ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 708

ตอนที่ 708

บทที่ 708 ธิดาเทพแห่งพรรคคูเรีย

“ศีลสาม นายมาจากพระพุทธศาสนา นายรู้จักเติ้งนีจากอินเดียคนนั้นไหม? เล่าให้ฟังหน่อย!”

เมื่อรู้สึกหดหู่จียุ่นจึงหันไปถามศีลสามที่อยู่ด้านข้าง

“เรื่องนี้หรือ!” ศีลสามเอ่ยยิ้มๆ “เติ้งนีคนนี้ชื่อเสียงโด่งดังมากในพระพุทธศาสนา ความสามารถของเขาไม่ได้ด้อยไปกว่าเฉินเฟิงเลย อีกทั้งเขายังเป็นจอมยุทธ์บ้าคลั่ง ด้านการฝึกฝนการต่อสู้อยู่ในขั้นที่เรียกว่าหมกมุ่น ฉันขอแนะนำนายว่าเมื่อขึ้นเวทีรีบยอมแพ้ซะจะได้ลดการบาดเจ็บทางร่างกายให้น้อยหน่อย!”

เมื่อได้ฟังที่ศีลสามพูดจียุ่นก็รู้สึกหดหู่มากกว่าเดิม เขาคิดไม่ถึงเลยว่าตัวเองจะซวยขนาดนี้ สำหรับคำแนะนำจากศีลสามเขาไม่มีข้อสงสัยเลยแม้แต่น้อย

ในระหว่างที่พูดศีลสามก็ยื่นมือไปหยิบลูกบอลออกมาลูกหนึ่ง ด้านบนมีหมายเลขสี่สิบสี่เขียนไว้ เขาถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มที่สิบห้า นี่เขาได้อยู่กลุ่มเดียวกับหงอี้หรือนี่

“อืม ดูแล้วฉันยังถือว่าดวงดีไม่น้อยที่ไม่ได้อยู่กลุ่มเดียวกับเฉินเฟิง แต่ว่ากลุ่มนี้มีคนจากประเทศหวาอยู่คนหนึ่ง!”

ด้านหงอี้ หลังจากเขาจับสลากเรียบร้อยแล้วเขายังไม่ได้จากไปแต่สายตาของเขากลับจับจ้องอยู่ที่จอขนาดใหญ่ เมื่อหมายเลขของศีลสามปรากฏขึ้นเขาจึงแสยะยิ้มแล้วกวาดสายตาลงไปมองผู้ชมที่อยู่ด้านล่าง

ท่ามกลางผู้คนมากมาย เขาเห็นหงเทียนป้าอาจารย์ของตน จากนั้นเขาก็พยักหน้าเบาๆครั้งหนึ่งราวกับสื่อความหมายว่าเขาจะทำให้จอมยุทธ์จากประเทศหวาคนนี้พ่ายแพ้ต่อหน้าทุกคน เพื่อลบล้างความอัปยศของผู้เป็นอาจารย์

หงเทียนป้าที่นั่งอยู่ท่ามกลางผู้ชมก็เห็นหมายเลขบนหน้าจอ และก็เห็นหงอี้ลูกศิษย์ตัวเองด้วย

หงเทียนป้าเผยรอยยิ้มเยือกเย็นราวกับกำลังตอบรับลูกศิษย์ตัวเอง การที่ได้ประชันกับจอมยุทธ์ของประเทศหวาตั้งแต่รอบแรกถือเป็นผลลัพธ์ที่ไม่เลวเลย

เฉินเฟิงที่อยู่ท่ามกลางผู้คนก็เห็นผลลัพธ์นี้เช่นกัน ทว่าเขาไม่ห่วงเพราะศีลสามไม่ได้ใส่ใจชื่อเสียงพวกนี้อยู่แล้ว ถึงแม้ว่าความสามารถของหงอี้จะไม่เลวแต่ศีลสามก็ไม่ได้ด้อยขนาดนั้น ขอเพียงไม่ปล่อยให้ฝ่ายตรงข้ามมีโอกาสก็คงไม่เป็นอะไร

เฉินเฟิงครุ่นคิดในใจ “หงอี้ จั่วจู้ อาเธอร์และรอน หากคนกลุ่มนี้ผ่านเข้ารอบอย่างราบรื่น เช่นนั้นก็จะกลายเป็นคู่ต่อสู้ของฉัน แต่ฉันก็หวังว่าวิลเลียมคนนั้นจะผ่านเข้ารอบ เช่นนั้นฉันจะได้ฆ่ามันด้วยตัวเองเพื่อแก้แค้นให้กับศิษย์พี่ที่สูญเสียขาทั้งสองข้าง”

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เฉินเฟิงก็อดที่จะกำหมัดแน่นไม่ได้จนรังสีอาฆาตแผ่ซ่านออกมา เขาต้องจัดการมันให้ได้

การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก เวทีแห่งนี้คือสถานที่ที่ชื่อเสียงของเขาจะโด่งดังไปทั่วโลก เขาจะต้องจัดการศัตรูทั้งหมดให้ราบคาบ จากนั้นก็ก้าวข้ามศพของพวกมันและกลายเป็นผู้แข็งแกร่งรุ่นเยาวชนของโลกอย่างแท้จริง

การจับสลากเสร็จสิ้นลงแล้ว ผู้เข้าแข่งขันทั้งหมดแบ่งออกเป็นกลุ่มย่อยตามหมายเลข การแข่งขันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น

ประธานบนเวทีคือพระสันตะปาปาแห่งวาติกันและยังมีผู้อาวุโสระดับโลกอีกหลายท่านที่นั่งอยู่บนเวทีเพื่อรอชมการแข่งขันอย่างตั้งใจ

จากนั้นผู้เข้าแข่งขัน หัวหน้าทีมและพนักงานของแต่ละประเทศล้วนออกจากสนามแล้วมุ่งไปยังที่นั่งสำหรับผู้ชมหรือไม่ก็ไปยังคริสตจักรกวงหมิงเพื่อเตรียมตัวสำหรับการแข่งขัน

ตามกติกาที่ตั้งขึ้นมา สามวันแรกจะเป็นการแข่งขันของกลุ่มเล็ก ทุกกลุ่มเล็กจะต้องแข่งสองรอบต่อวันจากนั้นผู้ชนะก็จะเข้ารอบต่อไปเพื่อแข่งต่อ

ทางด้านประเทศหวา เฉินเฟิงคือหนึ่งในสิบหกผู้แข็งแกร่ง

เทียนอิงอยู่กลุ่มที่สิบสอง คู่แข่งของเขาคือปาข่าเกอ ราชาแห่งรุ่นเยาวชนจากอียิปต์

ศีลสามอยู่กลุ่มที่สิบห้า คู่แข่งของเขาคือหงอี้ทายาทสายตรงของหงเทียนป้า

ส่วนจียุ่นอยู่กลุ่มที่ห้า กลุ่มนี้เป็นกลุ่มแรกๆที่จะได้แข่ง คู่แข่งของเขาคือเติ้งนีทายาทพระพุทธศาสนาจากอินเดีย

อีกทั้งในรอบแรกเป็นการแข่งขันระหว่างเขาและเติ้งนี เรียกได้ว่าเป็นสีสันของการเปิดการแข่งขันในครั้งนี้เลยก็ว่าได้

“ตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา เราจะไปคริสตจักรหรือไปตรงที่นั่งสำหรับผู้ชม?”

เฉินเฟิง เทียนอิง จียุ่นและศีลสามเดินอยู่ด้วยกัน และศีลสามคือคนที่เอ่ยถามขึ้นมา

“อยู่ดูการแข่งขันดีกว่า การแข่งขันอาจทำให้เราได้ประสบการณ์มากขึ้น ศึกษาผู้แข็งแกร่งจากประเทศอื่นจะเป็นประโยชน์กับพวกเรามาก!”

เทียนอิงไม่เคยคิดว่าจะแข่งอะไรกับเฉินเฟิง ทว่าเขาก็ไม่พอใจที่จะเป็นคนธรรมดาทั่วไป การแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในครั้งนี้เป็นโอกาสที่ดีที่สุด เขาจะแสดงศักยภาพอย่างเต็มที่เพื่อคว้าอันดับที่ดีมาให้ได้

“เห้อ ดูไปก็เท่านั้นแหละ ดูไปเราก็ไม่สามารถเอาชนะผู้แข็งแกร่งสิบหกคนนั้นได้อยู่ดี!”

จียุ่นเอ่ยอย่างท้อแท้ หลังจากเขาได้ศึกษาดูประสบการณ์และความสามารถของเติ้งนีแล้ว จิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ก็ห่อเหี่ยวเหลือเกิน

“ฉันคิดว่าเทียนอิงพูดถูก นั่งดูสักหน่อยดีกว่า ไม่ว่าครั้งนี้ผลจะออกมาดีหรือไม่ แต่มันจะเป็นประโยชน์แก่เราในภายภาคหน้า!”

ขณะนั้นเองเฉินเฟิงก็เอ่ยปากขึ้นบ้าง วิทยายุทธ์หักแม่น้ำของเขาเกิดจากการรวบรวมจุดแข็งของตระกูลต่างๆเข้าไว้ด้วยกัน การได้ศึกษาศิลปะการต่อสู้ของสำนักอื่นข้อหนึ่งเป็นประโยชน์ต่อการทำความเข้าใจความสามารถของคู่ต่อสู้ ข้อสองเป็นประโยชน์ต่อวิทยายุทธ์หักแม่น้ำของเขา

“ก็ได้ อย่างนั้นก็ตามที่เฉินเฟิงบอก เราไปดูการแข่งขันกัน”

เฉินเฟิงยังเอ่ยไม่ทันจบ ศีลสามก็รีบเอ่ยขึ้นมาก่อน

ส่วนจียุ่นก็ไม่ได้ว่าอะไร เพียงแค่ตอนนี้เขารู้สึกห่อเหี่ยวไปหมด ไม่คาดหวังอะไรกับการแข่งขันในครั้งนี้แล้ว

พื้นที่สำหรับการรับชมแบ่งออกเป็นสองส่วน โดยแยกกันอย่างชัดเจน ตอนนี้เฉินเฟิงอยู่กับเหล่าจอมยุทธ์ที่พักอาศัยอยู่โรงแรมเดียวกันก่อนหน้านี้

“เอ๋?”

ศีลสามหลุดอุทานเสียงเบา จากนั้นก็ทำทีเป็นพนมมือพลางเอ่ย “สาธุ สาธุ โยมทุกท่าน ทิศตะวันออกมีผู้หญิงคนหนึ่งทั้งสวย เซ็กซี่และมีเสน่ห์!”

เฉินเฟิง จียุ่น เทียนอิงและศีลสามเพิ่งเดินมาถึงพื้นที่สำหรับผู้ชม สายตาเป็นประกายของศีลสามจับจ้องไปยังบริเวณที่ไกลออกไป

“โอ้!”

ศีลสามเอ่ยจบ สามคนที่เหลือก็ชะงักไปพักหนึ่งก่อนจะหันไปมองตามสายตาของศีลสาม บริเวณพื้นที่วีไอพีมีผู้หญิงคนหนึ่งสวมเสื้อคลุมสีขาวยืนอยู่

ถึงแม้ว่าบริเวณที่พวกเขาอยู่จะห่างจากพื้นที่วีไอพีพอสมควร ทว่าพวกเขาคือคนที่ฝึกฝนการต่อสู้ ทำให้หูตาไวกว่าคนทั่วไป พวกเขาจึงเห็นหน้าตาของผู้หญิงคนนั้นอย่างชัดเจน

ผู้หญิงคนนั้นมีผมยาวถึงช่วงเอวราวกับน้ำตกที่ร่วงลงสู่พื้น มีเครื่องหน้าสมบูรณ์แบบ ดวงตาเป็นประกายราวกับอัญมณี

รัศมีเจิดจ้าขนาดนี้ เรียกได้ว่าทำให้ผู้หญิงทุกคนดูด้อยไปเลยก็ว่าได้ เธอไปที่ไหนก็คงจะตกเป็นเป้าสายตาของทุกคน เพราะคนที่สวยขนาดนี้ไม่ได้หาได้ง่ายๆ

อีกทั้งรูปร่างของผู้หญิงคนนี้ก็ดีมาก อกเป็นอกเอวเป็นเอวจนทำให้ผู้พบเห็นใจสั่นได้

และสิ่งที่ทำให้คนสะดุดตาก็คงเป็นสร้อยไม้กางเขนสีเงินที่เธอสวมใส่อยู่สะท้อนกับแสงอาทิตย์จนเกิดเป็นประกาย

ตอนนี้ความงดงามของเธอดึงดูดความสนใจของทุกคนไปจนหมด

“คนนี้คือ……ทิฟฟานี่ธิดาเทพแห่งพรรคคูเรีย!”

ท่ามกลางผู้คนมากมายมีคนจำนวนไม่น้อยที่เห็นแวบเดียวก็รู้ว่าเธอคือใคร

“แม่เจ้า ไม่อยากจะเชื่อ หากไม่ได้เห็นด้วยตาตัวเองก็คงจะไม่เชื่อว่าบนโลกนี้มีผู้หญิงที่ดูสวยสง่าและสูงส่งขนาดนี้!”

“ทิฟฟานี่เป็นถึงธิดาเทพแห่งพรรคคูเรีย ใครจะมาเทียบได้!”

ฉับพลันทุกคนก็ถูกดึงดูดความสนใจและต่างพากันวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างลับๆ

เฉินเฟิงก็ได้เห็นความสวยของผู้หญิงคนนั้น ตอนนี้เขาก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าทั้งหน้าตา รูปร่างและรัศมีของทิฟฟานี่นั้นเรียกได้ว่าเป็นมีเพียงหนึ่งเดียวจริงๆ

สำหรับเสียงวิพากษ์วิจารณ์และเสียงอุทานจากรอบข้างนั้นทิฟฟานี่ไม่ได้สนใจ เนื่องจากเธอคุ้นชินและชื่นชอบสภาพแวดล้อมแบบนี้มาตั้งนานแล้ว ตอนนี้เธอจึงมาถึงพื้นที่วีไอพีด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท