บทที่ 90: เรื่องส่วนตัว
“ ฉันจะไปที่นั่นเอง”
จิตใจของหวังเต็งทํางานเต็มสูบ มันไม่สําคัญหรอกว่ามันจะเป็นแผนของคนในหรือไม่ ที่สําคัญคือพ่อของเขาถูกคุมขังและเขาต้องไปพาตัวพ่อของเขากลับมา
“ มันจะมีปัญหาอะไรรึเปล่า?” หลี่ซิ่วเหม่ยยังคงกังวลเล็กน้อย
“ ไม่ต้องกังวลครับแม่ แม่ก็ได้เห็นความสามารถของลูกชายคนนี้แล้ว และเมื่อกี้ผมก็ยังไม่ได้ปลดปล่อยศักยภาพถึง 1 ใน 10 เลย” หวังเต็งปลอบโยนเธอ
“ ถ้าอย่างงั้นก็ระวังตัวด้วยนะลูก”
คนหนึ่งเป็นลูกชายของเธอ และอีกคนก็เป็นสามีของเธอ เธอกังวลเกี่ยวกับทั้งสองคน แต่ตอนนี้เธอก็สามารถทําได้เพียงแค่พึ่งพาลูกชายของเธอเท่านั้น
โชคดีที่ลูกชายของเธอโตแล้ว เมื่อเสาหลักของบ้านพังลง เขาก็จะยังสามารถเลี้ยงดูครอบครัว
หวังเต็งพยักหน้า เขาหันกลับไปเตรียมจะจากไป
“ ฉันจะไปกับเธอด้วย มันจะสะดวกกว่าที่จะให้ฉันเป็นคนติดต่อกับคนของปู่” หวังหยานกล่าวทันที
“ ใช่แล้ว ไปด้วยกันก็ได้ จะได้ดูแลกันไปด้วย” หลี่ซิ่วเหม่ยพยักหน้า
เนื่องจากหลี่ซิ่วเหม่ยได้ตกลงกันแล้ว ดังนั้นหวังเต็งจึงไม่มีอะไรจะพูด
ทั้งสองคนขึ้นรถและออกจากเมืองตงไห้ไป พวกเขาเข้าสู่ทางด่วนและมุ่งหน้าไปยังเมืองเจียงในจังหวัดใกล้เคียง
ระหว่างทาง หวังหยานก็เหลือบมองไปที่กระจกมองหลังด้วยมุมตาขณะขับรถเพื่อตรวจสอบหวังเต็ง
หวังเต็งกําลังนั่งอยู่ที่เบาะหลังในขณะนี้ เขาหลับตาและถือกล่องสี่เหลี่ยมด้วยมือข้างหนึ่ง เขาไม่ได้เคลื่อนไหวเลย เขาเงียบมาก และมันก็ไม่มีอารมณ์ใดๆบนสีหน้าของเขา
ตอนนี้เขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นคนอื่นจริงๆ
ไม่ว่าจะเป็นออร่าของเขาหรือวิธีการทําสิ่งต่างๆ พวกมันล้วนแตกต่างจากหวังเต็งในอดีตอย่างสิ้นเชิง
ในอดีต ทุกคนแค่รู้สึกว่าเขาเป็นคนโง่บรรลัยที่ขี้เล่น เย่อหยิ่งและเจ้ากี้เจ้าการ… อย่างไรก็ตาม ในวันนี้ เมื่อเธอเห็นเขาอีกครั้ง การแสดงออกของเขาก็ทําให้เธอประหลาดใจ
และสิ่งที่สําคัญที่สุดคือ หลานของเธอได้กลายเป็นนักสู้ที่ทรงพลังแล้ว
นักสู้
ถ้าปู่รู้ว่าหวังเต็งได้กลายเป็นนักสู้ เขาก็จะต้องมีความสุขมากจนนอนไม่หลับอย่างแน่นอน
พูดตามตรง เมื่อจู่ๆคุณรู้ตัวว่าคนที่คุณคุ้นเคยด้วยกลายเป็นคนไม่ธรรมดา คุณจะทําตัวยังไง?
ในตอนนี้เธอยังคงนึกถึงฉากที่หวังเต็งเหวี่ยงดาบของเขาและทําให้ทุกๆคนตะลึงในวินาทีนั้น
กลอุบายทั้งหมดนั้นไร้ประโยชน์เมื่ออยู่ต่อหน้าพลังที่แท้จริง
ในอนาคต ตระกูลหวังของพวกเขาก็จะมีนักสู้คอยดูแลพวกเขา และจะทําให้พวกเขาสามารถปีนขึ้นสูงขึ้นได้อย่างแน่นอน
นอกจากนี้ หากหวังเต็งยังคงมีอํานาจมากขึ้น อนาคตของตระกูลหวังก็จะ…
หวังหยานส่ายหัวของเธอ เธอไม่ควรคิดไปไกล เธอควรจะช่วยลุงสองของเธอก่อน
และมันก็ไม่น่าจะเป็นปัญหาเพราะเธอมีหวังเต็งที่เป็นนักสู้มาด้วย
พวกเขาขับรถเป็นเวลาห้าชั่วโมงและในที่สุดก็ถึงเมืองเจียน
ระหว่างทาง หวังหยานก็ไม่ได้รบกวนหวังเต็ง เธอขับรถไปตลอดการเดินทางและตอนนี้เธอก็ดูเหนื่อยนิดหน่อย
“ เรามาถึงแล้วหรอ?”
หวังเต็งรู้สึกได้ว่ารถหยุด จากนั้นเขาก็ลืมตาขึ้นแล้วถาม
“ ใช่ เดี๋ยวเราจะไปหาคนที่ปูส่งมาเพื่อพูดคุยกันก่อน เธอจะได้ทําความเข้าใจสถานการณ์ทั้งหมด” หวังหยานจอดรถไว้ด้านนอกโรงแรม แล้วพาหวังเต็งเข้าไปในห้อง
ชายอายุประมาณ 30 ปีทักทายพวกเขา “ ผู้จัดการหวัง”
“ บอกฉันเกี่ยวกับสถานการณ์ตอนนี้ที่” หวังหยานพุ่งตรงไปที่ประเด็น
ชายคนนั้นพยักหน้าและพูดว่า “ มันไม่ได้ผล ไม่ว่าเงื่อนไขใดที่เราให้กับอีกฝ่าย อีกฝ่ายก็ไม่ยอมปล่อยเขาไป ดูเหมือนว่าพวกเขาจะมีแรงจูงใจอื่นอยู่เบื้องหลัง”
“ เบื้องหลังของอีกฝ่ายคืออะไร” หวังเต็งขมวดคิ้วและถาม
“ กลุ่มกําปั้นเหล็ก พวกเขามีศิษย์นักสู้ขั้นสูงมากกว่าสิบคน ดังนั้นมันจึงไม่มีใครกล้ายั่วยุพวกเขา” ชายคนนั้นตอบด้วยท่าทางเคร่งขรึม
“ ในกรณีนั้น มันก็ไม่น่าจะมีปัญหาถ้าเราถอนรากถอนโคนมันทั้งหมดใช่ไหม?” หวังเต็งถามอย่างไม่ใส่ใจ
“ นั่นสินะ” ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วตอบ
ทันทีที่เขาพูดจบ เขาก็นึกขึ้นได้ว่าพูดอะไรไป
ชายหนุ่มคนนี้หมายความว่ายังไง?
เขามองไปที่หวังเต็งด้วยสายตาที่งงงวยและตกใจ
หวังหยานเองก็มองไปที่หวังเต็งด้วยความประหลาดใจเช่นกัน ถอนรากถอนโคนให้หมด? นี่คือสิ่งที่หลานของเธอกําลังคิดอยู่จริงๆหรอ?
หากคนเหล่านั้นรู้ว่าพวกเขากําลังท้าทายนักสู้ พวกเขาก็คงจะรู้สึกเสียใจอย่างท่วมท้น
“ มันมีคนมากเกินไปในช่วงระหว่างวัน ดังนั้นมาทําตอนกลางคืนก็แล้วกัน”
นี่เป็นบ่ายสามโมงกว่าแล้ว และพวกเขาก็ทําได้เพียงรออย่างช้าๆ
แม้ว่าเขาจะต้องการช่วยหวังเฉินกั่วให้ได้โดยเร็วที่สุด แต่หวังเต็งก็รู้ว่าเขาไม่ควรรีบเกินไป
นอกจากนี้ เมื่อดูจากการคาดเดาของหวังหยาน อีกฝ่ายก็ไม่น่าจะทําร้ายหวัง เฉินกั่วเนื่องจากพวกเขาต้องการใช้เขาเป็นแพะรับบาป
ด้วยเหตุนี้เอง หวังเต็งจึงสามารถวางใจในเรื่องนี้ได้
หวังหยานเหน็ดเหนื่อยจากการขับรถเป็นเวลานาน ดังนั้นเธอจึงขึ้นไปพักผ่อนที่ห้องพักของเธอ
ในตอนเย็น ทั้งสามคนทานอาหารเย็นและรอจนถึง 22.00 น. ก่อนที่จะมุ่งหน้าไปยังสํานักงานใหญ่ของกลุ่มกําปั้นเหล็ก
หวังเฉิงกั่วถูกขังอยู่ที่นั่นตลอดเวลา
สํานักงานใหญ่ของกลุ่มกําปั้นเหล็กอยู่ไม่ไกล รถเก๋งสีดําจอดอยู่ในความมืด และหวังเต็งก็ลงมาจากรถ
“ รอฉันที่นี่ ฉันจะกลับมาเร็วๆนี้”
เขาพูดกับหวังหยานจากนั้นจึงถือโลงศพบรรจุอาวุธมุ่งหน้าไปยังทางเข้าของกลุ่มกําปั้นเหล็ก
“ ผู้จัดการหวัง คุณชายหวังกําลังวางแผนที่จะช่วยพ่อของเขาเพียงลําพังอย่างั้นหรอ?” ผู้ชาย ที่มาด้วยกันไม่เข้าใจสถานการณ์
เขาพบว่าหวังเต็งนั้นดูกล้าหาญเล็กน้อยในขณะที่เขามองไปที่ด้านหลังของหวังเต็ง
เขาจะไม่เป็นไรแน่หรอ?
อีกฝ่ายหนึ่งคือกลุ่มกําปั้นเหล็ก พวกมันมีศิษย์นักสู้ขั้นสูงมากกว่าสิบคน แต่นายน้อยหวังคนนี้ก็ดูเหมือนคนธรรมดา เขาจะสามารถจัดการกับเหล่าศิษย์นักสู้ขั้นสูงที่ทรงพลังได้อย่างไร?
“ รอและดู!” หวังหยานเองก็กังวลเช่นกัน แต่เธอก็รู้สึกมั่นใจด้วยเหตุผลบางอย่าง นี่คือลูกพี่ลูกน้องของเธอ
เขาจะทําอะไรกันนะ?
คําถามผุดขึ้นในใจหวังหยาน เธออดไม่ได้ที่จะมองไปที่ทางเข้าของกลุ่มกําปั้นเหล็กซึ่งถูกปกคลุมไปด้วยความมืด
หวังเต็งเดินไปที่ทางเข้าและเคาะประตูเหล็กด้านนอก
“ ใคร?” เสียงเตือนดังมาจากข้างใน
“ คนส่งของ!”
ร่างของหวังเต็งถูกซ่อนอยู่ในความมืด
“ แกกําลังล้อเล่นอะไร? คนบ้าอะไรจะมาจัดส่งของในตอนกลางคืน? บอกความตั้งใจของแกมาได้แล้ว” เห็นได้ชัดว่าคนที่อยู่หลังประตูไม่เชื่อเขา
“ พี่ชาย นี่คือสิ่งที่เจ้านายของคุณสั่งไว้”
“ สิ่งที่เจ้านายสั่ง? มันคืออะไร?” บุคคลคนนั้นถามอย่างสงสัย
จะเกิดอะไรขึ้นถ้ามันเป็นสิ่งที่เจ้านายของพวกเขาสั่งจริงๆแล้วเขาไม่เปิดประตู? หากของไม่มาส่ง เจ้านายของมันก็จะมองหาคําตอบจากมัน
“ ฉันไม่สามารถบอกคุณได้ มันเป็นเรื่องส่วนตัว” หวังเต็งตอบ
“ แกคิดจะหลอกฉันหรอ? บอกฉันมาว่ามันคืออะไร? ถ้าแกไม่บอก งั้นมันก็แสดงว่าแกมาจากกลุ่มอื่นใช่ไหม?” บุคคลนั้นเย้ยหยัน
“ แน่ใจหรอว่าจะให้ฉันพูด?”
“ พูดสิ!”
“ เอาล่ะ ในเมื่อคุณถามอย่างจริงใจ งั้นฉันก็จะแสดงความเมตตาและบอกคุณ เขาสั่ง “ฉันรักไม้ขีดไฟ” (ยาปลุกอารมณ์เสือป่าที่ได้ชื่อมาจากนวนิยาย)”
“ อะไรนะ?” บุคคลคนนั้นไม่สามารถโต้ตอบได้ทันเวลา
“ ฉันรักไม้ขีดไฟ!” หวังเต็งตะโกน
“ ฉันรักไม้ขีดไฟ.โอ้ พระเจ้า” บุคคลคนนั้นจําบางสิ่งได้ มันก็อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
ตอนนี้มันสามารถเข้าใจเรื่องราวทั้งหมดได้ทันที!
“ ตอนนี้คุณกลัวแล้วใช้ไหม? นี่คือเรื่องส่วนตัวของเจ้านายของคุณ มันไม่ดีหรอกนะถ้าคุณรู้มากเกินไป” หวังเต็งพูดช้าๆ
“ รอก่อนนะ พี่ชาย ฉันเข้าใจแล้วๆ…” ชายคนนั้นรีบเปิดประตูและพุ่งไปที่หน้าหวังเต็ง เขากระวนกระวายใจ “ เมื่อกี้ฉันไม่ได้ถามอะไรนะ แล้วพี่ชายก็ไม่ได้ตอบอะไร…”
“ ไม่ คุณถาม และฉันก็ตอบ” หวังเต็งพูดอย่างตรงไปตรงมา
ใบหน้าของชายหนุ่มที่ออกมาจากประตูกลายเป็นสีเขียวด้วยความโกรธ
บัดซบ!