ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 669

ตอนที่ 669

บทที่ 669 จียุ่นเหิมเกริม

“สวัสดีครับปรมาจารย์ฟางเจิ้ง” ก่วนหนานเทียน อู่จื่อโจวเอ่ยตอบรับโดยไม่ได้นัดหมาย ส่วนเย่หนานเทียนหรี่ตามองศีลสามแล้วอดไม่ได้ที่จะเอ่ยพร้อมถอนหายใจ “ฟางเจิ้ง นายหาทายาทได้ดีนี่”

“ผู้อาวุโสเย่ เราไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี เพิ่งเจอกันคุณอย่าเพิ่งพูดประชดผมเลย” ปรมาจารย์ฟางเจิ้งเอ่ยอย่างกลุ้มใจ เขาคิดว่าเย่หนานเทียนกำลังพูดถึงเรื่องเมื่อสักครู่ ทว่ากลับไม่รู้ว่าเย่หนานเทียนมองเห็นพรสวรรค์ในตัวศีลสาม

“พระสงฆ์ผู้ยิ่งใหญ่ นายไม่คิดว่าผู้อาวุโสเย่หนานเทียนกำลังพูดประชดฉันหรือ? นายเป็นศิษย์พี่ฉันจริงหรือเปล่า?”

ศีลสามเบะปากก่อนจะเอ่ยทักทายคนอื่นๆ “สวัสดีครับท่านประมุขก่วน หัวหน้าอู่ ผู้อาวุโสเย่”

เมื่อเอ่ยจบศีลสามก็เบนสายตาไปจับจ้องเฉินเฟิงที่ยืนอยู่ด้านหลังของเย่หนานเทียน ราวกับได้เจอโลกใบใหม่ “นายคือเฉินเฟิงที่ฆ่าจิ่งเถิงในตำนานใช่ไหม? เป็นอย่างที่เขาเลื่องลือจริงๆ ดีใจที่ได้รู้จักนาย ฉันมีนามว่าศีลสาม หลังจบการคัดเลือก พาฉันไปเที่ยวชมยันเจียงที!” ถึงแม้ศีลสามจะเอ่ยคำพูดที่ทำให้พระสงฆ์วัยกลางคนแทบกระอักเลือด ทว่ากับเฉินเฟิงกลับพนมมือ เพราะนี่เป็นมารยาทของพระพุทธศาสนา

“สวัสดีศีลสาม” เฉินเฟิงยิ้มตอบพลางยกมือคารวะ เขารู้สึกว่าพระสงฆ์เยาวชนคนตรงหน้ามีสีสันดี

ในขณะเดียวกัน หางตาของเขาก็เหลือบไปเห็นชายสวมเสื้อคลุมยาวสองคนกำลังมุ่งมาทางนี้อย่างรวดเร็ว

ด้านก่วนหนานเทียน อู่จื่อโจว เย่หนานเทียนรวมถึงฟางเจิ้งและศีลสามก็หันไปจับจ้องคนมาใหม่

ชั่วอึดใจคนมาใหม่ก็ลดความเร็วลงแล้วเดินมุ่งมาทางที่ทุกคนยืนอยู่ ทั้งสองคนสวมเสื้อคลุมยาวเหมือนกัน คนหนึ่งเป็นชายวัยกลางคนสวมเสื้อคลุมยาวสีเทา ส่วนอีกคนเป็นเยาวชนสวมเสื้อคลุมยาวสีขาว

“ได้ข่าวว่าศาสนาพุทธภาคตะวันตกฝึกฝนทายาทสุดแปลกคนหนึ่ง วันนี้ได้มาเห็นกับตาเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ!” เดินๆอยู่เยาวชนเสื้อคลุมขาวก็กวาดสายตามองทีละคนก่อนที่สายตาจะหยุดอยู่ที่ศีลสาม

“นายเป็นใคร?” ถึงแม้ศีลสามจะเป็นคนเฮฮา ไม่ชอบการตีรันฟันแทง ทว่าเมื่อโดนดูถูกก็มีน้ำโหอยู่บ้าง เขาขมวดคิ้วมุ่นพลางเอ่ยถาม

อย่างไรก็ตาม

เยาวชนเสื้อคลุมขาวกลับไม่เห็นศีลสามอยู่ในสายตา ทว่าหันไปจับจ้องเฉินเฟิงด้วยสายตาเย็นชาก่อนเอ่ยอย่างเน้นย้ำ “ตระกูลจีของเราเป็นศัตรูกับตระกูลจิ่งมาช้านาน ความจริงแล้วจิ่งเถิงคือคู่ต่อสู้ที่ฉันเล็งไว้แต่แกกลับชิงตัดหน้าไปก่อน แค้นนี้เราต้องมาชำระกันหน่อย!”

“คุณจะชำระยังไง?”

เฉินเฟิงคิ้วกระตุกครั้งหนึ่ง จากคำพูดของเยาวชนเสื้อคลุมขาวเขาสามารถเดาได้ว่าอีกฝ่ายเป็นใคร เพียงแต่เขารู้สึกว่าอีกฝ่ายบ้าคลั่งเกินไปไม่เพียงแต่ไม่มีมารยาท แถมยังท้าทายกันตั้งแต่เจอหน้าครั้งแรก คงอยากถูกจัดการจริงๆ

“เมื่อการคัดเลือกเริ่มต้นขึ้น ฉันจะส่งแกกลับบ้านเป็นคนแรก!” จียุ่นชะงักฝีเท้า เชิดหน้าขึ้นแล้วมองเหยียดเฉินเฟิง ความรู้สึกนั้นเหมือนเฉินเฟิงคือแมลงวันที่เขาสามารถฆ่าได้ทุกเมื่อ

“ยุ่นเอ๋อ อย่าเสียมารยาท”

ครั้งนี้ไม่ต้องรอให้เฉินเฟิงเอ่ยปาก ชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างจียุ่นก็เอ่ยปากขึ้นก่อน

เขาคือจีอู๋ฉางบิดาของจียุ่น เป็นทายาทรุ่นก่อนของตระกูลจี เคยเอาชนะเย่หนานเทียนได้

ไม่มีใครรู้จักลูกดีกว่าคนเป็นพ่อแล้ว

ในฐานะบิดาของจียุ่น เขารู้จักนิสัยของลูกชายตัวเองดี

พรสวรรค์ด้านการต่อสู้ของจียุ่นนั้นแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไป เขาถูกฝึกฝนในฐานะทายาทตระกูลจีมาตั้งแต่เด็ก บวกกับเป็นคนไม่ยอมแพ้จึงประสบความสำเร็จในด้านศิลปะการต่อสู้ไม่น้อย

ทั้งหมดนี้ส่งผลให้จียุ่นมีนิสัยก้าวร้าว นอกจากผู้อาวุโสในตระกูลแล้วเขาก็แทบไม่เห็นคนอื่นอยู่ในสายตา

และในตอนนี้จียุ่นที่เพิ่งปรากฏตัวก็หาเรื่องศีลสามทายาทของศาสนาพุทธตะวันตกและเฉินเฟิงเสียแล้ว ซึ่งไม่ใช่เรื่องดีสำหรับจียุ่นแน่นอน

เนื่องจากจนถึงตอนนี้ทางสหพันธ์บูโดยังไม่ได้ประกาศกฎเกณฑ์ในการคัดเลือก หากผู้สมัครทั้งสี่คนต้องแข่งขันกันเองล่ะก็ การสร้างศัตรูของจียุ่นในตอนนี้เป็นเรื่องที่โง่เขลามาก!

ถึงแม้จียุ่นจะสามารถเอาชนะศีลสามและเฉินเฟิงได้แต่ก็คงต้องมีบาดแผลบ้าง แล้วเขาจะไปแข่งกับคนอื่นได้อย่างไร? จะเฉิดฉายในการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกได้อย่างไร? แล้วนอกเหนือจากเรื่องนี้ที่ต้องกังวลแล้ว ตัวจีอู๋ฉางเองก็ชื่นชมเย่หนานเทียนมาก

ในตอนที่เย่หนานเทียนต่อสู้กับเขา อีกฝ่ายก็แพ้อย่างสูสี อีกทั้งยังจบไม่สวยจึงทำให้เขาเสียดายอยู่บ้าง เขาไม่อยากให้ฮีโร่คนนี้ต้องมีสีหน้าย่ำแย่ในช่วงบั้นปลาย

เมื่อได้ยินคำกล่าวเตือนของจีอู๋ฉาง จียุ่นจึงจำเป็นต้องเก็บท่าทีเสียมารยาทโดยไม่พูดไม่จา ทว่าสายตาที่จับจ้องเฉินเฟิงก็ยังคงไว้ซึ่งการเหยียดหยาม

“จียุ่น ถึงแม้ฉันจะไม่ชอบการต่อยตี แต่นายมาท้าทายฉันแบบนี้ไม่ได้ ฉันจะบอกอะไรให้นะเสี่ยวจียุ่น วันหลังฉันจะต่อยนายจนต้องร้องไห้ฟูมฟายแน่นอน!”

ศีลสามกลับเป็นฝ่ายไม่พอใจ เขาเป็นคนไม่เอาไหน ไม่สนใจการแย่งชิงด้านศิลปะการต่อสู้ ทว่าภายในกลับเป็นคนไม่ยอมคน ถ้าเกิดฟิวส์ขาดขึ้นมาเอาวัวสิบตัวมาลากก็ไม่อยู่

“แก……” จียุ่นที่เก็บอาการแล้วเมื่อได้ยินคำพูดของศีลสาม ฉับพลันก็เกิดมีน้ำโหขึ้นมา

“ยุ่นเอ๋อ!”

“ศีลสาม หุบปาก!”

ครั้งนี้ไม่ต้องรอให้จียุ่นได้ตอบโต้ จีอู๋ฉางและปรมาจารย์ฟางเจิ้งก็เอ่ยปากห้ามพร้อมกัน เห็นได้ว่าพวกเรารู้ดีว่าการปล่อยให้พวกเด็กๆประชันฝีปากกันนั้นไม่เกิดประโยชน์ใดๆ กลับกันจะเป็นการขายขี้หน้าสำนักของตัวเองเสียเปล่า

“ท่านประมุขก่วน ผู้อาวุโสอู่ เย่หนานเทียน ปรมาจารย์ฟางเจิ้ง ผมสั่งสอนลูกได้ไม่ดีเอง หากก้าวล่วงตรงไหนก็ขออภัยด้วย”

จีอู๋ฉางพาจียุ่นก้าวไปข้างหน้า ยกมือคารวะขอโทษพวกก่วนหนานเทียน จากนั้นก็หันไปถลึงตาใส่จียุ่น “ยังไม่รีบทักทายปรมาจารย์ทุกท่านดีๆอีก?”

“ท่านประมุขก่วน ผู้อาวุโสอู่ ปรมาจารย์ฟางเจิ้ง สวัสดีครับ”

จียุ่นค้อมตัวทักทายทว่าเขาไม่เอ่ยถึงเย่หนานเทียน เพราะว่าในสายตาเขาตอนนี้เย่หนานเทียนเป็นเพียงคนพิการเท่านั้น ไม่คู่ควรกับคำว่าปรมาจารย์ และยิ่งไม่คู่ควรให้เขาต้องค้อมตัวเคารพ

“ท่านนี้คือปรมาจารย์เย่”

จีอู๋ฉางสบถด่าจียุ่นว่าไม่รู้ความอยู่ในใจ ทว่าเขาก็ไม่ได้บังคับจียุ่นให้ทักทายเย่หนานเทียนต่อ เพราะนั่นจะยิ่งทำให้เย่หนานเทียนอึดอัด เขาจึงจำเป็นต้องเป็นฝ่ายเอ่ยแนะนำเองทำราวกับว่าจียุ่นไม่รู้จักเย่หนานเทียน

จียุ่นได้ยินดังนั้นก็ทำทียกมือคารวะถือเป็นการทักทาย

สำหรับเรื่องนี้เย่หนานเทียนมีมีหน้าเรียบนิ่งดุจสายน้ำ ทว่าเฉินเฟิงกลับหรี่ตาเล็กน้อย

เขาอนุญาตให้จียุ่นทำตัวไร้มารยาทกับตัวเอง ทว่าไม่อนุญาตให้จียุ่นทำตัวไม่ให้เกียรติศิษย์พี่ของเขา!

หลังจากที่เขามาถึงที่นี่ เห็นแววตาความเห็นอกเห็นใจและเสียดายที่มีต่อเย่หนานเทียนในสายตาของทุกคน

ทั้งหมดนี้เป็นเหมือนการดูหมิ่นเกียรติของฮีโร่ซึ่งทำให้เขารู้สึกแย่ ราวกับมีอะไรจุกอยู่ที่อก!

และการที่จียุ่นไม่ให้เกียรติเย่หนานเทียนก็ทำให้เขาโมโหมาก เขาจึงตัดสินใจกับตัวเองว่าหากต้องปะทะกับจียุ่นตอนแข่งคัดเลือก เขาจะต้องให้บทเรียนแก่จียุ่นให้ได้!

ในขณะที่เฉินเฟิงตัดสินใจกับตัวเองก็มีรถสองคันขับตรงมาทางนี้

รถสองคันนั้นเหมือนกับรถที่ปรมาจารย์ฟางเจิ้งและศีลสามโดยสารมา ล้วนแขวนป้ายทะเบียนของสหพันธ์สงครามหวาเซี่ย

การคัดเลือกตัวแทนเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้ถึงแม้จะจัดขึ้นและดูแลโดยสหพันธ์บูโด ทว่าสหพันธ์สงครามก็ให้ความร่วมมือด้วยซึ่งรวมถึงที่พักและยานพาหนะของผู้เข้าแข่งขัน

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน