ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 670

ตอนที่ 670

บทที่ 670 ศัตรูพบกัน

หลังจากรถคันที่หนึ่งจอดสนิทก็มีชายถือกระบี่สองคนลงมาก่อน หนึ่งในนั้นใส่เสื้อคลุมสีขาวเหมือนจียุ่นทว่ารูปร่างสูงชะลูด ท่าทีสง่างามจนกลบรัศมีจียุ่นไปเลย

เขาไม่ใช่คนอื่นคนไกล เขาคือเทียนอิงทายาทรุ่นปัจจุบันของสำนักกระบี่เทียนซาน!

ส่วนคนที่มากับเทียนอิงคือชางโป๋ทายาทรุ่นก่อนของสำนักกระบี่เทียนซาน

เมื่อเห็นว่าเทียนอิงสวมชุดคลุมสีขาวเหมือนตนแต่กลับดูมีออร่าเหนือกว่า จียุ่นก็เกิดความริษยาในใจ สายตาที่มองไปยังเทียนอิงจึงไม่ชอบใจนัก

เทียนอิงสัมผัสได้ถึงสายตาไม่พอใจของจียุ่นทว่ากลับยิ้มบางๆ ก่อนจะตามชางโป๋เข้าไปทักทายก่วนหนานเทียน อู่จื่อโจวและเย่หนานเทียน

เทียนอิงไม่เพียงแต่มีรอยยิ้มตลอดการทักทายเท่านั้น เขายังให้ความเคารพผู้อาวุโสทุกคนเป็นอย่างมาก ให้ความรู้สึกเหมือนเป็นเด็กที่ถูกสอนมาดี ทำให้ผู้พบเห็นต่างชื่นชอบ

นักกระบี่ชุดขาว บุรุษผู้สง่างาม

นี่คือนิยามที่ถูกต้องสำหรับเขา

“คนนี้แข็งแกร่งมาก!”

เมื่อเห็นปฏิกิริยาทั้งหมดของเทียนอิง เฉินเฟิงก็อดไม่ได้ที่จะตกตะลึงอยู่ในใจ

เขาคิดมาโดยตลอดว่าความแข็งแกร่งที่แท้จริงของคนๆหนึ่งนั้นอยู่ที่ใจและสัญชาตญาณ ไม่ใช่เปลือกนอก

เพราะว่าความแข็งแกร่งที่เกิดจากเปลือกนอกนั้นจอมปลอม เมื่อต้องเผชิญกับอุปสรรคจึงมักต้านทานไม่ได้

ทว่าดูจากท่าทีของเทียนอิงเมื่อสักครู่ สภาวะจิตใจของเขาอยู่ในขั้นสูงมากแล้ว สูงกว่าคนที่หยิ่งยโสในความสามารถของตัวเองอย่างจียุ่น อันตรายกว่าคนไม่เอาไหนอย่างศีลสาม

“นายคงจะเป็นศิษย์น้องของปรมาจารย์เย่ที่ชื่อเฉินเฟิงสินะ?” ราวกับสัมผัสได้ถึงสายตาของเฉินเฟิง เทียนอิงจึงเดินตรงเข้ามาถามพร้อมรอยยิ้ม

“ใช่” เฉินเฟิงพยักหน้ารับ

“ฉันชื่อเทียนอิงจากสำนักกระบี่เทียนซาน” รอยยิ้มบนใบหน้าของเทียนอิงยังคงมีอยู่เหมือนเดิม “ก่อนหน้านี้ฉันเก็บตัวฝึกการต่อสู้มาโดยตลอด หลังออกจากภูเขาเทียนถึงได้ยินเรื่องราวของนาย ถึงเพิ่งรู้ว่าวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยมีคนอย่างนายอยู่ ถือเป็นเกียรติของวงการศิลปะการต่อสู้หวาเซี่ยจริงๆ ยินดีที่ได้รู้จัก”

เอ่ยจบเทียนอิงก็เป็นฝ่ายยื่นมือออกไปจับก่อน

“ชมกันเกินไปแล้วล่ะ” เฉินเฟิงยื่นมือไปจับกับเทียนอิงด้วยท่าทีนอบน้อม

หลังจากปล่อยมือทั้งสองคนก็จับจ้องไปยังรถคันสุดท้ายอย่างไม่ได้นัดหมาย

เมื่อรถจอดสนิท หวังอีเตาก็เดินนำฉู่เหอลงมาจากรถ

ภายแสงอาทิตย์ในยามเช้า ฉู่เหอสวมเสื้อคลุมสีแดงเลือดถือดาบที่แผ่รังสีแห่งการฆ่าอย่างดาบซวนหยวน บวกกับรังสีที่เกิดจากการฆ่าคนมานับไม่ถ้วน ขับให้เขาดูเหมือนนักฆ่า ให้ความรู้สึกอันตรายถึงขีดสุดแก่ผู้พบเห็น

ซึ่งแตกต่างจากเทียนอิงโดยสิ้นเชิง หลังจากฉู่เหอลงมาจากรถไม่มีการไปทักทายก่วนหนานเทียนและคนอื่นๆ ไม่แม้แต่จะปรายตามองผู้อาวุโสเหล่านั้นเลยด้วยซ้ำ ทว่าแววตากระหายเลือดนั้นกลับจับจ้องอยู่ที่เฉินเฟิงราวกับเฉินเฟิงคือเหยื่อของเขา ที่ไม่ว่าจะหนีไปไหนก็หนีไม่พ้นผู้ล่าอย่างเขา

เมื่อสัมผัสได้ถึงแววตานักฆ่าอย่างบ้าคลั่งของฉู่เหอ สีหน้าของเฉินเฟิงก็ยังคงเรียบนิ่งอยู่ทว่าหรี่ตาลงเล็กน้อยซึ่งแสดงถึงความคิดที่แท้จริงของเขา ฉู่เหอรนหาที่ตาย เขาจะต้องสนองอีกฝ่ายให้ได้!

“ไอ้คนไร้ค่าอย่างนี้ก็มีสิทธิ์เข้าชิงโควตาเพื่อเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกกับพวกเราหรือ? มันรับดาบฉันได้ถึงสามดาบหรือเปล่า?” วินาทีต่อมา เมื่อสายตาของทุกคนถูกดึงดูดโดยหวังอีเตาและฉู่เหอ ฉู่เหอก็เอ่ยปากขึ้น สายตาที่เขาใช้มองเฉินเฟิงราวกับกำลังมองคนตายคนหนึ่ง

เมื่อศัตรูมาพบกัน ต่างฝ่ายต่างทำให้โกรธ ฉู่เหอเพิ่งปรากฏตัวก็หาเรื่องเฉินเฟิงแล้ว ต้องการจะฆ่าเฉินเฟิงให้ได้!

หากจียุ่นแค่เหิมเกริม เช่นนั้นฉู่เหอคงต้องใช้คำว่าหยิ่งผยองมานิยาม

หลังลงมาจากรถ เขาไม่เห็นใครอยู่ในสายตาจนกระทั่งหาเรื่องเฉินเฟิง ลองท้าทายยั่วโมโหเฉินเฟิง จากนั้นก่อนที่จะมีการคัดเลือกตัวแทนเพื่อไปเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกก็ฆ่าเฉินเฟิงเสีย ทั้งได้ลบล้างความอัปยศของผู้เป็นอาจารย์อย่างหวังอีเตา แถมยังได้ข่มขู่คนอื่นๆ เรียกได้ว่าเป็นคนที่จิตใจโหดเหี้ยมจริงๆ “ฉู่เหอ ใครมาก่อนได้ก่อน นายอย่ามาแย่ง ฉันจองที่จะส่งมันกลับบ้านก่อนแล้ว!” ฉู่เหอเพิ่งเอ่ยจบไม่รอให้เฉินเฟิงได้ตอบโต้ จียุ่นก็อดที่จะเอ่ยขึ้นมาก่อนไม่ได้ คำพูดแสดงถึงความไม่พอใจเป็นอย่างมาก ราวกับฉู่เหอจะมาแย่งเหยื่อของตนไป

“ฉันกับมันอยู่ร่วมโลกกันไม่ได้ หัวของมันฉันจองแล้ว พวกนายใครมาแย่งกับฉันก็ต้องตายกันไปข้างหนึ่ง!” ฉู่เหอได้ยินดังนั้นก็ถลึงตามองจียุ่นอย่างมีน้ำโหด้วยสีหน้าอาฆาต

“——”

มองท่าทีกระหายเลือดของฉู่เหอ สัมผัสได้ถึงรังสีนักฆ่าของฉู่เหอ จียุ่นกลืนน้ำลายอึกหนึ่งสุดท้ายก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก

ถึงแม้เขาจะมั่นใจในความสามารถของตัวเอง ทว่าก็ไม่อยากต่อกรกับฉู่เหอเพียงเพราะอยากอวดความสามารถของตัวเอง

ขณะเดียวกันก่วนหนานเทียน อู่จื่อโจว ปรมาจารย์ฟางเจิ้ง ชางโป๋และจีอู๋ฉางต่างก็ขมวดคิ้วมองไปยังฉู่เหอ พวกเขาไม่ชอบการกระทำเช่นนี้ของฉู่เหอ อู่จื่อโจวจึงก้าวไปข้างหน้าก้าวหนึ่งและเตรียมที่จะเอ่ยปากพูด

ทว่าไม่รอให้อู่จื่อโจวได้เอ่ยปาก ก็มีคนเอ่ยแทรกขึ้นมาก่อน

เป็นเฉินเฟิงนั่นเอง

“ไหนๆก็รีบจะไปเกิดใหม่ เช่นนั้นฉันจะสนองให้เอง!”

ภายใต้แสงอาทิตย์ในยามเช้า เฉินเฟิงปล่อยมือจากรถเข็นของเย่หนานเทียน ก้าวมาด้านหน้าสองก้าวพลางหรี่ตามองฉู่เหอ ความต้องการฆ่าแผ่ออกมาจากร่างกาย

ไม่เอ่ยถึงเรื่องบาดหมางของทั้งสองฝ่าย ฉู่เหอเพิ่งปรากฏตัวก็อยากจะฆ่าเฉินเฟิงแล้ว นั่นทำให้เฉินเฟิงมีน้ำโห!

วินาทีนี้เขาฟิวส์ขาดแล้ว เตรียมที่จะฆ่าฉู่เหอต่อหน้าทุกคน!

“รนหาที่ตาย!”

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง ฉู่เหอก็ตะโกนออกมาครั้งหนึ่ง ฉับพลันก้าวออกมาหนึ่งก้าวดึงดาบเตรียมจะลงมือ

“โอหัง!”

ในตอนนั้นเองอู่จื่อโจวก็ตะโกนออกมาราวกับเสียงฟ้าร้องจนทำให้ทุกคนใจกระตุกครั้งหนึ่ง “พวกคุณเห็นที่นี่เป็นอะไรกัน? สำนักงานใหญ่สหพันธ์บูโดเป็นสถานที่ๆพวกคุณมาแสดงความป่าเถื่อนกันได้หรือ?”

เอ่ยจบสายตาคมกริบของอู๋จื่อโจวก็กวาดมองเฉินเฟิง จียุ่นแล้วจบที่ฉู่เหอ

เฉินเฟิงถอยกลับไปอยู่หลังเย่หนานเทียนโดยไม่พูดไม่จา จียุ่นก็หุบปากไม่กล้าส่งเสียงสักแอะ ทว่าฉู่เหอกลับสบตาอู่จื่อโจวอย่างไม่กลัวตาย

“หวังอีเตา คุณสั่งสอนลูกศิษย์ของคุณยังไง? ลูกศิษย์ของคุณกล้าที่จะมีปัญหากับผู้สมัครที่ทางสหพันธ์บูโดกำหนดมาหรือ? หรือว่าตระกูลหวังของพวกคุณจะไม่ทำตามกฎของสหพันธ์บูโดก็ได้อย่างนั้นสินะ หรืออยากอยู่เหนือสหพันธ์บูโด?”

อู่จื่อโจวจับจ้องฉู่เหออยู่พักหนึ่งจนกระทั่งฉู่เหอเริ่มชาไปทั้งหนังศีรษะ ในใจเริ่มเกิดความกลัวจึงละสายตาไปมองหวังอีเตาแทน

พรึ่บ!

เมื่อได้ยินคำพูดของอู่จื่อโจว สีหน้าของหวังอีเตาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อยจากนั้นจึงเอ่ยขึ้น “ขออภัยท่านผู้อาวุโสอู่ กระผมสั่งสอนลูกศิษย์ได้ไม่ดีเอง”

“เสี่ยวฉู่กลับมา!” เอ่ยจบหวังอีเตาก็กวักมือเรียกฉู่เหอ เพราะเกรงว่าฉู่เหอจะท้าทายสหพันธ์บูโดอย่างไม่กลัวตายอีก

เช่นนั้นตระกูลหวังอาจจะถูกประณามว่า”ทำตัวเหนือสหพันธ์บูโด” ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อตระกูลหวังแน่นอน!

“ไอ้มด ฉันจะปล่อยแกไปก่อนแต่หลังจบการคัดเลือกจะเป็นการเริ่มต้นสงครามระหว่างฉันกับแก หวังว่าแกจะไม่หัวหดไปก่อน!” ฉู่เหอหันไปยิ้มเย็นให้เฉินเฟิง จากนั้นก็ถอยกลับมายืนข้างหวังอีเตา ในน้ำเสียงของเขาเต็มไปด้วยความต้องการฆ่าอย่างเลือดเย็น ความรู้สึกนั้นราวกับว่าไม่ว่ายังไงวันนี้เขาก็จะต้องฆ่าเฉินเฟิงให้ได้

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน