ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 642

ตอนที่ 642

บทที่ 642 บีบให้เขารับคำท้าประลอง

ทางด้านก่วนหนานเทียน ปรมาจารย์คงเหมิง จางเทียนซือและจ้าวอู่เต้ามหาปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ต่างพากันลอบถอนหายใจ จิ่งเถิงคนนี้ยโสโอหังมาก อีกทั้งฟังจากน้ำเสียงแล้ว ยังเป็นคนที่จิตใจเหี้ยมโหดอีกแล้ว

“สมแล้วที่เป็นผู้สืบทอดตระกูลจิ่ง คำพูดคำจาแรงยิ่งกว่ากลิ่นเท้าอีก เขามั่นใจว่าตนเองสามารถเอาชนะเฉินเฟิงได้? ยิ่งไปกว่านั้น จนถึงตอนนี้เฉินเฟิงยังไม่รับคำท้าประลองเลย!”

อาจจะเป็นเพราะตระกูลจิ่งวางท่ามากเกินไป หรืออาจจะเป็นเพราะจิ่งเถิงเหิมเกริมจนเกินไป ทำให้เหล่าจอมยุทธ์ที่อยู่บนเรืออีกลำพากันเหลืออด ด้านในยังมีคนพากันบ่นพึมพำ เหน็บแนมไปต่างๆนานา

“ทางที่ดีที่สุดนายอย่ายุ่งเลยดีกว่า ปิดปากของนายให้แน่น!” แม้ว่าคนๆนั้นจะพูดเสียงเบา แต่ก็ทุกคนบนเรือก็ยังคงได้ยิน จิ่งเถิงเป็นหนึ่งในนั้นที่ปรายตามองเขา น้ำเสียงเต็มไปด้วยการข่มขู่

เผชิญหน้ากับคำขู่ของจิ่งเถิง แม้ว่าคนที่พูดจะรู้สึกไม่สบอารมณ์ แต่เมื่อคิดถึงอำนาจของตระกูลจิ่ง บอกกับสายตาของจิ่งเซ่อเหมิงที่กวาดมองมานั้น จึงทำได้เพียงก้มหน้า ไม่กล้าส่งเสียง

ไม่เพียงแค่เขา ศิษย์ในสำนักอื่นๆต่างพากันไม่พอใจจิ่งเถิง พวกเขาเอาแต่คาดหวังให้เฉินเฟิงรีบปรากฏตัวออกมา แล้วสั่งสอนจิ่งเถิงให้หลาบจำ ส่งจิ่งเถิงไปหายมบาลจะได้ให้ยมบาลสอนว่าการเป็นคนถ่อมตนนั้นเป็นยังไง

ในเวลาเดียวกันที่พวกเขากำลังคาดหวังอยู่นั้น พวกเขาอดไม่ได้ที่จะถามตนเองในใจ:เลยเวลาเที่ยงวันแล้ว เฉินเฟิงยังไม่ออกมารับคำท้า และไม่ปรากฏตัวออกมา หรือว่าเป็นอย่างที่เขาเล่าลือ กลัวที่จะต้องประลองกับจิ่งเถิง? ไม่เพียงแต่ลูกศิษย์สำนักต่างๆ จากการมาของคนตระกูลจิ่ง ทำให้รู้ถึงความแข็งแกร่งของคนตระกูลจิ่ง แม้แต่ปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้บางคนยังเริ่มคิดว่าเฉินเฟิงไม่กล้าสู้กับจิ่งเถิง

เก็บความสงสัยนี้เอาไว้ ทุกคนยังคงเฝ้ารอ ทว่าทางด้านจิ่งเถิงเดินเข้าไปในเรือเพื่อปรับสภาพของตนเอง

หลังจากหนึ่งชั่วโมงผ่านไป ลู๋เจิ้งเฟิง เจี่ยหวั้นเหาเหล่าผู้อาวุโสของยุทธภพต่างก็มาถึงที่นี่แล้ว เข้ามายังสถานที่ปิดล้อมด้วยบัตรแขกรับเชิญ ขึ้นไปยังเรือลำที่สาม

นอกเหนือจากนี้ ฉู่ชีงฉือและคนตระกูลฉู่ส่วนหนึ่งก็มาแล้ว พวกเขาเองก็ขึ้นไปยังเรือลำที่สาม

ตอนเวลาสี่โมงเย็น พระอาทิตย์เริ่มตกไปทางทิศตะวันตกแล้ว ทุกคนรอจนหมดความอดทน อดไม่ได้ที่จะพูดเสวนาไปต่างๆนานาอีกครั้ง ซึ่งหัวข้อหลักมีเพียงอย่างเดียวก็คือ:เฉินเฟิงยังจะมาไหม? ไม่มาแล้ว!

ในใจคนส่วนมากมีความคิดนี้ แต่ก็ยังคงไม่ได้ไปไหน พวกเขายังคงรอต่อไป คิดว่าจะรอจนกว่าพระอาทิตย์จะตก ถ้าถึงเวลานัดแล้วเฉินเฟิงยังไม่มา พวกเขาก็จะไป

“ในเมื่อไอ้ขี้ขลาดมันไม่กล้ามา ฉันก็จะบีบให้มันออกมาเอง!” ในเวลาเดียวกัน จิ่งเถิงมองดูพระอาทิตย์ที่เริ่มตก เขาพูดขึ้นในใจ หยิบโทรศัพท์ออกมา โทรหาลูกพี่ลูกน้องของตนเองจิ่งหริน “พี่หริน ดูท่ามันคงไม่มาแล้ว ให้มู่หยางลงมือได้เลย!”

“ได้!” ปลายสาย จิ่งหรินตอบกลับทันที จากนั้นวางสาย แล้วบอกกับมู่หยางที่อยู่ข้างๆตน:“น้องเถิงบอกว่าลงมือได้เลย”

“ขอเชิญคุณชายจิ่งหรินนำทางด้วยครับ!”

มู่หยางลุกขึ้น พูดด้วยสีหน้าไร้ความรู้สึก

เขารู้ดีคำว่าลงมือสองคำนี้หมายความว่าอะไร——ใช้ชื่อของจิ่งเถิง จับเสี้ยเมิ่งเหยาที่เป็นภรรยาของเฉินเฟิงมาเป็นสาวรับใช้!

“เสี้ยเมิ่งเหยาคนนั้นต้องขัดขืนอย่างรุนแรงแน่นอน นายจัดการอย่างมีขีดจำกัดด้วย พยายามอย่าทำให้เธอเจ็บตัว และห้ามฆ่าเธอเด็ดขาด” จิ่งหรินพูดเตือน

“วางใจเถอะครับ คุณชายจิ่งหริน คนอ่อนแออย่างเธอ ถ้าผมคิดฆ่าเธอ ตบแค่มือเดียวก็ตายแล้ว ถ้าผมไม่คิดจะฆ่าเธอ เธออยากฆ่าตัวตายยังเป็นเรื่องเพ้อฝัน!”

มู่หยางหัวเราะในลำคอ จากนั้นเดินตามจิ่งหรินเข้าไปในวิลล่าของหวู่เหวินโป๋

จากข้อมูลที่พวกเขาได้มา เมื่อคืนเสี้ยเมิ่งเหยาถูกคนส่งมาที่นี่ แต่พวกเขาไม่รู้ว่า เฉินเฟิงเองก็เก็บตัวถือศีลอยู่ที่นี่เหมือนกัน

เวลานี้ ภายในวิลล่าส่วนตัวของหวู่เหวินโป๋ เสี้ยเมิ่งเหยาและพี่น้องหวู่เหวินโป๋ หวู่เหวินเชี่ยน ทั้งยังมีมหาปรมาจารย์ด้านกระบี่อัจฉริยะหวังเฉียน รวมถึงสี่พี่น้องตระกูลเฉิน กำลังรออยู่ด้านนอกวิลล่า

เมื่อวานเสี้ยเมิ่งเหยาเพิ่งได้รู้ข่าวว่าเฉินเฟิงถูกบีบให้ประลองวรยุทธ์

หลังจากรู้ข่าว เธอก็รีบมาจงไห่ในกลางดึก

แต่เพราะเฉินเฟิงเก็บตัวถือศีลมาโดยตลอด ทำให้เธอไม่ได้เจอกับเฉินเฟิง

ในเวลานี้เอง เฉินจื๋อหลี่เดินเข้ามาด้วยความร้อนใจ เมื่อเดินเข้ามา เขาก็รีบพูดกับเฉินจื๋อเหวินทันที:“พี่ใหญ่ ท่านอาจารย์บอกผมว่า ตอนนี้ที่ทะเลสาบตะวันตกมีคนเต็มไปหมด คนแทบจะครึ่งหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยไปกันหมดแล้ว พวกเขากำลังรออาจารย์อาเฉิน”

“คนแทบจะครึ่งหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยไปกันหมดแล้ว?!”ได้ฟังคำพูดของเฉินจื๋อเหลี่ เฉินจื๋อเหวินและคนที่อยู่ในเหตุการณ์พากันตกใจ เห็นได้ชัดว่าพวกเขาคิดไม่ถึงว่า ทางด้านทะเลสาบตะวันตกหน้างานจะใหญ่ขนาดนี้

“ถ้าอย่างนั้น ฉันเข้าไปปลุกเขาเถอะ” เสี้ยเมิ่งเหยากวาดตามองทุกคน พูดด้วยความลังเล ท่ามกลางคนมากมายที่อยู่ที่นี่ มีแค่เธอคนเดียวที่สนิทสนมกับเฉินเฟิงที่สุด ดังนั้นจึงสมเหตุสมผลที่เธอจะเข้าไปเรียกเฉินเฟิง

“รออีกสักหน่อย” เวลานี้ หวังเฉียนยกมือขึ้น ห้ามเสี้ยเมิ่งเหยา จากนั้น เขาก็พูดเสียงเคร่งขรึม:“เมื่อกี้ฉันเข้าไปสำรวจรอบหนึ่งแล้ว ฉันเห็นว่าเฉินเฟิงกำลังเข้าสู่สถานะที่มีร่วมจิตร เวลานี้ เวลานี้พวกเราห้ามไปขัดจังหวะเขาเด็กขาด”

“สถานะที่มีร่วมจิตร?” ได้ยินคำพูดของหวังเฉียน ทุกคนชะงัก สถานะที่มีร่วมจิตร คือสถานะอะไร?

คล้ายว่าเห็นความสงสัยของทุกคน หวังเฉียนจึงพูดอธิบาย:“สถานะที่มีร่วมจิตรเป็นสถานะที่จอมยุทธ์เข้าสู่ไร้จิตแดนโดยบังเอิญ”

“ไร้หัวใจก็คือ ไม่ได้ใช้หัวใจ ไม่มีตนเอง ว่างเปล่า ถึงขั้นละทิ้งสติสัมปชัญญะของตนเอง ถ้ามีสติสัมปชัญญะ แล้วมีความคิดต่างๆ ไม่สามารถรวบรวมจิตวิญญาณในการพัฒนาความสามารถ หนังสือบันทึกเอาไว้ว่า:การไม่มีตนเองไม่ได้หมายถึงตนเองว่างเปล่า แต่หมายถึงความปรารถนาของหัวใจ หัวใจไม่มีเสี้ยววินาทีใดจดจ่อกับสรรพสิ่ง”

“ถ้าหากจอมยุทธ์เข้าสู่สถานะที่มีร่วมจิตร สำหรับการเรียนรู้และเข้าใจศิลปะการต่อสู้นั้นจะมีผลลัพธ์ที่เหนือความคาดหมาย——ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้มากมายล้วนบรรลุผ่านสถานะที่มีร่วมจิตร เข้าสู่แดนใหม่ทั้งหมด”

“พูดได้ว่า สำหรับจอมยุทธ์แล้วสถานะที่มีร่วมจิตรเป็นสิ่งที่พบเจอได้แต่ไม่อาจสมหมายได้ โดยปกติทั่วไปชั่วชีวิตของจอมยุทธ์เกินกว่าเก้าสิบเก้าเปอร์เซ็นต์ไม่สามารถเข้าสู่สถานะที่แสนมหัศจรรย์นี้ได้ มีเพียงอัจฉริยะศิลปะการต่อสู้จำนวนน้อยเท่านั้นที่สามารถพบเจอสถานะที่มีร่วมจิตรโดยบังเอิญขณะฝึกวรยุทธ์ จนไปถึงสุดแดนของโลกวรยุทธ์ ซึ่งนำไปสู่การเข้าสู่แดนบู๊อย่างรวดเร็ว กลายเป็นมหาปรมาจารย์”

“ในเมื่อสถานะที่มีร่วมจิตรยากขนาดนี้ ก็อย่าไปรบกวนเขาเลย รอให้เขาฟื้นมาจากสถานะที่มีร่วมจิตรก่อนค่อยว่ากัน”

หลังจากฟังหวังเฉียนอธิบายจนจบ เสี้ยเมิ่งเหยาพูดขึ้น ตบโต๊ะแล้วตัดสินใจทันที

สำหรับการตัดสินใจของเสี้ยเมิ่งเหยา คนอื่นๆไม่มีใครขัดข้อง

ถึงอย่างไรเสี้ยเมิ่งเหยาก็เคยเป็นภรรยาของเฉินเฟิง พูดได้ว่าทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ เธอเป็นคนที่สนิทสนมกับเฉินเฟิงที่สุด

อีกด้านหนึ่ง เสี้ยเมิ่งเหยาตัดสินใจแบบนี้ก็เพราะหวังดีต่อเฉินเฟิง

ดังนั้น ไม่มีใครมีเหตุผลในการขัดเสี้ยเมิ่งเหยา

อย่างรวดเร็ว เวลาผ่านไปสองชั่วโมง

จากนั้น สิ่งที่ทำให้ทุกคนคิดไม่ถึงก็คือ เฉินเฟิงยังคงอยู่ในสถานะที่มีร่วมจิตร ไม่มีท่าทีจะตื่นขึ้นมาแม้แต่น้อย

เวลานี้ หวู่เหวินโป๋ได้รับสาย

หลังจากตัดสาย สีหน้าของหวู่เหวินโป๋แปลกๆไปทันที

“พ่อของฉันบอกว่า ตอนนี้คนมีหน้ามีตาในบูโดหวาเซี่ยไปถึงสถานที่ประลองวรยุทธ์กันหมดแล้ว คนของตระกูลจิ่งก็ถึงแล้ว รอพี่เฟิงคนเดียว”

“ตอนนี้สี่โมงกว่าแล้ว ถ้ายังไม่บอกพี่เฟิง กลัวว่าจะไม่ทันเวลา”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน