่างไม่ได้นัดหมาย มองดูเฉินเฟิงกับหลินหวั่นชีว ที่กอดกันไว้แน่นด้วยสีหน้าไม่คาดคิด ความรู้สึกในตอนนั้นเป็นเหมือนดั่งเห็นอะไรที่ไม่คาดคิดที่สุดในโลก

เพราะพูดถึงรูปร่างหน้าตากับท่าที จีนสี่เย้นพ่ายแพ้ให้กับหลินหวั่นชีวทั้งหมด และ…เธอผ่านการศัลยกรรมมา

หลังจากกอดกันแล้ว เฉินเฟิงถือกระเป๋าเดินทาง จูงมือหลินหวั่นชีวแล้วจากไป

ตั้งแต่ต้นจนจบ เขาไม่ได้หันไปมองชายหนุ่มตระกูลหลี่ประเทศกาวลี่ กับจีนสี่เย้นที่อยู่ด้านข้างเลย

คางคกอยากกินเนื้อหงส์?

ครองโสดตลอดไป?

มองดูเงาร่างเฉินเฟิงกับหลินหวั่นชีวที่จากไป หวนคิดถึงคำพูดก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นชายหนุ่มตระกูลหลี่ประเทศกาวลี่ หรือจีนสี่เย้น ต่างก็รู้สึกเหมือนโดนคนตบหน้า จนใบหน้าร้อนผ่าว

ตบหน้ากันชัดๆ

นาทีนี้ พวกเขาแทบอยากที่จะมุดแผ่นดินหนีทันที

…………

จากที่เดินออกมาจากสนามบินพร้อมกับหลินหวั่นชีวแล้ว เฉินเฟิงค่อยพบว่า มันนอกสนามบินมีรถจิ๊บทหารสีเขียวสองคันจอดอยู่

รถจิ๊ปสองคันนี้เป็นป้ายตัวเอนำหน้า ทำให้คนที่เดินผ่านไปมาไม่น้อยต่างก็หันมามอง

ด้านหน้าของรถจิ๊ป มีชายวัยกลางคนสวมชุดทหารยืนอยู่อย่างสงบ

เมื่อมองเห็นเฉินเฟิง สีหน้าของชายวัยกลางคนเผยยิ้มออกมาทันที

“หัวหน้าหวังมาได้อย่างไร?”

เฉินเฟิงค่อนข้างแปลกใจ ชายวัยกลางคนตรงหน้านี้ก็คือหวังเฟิง ที่ส่งชุดทหารไปให้เขาเมื่อก่อนหน้านี้

หวังเฟิงเป็นผู้รับผิดชอบกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษของยันเจียง ในนามแล้ว เขาอยู่ในฐานะหัวหน้า แต่ความจริงแล้ว ตำแหน่งของเขากลับเป็นพลตรี และยังเป็นพลตรีที่มีอำนาจ ยังไงเขาก็เป็นคนควบคุมดูแลกองกำลังพิเศษมังกร เป็นกองกำลังพิเศษที่มีความแข็งแกร่งในการสู้รบที่สุดของหวาเซี่ย

“ท่านผู้อาวุโสก่วน ให้ผมมารับคุณ”

“ยินดีต้อนรับกลับบ้าน”

หวังเฟิงยิ้มแย้ม ปฏิบัติการของเค้าในครั้งนี้ได้รับคำสั่งมาจากก่วนหนานเทียน หลังจากที่ได้รู้ผลงานการสู้รบของเฉินเฟิงในประเทศญี่ปุ่นแล้ว ก่วนหนานเทียนก็ให้เขารีบมายังสนามบินทันที เพื่อแสดงให้เห็นถึงความสำคัญที่มีต่อเฉินเฟิง

“ขึ้นรถก่อนเถอะ พวกท่านผู้อาวุโสก่วน กำลังรอคุณอยู่” หวังเฟิงพูดขึ้นอีกครั้ง

เฉินเฟิงพยักหัว แล้วก็ขึ้นไปนั่งบนรถจิ๊ปพร้อมกับหลินหวั่นชีว

หลังจากนั้นสองชั่วโมง รถจิ๊ปขับมาถึงภูเขาซีของยันเจียง

เฉินเฟิงมาที่นี่เป็นครั้งแรก ถึงแม้ที่นี่จะเป็นสำนักงานใหญ่ของกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ แต่ระบบความปลอดภัยของที่นี่กลับไม่ได้ดูลึกลับเหมือนที่คิดไว้ ความรู้สึกที่เห็นเป็นเหมือนกับสถานที่ธรรมดา แม้กระทั่งตลอดเส้นทาง เฉินเฟิงยังเห็นมีพวกคนแก่กำลังรำไทเก๊กและเล่นหมากรุกกัน

หากคนที่ขับรถไม่ใช่หวังเฟิง หัวหน้ากองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ เฉินเฟิงคงคิดว่า หวังเฟิงมีผิดที่แล้ว

“ที่นี่ไม่เหมือนกับที่คุณคิดไว้เลยใช่ไหม?” เหมือนดูออกว่าเฉินเฟิงกำลังแปลกใจ หวังเฟิงหัวเราะพร้อมพูดขึ้น

“ก็นิดหน่อย” เฉินเฟิงยิ้มพร้อมพยักหน้า ในความคิดของเขา กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ น่าจะตั้งอยู่ในสถานที่ลึกลับและมีการป้องกันอย่างเข้มงวด แต่ความจริงแล้ว กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ กลับให้ความรู้สึกเหมือนบ้านพักคนชรามากกว่า

“กองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ไม่จำเป็นต้องมีการป้องกัน ไม่เคยมีใครกล้ามาก่อเรื่องที่นี่” หวังเฟิงยิ้มพูด ตั้งแต่มีการก่อตั้งกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ก็เคยจัดให้มีนายทวาร แต่ต่อมานายทวารเหล่านี้ก็ถูกยกเลิก

เพราะคนในกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ไม่จำเป็นต้องได้รับการปกป้อง

ใครที่สามารถเข้ามาอยู่ในกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ ปล่อยออกไปคนหนึ่ง ก็ล้วนเป็นเหมือนดั่งราชาแห่งทหาร

ยอดฝีมือแบบนี้ ยังจำเป็นต้องได้รับการปกป้องหรือ?

พวกเขาปกป้องความปลอดภัยเหล่านั้นมากกว่า

หลังจากนั้นหลายนาที หวังเฟิงจอดรถไว้ด้านนอกบริเวณกองกำกับการปฏิบัติการพิเศษ

ยังไม่ทันลงจากรถ เฉินเฟิงก็เห็นคนแก่หลายคน เล่นหมากรุกกันอยู่ในสวน

คนแก่คนหนึ่งในนั้น ก็คือก่วนหนานเทียน ก่อนหน้านี้ไม่นาน รับผิดชอบการพนันกับสมาคมการค้าจงไห่ กับสมาคมการค้าเชียสุ่ย

หลังจากที่หวังเฟิงจอดรถสนิทแล้ว ก่วนหนานเทียนก็วางมือเดินลงมาทันที แม้ว่าการแสดงออกของเขาจะดูสงบมาก แต่มุมหางตาของเขาที่เงยขึ้นเล็กน้อย แต่ทรยศต่อความสุขของเขาที่มีในขณะนี้

“ท่านผู้อาวุโสก่วน”

หลังจากลงรถแล้ว เฉินเฟิงทักทายก่วนหนานเทียนอย่างเคารพนับถือ ทันใดนั้น สายตาของเขาก็มองไปยังคนแก่ด้านข้างก่วนหนานเทียน รูปร่างของคนแก่คนนี้สูงมาก สูงกว่าก่วนหนานเทียนกว่าครึ่งศีรษะ

ในตอนนี้ คนแก่ตัวสูงก็กำลังมองดูเฉินเฟิง

เวลานี้ ก่วนหนานเทียนหัวเราะพร้อมพูดขึ้นว่า “เจ้านี่ ทำได้ไม่เลว”

“ไม่เลวจริงๆ เทียนจ้าวเจินเหย่เป็นถึงปรมาจารย์อันดับหนึ่งของประเทศญี่ปุ่น เจ้านี่จัดการจนเขาพิการ เท่ากับเป็นการ ทำให้ประเทศญี่ปุ่น สูญเสียปรมาจารย์บูโดไปหนึ่งคน” คนแก่ตัวสูงด้านข้างก่วนหนานเทียนพูดขึ้น

“ใช่ ผมชื่อโจวโพ่คอง ผมเป็นรองประมุขสหพันธ์สงคราม”

ไม่รอให้เฉินเฟิงถาม คนแก่ตัวสูงก็เปิดเผยสถานะของตอนเองให้ทราบก่อนแล้ว

“สวัสดีครับ ท่านผู้อาวุโสโจว”

เฉินเฟิงรีบทักทายตอบ ในใจค่อนข้างตกใจ ชื่อของคนแก่ตรงหน้านี้ เขาเคยได้ยินมานานแล้ว

ตำแหน่งของเขาในหวาเซี่ย ไม่แพ้ตำแหน่งของเทียนจ้าวเจินเหย่ที่อยู่ในประเทศญี่ปุ่น

และเมื่อเทียบกับเทียนจ้าวเจินเหย่ เขาอยู่ในอันดับรายชื่อเซียนที่สูงกว่า

อันดับที่สิบเอ็ด

นี่เป็นอันดับของโจวโพ่คองที่อยู่บนรายชื่อเซียน

อีกอย่าง วรยุทธของเขาไม่ใช่หั้วจิ้งชั้นสูงสุด แต่เป็นครึ่งปรมาจารย์

ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก อย่างแท้จริง

“คุณเป็นลูกชายของเฉินห้าวเทียนหรือ?” โจวโพ่คองถามขึ้นมาอย่างกะทันหัน

เฉินเฟิงอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็พยักหัวเล็กน้อย แต่ว่าในใจกลับรู้สึกแปลกใจ ดูท่าทีโจวโพ่คอง เหมือนรู้จักเฉินห้าวเทียน

“ผมรู้จักพ่อของคุณ” เหมือนรู้ความคิดในใจของเฉินเฟิง โจวโพ่คองพูดขึ้นอย่างเรียบเฉย

แต่เฉินเฟิงก็ยังคงเงียบ ไม่ได้พูดอะไรมาก พ่อที่เคยเห็นหน้าในตอนเด็กแค่ครั้งสองครั้ง ที่จริงเขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรเลย ดังนั้นต่อให้โจวโพ่คองที่อยู่ตรงหน้าพูดขึ้น เขาก็ไม่ได้รู้สึกแปลกใจอะไรมากมาย เฉินเฟิงไม่แปลกใจ แต่โจวโพ่คองกลับค่อนข้างแปลกใจ เขามองดูเฉินเฟิง พร้อมถามว่า “คุณจะไม่ถามผม เกี่ยวกับเรื่องของพ่อคุณหรือ?”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท