ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 703

ตอนที่ 703

บทที่ 703 รายการแสดงการจัดอันดับ

ระหว่างที่เฉินเฟิงกำลังเดินเข้าไปก็มีแขกที่ทานอาหารเรียบร้อยแล้วและกลับออกไป เมื่อพวกเขาเดินผ่านเฉินเฟิงก็พยักหน้าทักทาย เห็นได้ว่าตำแหน่งของเฉินเฟิงในใจของพวกเขานั้นสูงพอสมควร

ด้านเฉินเฟิงก็เผยยิ้มตอบรับเช่นกัน

“กว่านายจะมาได้!”

ศีลสามเอ่ยพลางขยับที่ให้เฉินเฟิงนั่งลง

ที่นี่ไม่ได้มีแค่ศีลสามคนเดียว ยังมีจียุ่นและเทียนอิงนั่งอยู่ด้วย

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงนั่งลงแล้วจียุ่นก็เอ่ยพร้อมรอยยิ้ม “เฉินเฟิง เห็นได้ว่าคณะกรรมการจัดการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้จะดูแลนายเป็นอย่างดีนะ!”

“หืม? หมายความว่ายังไง?” เฉินเฟิงเอ่ยถามอย่างข้องใจ

“เรื่องมันเป็นแบบนี้!” จียุ่นเอ่ยอธิบาย “ครั้งนี้มีการจัดโรงแรมสำหรับเป็นที่พักให้กับจอมยุทธ์อยู่สองที่ พวกเราอยู่ที่หนึ่ง ฉันไปสืบมานายลองเดาสิว่าเป็นยังไง?”

จียุ่นตั้งใจเล่นแง่แต่สามคนที่เหลือไม่มีใครเล่นด้วย เขาจึงต้องเอ่ยต่อ “โรงแรมที่พวกเราอยู่นี้ไม่มีคนที่เป็นศัตรูกับนายเลยสักคน!”

จียุ่นรู้เรื่องพวกนี้นั้นไม่น่าแปลกใจเลยสักนิด ตระกูลของเขามีอำนาจอีกทั้งยังมีหน่วยข่าวเป็นของตัวเอง อยากรู้เรื่องพวกนี้จึงไม่ใช่เรื่องยาก

“คณะกรรมการจัดงานก็เป็นห่วงว่าหากเฉินเฟิงอยู่ร่วมกับพวกเขาจะเกิดปัญหาจนเกิดการลงไม้ลงมือกันน่ะสิ!”

“อืม มีเหตุผล!”

เฉินเฟิงพยักหน้ารับพลางคิดว่าจียุ่นวิเคราะห์ได้ถูกต้อง

การเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้ ทางคูเรียของวาติกันออกกฎไว้ว่าห้ามจอมยุทธ์มีเรื่องกันก่อนการแข่งขัน ถึงแม้กฎข้อนี้จะกำหนดมาแล้วแต่กลับไม่ได้มีความหมายในเชิงปฏิบัติมากนัก ต้องรู้ว่าการเตือนและความน่าเกรงขามมีนิยามไม่เหมือนกัน

“เห้พวก!” ศีลสามตบไหล่เฉินเฟิงพลางเอ่ย “ก่อนหน้านี้จียุ่นบอกฉันว่านายคือประเด็นร้อนของการแข่งขันในครั้งนี้ มีตัวตนในสายตาของทุกคนแต่ขณะเดียวกันก็เป็นการมีตัวตนแบบที่ไม่ซื่อสัตย์นัก!”

ศีลสามยังพูดไม่จบ จียุ่นก็ด่าว่าโง่อยู่ในใจ พูดเรื่องนี้ต่อหน้าเฉินเฟิงนั่นเท่ากับว่าศีลสามขายเขาอยู่น่ะสิ

เฉินเฟิงยิ้มเล็กน้อยโดยไม่ได้ใส่ใจ เป้าหมายในครั้งนี้ไม่ได้ทำเพื่อชื่อเสียงจากการได้แชมป์แบบครั้งก่อน แต่เพื่อแก้แค้นให้กับเย่หนานเทียนและหาโอกาสกำจัดทายาทของศัตรูทีละคนๆ

มองจากมุมนี้เฉินเฟิงคือคนที่ไม่ซื่อสัตย์อย่างแท้จริง

“ฉันนึกขึ้นได้แล้ว การแข่งขันในครั้งนี้ทั่วทุกมุมโลกล้วนมีการลงเดิมพันเพื่อสร้างสีสันให้กับการแข่งขัน มีการคาดคะเนโอกาสชนะของผู้เข้าแข่งขัน นายอยู่ในลำดับที่สี่ ก่อนหน้านี้ที่นายยังไม่มาฉัน เทียนอิงและศีลสามกำลังพูดถึงเรื่องนี้กันอยู่เลย!”

เมื่อรู้สึกบรรยากาศเริ่มอึดอัด จียุ่นก็เปลี่ยนเรื่องเพื่อดึงดูดความสนใจ

“หืม? มีเรื่องแบบนี้ด้วยหรือ? ไหนฉันดูหน่อย!” เฉินเฟิงเอ่ยอย่างสนใจ

จียุนหยิบมือถือออกมาก่อนจะยื่นให้กับเฉินเฟิง จากนั้นก็ชี้ตรงหน้าจอพลางเอ่ย “นายดูอันนี้สิ!”

อาเธอร์:ตำแหน่งหัวหน้าราชองครักษ์ เปอร์เซ็นเสีย 4.5

วิลเลียม:บุตรแห่งสภามืด เปอร์เซ็นเสีย 5.0

เติ้งนี:โพธิแห่งพระพุทธศาสนา เปอร์เซ็นเสีย 6.0

เฉินเฟิง:เทพรุ่นเยาวชนแห่งสหพันธ์บูโดประเทศหวา เปอร์เซ็นเสีย7.0

เฉินเฟิงจ้องหน้าจอตาไม่กระพริบ อาเธอร์แห่งวาติกัน วิลเลียมแห่งสภามืดและเติ้งนีแห่งพระพุทธศาสนาทั้งสามคนนี้ล้วนอยู่ในอันดับที่สูงกว่าเขา

คนที่อยู่ในอันดับต่ำกว่าเขามีมูเนียร์จากประเทศอเมริกา ฉายาเสือจากัวร์ มีข่าวลือว่าเขาคืออาวุธลับชิ้นหนึ่งของประเทศอเมริกาและจะเปิดตัวในการแข่งขันครั้งนี้

และถัดจากประเทศอเมริกาคือล็อกฟ์สะกีจากประเทศรัสเซีย ฉายาหมีขาว เป็นอาวุธลับของประเทศรัสเซียเช่นเดียวกันกับเสือจากัวร์แห่งประเทศอเมริกา

ส่วนอันดับที่เจ็ดถึงสิบ

คือจั่วจู้อัจฉริยะศิลปะการต่อสู้จากประเทศญี่ปุ่น

ชาร์ลีอัจฉริยะศิลปะการต่อสู้จากประเทศอังกฤษ

เฟร์ตีตโตอัจฉริยะศิลปะการต่อสู้จากประเทศอียิปต์

และปาข่าจากชนเผ่าอินเดีย เปอร์เซ็นเสียของพวกเขาคือ 10,1…, 15, 18ตามลำดับ

เฉินเฟิงทำความรู้จักกับสิบอันดับแรกอย่างคร่าวๆ จากนั้นก็ดูอันดับของเทียนอิง ศีลสามและจียุ่น เทียนอิงอยู่ในอันดับที่ยี่สิบหก จียุ่นอันดับที่สามสิบหกและศีลสามถูกจัดอยู่ในอันดับที่สี่สิบแปด

“กลุ่มอัจฉริยะอย่างนั้นหรือ? ไม่มีกลุ่มผู้แข็งแกร่งบ้างหรือไง?”

เฉินเฟิงอดที่จะเอ่ยปากถามออกมาไม่ได้

“อย่าพูดถึงเลย ตอนแรกการแข่งขันในครั้งนี้มีกลุ่มผู้แข็งแกร่งอยู่แต่ไม่รู้ว่าทำไมมหาปรมาจารย์ผู้แข็งแกร่งของแต่ละสำนักหรือแต่ละตระกูลถึงไม่เข้าร่วมการแข่งขัน ดังนั้นการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้จึงไม่มีผู้แข็งแกร่งซึ่งแทบจะไม่เคยมีเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน การแข่งขันในครั้งนี้จึงเป็นการแข่งขันที่ไม่มีกลุ่มผู้แข็งแกร่งซึ่งเป็นเรื่องที่น่าแปลกมาก!”

แววตาของจียุ่นฉายแววครุ่นคิดพลางบอกข้อมูลที่ตนรู้ทั้งหมด

อย่างนี้นี่เอง!”

เฉินเฟิงครุ่นคิด การแข่งขันศิลปะการต่อสู้โดยเฉพาะการแข่งขันระดับโลกถือเป็นเรื่องที่โด่งดังเป็นอย่างมาก จุดประสงค์คือสืบทอดศิลปะการต่อสู้ ขณะเดียวกันก็เป็นสถานที่ในการแสดงศักยภาพด้านศิลปะการต่อสู้ของแต่ละประเทศ ทว่าคิดไม่ถึงว่าการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้จะยกเลิกกลุ่มผู้แข็งแกร่งไป

เรื่องแบบนี้ถือเป็นเรื่องที่แทบจะไม่เคยมีมาก่อน เฉินเฟิงก็นึกถึงเรื่องทั้งหมดของอู่จื่อโจวโดยไม่รู้ตัว จะมีเรื่องใหญ่เกิดขึ้นแล้ว

เมื่อเห็นว่าเฉินเฟิงกำลังครุ่นคิด จียุ่นก็อดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้ “รายการแสดงเปอร์เซ็นเสียฉบับนี้ได้มาจากบริษัทลอตเตอรีที่คาดคะเนความสามารถของจอมยุทธ์จากแต่ละประเทศอย่างคร่าวๆ แล้วนำมาคำนวณเปอร์เซ็นที่จะเสีย ได้ข่าวว่าพวกเขาคาดคะเนจากความสามารถแต่ฉันคิดว่านี่มันเป็นแค่เรื่องไร้สาระ!”

จียุ่นชะงักไปสักพักก่อนเอ่ยต่อ “ที่น่าโมโหที่สุดคือฉันถูกจัดอยู่ในอันดับที่สามสิบหก ฉันว่าบริษัทพวกนั้นคงตาบอดแล้วล่ะ!”

จียุ่นเอ่ยอย่างมีน้ำโห

“ไอ้หยา นี่เป็นแค่รายการแสดงผลเท่านั้นเอง นายเดือดร้อนอะไรกัน!”

ศีลสามเอ่ยอย่างไม่ใส่ใจ ศีลสามถือเป็นผู้เข้าแข่งขันที่ผ่อนคลายที่สุดในการแข่งขันครั้งนี้แล้ว เขาไม่สนใจทั้งการจัดอันดับนี้และแชมป์ในการแข่งขัน เขาไม่สนใจเรื่องพวกนี้หรอก

ส่วนเทียนอิงนั้นตอนนี้กำลังขมวดคิ้วมุ่นพร้อมกับสีหน้าไม่พอใจ ดูแล้วเขาคงมีปัญหากับรายการจัดอันดับนี้พอสมควร

เฉินเฟิงมองหน้าเทียนอิงแวบหนึ่ง เขาเข้าใจอีกฝ่ายได้ เทียนอิงเป็นคู่แข่งของตนมาโดยตลอด ตอนนี้เขาจัดอยู่อันดับสี่แต่เทียนอิงกลับอยู่ในอันดับยี่สิบหก จึงไม่แปลกที่เทียนอิงจะไม่พอใจ อีกอย่างเฉินเฟิงรู้ถึงความสามารถของเทียนอิงดี จากความสามารถของอีกฝ่ายสามารถเข้ามาอยู่ในสิบหกอันดับแรกได้อย่างสบายๆ

ส่วนรายการแสดงการจัดอันดับนี้ ไม่ได้มีแค่จียุ่นและเทียนอิงยังมีคนอีกจำนวนไม่น้อยที่ไม่พอใจ

ณ โรงแรมอีกแห่งหนึ่งที่จัดเตรียมไว้สำหรับจอมยุทธ์ มีเยาวชนคนหนึ่งที่มองผลการจัดอันดับด้วยความไม่พอใจ

“รายการจัดอันดับของบริษัทลอตเตอรีนี้หลับตาทำออกมาหรืออย่างไร? ฉันจะอยู่ในอันดับที่ต่ำกว่าเฉินเฟิงจากประเทศหวาได้ยังไง แถมเฉินเฟิงยังได้อยู่ในอันดับที่สี่อีก!”

เยาวชนคนนี้สวมชุดบูโดสีดำ ด้านหลังปักตัวอักษรไว้ว่า “หง”

และใช่เขาคือหงอี้ทายาทสายตรงของหงเทียนป้าเจ้าสำนักของสำนักหงเหมิน

สำหรับการฝึกฝนของหงอี้ เจ้าสำนักอย่างหงเทียนป้าทุ่มเทอย่างเต็มที่ เขาถ่ายทอดเทคนิคศิลปะการต่อสู้ให้กับหงอี้ด้วยตัวเอง อีกทั้งไม่ว่าจะฝนตกฟ้าร้องเขาก็อยู่ดูหงอี้ฝึกฝนมาโดยตลอด ที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อลบล้างความอัปยศที่ถูกเนรเทศออกจากวงการศิลปะการต่อสู้ เขาทำทุกวิถีทางเพื่อให้ได้มาซึ่งยาพันธุกรรมอันล้ำค่าจากออกัสตัสเจ้าสำนักของสภามืด เพื่อทำให้หงอี้กลายเป็นผู้แข็งแกร่งในขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางได้ในระยะเวลาอันสั้น

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน