ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 666

ตอนที่ 666

บทที่ 666 วิชาหายใจที่ลึกลับ

“ตุบ”

ชั่วอึดใจก็มีเสียงหนักๆดังขึ้นครั้งหนึ่ง ร่างใหญ่โตของหมีดำล้มลงกับพื้นก่อนจะกระตุกเกร็งพักหนึ่งแล้วแน่นิ่งไป

ฆ่าหมีได้ในดาบเดียว ร่างกายเปื้อนไปด้วยเลือด

ใบหน้าของฉู่เหอไม่มีแววของความดีใจ มีเพียงความเย็นชาเท่านั้นบวกกับร่างกายที่เปื้อนไปด้วยเลือดและกลิ่นอายนักฆ่าที่แผ่ซ่านออกมาส่งผลให้เขาดูเป็นคนกระหายเลือด

ซึ่งความจริงแล้วก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

ในช่วงระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา นอกจากฝึกการต่อสู้แล้วเขาก็ต้องพบเจอกับเลือดทุกวัน สัตว์ป่าที่ตายด้วยน้ำมือเขานั้นมากมายจนนับไปถ้วน

นอกจากนี้เขายังเคยฆ่าคนแถมยังไม่ใช่แค่คนเดียวเสียด้วย

เพื่อเป็นการฝึกฝนวิชาของฉู่เหอ หวังอีเตาเคยให้คนรับภารกิจฆ่าคนอย่างลับๆแล้วมอบหมายให้เขาไปทำ!

“อาจารย์!”

ในขณะที่ฉู่เหอกำลังจะหันหลังจากไป ก็มีชายแขนด้วนวัยกลางคนปรากฏตัวอยู่ตรงหน้า เขาจึงรีบปรี่เข้าไปทักทายและค้อมตัวทักทายด้วยความเคารพเป็นอย่างสูง

เพราะว่าหวังอีเตาคนที่อยู่ตรงหน้าคือคนที่เขาเคารพและผูกพันที่สุดในชีวิต!

“เตรียมตัวเร็วเข้า เราจะไปจากที่นี่” หวังอีเตาเอ่ยเสียงต่ำ

“อาจารย์ ครั้งนี้อาจารย์รับภารกิจอะไรให้ผมหรือ?”

ฉู่เหออดที่จะเอ่ยถามขึ้นมาไม่ได้ ที่ผ่านมาทุกครั้งที่หวังอีเตาพาเขาไปด้วยล้วนมีภารกิจที่ต้องทำ พูดให้ถูกคือไปฆ่าคน

“ครั้งนี้ไม่ใช่ไปทำภารกิจแต่ไปลบล้างความอัปยศ!” ม่านตาของหวังอีเตาหดแคบลงพลางกัดฟันเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เต็มไปด้วยความเคียดแค้น

“ลบล้างความอัปยศหรือ?” ฉู่เหอเกิดความสงสัย

“การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกใกล้จะเริ่มขึ้นแล้ว ตอนนี้แต่ละประเทศมีโควตาเพียงแค่หนึ่งคนเท่านั้น ทางสหพันธ์บูโดคัดเลือกผู้สมัครไว้สามสี่คน จากนั้นจะให้ผู้สมัครมาแย่งชิงโควตาเพียงหนึ่งเดียว”

หวังอีเตาเอ่ยอธิบาย “หนึ่งในผู้สมัครคือแกและศิษย์น้องของเย่เทียนหนาน!”

“อย่างนี้นี่เอง!” ฉู่เหอกระจ่างในทันที

“หวังว่าแกจะไม่ทำให้ฉันผิดหวัง” หวังอีเตามองหน้าฉู่เหอด้วยแววตาลึกซึ้ง

ในตอนแรกเพื่อที่จะให้คนนอกอย่างฉู่เหอมาสืบทอดศิลปะการต่อสู้ตระกูลหวัง เขาแทบจะแตกหักกับสมาชิกตระกูลหวังคนอื่นๆ ทว่าสุดท้ายเขาก็ยังยืนหยัดในการตัดสินใจของตนเอง

“ตระกูลหวังล่มสลายไม่เป็นไรแต่ศิลปะการต่อสู้ตระกูลหวังจะล่มสลายไม่ได้และจะไม่มีการสืบทอดต่อไม่ได้เด็ดขาด ความอัปยศของตระกูลหวังต้องถูกลบล้าง!” นี่คือประโยคที่หวังอีเตาเคยเอ่ยกับคนในตระกูลเมื่อครั้งแตกหักกัน

และเป็นเพราะประโยคนี้เองที่ทำให้หวังอีเตาโน้มน้าวคนในตระกูลได้ เนื่องจากก่อนหน้านี้ในฐานะทายาทตระกูลหวังอย่างเขาเคยพ่ายแพ้ให้กับเย่หนานเทียน!

นั่นคือความอัปยศที่สุดในชีวิตของเขารวมถึงตระกูลหวัง!

และที่เขาเลือกฉู่เหอเป็นทายาทก็เป็นเพราะเขาเห็นพรสวรรค์ด้านศิลปะการต่อสู้ของฉู่เหอ หวังว่าสักวันฉู่เหอจะแข็งแกร่งขึ้นและลบล้างความอัปยศให้แก่ตระกูลหวัง!

เพื่อบรรลุเป้าหมายในข้อนี้ เขาไม่เพียงแต่ถ่ายทอดวิชาดาบของตระกูลหวังให้แก่ฉู่เหอเท่านั้น เขายังมอบดาบซวนหยวนซึ่งเป็นดาบประจำตระกูลหวังให้แก่ฉู่เหอ อีกทั้งยังตั้งใจออกแบบแผนการฝึกวิชาทั้งหลายแก่ฉู่เหออีกด้วย

หนึ่งในนั้นรวมถึงภารกิจการฆ่าคนด้วย

ตอนนั้นเขาพ่ายแพ้ให้แก่เย่หนานเทียนถูกเย่หนานเทียนฟันแขนด้วนไปข้างหนึ่ง เขาต้องแบกรับความอัปยศครั้งใหญ่ในชีวิต ตอนหลังเขาเรียนรู้จากความเจ็บปวดและได้ข้อสรุปออกมาว่าความสามารถของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเย่หนานเทียน เพียงแต่ประสบการณ์การฆ่าฟันไม่เพียงพอเลยทำให้เขาพ่ายแพ้

เขาไม่อยากให้ฉู่เหอประวัติศาสตร์ซ้ำรอยกับเขา! ในทีแรกตามแผนการของเขานั้นเขาอยากปั้นฉู่เหอให้เป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในโลก เพื่อที่วันหนึ่งจะได้ไปฆ่าเย่หนานเทียนแทนเขา

อย่างไรก็ตาม คนเราไม่อาจชนะโชคชะตา เย่หนานเทียนถูกรุมทำร้ายโดยผู้แข็งแกร่งอันดับเทพจนพิการ ทำให้แผนของหวังอีเตาต้องล้มเลิกไป

เมื่อไร้ทางเลือกอื่นเขาจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนแผน โดยให้เฉินเฟิงกลายเป็นผู้เสียสละในการลบล้างความอัปยศของเขาและตระกูลหวัง!

เขารู้ว่าเฉินเฟิงก็ถือเป็นศิษย์ของเย่หนานเทียนอยู่ครึ่งหนึ่ง และในปัจจุบันเซียวกั่วจงก็ตัดขาดจากโลกภายนอกไปแล้ว นี่จึงเป็นโอกาสในการแก้แค้นที่ดีที่สุดของเขา!

“อาจารย์ ตอนนั้นเย่หนานเทียนฟันแขนอาจารย์ขาด ตอนนี้ผมจะตัดหัวศิษย์น้องมันเอง!”

ฉู่เหอเอ่ยรับ กลิ่นอายนักฆ่าแผ่ซ่านออกมาจากเขา ความรู้สึกนั้นแทบจะอยากฆ่าเฉินเฟิงให้ตายในทันที “หากผมทำไม่ได้ ผมจะปลิดชีวิตตัวเองกลางสนาม!”

เมื่อแสงแรกของวันส่องผ่านไปทั่วท้องฟ้า เฉินเฟิงนั่งขัดสมาธิอยู่บนสนามหญ้าในลานบ้านที่เป็นอาคารสองชั้นของเย่หนานเทียน เขาหันหน้าไปทางดวงอาทิตย์พลางหายใจเข้าหายใจออกเรื่อยๆ

ภายใต้แสงแรกของวัน ลมหายใจของเขาบ้างหนักบ้างเบา บ้างเร็วบ้างช้า บริเวณร่องจมูกสามารถมองเห็นหมอกสีขาวสะท้อนกับแสงอาทิตย์ลอยเข้าๆออกๆดูน่าอัศจรรย์

ในสองวันที่ผ่านมา เขานั่งอยู่ตรงนี้ตลอด ในระหว่างที่อยู่เป็นเพื่อนเย่หนานเทียนเขาก็ถือโอกาสนี้ฝึกฝนวิชาจากเย่หนานเทียนไปพลาง

ถึงแม้เย่หนานเทียนจะถูกผู้แข็งแกร่งอันดับเทพรุมทำร้ายจนพิการ ทว่ายังไงเขาก็เป็นศิษย์พี่ของเฉินเฟิงและรู้จักเฉินเฟิงเป็นอย่างดี อีกทั้งยังมีประสบการณ์การฝึกฝนการต่อสู้และการฆ่าฟันมาอย่างมากมาย แค่มองแวบเดียวก็สามารถระบุปัญหาของเฉินเฟิงได้แล้วซึ่งทำให้เฉินเฟิงได้ประโยชน์ไม่น้อย

พรึ่บ!

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหน ฉับพลันเฉินเฟิงก็ลืมตาขึ้น แววตาใสแจ๋ว ควันสีขาวบริเวณร่องจมูกสลายหายไปในพริบตา

“วิชาหายใจที่อาจารย์ถ่ายทอดให้พวกเรานั้นไม่ธรรมดาเลย”

บริเวณไม่ไกล เย่หนานเทียนที่นั่งอยู่บนรถเข็นเมื่อเห็นเฉินเฟิงลืมตาขึ้นก็อดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้

ระยะเวลาสองวันที่ผ่านมา ทุกครั้งที่เฉินเฟิงฝึกวิชา เย่หนานเทียนจะคอยดูอยู่ข้างๆเสมอ ถึงแม้เขาและเฉินเฟิงจะฝึกวิชาหายใจแบบเดียวกัน ทว่าในตอนนั้นเขาเข้าไม่ถึงแก่นแท้ของวิชาหายใจทว่าตอนนี้เฉินเฟิงทำได้แล้ว

และนี่คือสาเหตุหลักที่ทำให้เฉินเฟิงผ่านมาถึงขั้นหั้วจิ้งได้ตั้งแต่อายุไม่ถึงยี่สิบห้าปี!

ในตอนนี้ในระหว่างการหายใจเข้าออกของเฉินเฟิงราวกับมีสัมผัสบางอย่างระหว่างฟ้าดิน ดั่งฟ้าดินรวมเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

“อาจารย์บอกว่าวิชาหายใจนี้มีนักบวชเต๋าท่านหนึ่งถ่ายทอดให้กับเขาในยุคสงคราม ดูจากในตอนนี้นักบวชเต๋าท่านนั้นคงมีที่มาที่ไปไม่ธรรมดา” เฉินเฟิงเอ่ยอย่างเคร่งขรึม ที่เซียวกั่วจงได้เป็นถึงมหาปรมาจารย์ก็เป็นเพราะวิชาหายใจนี้ แล้วนักบวชเต๋าเจ้าของวิชาหายใจนี้จะมีความสามารถที่น่ากลัวสักเพียงใด?

“ลำดับขั้นของนักบวชเต๋าท่านนั้นคงไม่ใช่สิ่งที่แกและฉันจะคาดเดาได้ แต่จากที่ฉันรู้บนโลกนี้ยังมีวิชาหายใจแบบอื่นอีก” เย่หนานเทียนเอ่ยเสียงต่ำ

“ศิษย์พี่ บนโลกนี้ยังมีวิชาหายใจแบบอื่นอีกหรือ?” เฉินเฟิงใจกระตุกครั้งหนึ่งก่อนเอ่ยถาม

“มี”

เย่หนานเทียนพยักหน้าตอบก่อนเอ่ย “วิชาหายใจที่แกเรียกอยู่มีชื่อเรียกที่ถูกต้องคือพลังภายใน ในวงการศิลปะการต่อสู้ยุคโบราณ จอมยุทธ์ต้องฝึกพลังภายในก่อนแล้วค่อยฝึกกระบวนท่าในการต่อสู้ แต่สังคมพัฒนามาจนถึงปัจจุบันซึ่งเข้าสู่ยุคเทคโนโลยีแล้ว ศิลปะการต่อสู้จึงสูญหายไปรวมถึงขาดการสืบทอดต่อ วงการศิลปะการต่อสู้ในยุคปัจจุบันนอกจากศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่แล้วก็แทบจะไม่มีใครรู้จักพลังภายในแล้ว ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเรื่องการฝึกฝน”

“แสดงว่าจิ่งเถิงคนที่ผมฆ่าก็ฝึกพลังภายในด้วยใช่ไหม?” เฉินเฟิงกระจ่างในทันทีก่อนเอ่ยถาม

“อืม เหมือนที่ฉันบอกไป รวมถึงตระกุลจิ่ง ศิลปะการต่อสู้แห่งตระกูลใหญ่ สำนักและอำนาจมืดที่ถ่ายทอดมายาวนานเหล่านั้น อีกทั้งแต่ละที่ก็มีการถ่ายทอดศิลปะการต่อสู้ที่สมบูรณ์ต่อๆกันมา รวมถึงพลังภายใน และเพราะเหตุนี้พวกเขาถึงผ่านเข้าขั้นหั้วจิ้งได้ตั้งแต่อายุยังน้อย”

เย่หนานเทียนพยักหน้าน้อยๆพลางเอ่ยอธิบาย “ก่อนอายุสามสิบไม่มีขั้นหั้วจิ้ง ประโยคนี้มีไว้สำหรับคนที่ไม่เคยฝึกพลังภายในมาก่อน แน่นอนว่าถึงแม้จะฝึกพลังภายใน แต่ก็จะมีเพียงอัจฉริยะในอัจฉริยะเท่านั้นที่จะสามารถผ่านเข้าขั้นหั้วจิ้งได้ก่อนอายุสามสิบ”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน