ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 665

ตอนที่ 665

บทที่ 665 ยอดเยี่ยม

“อืม”

ประมุขตระกูลจีพยักหัว แล้วพูดเตือนว่า “แต่คุณก็อย่าได้ประมาทศัตรู ชายหนุ่มคนที่ชื่อเฉินเฟิง สามารถฆ่าทายาทตระกูลจิ่งได้ นับว่าเป็นคนมีฝีมือ”

“อีกอย่าง ครั้งนี้ นอกจากคุณแล้ว สำนักกระบี่เทียนซาน พระพุทธเจ้าแห่งศาสนาพุทธภาคตะวันตก กับทายาทหวังอีเตาน่าจะต่างก็ออกสู่ยุทธภพ ไปชิงตำแหน่งตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก”

“คุณปู่วางใจ ตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ผมต้องเอามาได้อย่างแน่นอน” สีหน้าจียุ่นยิ้มเย้ย รอยยิ้มเต็มไปด้วยความมั่นใจ “นอกจากนี้ ผมจะทำให้ศิลปะการต่อสู้ของตระกูลจี เป็นที่น่าเกรงขามในเวทีการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก”

……

ลาซาใต้เป็นเมืองแห่งศาสนาพุทธ เป็นหนึ่งในสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ของหวาเซี่ยตลอดจนชาวพุทธในโลก พระราชวังโปตาลาที่มีชื่อเสียงระดับโลก

พระพุทธศาสนาลาซาใต้เป็นพระพุทธศาสนาทิเบต เป็นที่รู้จักกันในนามพระพุทธศาสนาเหนือ กับพระพุทธศาสนาฮั่น พระพุทธศาสนาภาคใต้ รวมเรียกว่าพระพุทธศาสนาสามระบบ เป็นส่วนหนึ่งในพระพุทธศาสนามหายาน ใช้การถ่ายทอดลึกลับเป็นหลักสำคัญ

ตอนเที่ยง บนเขาไม่ทราบชื่อแห่งหนึ่ง ห่างจากลาซาใต้ร้อยกว่ากิโลเมตร คนหัวโล้นคนหนึ่ง เป็นชายหนุ่มในชุดดำ ดวงอาทิตย์อยู่บนศีรษะ หาฟืนมากองไว้ เตรียมที่จะจุดไฟ

ก่อนหน้านี้หนึ่งชั่วโมง ในมือเขาถือก้อนหิน โยนฆ่านกตายไปห้าตัว หลังจากนั้นก็ถอนขนล้างให้สะอาด เตรียมปิ้งย่างมื้อใหญ่สักมื้อ

“ศีลสาม คุณผิดศีลอีกแล้วนะ”

หลังจากนั้นสักพัก ในขณะที่ชายหนุ่มกำลังจุดไฟ เตรียมที่จะย่างนก พระภิกษุวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมเดินมาด้วยใบหน้าดำคล้ำ “คุณไม่เพียงฆ่าสัตว์ตัดชีวิต ยังผิดศีลทาเนื้อสัตว์”

“พระภิกษุ คุณมาอีกแล้ว ผมบอกตั้งหลายครั้งแล้ว หากคุณไม่ชอบผม ก็ไล่ผมออกไปจากพระพุทธศาสนา ผมจะได้ไปทานอะไรอร่อยๆ แล้วก็ลองชิมผู้หญิงดูว่าเป็นอย่างไร” เมื่อได้ยินคำพูดของพระภิกษุวัยกลางคน และเห็นพระภิกษุวัยกลางคนกำลังเดินมา ชายหนุ่มพูดขึ้น พร้อมเอานกหลายตัวที่เสียบไม้เสร็จแล้ว วางบนไฟ “ผมจะบอกให้ ตอนนั้นผมถูกพวกคุณหลอกลวงให้เข้ามาในพระพุทธศาสนา ได้ทำลายท้องไส้จนหมดสิ้นแล้ว ประตูพระพุทธโดยทั่วไปล้ำลึกเท่าทะเล ตอนนี้ผมคิดแต่ว่าจะออกจากทะเลแห่งความทุกข์โดยเร็วที่สุดได้ยังไง”

“….”

ใบหน้าพระภิกษุวัยกลางคนยิ่งดำ หนังตรงหางตากระตุกอย่างแรง มุมปากบิดเบี้ยว ความรู้สึกนั้น อยากที่จะตบชายหนุ่มให้ตาย

ความจริงแล้ว หลายปีที่ผ่านมานี้ เขาเคยอยากที่จะไล่ชายหนุ่มออกไปจากพระพุทธศาสนาอยู่นับครั้งไม่ถ้วน และก็เคยคิดที่จะตบชายหนุ่มตายอย่างนับครั้งไม่ถ้วน แต่สุดท้ายก็อดทนไว้

เพราะ ชายหนุ่มเป็นประมุขพระพุทธเจ้าแห่งศาสนาพุทธภาคตะวันตก ปรมาจารย์พระพุทธศาสนาที่เป็นอาจารย์เทพคนนั้นเลือกมาเป็นทายาทด้วยตนเอง ใช้คำพูดของอาจารย์เทพคนนั้น พูดว่าชายหนุ่มมีพรสวรรค์ในด้านศิลปะการต่อสู้ที่ดีเยี่ยม และยังมีการตรัสรู้

สำหรับพรสวรรค์ในด้านศิลปะการต่อสู้ที่ดีเยี่ยมของชายหนุ่มนั้น พระภิกษุวัยกลางคนไม่มีอะไรจะพูด ความสามารถในด้านการฝึกศิลปะการต่อสู้นั้นมีสูงมาก อายุเพิ่งย่างเข้ายี่สิบแปดก็ถึงแดนหั้วจิ้งชั้นต้น

และในด้านการฝึกศิลปะการต่อสู้ของชายหนุ่มนั้น ไม่ต้องลำบากเลยสักนิด

ใช่ การที่ชายหนุ่มคนนี้ตกปลาสามวันตากแดดสองวันนั้นล้วนเป็นไปตามอารมณ์ สำหรับเขาแล้ว ในเมื่อเป็นถึงทายาทพระพุทธศาสนา ก็ต้องรักษาศีลไปพร้อมๆกับการฝึกศิลปะการต่อสู้

หากไม่เช่นนั้น ด้วยพรสวรรค์ของชายหนุ่ม หากตั้งใจฝึกฝนอย่างตั้งใจ ตอนนี้อย่างน้อยคงถึงแดนหั้วจิ้งชั้นกลาง เอาชนะจอมยุทธ์ในรุ่นเดียวกันได้อย่างสบาย

ส่วนที่บอกว่าชายหนุ่มมีการตรัสรู้….

เขาคิดไม่ออก คนคนหนึ่งที่ไม่เคยสวดมนต์ แม้กระทั่งคำภีร์ก็ไม่เคยอ่าน จะมีความเกี่ยวข้องกับการตรัสรู้ได้อย่างไร?

ยิ่งไปกว่านั้น ชายหนุ่มฆ่าสัตว์ตัดชีวิตมาตั้งแต่เล็กจนโต งดเนื้อกับงดเหล้า?

หากไม่ใช่เพราะที่นี่กันดาร ภายในบริเวณสิบลี้ แม้แต่ไก่ตัวเมียสักตัวก็คงไม่มี เขายังสงสัยว่าชายหนุ่มจะผิดศีลทางเพศ เมื่อกี้ยังเพิ่งพูดว่าอยากลิ้มลองผู้หญิง ว่ารสชาติเป็นยังไง

ความดื้อรั้นต่างๆของชายหนุ่ม พระภิกษุวัยกลางคนไปพูดกับอาจารย์เทพพระพุทธเจ้าแห่งศาสนาพุทธภาคตะวันตกหลายครั้งแล้ว แต่ก็ไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง

อาจารย์เทพพูดว่า พระพุทธศาสนาไม่ได้อยู่ที่ภายนอก พระพุทธศาสนามีอยู่ภายในใจ

พระภิกษุวัยกลางคนไม่เข้าใจ และก็ไม่รู้จะเถียงยังไง ทำได้เพียงเก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ สุดท้ายตั้งชื่อให้กับชายหนุ่มคนนี้ว่าศีลสาม หวังว่าชายหนุ่มจะสามารถเปลี่ยนจากความชั่ว มาปฏิบัติตามหลักคำสอนศาสนาพุทธจริงๆ

แต่ตอนนี้ดูแล้ว ชายหนุ่มไม่เพียงรักษาศีลสามไม่ได้ ดูสีท่าแล้วศีลสี่ก็จะขาดแล้ว

“ปัง….” พระภิกษุวัยกลางคนโกรธจัดมาก ไม่มีคำพูดใดๆ ร่างของเขาขยับ และเขาก็ปรากฏตัวต่อหน้าชายหนุ่ม เตะกองไฟตรงหน้าชายหนุ่มทันที

“พระภิกษุ คุณทำเกินไปแล้วนะ” ชายหนุ่มที่ชื่อศีลสามโกรธมาก พระภิกษุวัยกลางคนสีหน้าดำคล้ำ จ้องมองชายหนุ่ม และกำลังคิดอยู่ว่าจะสั่งสอนชายหนุ่มดีไหม

“เห้อ คุณรอไปก่อน รอผมผ่านแดนหั้วจิ้งชั้นกลาง เรามาคิดบัญชีเก่าใหม่กันทั้งหมด ถ้าไม่ได้สู้กับคุณจนร้องไห้หาฟ้าดิน ถือว่าผมแพ้”

ชายหนุ่มดูออกว่าพระภิกษุวัยกลางคนอยากจะลงมือ แต่ก็ไม่หวาดกลัวเลยสักนิด ยังไงเขาก็เคยถูกทำโทษมาหลายครั้งแล้ว เคยชินแล้ว ก็หวั่นหากจะต้องโดนอีกสักครั้ง

“ผมรอวันนั้นให้มาถึงโดยเร็ว แต่คุณจะไปถึงแดนนั้นได้หรือ?” พระภิกษุพูดขึ้นอย่างไม่แยแส

“พระภิกษุ คุณไม่ต้องมากดดันผม สิ่งที่ควรมาถึงยังไงก็จะมาถึง เป็นเรื่องของเวลาเท่านั้น” ศีลสามเม้นริมฝีปาก ท่าทีความคิดนั้นของคุณ มันซ่อนผมไม่ได้หรอก

“คุณคิดว่าคุณเก่งมาก หรือยังคงพอใจกับความสำเร็จในศิลปะการต่อสู้ที่มีไม่มากของคุณ ก็ดี ครั้งนี้จะให้คุณได้ไปเปิดหูเปิดตา ให้คุณรู้ว่าใต้ฟ้ายังมีฟ้า คนยังมีคนเหนือคน” พระภิกษุวัยกลางคนพูดขึ้นอย่างโกรธจัด

“พระภิกษุ คุณไม่ได้คิดที่จะให้ผมไปประลองฝีมือกับทายาทพระพุทธศาสนาอินเดีย คนนั้นอีกใช่ไหม? ไม่ไป ตีให้ตายก็ไม่ไป ฝึกศิลปะการต่อสู้ก็ฝึกศิลปะการต่อสู้ จะประลองกันทำไม” สีหน้าศีลสามไม่ยอมแพ้ เริ่มแรกพระพุทธเจ้าแห่งศาสนาพุทธภาคตะวันตกอยากให้

ศีลสามเข้มแข็ง จึงได้ติดต่อทายาทพุทธศาสนาอินเดีย ให้ทั้งสองคนได้ประลองฝีมือกัน สุดท้ายเริ่มประลองกันได้ไม่นาน ศีลสามกับยอมแพ้ขึ้นมาเฉยๆ ทำให้คนของพระพุทธเจ้าแห่งศาสนาพุทธภาคตะวันตกอับอายขายหน้ามาก

“อาจารย์เทพให้ผมพาคุณไปยันเจียง เข้าร่วมชิงตำแหน่งตัวแทน เข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก” พระภิกษุวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยเสียงต่ำว่า “นอกจากคุณแล้ว ทายาทสำนักกระบี่เทียนซาน ตระกูลจีกับราชาดาบหวังอีเตาก็เข้าร่วมด้วย”

“ไปยันเจียง? ดี ดี เราจะออกเดินทางกันเมื่อไหร่? ไปตอนนี้เลยไหม?” สีหน้าศีลสามยินดีเป็นอย่างยิ่ง แววตาเป็นประกาย ไม่พูดถึงการแข่งขันศิลปะการต่อสู้เลยสักคำ

อันนั้นเกี่ยวข้องอะไรกับเขา?

เขาสนใจที่จะไปยันเจียงเท่านั้น

เพราะเขาอยากที่จะไปท่องโลกคาวโลกีย์แต่แรกแล้ว แต่กลับติดอยู่ที่กันดารแบบนี้มาตลอด ไม่มีความอิสระเลย

“….”

พระภิกษุวัยกลางคนไม่พูดอะไร สีหน้าแสดงท่าทีเต็มไปด้วยความเกลียดชังอย่างยิ่ง

เพราะเขาก็รู้ ศีลสามไม่ได้สนใจที่จะเป็นตัวแทน เข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก อยากที่จะไปท่องโลกคาวโลกีย์เท่านั้น

……

ในขณะเดียวกัน

ในป่าลึกทางตะวันตกเฉียงใต้แห่งหนึ่ง

“พัฟ….”

พร้อมกับไฟสีขาวกระพริบ หัวของหมีดำถูกดาบฟันขาดเป็นสองท่อน เลือดพุ่งออกมา เหมือนดั่งสายฝน

ชายหนุ่มเปลือยกายท่อนบนคนหนึ่ง อาบไปด้วยสายฝนโลหิต เปื้อนเลือดของหมีดำจนกลายเป็นสีแดง ดาบในมือกลับสว่างใสแวววาว ไม่มีเลือดเปื้อนติดเลยสักนิด

ฆ่าคนโดยไม่เปื้อนเลือด

ดาบในมือของเขามีชื่อว่าดาบซวนหยวน เป็นดาบล้ำค่าที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษ

เขาชื่อฉู่เหอ เป็นทายาทตระกูลหวัง หวังอีเตาคัดเลือกมาเองกับมือ

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท