ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 697

ตอนที่ 697

บทที่ 697 ท้าทาย

“ลิงผิวเหลือง แกรีบไสหัวออกไปเดี๋ยวนี้! ” ข่ายซ่าพูดจบ

ภายในใจของเซียวเอินสะอึกหนึ่งที เพราะว่าเขาเห็นเฉินเฟิงหันไป ใบหน้านั้นเคล้าด้วยความอาฆาต

ตอนก่อนหน้านี้ที่อยู่ในสนามบิน ข่ายซ่าถูกเฉินเฟิงมองด้วยความไม่ตั้งใจเพียงชั่วพริบตา เขาก็โมโหฉุนเฉียวอย่างรุนแรง เหมือนเฉินเฟิงมองเขา ก็เป็นเคราะห์ร้ายของเขาแล้ว ตอนนั้นผู้ช่วยของเขาดึงเขาไป ไม่งั้นตอนนั้นก็คงจะลงไม้ลงมือแล้วจริงๆ

และหลังจากนั้นเพราะว่าเฉินเฟิงคุยโทรศัพท์กับองค์หญิงแอนนี่ ดังนั้นก็ได้เก็บเรื่องนี้ไว้ในใจ ทว่าข่ายซ่ายังคงท้าทายเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่าแบบนี้ หากไม่สั่งสอนเขาหน่อย ก็ไม่ใช่เฉินเฟิงแล้ว

“หมามาจากไหน? กลับเห็นคนแล้วเห่าขึ้นมาแบบนี้! ”

นัยน์ตาของเฉินเฟิงเผยความอาฆาตออกมา ในปากยิ่งก่นด่าข่ายซ่าอย่างไม่เกรงอกเกรงใจ

“อ๊ะ! ”

“อะไร? ”

ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง คนที่อยู่ในงานต่างทำสีหน้าที่เปลี่ยนไป แล้วหยุดอยู่ที่เดิม

ข่ายซ่าเป็นคนที่ไหน เป็นผู้สืบทอดครอบครัวโรโปรี และก็เป็นหัวหน้าผู้สืบทอดตระกูลคนหนึ่งในอนาคต

ตระกูลให้ทุกอย่างที่เขาอยากได้ สามารถบอกได้ว่าข่ายซ่าไม่เพียงแต่อยู่ในอังกฤษต่อให้อยู่ในประเทศทั้งหมดของยุโรปและประเทศจีน ก็มีการดำรงอยู่ในสังคมชั้นสูง

คนแบบนี้ ไม่เคยได้รับความไม่เป็นธรรมเลยสักนิด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าจะสามารถเหยียดหยามเขาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้

ภายใต้แสงไฟ ข่ายซ่าลืมตา แล้วทำสีหน้าที่ไม่น่าเชื่อ เขานึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงกลับกล้าโต้แย้ง ยิ่งนึกไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะก่นด่าเขาต่อหน้าผู้คนมากมายขนาดนี้ ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันรวดเร็วเกินไป จึงทำให้ข่ายซ่ายังไม่สามารถตอบสนองกลับมาได้

เซียวเอินมองอยู่ข้างๆ ตลอดเวลา ตอนที่คำพูดนี้ของเฉินเฟิงออกมา เขาก็แอบพูดในใจว่าจบกัน

เรื่องที่เขากังวลที่สุด ยังคงเกิดขึ้นอยู่ ถึงแม้เซียวเอินไม่สามารถพูดว่าเข้าใจเฉินเฟิง ทว่าอย่างน้อยก็รู้ถึงนิสัยของฝ่ายตรงข้าม

หากกวนประสาทเฉินเฟิงให้เขาโมโห กลัวว่าไม่มีใครสามารถหยุดเฉิยเฟิงได้ และอาจจะไม่มีใครกล้าหยุดเขาได้

เรื่องต่อจากนี้ เซียวเอินใช้นิ้วเท้าคิดก็สามารถคิดได้ ทว่าไม่ว่าข่ายซ่าหรือว่าเฉินเฟิง พวกเขาต่างก็เป็นแขกที่มาร่วมงานวันเกิดขององค์หญิงแอนนี่ หากเวลานี้ตีกันขึ้นมา แบบนั้นเซียวเอินที่เป็นคนต้อนรับแขกก็ต้องเป็นคนพูด เป็นภาระหน้าที่อันใหญ่หลวงของเขา

“อะไรนะ? พูดใหม่อีกครั้งซิ! ”

เวลานี้ข่ายซ่าได้สติกลับมาสักที แล้วเดินไปด้วยความโมโหเป็นฟืนเป็นไฟ ดูจากสภาพแล้ว หากเฉินเฟิงพูดอีกคำ เกรงว่าเขาต้องลงไม้ลงมือโดยตรง ในมุมมองของเขา ถึงแม้จะลงมือในงานวันเกิดขององค์หญิง ทว่าคิดว่าองค์หญิงแอนนี่ก็ไม่มีทางผิดใจกับตัวเองเพราะไอ้คนผิวเหลืองแน่นอน

“แกหูหนวกหรือไง? ถ้าแกยังปากเสียแบบนี้อีก อย่าหาว่าฉันไม่เกรงใจ! ”

เฉินเฟิงทำสีหน้าแบบนั้นเหมือนเดิม การที่ข่ายซ่าข่มขู่เขา ในมุมมองของเขาแล้วเป็นเรื่องที่เล็กน้อยมาก ตอนนั้นเขาฝ่าประเทศญี่ปุ่นตัวคนเดียว มีอะไรบ้างที่ไม่เคยเจอ

พอได้ยินเฉินเฟิงพูดซ้ำอีกประโยค ข่ายซ่ารู้สึกโมโหจนหัวเราะ ในมุมมองของเขาเฉินเฟิงที่พูดกับเขาแบบนี้ เหมือนคนธรรมดาที่เด็กคนหนึ่งกำลังข่มขู่ผู้ใหญ่

ไม่เพียงแต่ข่ายซ่า แม้กระทั่งคนทั้งหมดที่อยู่ในเหตุการณ์ ต่างก็หัวเราะเสียงดัง แล้วทำท่าทางที่กำลังดูเรื่องสนุกๆ

นี่มันที่ไหน? นี่เป็นดินแดนอังกฤษ คนต่างประเทศคนหนึ่งกลับอยู่ตรงหน้าทายาทของครอบครัวโรโปรีในอังกฤษ อีกอย่างยังเป็นหัวหน้าครอบครัวในอนาคต นี่ไม่ใช่ว่าทำให้คนหัวเราะเยาะหรือไง หากไม่ใช่เพราะเห็นด้วยตาตัวเอง ไม่มีใครเชื่อเรื่องนี้หรอก

ข่ายซ่าพูดอย่างดูหมิ่น “ไหนๆ มีวีรบุรุษที่โผล่ขึ้นมาในดินแดนของอังฤษ แกยังจะแสร้งทำอะไรอีก ไอ้ลิงผิวเหลืองที่ไม่รู้อะไรเลย! ”

เฉินเฟิงทำสีหน้าที่หม่นหมอง นัยน์ตาเปล่งประกายแล้วพูดขึ้น “ครั้งที่แล้วคนที่ใช้น้ำเสียงแบบนี้ของฉัน จุดจบไม่ค่อยดีมากนัก! ”

เซียวเอินที่อยู่ข้างๆ ได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง ภายในใจจึงสะอึกหนึ่งที ตามนิสัยของเฉินเฟิง แค่เขาลงไม้ลงมือก็สามารถทำให้ฝ่ายตรงข้ามต้องตายไม่งั้นก็พิการ ไม่มีทางมีจุดจบที่ดีเด็ดขาด

ดูจากท่าทีของข่ายซ่าเองก็ไม่มีทางอ่อนข้อง่ายๆ ถ้าเขายังใช้คำพูดในการท้าทายอยู่แบบนี้ แบบนั้นจุดจบของเขาก็สามารถรู้ได้

ถ้าข่ายซ่าทายาทสืบทอดครอบครัวโรโปรีท่านนี้เกิดบาดแผลหรือพิการ ณ ที่นี่ แบบนั้นเชื่อว่าคงไม่ต้องใช้เวลานาน ก็จะทำให้ทั่วโลกได้รับผลกระทบ

ถึงเวลานั้น เรื่องต้องบานปลายให้ถึงที่สุดแน่นอน อย่าพูดถึงองค์หญิงแอนนี่เลย ต่อให้เป็นทั้งตระกูลราชวงศ์อังกฤษก็ยังไม่รู้ว่าจะให้คำตอบเรื่องนี้กับครอบครัวโรโปรียังไง

อีกอย่างในสถานการณ์แบบนี้ องค์หญิงแอนนี่ต้องช่วยเฉินเฟิงไว้ไม่ได้แน่นอน ส่วนตระกูลราชวงศ์แอนนี่ก็ไม่มีทางมีความสัมพันธ์ที่ไม่ดีกับครอบครัวโรโปรีเพราะเฉินเฟิงที่เป็นเพียงคนนอก ถึงแม้เฉินเฟิงเป็นผู้มีพระคุณขององค์หญิงแอนนี่ ทว่าเรื่องนี้ อย่าว่าแต่ผู้มีพระคุณเลย แม้กระทั่งคนในตระกูลราชวงศ์ก็ยังไม่มีทางถดถอย

สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เซียวเอินรับผิดชอบในการต้อนรับครั้งนี้ แบบนั้นถ้าถึงเวลาเพื่อที่จะระงับความโมโหของครอบครัวโรโปรี เขาต้องยากหลีกเลี่ยงกับภัยครั้งนี้

“คุณชายข่ายซ่า คุณเฉิน วันนี้เป็นงานวันเกิดขององค์หญิง ถ้าพวกคุณลงไม้ลงมือกันที่นี่ แบบนั้นองค์หญิงแอนนี่ก็ต้องรู้สึกลำบากใจแน่นอน อีกอย่างเรื่องนี้หากป่าวประกาศออกไป หน้าตาของตระกูลราชวงศ์อังกฤษต้องเสื่อมเสียจนถึงที่สุด

เซียวเอินเห็นว่าเรื่องมันผิดปกติไปแล้ว หลังจากที่วิเคราะห์แยกแยะถึงผลสรุปทั้งหน้าและหลัง จึงรีบเข้าไปห้ามปราม หากช้าไปหนึ่งก้าว ทั้งสองฝ่ายลงไม้ลงมือกันขึ้นมา ทุกอย่างก็คงจะจบ

พอเห็นเฉินเฟิงและข่ายซ่าต่างไม่พูดไม่จา เซียวเอินแอบถอนหายใจ แล้วพูดขึ้นต่อ “คุณชายข่ายซ่า คุณเฉิน พวกท่านต่างก็มีแขกคนสำคัญขององค์หญิง ผมคิดว่าพวกท่านก็คงไม่มีทางไม่สนใจในพระทัยขององค์หญิงหรือเปล่า? ”

คำพูดของเซียวเอินถูกคนที่อยู่ในงานได้ยิน ข่ายซ่าจึงขมวดคิ้วทันที ธุรกิจเหมืองแร่ในอาหรับยังเจรจาไม่สำเร็จ ทว่าเขากลับไม่รู้สึกเครียด อีกทั้งเขาได้มุ่งเป้าหมายไปที่องค์หญิงแอนนี่ ครั้งนี้เขามาก็เพื่อที่จะสานความสัมพันธ์ที่สนิทสนมมากกว่าเดินขององค์หญิงแอนนี่

หากสร้างปัญหาอะไรที่นี่ ไม่เพียงแต่หน้าตาขององค์หญิงที่ดูไม่ค่อยดี ถึงเวลาแม้กระทั่งสำหรับคนที่สร้างเรื่อง ก็ยังต้องขาดความรู้สึกดีๆ ไป

ข่ายซ่าก็ไม่ใช่คนธรรมดา แค่ในระยะสั้นๆ ก็สามารถพิจารณาผลประโยชน์ที่ได้ออกมาอย่างชัดเจน เวลานี้ความรู้สึกโมโหถึงค่อยๆ ดีขึ้น

“ท่านเซียวเอิน ก็แค่ไม่รู้ว่าทำไมองค์หญิงแอนนี่ถึงเชิญชวนไอ้คนประเทศหวามาคนหนึ่งมาด้วย! ”

ข่ายซ่าหันไปมองเซียวเอิน แล้วถาม

“เป็นแบบนี้ คุณเฉินคือสหายขององค์หญิงครับ! ”

เซียวเอินเห็นข่ายซ่าหายโมโหลงมาบ้าง และไม่มีความคิดว่าจะสร้างเรื่องอีก จึงรีบอธิบายขึ้น จากนั้นก็แอบมองเฉินเฟิงเพียงชั่วพริบตา ตอนนี้ข่ายซ่าก็ไม่มีทางสร้างเรื่องอีก ทว่าเขากลัวว่าเฉินเฟิงยังคงไม่ให้อภัย ถ้าเป็นแบบนี้ทุกอย่างคงจบ

“คุณเซียวเอิน ท่านพูดไม่ผิด เมื่อครู่ผมบ้าบิ่นเกินไป! ”

พอเห็นสายตาของเซียวเอินที่มองมา เฉินเฟิงรู้ความหมายของฝ่ายตรงข้าม จึงพูดแบบนั้นออกมา

ครั้งที่แล้ว แอนนี่กับพ่อของเธอไปประเทศหวาด้วยกัน ตอนนั้นก็ได้ช่วยเรื่องนี้กับตัวเอง ถึงแม้เขาเป็นผู้ที่มีพระคุณต่อตระกูลราชวงศ์อังกฤษก่อน ทว่าเฉินเฟิงก็คงยังจดจำความรู้สึกนี้ไว้ในใจ ไม่งั้นเขาก็คงไม่ยอมเสี่ยงชีวิต และเดินทางมาจากที่แดนไกลแล้วถึงอังกฤษ แล้วมาร่วมงานวันเกิดขององค์หญิงแบบนี้

“ยังไม่ทันดูเรื่องสนุกๆ เลย คนประเทศหวาคนนี้ก็แสดงความอ่อนแอออกมาแล้ว! ”

แขกที่อยู่ทั่วทุกสี่ทิศต่างก็ทำสีหน้าที่ผิดหวัง เหมือนเฉินเฟิงและข่ายซ่าไม่ได้ลงไม้ลงมือ ทำให้พวกเขาผิดหวังมาก แค่ว่าตั้งแต่คำพูดเมื่อกี้นี้ของเฉินเฟิง พวกเขาคิดถึงเฉินเฟิงกำลังแสดงความอ่อนแอ ไม่กล้าลงไม้ลงมือกับข่ายซ่า

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท