ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 745

ตอนที่ 745

บทที่ 745 ตัวต่อตัว

สีหน้าของอู่จื่อโจวเปลี่ยนทันที รูม่านตาหดแคบลง การแข่งขันดำเนินมาจนถึงตอนนี้ล้วนเหนือความคาดหมายของทุกคนไปแล้ว เดิมทีอู่จื่อโจวคิดว่าคู่ต่อสู้ของเฉินเฟิงคืออาเธอร์หรือวิลเลียม ทว่าคิดไม่ถึงว่าเมื่อมาเจอจั่วจู้ก็ส่อแววว่าจะแพ้แล้ว

อีกทั้งอู่จื่อโจวรู้ดีว่าจั่วจู้ฉีดยาพันธุกรรมแต่เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายยังไม่ได้เรียกใช้งาน ภายใต้สถานการณ์แบบนี้ยังสามารถทำให้เฉินเฟิงบาดเจ็บได้ หากจั่วจู้ใช้ยาพันธุกรรมในร่างกายเพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้จะน่ากลัวขนาดไหน อู่จื่อโจวไม่อาจจินตนาการได้เลยและไม่กล้าที่จะจินตนาการด้วย

ที่พระสันตะปาปาเอ่ยเมื่อสักครู่ก็เพราะสาเหตุนี้ ถึงแม้อานุภาพของท่าไม้ตายแบ่งคลื่นจะแข็งแกร่งขนาดไหนทว่าก็แค่สามารถทำให้เฉินเฟิงบาดเจ็บภายนอกเท่านั้น

“จั่วจู้ ไม่ใช้แรงอย่างเต็มที่ตอนนี้จะรอใช้ตอนไหน อย่าประมาทศัตรู!”

และในช่วงวินาทีนี้เอง กงปุ่นเหย่อู่ผู้เป็นอาจารย์ของจั่วจู้ที่ดูอยู่ก็หยัดตัวขึ้นยืนอย่างฉับพลันก่อนจะตะโกนออกมาจนเสียงดังก้องไปทั่วทุกมุมของสนาม

จั่วจู้ที่กำลังนิ่งอึ้งอยู่ก็รู้สึกตัวราวตื่นจากฝัน ถึงแม้เขาจะคิดว่าไม่จำเป็นต้องใช้พลังทั้งหมด แต่เมื่อผู้เป็นอาจารย์เอ่ยปากแล้ว เขาก็ไม่กล้าขัดคำสั่ง พลังภายในพลุ่งพล่านกระตุ้นยาพันธุกรรมที่อยู่ในร่างกายเพื่อยกระดับพลังการต่อสู้

ความจริงแล้วจั่วจู้รู้ดีแก่ใจ หากเขาใช้แค่ความสามารถของตัวเองไม่มีทางที่จะฆ่าเฉินเฟิงได้ ก่อนการแข่งขันเขาคิดว่าอาศัยความสามารถของตัวเองก็เพียงพอแล้ว กระทั่งเมื่อสักครู่ที่เฉินเฟิงตั้งรับท่าไม้ตายแบ่งคลื่นของเขา เขาถึงเปลี่ยนความคิด

เมื่อกระตุ้นยาพันธุกรรมในร่างกายให้ออกฤทธิ์เพื่อเพิ่มศักยภาพในการต่อสู้แล้ว เขาต้องรีบฆ่าเฉินเฟิงโดยเร็ว

“โอเวอร์เกินไปแล้ว นี่จั่วจู้เก็บซ่อนความสามารถไว้หรือนี่!”

“พลังของจั่วจู้กำลังพุ่งสูงขึ้นแล้ว สิ่งที่รอคอยเฉินเฟิงอยู่จะเป็นอะไร?”

“เห้อ เฉินเฟิงก็ถือเป็นคนที่มีชื่อเสียง ไม่คิดเลยว่าจะเอาชีวิตมาทิ้งไว้ที่นี่!”

คำพูดของกงปุ่นเหย่อู่เมื่อสักครู่ทุกคนล้วนได้ยินอย่างชัดเจน เมื่อเห็นท่าทีน่าเกรงกลัวของจั่วจู้ในตอนนี้ก็อดที่จะวิจารณ์กันไม่ได้

“เห้อ น่าเสียดายที่คนที่ฉันนับถืออย่างเฉินเฟิง คิดไม่ถึงเลยว่าวันนี้เขาจะเอาชีวิตไม่รอดแล้ว!”

ตอนนี้ไม่ได้มีแค่คนทั่วไปและจอมยุทธ์ระดับต่ำเท่านั้นที่วิพากษ์วิจารณ์กัน แม้แต่ผู้เข้าแข่งขันด้วยกันเองก็คิดว่าวันนี้เฉินเฟิงคงไม่รอดแล้ว เนื่องจากเมื่อสักครู่เห็นว่าเฉินเฟิงฝืนตั้งรับกระบวนท่าของคู่ต่อสู้ ยิ่งตอนนี้พลังการต่อสู้ของจั่วจู้กำลังพุ่งสูงขึ้น เฉินเฟิงต้องตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย

“สถานการณ์ไม่ดีนัก เฉินเฟิงระวัง!”

จีอู๋ฉางเอ่ยขึ้นโดยจิตใต้สำนึก โดยชางโป๋และปรมาจารย์ฟางเจิ้งที่อยู่ข้างๆไม่ได้พูดอะไร เห็นได้ชัดว่าเห็นด้วยกับคำพูดของจีอู๋ฉาง

“หึ ความสามารถแค่นี้ยังกล้ามาโชว์โง่ ไม่รู้ว่าฝ่าบาทและธิดาเทพชอบมันที่ตรงไหน ความสามารถแค่นี้ใช้แค่ท่าเดียวก็ฆ่ามันได้แล้ว!”

อาเธอร์ที่ยืนดูอยู่ในกลุ่มผู้ชมเผยยิ้มเยือกเย็น เขาพึมพำกับตัวเองคำพูดของเขาอาจจะเกินจริงไปบ้าง ทว่าเขาก็คิดว่าเฉินเฟิงต้องตายแน่อย่างไม่ต้องสงสัย

ส่วนวิลเลียมที่อยู่ด้านข้างไม่ได้พูดอะไร ทว่าส่ายหน้าไปมา เห็นได้ว่าไม่พึงพอใจกับความสามารถของเฉินเฟิง อีกทั้งเสียดายที่ไม่ได้ฆ่าอีกฝ่ายด้วยตัวเอง

“ไอ้บ้าเอ๊ย ทำไมไอ้ญี่ปุ่นนี่โรคจิตขนาดนี้!” จียุ่นที่ดูอยู่เริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้และอดที่จะด่าไม่ได้ เดิมทีเขาคิดว่าเฉินเฟิงจะข่มคู่ต่อสู้เหมือนอย่างที่ผ่านมา ทว่าคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะตกอยู่ในสถานการณ์เสียเปรียบ อีกทั้งยังได้รับบาดเจ็บอีก

“ฉันเชื่อว่าเฉินเฟิงจะพลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้!” และในตอนนั้นเองเทียนอิงก็เอ่ยปากขึ้น ที่เขามีความเชื่อแบบนี้ก็เพราะว่าเขาเห็นท่าทีและสีหน้าที่สงบนิ่งของเฉินเฟิง

เฉินเฟิงยืนอยู่บนเวทีด้วยสีหน้าสงบนิ่งพลางใช้ลมปราณในร่างกายฟื้นฟูบาดแผลบนแขนอยู่เงียบๆ ไม่นานแขนของเราก็กลับมามีความรู้สึกเหมือนเดิม พลังการต่อสู้ก็ไม่ได้รับผลกระทบมากนัก

“ไอ้สวะ แกตื่นได้แล้ว ต่อจากนี้แกจะไม่มีโอกาสอีกแล้ว!”

จั่วจู้คำราม พลังของเขาพุ่งสูงจนถึงขีดสุดในพริบตาจนให้ความรู้สึกแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก ตอนนี้พลังของจั่วจู้เข้าใกล้ขั้นหั้วจิ้งชั้นสุดแล้ว

เรียกได้ว่าหากจั่วจู้อาศัยความสามารถของตัวเองจนมาถึงขั้นนี้ได้ เช่นนั้นเขาจะกลายเป็นหั้วจิ้งชั้นสุดคนแรกเลยก็ว่าได้

เห็นร่างของจั่วจู้เคลื่อนไหวแวบหนึ่งก่อนจะหายไปในเสี้ยววินาที เรียกได้ว่าเร็วกว่ากระพริบตาเสียอีก ร่างของเขาพุ่งไปทางที่เฉินเฟิงอยู่

จั่วจู้รู้ดีว่าการใช้ยาพันธุกรรมในการเพิ่มพลังการต่อสู้นั้นมีเวลาที่จำกัด ดังนั้นเขาจึงไม่อยากเสียเวลา แค่ลงมือก็ใช้ท่าไม้ตายเลย

ชั่วพริบตาร่างของจั่วจู้ก็ปรากฏอยู่ข้างกายเฉินเฟิง เมื่อมาถึงก็ตวัดดาบใช้ผ่าคลื่นลมอย่างไม่รีรอ

ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าไม่เสียแรงที่จั่วจู้เป็นถึงอัจฉริยะที่หาตัวจับยากของประเทศญี่ปุ่น เขาแข็งแกร่งกว่าอัจฉริยะด้านการต่อสู้อย่างหลิ่วชวนเหยิ่นอยู่มาก ไม่เพียงแต่ความสามารถที่แข็งแกร่งของจั่วจู้ อีกทั้งยังรอบคอบ มีประสบการณ์การในการวิเคราะห์สถานการณ์การต่อสู้ เขารู้ว่าท่าไม้ตายแบ่งคลื่นจะลดทอนพลังในร่างกายมาก หากไม่ถึงช่วงเวลาสำคัญจริงๆเขาจะไม่ใช้เด็ดขาด

เพราะก่อนหน้านี้เขาคิดว่าเฉินเฟิงไม่สามารถตั้งรับท่าไม้ตายแบ่งคลื่นได้ ทว่าคิดไม่ถึงเลยว่าเฉินเฟิงจะตั้งรับได้ อีกทั้งยังบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย ดังนั้นหากเขาไม่มั่นใจจริงๆเขาจะไม่ใช้ท่าไม้ตายนี้

หลังจากพลังของจั่วจู้พุ่งทะยานขึ้น เมื่อใช้ผ่าคลื่นลมเปรียบเทียบกับอานุภาพของท่าไม้ตายแบ่งคลื่น จะเห็นได้ว่าหลังจากพลังการต่อสู้สูงขึ้นนั้นเขาน่ากลัวขนาดไหน

มีเสียงตะโกนจากทางผู้ชมดังขึ้นเป็นระยะ ถึงแม้พวกเขาจะไม่เข้าใจทักษะของศิลปะการต่อสู้ ทว่าพลังของจั่วจู้ที่แผ่ซ่านออกมาในตอนนี้ถึงจะมองไม่เห็นพวกเขาก็ใช้ร่างกายสัมผัสได้

วิลเลียมหรี่ตา แววตาปรากฏความชอบใจ เห็นได้ว่าพลังการต่อสู้ของจั่วจู้ที่แสดงออกมานั้นแม้แต่เขายังประหลาดใจ

เมื่อเผชิญกับดาบที่รุนแรงราวกับสายฟ้าของจั่วจู้ เฉินเฟิงไม่ได้ฝืนรับเหมือนก่อนหน้านี้ ทว่าเขาเลือกที่จะหลบการโจมตีของจั่วจู้อย่างคล่องแคล่ว

“ไอ้สวะ ฉันจะคอยดูว่าแกจะหลบได้สักกี่ครั้ง!”

ระหว่างที่แสยะยิ้มก็เริ่มการโจมตี ทุกครั้งที่ตวัดดาบจะมีพลังอันแข็งแกร่งแผ่ซ่านออกมา เฉินเฟิงจึงเลือกที่จะหลบส่วนจั่วจู้ก็ไล่ตามเฉินเฟิงไม่ปล่อย

เฉินเฟิงยังไม่ยอมลงมือทว่าใช้ทักษะหลบหลีกไปเรื่อยๆ ปฏิเสธไม่ได้ว่าประสบการณ์ในการต่อสู้ของเฉินเฟิงนั้นแตะขั้นสูงสุดแล้ว ทุกครั้งที่จั่วจู้ลงมือเขาก็มักจะคาดเดาได้เสมอจากนั้นก็ค่อยขยับหลบ

คนหนึ่งไปคนหนึ่งมา คนหนึ่งโจมตี อีกคนหลบหลีก เป็นแบบนี้อยู่สิบกว่ารอบ ทว่าจั่วจู้ก็ยังโจมตีไม่โดนเฉินเฟิง แม้แต่ปลายผมของเฉินเฟิงเขาก็แตะไม่โดน

“ไอ้สวะ ไอ้ขยะ แกกล้ามาสู้กับฉันตัวต่อตัวหรือเปล่า?” เมื่อโจมตีไม่โดนเฉินเฟิงสักที จั่วจู้ก็เริ่มมีน้ำโห

“ฮึ ในรุ่นเดียวกัน ฆ่าแกนั่นง่ายเหมือนฆ่ามดตัวหนึ่ง!”

เฉินเฟิงยังคงหลบหลีกไม่หยุด การต่อสู้ไม่ใช่การพุ่งชนอย่างเดียวแต่ต้องอาศัยทักษะ หากระดับขั้นไม่ต่างกันมากเช่นนั้นล่ะก็ทักษะเป็นสิ่งที่สำคัญมาก ตอนนี้เฉินเฟิงจะใช้คำพูดในการยั่วโมโหจั่วจู้เพื่อทำให้อีกฝ่ายขาดสติและลดทอนพลังของอีกฝ่าย

“ไปตายซะ!”

เฉินเฟิงยังพูดไม่ทันจบจั่วจู้ก็โมโหจนคำรามออกมา เขาขยับเข้าใกล้เฉินเฟิงพลังภายในพลุ่งพล่านก่อนจะตวัดดาบออกไป เขาใช้ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นอีกครั้ง

ฟึบ!

พลังแข็งแกร่งกลุ่มหนึ่งวาดผ่าน อากาศตรงหน้าถูกแยกออกในชั่วพริบตาซึ่งระยะห่างใกล้กับเฉินเฟิงเป็นอย่างมาก เขาจึงอาศัยทักษะการต่อสู้ในการหลบหลีกทว่ายังดีที่พลังจากดาบวาดโดนเพียงชายเสื้อของเฉินเฟิง จนเสื้อของเขาฉีกออกในพริบตา

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท