ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 602

ตอนที่ 602

บทที่ 602 สั่งสอนด้วยกำลัง

“เอ๋…”

พอเห็นฉากนี้แล้ว ไม่ว่าจะเป็นพวกนักแข่งรถหวาเซี่ยหรือผู้ชมในสนาม รอยยิ้มบนใบหน้าพวกเขาหายเกลี้ยงเหมือนโดนใครเอาน้ำเย็นสาด ดับความตื่นเต้นของพวกเขาซะสนิท

“แซงไปแล้ว ฮะฮะ…”

“พวกนายดูหน้าพวกหวาเซี่ยสิมันตลกแค่ไหน!”

“งั้นต่อไปเรื่องสนุกจะมาแล้ว พวกนายลองเดาดูสิว่าเจ้านักแข่งรถหวาเซี่ยนั่นน่ะจะดับคารถไหม?”

ในเวลาเดียวกัน ก็มีเสียงหัวเราะเฮฮาดังมาจากโซนพวกนักแข่งรถกาวลี่ พอหัวเราะเสียงดังเสร็จ พวกเขาก็เริ่มคุยกันเมามันส์ ส่วนมากคิดไปในทางเดียวกันว่าหวู่เหวินโป๋ตายแน่

“หวังว่าเหวินโป๋จะจำคำพูดผมได้”

คิ้วของเฉินเฟิงขมวดมุ่นเป็นปมหนักมาก

“น่าตายนัก!!”

ห่างออกไปไกล หวู่เหวินโป๋ด่าออกเสียง และเหยียบคันเร่งแอสตันมาร์ตินเต็มพิกัด ไปตามKoenigsellที่นำอยู่

“ซือ…”

ไม่นาน รถสองคันก็วิ่งมาถึงโค้งUในแบบคันหนึ่งนำหน้าคันหนึ่งตามหลัง หลี่ตงชิงยังคงอาศัยฝีมือเลี้ยวโค้งอันเยี่ยมยอดเลี้ยวโค้งโดยชิดวงใน เรียกได้ว่าเพอร์เฟคส์มาก

จากนั้น—-

ส่วนหวู่เหวินโป๋เพราะขับรถเร็วเกินไป ตอนหักเลี้ยว รถเกือบเสียการควบคุม เกือบไปชนกับรั้วป้องกันด้านข้างอีกครั้ง โชคดีที่เขาหัวไว ดึงพวงมาลัยได้ทัน เลยรอดพ้นวิกฤตมาได้

จากนั้น—

ต่อให้เป็นอย่างนั้นก็ยังทำหวู่เหวินโป๋ตกใจเหงื่อแตกซิก เขาเหมือนแมวที่โดนจิ้มตั้งแต่หัวจรดหาง ทำขนลุกขนพองทั้งตัว ผมยังแทบจะชี้โด่ขึ้นมาเลย!

“เหวินโป๋ ตอนแข่งต้องใจเย็นนะ ห้ามลุกลนหรือเลือดร้อนเด็ดขาด ความปลอดภัยสำคัญที่สุด!”

จากนั้นหูเขาแว่วคำเตือนก่อนเริ่มแข่งของเฉินเฟิงขึ้นมา ทำให้เขาผ่อนแรงที่เหยียบคันเร่งลง

เขาไม่ได้เหยียบคันเร่งมิดอีกเพื่อไปวิ่งไล่ตามรถKoenigsellข้างหน้า แต่ลดความเร็วให้อยู่ในระดับที่เขาสามารถควบคุมได้

พอเป็นแบบนี้ หวู่เหวินโป๋เลยโดนหลี่ตงชิงทิ้งห่างไปมากโข—ตอนหลี่ตงชิงผ่านจุดตรวจที่สี่ หวู่เหวินโป๋ไล่ตามไม่ทัน เขาช้าไปสองวินาที

สองวินาทีสำหรับการแข่งรถแล้ว เท่ากับเป็นการตัดสินแพ้ชนะเรียบร้อยแล้ว

และการแข่งของหวู่เหวินโป๋กับหลี่ตงชิงพึ่งเริ่มได้ไม่นาน!

ผลลัพธ์แบบน้ำทำให้บรรดานักแข่งรถหวาเซี่ยและผู้ชมใบ้กินไปตามๆกัน พวกเขาจ้องมองภาพที่ฉายบนตึกสามชั้นเขม็ง แทบไม่เชื่อสายตาตัวเองกันเลย

พูดให้ชัดๆคือ พวกเขาไม่เชื่อและไม่อยากจะเชื่อว่า หวู่เหวินโป๋จะเปลี่ยนจากขึ้นนำตอนแรกมาตกฮวบตอนท้ายเร็วแบบนี้!

“ดูท่าเจ้าหวาเซี่ยนั่นจะใจเย็นลงละ ไม่รีบตามติดหลี่ตงชิงอีก ไม่งั้นคงไม่ทิ้งห่างไปเยอะขนาดนี้”

“เดิมนึกว่าจะได้ดูคนดับคารถซะอีก เป็นแบบนี้ต่อไปคงไม่ได้เห็นหรอก”

“ต่อให้พวกเราไม่เห็นคนดับคารถ อีกเดี๋ยวก็เห็นเจ้าหวาเซี่ยนั่นคุกเข่าตบหน้าตัวเองยอมรับผิดน่ะแหละ!”

ทางด้านพวกนักแข่งรถกาวลี่ พวกเขาไม่ได้รู้สึกตื่นเต้นฮึกเหิมที่หลี่ตงชิงขึ้นนำ และไม่ได้รู้สึกดีใจน่าฉลอง ตรงกันข้าม กลับรู้สึกเสียดายที่หวู่เหวินโป๋ทำใจเย็นลงได้

เพราะพวกเขารู้ดีว่า ถ้าหวู่เหวินโป๋ไม่เหยียบคันเร่งจนมิดเพื่อไล่ตามลี่ตงชิงอย่างใจร้อน นอกจากว่าจะเกิดความขัดข้องของรถแข่งแล้ว ไม่งั้นไม่มีทางเกิดอุบัติเหตุคนดับคารถแน่

ไม่นาน ภาพของจุดตรวจที่ห้าก็ปรากฏขึ้น ยังคงเป็นรถKoenigsellขึ้นนำผ่านไป ส่วนรถแอสตันมาร์ตินตามหลังห่างไปเกือบสามวินาที

“เฮ้อ ดูท่าคุณชายโป๋แพ้แน่เลย!”

“คุณชายโป๋แพ้รอบนี้ เท่ากับแพ้ห้ารอบติดเลยนะ!”

“แม่งเอ๊ย อึดอัดชะมัด ไม่สบอารมณ์เล้ย?”

จากนั้นบรรดานักแข่งรถหวาเซี่ยและผู้ชมก็เอ่ยปากพูดกันอีก น้ำเสียงของพวกเขาไม่เหลือความตื่นเต้นอีกเลย มีแต่ความอดกลั้น

เดิมพวกเขาคิดว่าหวู่เหวินโป๋จะทวงคืนได้ซักตา ดูตอนนี้แล้ว เว้นแต่ว่าหลี่ตงชิงจะทำพลาด ไม่งั้นความหวังริบหรี่มาก

เหมือนดั่งที่เฉินเฟิงและพวกนักแข่งรถคาดเดากันไว้เป๊ะ หวู่เหวินโป๋แพ้แล้ว!

ผ่านไปอีกยี่สิบนาที รถKoenigsellแล่นผ่านเส้นชัยเข้าไป ส่วนแอสตันมาร์ตินตามหลังเข้าเส้นชัยช้าไปสามสิบวินาที

สามสิบวินาที!

เวลาห่างกันมาก

นี่ถือเป็นความอัปยศอดสูของหวู่เหวินโป๋และนักแข่งรถหวาเซี่ย—ที่นี่เป็นถิ่นหวู่เหวินโป๋นะ!

โดนอีกฝ่ายเอาชนะราบคาบในถิ่นตัวเอง มันขายหน้าเบอร์ไหนเนี่ย?!

หลายวินาทีผ่านไป รถKoenigsellขับเข้ามาจอดข้างทางได้ก่อน หลี่ตงชิงก้าวลงมาจากรถด้วยสีหน้ายิ้มเย็น

พวกนักแข่งรถกาวลี่แต่ละคนสีหน้ายิ้มแสยะ รอดูรถแอสตันมาร์ติน

พวกเขากำลังรอ รอหวู่เหวินโป๋ลงจากรถ จากนั้นก็คุกเข่าต่อหน้าพวกเขา ตบหน้าตัวเองยอมรับผิดและขอโทษ!

ในหมู่พวกเขา มีคนหยิบมือถือออกมาเตรียมถ่ายภาพที่น่าอัปยศขั้นสุดนี้ไว้

นักแข่งรถหวาเซี่ยกับผู้ชมก็พากันจ้องมองรถแอสตันมาร์ตินด้วยสีหน้ามึนตึง มีแววไม่ยอมแพ้และสงสารอยู่ในแววตา

พวกเขาสงสาร และไม่อยากให้หวู่เหวินโป๋นอกจากจะแพ้การแข่งขันแล้ว ยังต้องคุกเข่าให้พวกกาวลี่อีก!

ท่ามกลางสายตาประชาชี รถแอสตันมาร์ตินแล่นเข้ามาจอดข้างทาง แต่หวู่เหวินโป๋กลับไม่ได้ลงจากรถ แต่นั่งหมดแรงพิงพนักเก้าอี้ด้วยสีหน้าซีดเผือดราวกระดาษ

“ฮะฮะ นี่มันไม่กล้าลงจากรถหรือไง?”

“แปดสิบปีผ่านไปแล้วเนี่ย ถึงหวาเซี่ยจะพัฒนาขึ้นแล้ว แต่ความอ่อนแอขี้ขลาดที่อยู่ในสายเลือดคนหวาเซี่ยน่ะมันไม่ลดลงเลยแฮะ นี่ถึงกับไม่กล้าสู้หน้าความจริงเลยนะ!”

“กล้าพนันก็ต้องกล้ารับผลสิ ถ้ามันไม่ลงจากรถมารับผลพนัน พรุ่งนี้ฉันจะไปโพทนามันในบอร์ดเลย ให้มันไม่สามารถอยู่ในวงการแข่งรถใต้ดินได้อีกตลอดชาติเลย!”

พอเห็นหวู่เหวินโป๋ไม่ยอมลงจากรถ พวกนักแข่งรถกาวลี่ต่างพากันโห่ดังใส่

เผชิญหน้ากับเสียงโห่แดกดันที่มันเสียดแก้วหู ไม่ว่าจะเป็นพวกนักแข่งรถหวาเซี่ยหรือผู้ชมยังไม่สามารถย้อนได้เลย พวกเขาทำได้แค่มองรถแอสตันมาร์ตินข้างหน้าอย่างตะลึง

หือ?

มองไปมองไป พวกเขาพบว่า มีคนหนึ่งยืนอยู่ข้างรถแอสตันมาร์ติน

นั่น….เฉินเฟิง

ภายใต้ท้องฟ้ามืดมิด เฉินเฟิงเดินมายืนข้างรถแอสตันมาร์ตินอย่างเงียบๆ และเคาะกระจกรถเบาๆ

ในรถแข่ง หวู่เหวินโป๋หันหัวไปตามสัญชาตญาณ พอเห็นเฉินเฟิง ความอดสูในใจยิ่งหนักขึ้น ตัวสั่นเทาอย่างควบคุมไม่อยู่

เขาเปิดประตูรถอย่างสั่นเทา อ้าปากเหมือนจะพูดอะไร

จากนั้น—

ไม่รอเขาเอ่ยปาก เฉินเฟิงยื่นมือออกมาพลางยิ้มน้อยๆ

“ลงจากรถเถอะ เรื่องต่อจากนี้ยกให้พี่—พี่รับรองว่า พวกนักแข่งรถกาวลี่นั่นต้องเสียใจที่มาที่หวาเซี่ยแน่!”

พอได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง หวู่เหวินโป๋ลงจากรถโดยทันที สมองเขาหมุนไปหมด ยังไม่ก้าวหลุดพ้นความพ่ายแพ้ และยังไม่ได้ไปคิดว่าคำพูดนี้ของเฉินเฟิงแปลว่าอะไร

ลมดึกพัดผ่านมา หวู่เหวินโป๋เริ่มมีสติมากขึ้น จากนั้นเห็นจี้หงนำทีมนักแข่งรถหวาเซี่ยเดินเข้ามา

นอกจากนี้แล้ว ผูชางจวู้นยังนำทีมนักแข่งรถกาวลี่เดินมาทางนี้

“พี่เฟิง กล้าพนันต้องกล้ารับ ผมไปทำตามเงื่อนไขดีกว่า ไม่งั้นแพร่ออกไปจะทำให้วงการแข่งรถต่างชาติหัวเราะเยาะเอาได้”

พอเห็นฉากนี้ และคิดถึงคำพูดก่อนหน้านี้ของเฉินเฟิง หวู่เหวินโป๋ลังเลก่อนพูด

เขาคิดว่าเฉินเฟิงจะใช้กำลังสั่งสอนพวกกาวลี่

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท