ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 710

ตอนที่ 710

บทที่ 710 มีเพียงหนึ่งเดียว

รอบแรกก็มีคนยอมแพ้แล้ว นี่เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลกที่มีคนยอมแพ้ตั้งแต่รอบแรก บรรยากาศในสนามการแข่งขันร้อนระอุ ขณะเดียวกันก็มีคนวิจารณ์กันเสียงเบา

“อาเธอร์คนนี้แข็งแกร่งจริงๆ!”

“ใช่ อาเธอร์ยังไม่ทันได้ลงมือ นีโปคนนั้นก็รีบประกาศยอมแพ้แล้ว รัศมีแบบนี้เรียกได้ว่ามีเพียงหนึ่งเดียวเท่านั้น!”

“พวกนายไม่เข้าใจหรอก ดูภายนอกถึงแม้อาเธอร์จะยังไม่ได้ลงมือ แต่รัศมีของเขาเมื่อสักครู่นั้นน่าเกรงขามถึงขีดสุด ภายใต้แรงกดดันแบบนี้นีโปจึงไม่กล้าฝืนสู้ด้วย ดังนั้นเขาจึงเลือกที่จะยอมแพ้อย่างชาญฉลาด”

จากการที่นีโปขอยอมแพ้ ฉับพลันภายในสนามก็เกิดการวิพากษ์วิจารณ์กันไปต่างๆนาๆ

ไม่เพียงแค่ผู้ชมทั่วไปเท่านั้น แม้แต่จอมยุทธ์ที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ก็มีการแสดงความคิดเห็นด้วย เนื่องจากเหตุการณ์นี้ล้วนเป็นเหตุการณ์ที่ทุกคนคาดไม่ถึง

“หึ ฉันกลับคิดว่าอาเธอร์ตั้งใจยกระดับพลังเพื่อกดดันคู่ต่อสู้มากกว่า นี่ถือว่าเป็นการบีบบังคับให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ นี่มันรังแกกันชัดๆ ชักจะทำเกินไปแล้ว!”

จียุ่นมองร่างที่อยู่บนเวที บวกกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่ เขาจึงอดที่จะเอ่ยขึ้นมาไม่ได้

“อืม ดูมีความน่าสงสัยว่าเป็นการรังแกอยู่บ้าง!”

เทียนอิงที่อยู่ข้างๆก็พยักหน้ารับพลางเอ่ย “เนื่องจากก่อนหน้านี้มีโควตาเพียงยี่สิบกว่าคนเท่านั้น ตอนนี้เพิ่มขึ้นมาเป็นหกสิบกว่าคน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้จึงเกิดช่องว่างระหว่างความสามารถที่กว้างมาก ต้องเผชิญกับคนที่มีความสามารถมากกว่าตัวเองมากๆจึงเป็นเรื่องที่ยากจะหลีกเลี่ยง!”

“หากเป็นแบบนี้การแข่งขันต่อจากนี้คงสนุกน่าดู ฉันคิดว่าคงมีเหตุการณ์ที่จัดการคู่ต่อสู้ให้หมอบราบคาบได้ในท่าเดียว หรือไม่ก็ล้มคู่ต่อสู้อย่างสุดกำลังตั้งแต่ขึ้นมาเลย!”

ถึงแม้เฉินเฟิงจะไม่ได้เอ่ยปากแต่เขาเห็นด้วยกับคำพูดของเทียนอิงเป็นอย่างมาก การแข่งขันในครั้งนี้ไม่เหมือนกับที่ผ่านมา อย่างนีโปที่เพิ่งเขาสู่ขั้นหั้วจิ้งชั้นต้นก็มาเข้าร่วมการแข่งขันแล้ว อย่าว่าแต่เจอกับผู้แข็งแกร่งทั้งสิบหกคนเลยแค่ผู้เข้าแข่งขันทั่วไปเขาก็สู้ไม่ได้แล้ว

การแข่งขันในรอบแรกนี้เรียกความสนใจจากผู้ชมได้ไม่น้อย ไม่เว้นแม้แต่บรรดาผู้อาวุโสในห้องวีไอพี

“ไม่เสียแรงที่อาเธอร์เป็นถึงหัวหน้าราชองครักษ์ ยังไม่ทันได้ลงมือคู่ต่อสู้ก็ยอมแพ้แล้ว เรียกได้ว่าเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน!”

บริเวณห้องวีไอพี โจ้ส์ในฐานะเลขาธิการของการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้หันไปหาพระสันตะปาปาที่อยู่ด้านข้างพลางเอ่ยชมอย่างไม่ปิดบัง

“ฮ่าฮ่า ไม่หรอก อาจจะเป็นเพราะเยาวชนคนนั้นไม่อยากประชันกับอาเธอร์มากกว่า เขาอาจจะอยากเก็บแรงไว้สำหรับการต่อสู้ในรอบถัดๆไปก็ได้!”

พระสันตะปาปาเอ่ยอย่างถ่อมตน เพียงแต่สีหน้าของเขาในตอนนี้หากใครไม่ได้ตาบอดก็จะเห็นว่าเขากำลังลำพองใจ

การแข่งขันในรอบแรก การที่อาเธอร์ชนะตั้งแต่ยังไม่ลงมือถือเป็นการสร้างประวัติศาสตร์ใหม่ เขาในฐานะพระสันตะปาปาจึงได้หน้าไปด้วย

พระสันตะปาปายังเอ่ยไม่ทันจบ อู่จื่อโจวและตัวแทนผู้อาวุโสจากประเทศรัสเซีย อเมริกาก็เอ่ยชมอาเธอร์เช่นเดียวกัน

“เห้อ อาเธอร์คนนี้แข็งแกร่งจริง หากเฉินเฟิงประชันกับเขาไม่รู้ว่าจะสามารถเอาชนะได้ไหม!”

อู่จื่อโจวมองไปยังอาเธอร์ที่อยู่บนเวทีพลางคิดวิเคราะห์ในใจ หากไม่มีอะไรผิดพลาดพวกเขาทั้งสองคนจะได้เจอกันตอนแข่งขันแน่นอน เพียงแต่ยังไม่ทันได้ประชันฝีมือกันจึงยังมองไม่ออก

อู่จื่อโจวได้ประชันฝีมือกับเฉินเฟิงตอนคัดเลือกครั้งก่อน เขาพึงพอใจในตัวเฉินเฟิงเป็นอย่างมาก ทีแรกเขาก็มั่นใจถึงขีดสุดทว่าเมื่อเห็นว่าแค่รัศมีของอาเธอร์ก็เอาชนะคู่ต่อสู้ได้แล้ว ความสามารถขนาดนี้ทำให้ความมั่นใจของเขาเริ่มสั่นคลอน

อาเธอร์ในตอนนี้กลายเป็นคนที่มีตัวตนในสายตาของทุกคน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์ของทุกคน อาเธอร์กลับมองไปยังธิดาเทพแห่งคูเรียที่อยู่บริเวณพื้นที่วีไอพี จากนั้นก็คารวะอย่างสุภาพบุรุษแล้วเดินลงจากเวทีโดยไม่หันกลับไปมอง เมื่อเห็นว่าอาเธอร์ไปแล้วนีโปก็รีบไปจากตรงนี้เช่นเดียวกัน เขาคือผู้เข้าแข่งขันที่แข่งในรอบแรกและก็เป็นคนแรกที่ยอมแพ้เช่นเดียวกัน ซึ่งเหตุการณ์แบบนี้ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน เมื่อได้ยินเสียงวิจารณ์จากรอบด้านเขาก็แทบจะอยากมุดหายเข้าไปในซอก

“เอาล่ะ การแข่งขันในรอบแรกจบลงไปแล้ว ไม่ทราบว่าทุกท่านดูแล้วเป็นอย่างไรกันบ้าง? หนำใจกันไหม?”

หลังจากผู้เข้าแข่งขันทั้งสองคนลงจากเวที พิธีกรคนนั้นก็เดินถือไมโครโฟนขึ้นมาบริเวณกลางสนามแข่งขันแล้วเอ่ยถามผู้ชม

“อะไรกัน ไม่หนำใจเลย!”

เหล่าผู้ชมต่างพร้อมใจกันตอบเป็นเสียงเดียวกัน

สำหรับจอมยุทธ์ทั่วไปหรือคนทั่วไปอาจจะไม่หนำใจจริงๆ เนื่องจากความสามารถของพวกเขาต่ำเกินกว่าที่จะเข้าใจสาเหตุที่แท้จริง มีเพียงผู้ที่แข็งแกร่งเท่านั้นที่จะเข้าใจว่าอาเธอร์ใช้พลังในการกดดันคู่ต่อสู้

“พูดตามความจริงผมเองก็ยังดูไม่หนำใจ นั่นเป็นเพราะอะไร? เป็นเพราะเมื่อสักครู่ทั้งสองฝ่ายยังไม่ได้ประชันฝีมือกันเลย”

พิธีกรเอ่ยต่อ “แต่ว่าอย่าเพิ่งรีบร้อนกันไป การแข่งขันเพิ่งเริ่มต้นขึ้นนี่เป็นเพียงแค่รอบแรกเท่านั้น วันนี้ยังมีการแข่งขันอีกสามสิบสองรอบ ผมเชื่อว่าการแข่งขันในรอบถัดไปต้องสนุกและตื่นเต้นอย่างแน่นอน ไม่พูดมากแล้ว ขอเสียงปรบมือต้อนรับผู้เข้าแข่งขันในรอบที่สองขึ้นเวทีด้วยครับ!”

พิธีกรเอ่ยจบก็มีผู้เข้าแข่งขันสองคนเดินออกมาจากคนละทิศทาง ในสองคนนี้คนแรกมาจากประเทศรัสเซีย อีกคนมาจากประเทศหนึ่งในทวีปแอฟริกา

หลังจากทั้งสองคนขึ้นมาบนเวทีแล้วเสียงของผู้ตัดสินก็ดังขึ้น ชั่วพริบตาทั้งสองคนก็พุ่งเข้าหากัน คนหนึ่งชก คนหนึ่งเตะ ต่อสู้กันอย่างดุเดือด เหล่าผู้ชมก็โห่ร้องอย่างพึงพอใจไม่ว่ายังไงนี่สิถึงเรียกว่าการแข่งขัน เพียงแต่ว่าการแข่งขันของจอมยุทธ์ระดับต่ำแบบนี้บรรดาผู้แข็งแกร่งกลับไม่สนใจ

เมื่อพิธีกรประกาศเข้าสู่การแข่งขันของรอบที่สาม พวกเขาถึงกลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง

การแข่งขันในรอบที่สองนี้จบลงอย่างรวดเร็ว โดยผู้เข้าแข่งขันที่มาจากประเทศรัสเซียเป็นฝ่ายชนะ

“เอาล่ะ การแข่งขันเมื่อสักครู่น่าตื่นตาตื่นใจเป็นอย่างมาก ลำดับต่อไปเป็นการแข่งขันระหว่างวิลเลียมจากสหภาพยุโรปและลีจากประเทศเวียดนาม ขอเสียงปรบมือต้อนรับทั้งสองคนด้วยครับ!”

“เยี่ยม!”

ผู้ชมในสนามคึกคักขึ้นมาทันที การแข่งขันของผู้แข็งแกร่งนั้นน่าตื่นเต้นและมีสีสันที่สุด

“เมื่อสักครู่อาเธอร์เป็นฝ่ายชนะตั้งแต่ยังไม่ลงมือ เช่นนั้นวิลเลียมคนที่ได้ชื่อว่าเป็นตัวเต็งสำหรับตำแหน่งแชมป์ในครั้งนี้เช่นเดียวกันกับอาเธอร์จะเป็นการแข่งขันที่น่าตื่นเต้นขนาดไหน!”

พิธีกรคนนี้ถึงแม้อายุจะยังน้อยทว่าสามารถเรียกอารมณ์ผู้ชมและสร้างบรรยากาศในการแข่งขันได้เป็นอย่างดี

การแข่งขันกำลังจะเริ่มต้นขึ้น คนเป็นพิธีกรจึงรีบลงจากสนามแข่งขันอย่างรวดเร็ว

จากนั้นเหล่าผู้ชมต่างก็จับจ้องไปยังทิศทางที่ผู้เข้าแข่งขันจะเดินออกมา ท่ามกลางการรอคอยของทุกคนวิลเลียมคือคนที่เดินออกมาก่อน

เขายังคงสวมเสื้อกันลมสีดำและสวมหน้ากากผีเหมือนเดิมซึ่งให้ความรู้สึกลึกลับและน่ากลัวแก่ผู้พบเห็น

“วิลเลียม!”

วิลเลียมเพิ่งปรากฏตัว เหล่าผู้ชมก็โห่ร้องขึ้นมาอีกครั้ง โดยเฉพาะแฟนคลับตัวจริงของวิลเลียมที่ตะโกนชื่อของเขาเสียงดัง

สำหรับเสียงตะโกนและปฏิกิริยาของผู้ชม วิลเลียมทำเหมือนไม่เห็น บรรยากาศรอบด้านไม่ได้มีผลอะไรกับเขา เขาก้าวเดินอย่างช้าๆทว่ามั่นคงขึ้นไปบนเวที

หลังจากที่วิลเลียมปรากฏตัว ไม่นานลีผู้เป็นคู่ต่อสู้ของเขาก็เดินออกมา ทว่าการปรากฏตัวของอีกฝ่ายไม่สามารถดึงดูดความสนใจจากผู้ชมได้ เพราะสายตาของผู้ชมยังคงจับจ้องอยู่ที่วิลเลียมดังเดิม

จากข้อนี้เห็นได้ว่าความนิยมของทั้งสองคนนั้นห่างชั้นกันขนาดไหน

วิลเลียมยังคงสวมหน้ากากอยู่ให้ความรู้สึกลึกลับเป็นอย่างมาก ทว่าความแปลกประหลาดของเขากลับทำให้คนอื่นเกิดความสงสัย:ทำไมวิลเลียมถึงใส่หน้ากากตลอดเวลา?

วิลเลียมเดินขึ้นไปบนเวทีระหว่างที่เดินสายตาของเขาก็สอดส่องไปยังพื้นที่ของผู้ชม แค่แวบเดียวเขาก็เจอเฉินเฟิง วิลเลียมหรี่ตาลง ไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไรอยู่

หลังจากที่ทั้งสองคนขึ้นมาบนเวทีแล้ว ผู้ตัดสินวัยกลางคนก็ขึ้นเวทีอีกครั้งแล้วหันไปมองทั้งสองฝ่ายก่อนเอ่ยถาม “พวกคุณทราบกติกาการแข่งขันแล้วใช่ไหม? ต้องการให้ผมพูดทวนอีกรอบหรือไม่?”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท