ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 743

ตอนที่ 743

บทที่ 743 สิ้นสุด

เรียกได้ว่าความสามารถของจั่วจู้นั้นก็ไม่ธรรมดา ถึงจะไม่ได้ใช้ยาพันธุกรรมในร่างกายเป็นตัวช่วยในการยกระดับพละกำลังทว่าก็ใช้ความเร็วเพียงชั่วพริบตาเท่านั้น

ภายใต้แสงอาทิตย์สาดส่อง ความเร็วในการเคลื่อนไหวของจั่วจู้รวดเร็วดั่งสายฟ้า มือถือดาบฟันลงไป อย่าคิดว่ากระบวนท่านี้ธรรมดาจอมยุทธ์คนไหนก็ใช้ เนื่องจากกระบวนท่านี้ของจั่วจู้นั้นต่างออกไป กระบวนท่านี้มีชื่อว่าผ่าคลื่นลม

ผ่าคลื่นลมเป็นกระบวนท่าที่ผู้แข็งแกร่งของญี่ปุ่นในสมัยโบราณท่านหนึ่งคิดค้นขึ้นมา จากการที่เขาเดินทางผ่านทะเลแล้วเห็นน้ำทะเลซัดสาดโขดหิน เรียกได้ว่าแข็งแกร่งมากในสมัยนั้น กระทั่งวันหนึ่งมีอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ถือกำเนิดบนโลกใบนี้และได้มีการคิดค้นท่าไม้ตายแบ่งคลื่นขึ้นมาจนทำให้ผ่าคลื่นลมพ่ายแพ้อย่างสิ้นเชิง และมีชื่อเสียงโด่งดังไปไกล

ซึ่งกระบวนท่าทั้งสองในอดีตของประเทศญี่ปุ่นนี้จั่วจู้ได้เรียนรู้และเข้าใจแล้ว กระบวนท่าที่เขาใช้ในตอนนี้คือผ่าคลื่นลม

จั่วจู้ศึกษาผ่าคลื่นลมจนเข้าใจอย่างถ่องแท้จนถึงขั้นที่ดาบและคนรวมเป็นหนึ่งเดียวกันได้ ต้องรู้ว่าขั้นนี้เป็นขั้นที่นักดาบมากมายใฝ่ฝันที่จะบรรลุแต่ทำไม่ได้

ดาบฟันผ่านอากาศตรงหน้าของจั่วจู้จนเกิดเสียงน่ากลัวจนทำให้รู้สึกถึงลางที่ไม่ดี

ผู้ชมที่อยู่ในสนามไม่ขาดแคลนผู้เชี่ยวชาญ ตอนนี้ล้วนสัมผัสได้ถึงอานุภาพจากดาบของจั่วจู้ ไม่เสียแรงที่เป็นถึงอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่น

จั่วจู้ในตอนนี้แตกต่างจากบทที่ดวลกับเทียนอิงอย่างชัดเจน พลังของเขาพุ่งสูงจนถึงขั้นที่น่ากลัว

ก่อนหน้านี้จั่วจู้ไม่ใช้ท่านี้ก็เพราะกลัวว่าจะเป็นการเผยความสามารถแล้วเฉินเฟิงจะหาทางตั้งรับได้ ดังนั้นเขาจึงเก็บซ่อนความสามารถที่แท้จริงไว้ ไม่อย่างนั้นวันที่ดวลกับเทียนอิง มีโอกาสสูงมากที่เทียนอิงจะตายคาเวที

เมื่อต้องเผชิญกับกระบวนท่าที่ดุร้ายของจั่วจู้ เฉินเฟิงไม่ได้ตกตะลึงแต่เขากลับใช้เท้าข้างหนึ่งดันพื้นแล้วหมุนตัว อาศัยพลังจากเอวส่งขึ้นมายังช่วงไหล่ จากนั้นมือขวาก็กำหมัดแล้วชกออกไป

นี่ไม่ใช่ท่าไม้ตายของเฉินเฟิงแต่มันคือมัดไฟ ถึงแม้จะไม่ใช่ท่าไม้ตายทว่าเฉินเฟิงรวมลมปราณในร่างกายและอวัยวะภายนอกเข้าไว้ด้วยกันอย่างสมบูรณ์แบบ

ฉับพลันทั้งสองคนก็ปะทะกัน พลังภายในของเฉินเฟิงถูกปล่อยออกไปตามหมัดที่พุ่งไปทางจั่วจู้ ราวกับต้องการทำลายพลังทั้งหมดของจั่วจู้

ทว่าพลังผ่าคลื่นลมที่ถูกส่งมาจากดาบของจั่วจู้ลดทอนพลังทำลายล้างของเฉินเฟิงไม่หยุด

ฉับพลันพลังทั้งสองก็ระเบิดออก คลื่นพลังกลุ่มหนึ่งแผ่กระจายไปรอบด้านโดยมีพวกเขาทั้งสองคนเป็นจุดศูนย์กลาง

แม้แต่ก้อนอิฐจากพื้นยังแตกออกจนมีเศษอิฐบางส่วนถูกพัดขึ้นมาโดยคลื่นพลัง

มองไกลๆจะเห็นว่าพลังของทั้งสองคนนั้นสูสีกัน การปะทะกันในครั้งแรกนี้ถือว่าทั้งสองฝ่ายเสมอกัน ไม่มีใครขยับถอยหลัง

ถึงแม้ดูภายนอกจะเสมอกัน ทว่าจั่วจู้กลับรู้สึกถึงความเจ็บปวดจากช่วงแขนราวกับถูกเหล็กเผาลวกจนเกิดอาการสั่นเล็กน้อย

เฉินเฟิงก็ไม่ได้ดีไปกว่ากัน เขารู้สึกแขนแข็งกระด้างและมีอาการชาเป็นพักๆจนถึงขั้นเจ็บปวดเล็กน้อย

เหตุการณ์แบบนี้ทำให้ทั้งสองคนอึ้งไปอย่างไม่อยากจะเชื่อ

จั่วจู้อึ้งเพราะถึงแม้เขาจะไม่ได้ใช้ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นแต่ผ่าคลื่นลมก็เป็นท่าที่แข็งแกร่งไม่แพ้กัน ไม่เพียงแต่ทำอะไรเฉินเฟิงไม่ได้ ตัวเขาเองกลับเกือบได้รับบาดเจ็บ เขาจะไม่อึ้งได้อย่างไร

ด้านเฉินเฟิงก็อึ้งไม่แพ้กัน เท่าที่ดูมาเขาคิดว่าพลังภายในของจั่วจู้นั้นแปลกประหลาดเป็นอย่างมาก คลื่นทั่วไปจะเป็นคลื่นต่อคลื่นและคลื่นจะแข็งแกร่งขึ้นเรื่อยๆ หากเขาไม่รู้มาก่อนคงบาดเจ็บหนักแน่

ทั้งหมดนี้ดูเหมือนนานทว่าความจริงแล้วเกิดขึ้นในชั่วพริบตาราวกับสายฟ้าฟาด ความคิดของทั้งสองคนก็ผ่านไปในชั่วพริบตาเช่นกัน

เฉินเฟิงไม่ลังเล พลังถูกส่งไปที่ขาจากนั้นก็เตะออกไปยังช่วงน่องของจั่วจู้

จั่วจู้ก็ตอบสนองโดยการขยับหลบได้อย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ก้าวเท้าไปด้านหน้าหนึ่งก้าวแล้วฟันดาบในมือไปที่ศีรษะของเฉินเฟิงครั้งหนึ่ง อานุภาพของดาบนี้มากกว่าครั้งก่อนหน้านี้เสียอีก

ในครั้งนี้เฉินเฟิงก็ไม่มีการขยับหลบเหมือนเดิม ทว่าเขายกแขนซ้ายขึ้นมาเป็นกำบัง ส่วนมือขวาก็ชกออกไปที่หน้าของจั่วจู้

กระบวนท่านี้ของเฉินเฟิงเป็นการรวมฟ้าดินเข้าด้วยกัน หากฆ่าศัตรูพันคนต้องตายแปดร้อยคน ทว่าจั่วจู้ไม่กล้าพนัน เพราะถึงแม้ดาบนี้ของเขาจะฟันโดนแขนซ้ายของเฉินเฟิงแต่ในช่วงวินาทีปัดป้องนี้เขาไม่มั่นใจว่าตัวเองจะฟันโดนศีรษะของเฉินเฟิงหรือไม่ ทว่าหมัดนั้นของเฉินเฟิงต้องชกโดนหน้าเขาแน่นอน

“ไอ้บ้า!”

จั่วจู้ตะโกนด่าออกมา ไม่กล้าฝืนสู้ต่อ ร่างของเขาลอยออกจากเขตการโจมตีในชั่วพริบตา เมื่อต้องเผชิญกับวิธีการต่อสู้ไม่คิดชีวิตของเฉินเฟิง เขาก็เกิดความกลัว

ถึงแม้เขาจะอยากฆ่าเฉินเฟิงทว่าหากต้องเอาชีวิตตัวเองไปแลก เขาไม่มีทางทำแน่ ในช่วงที่เขาเว้นระยะห่างนั้นจู่ๆเฉินเฟิงก็โจมตีเข้ามา

วินาทีนี้เฉินเฟิงราวกับเสือดุร้ายตัวหนึ่ง มือขวากำหลวมๆเป็นกรงเล็บกลายเป็นมวยสิงอี้ ถึงแม้วิทยายุทธ์ของเฉินเฟิงจะซับซ้อนเพราะเกิดจากการรวมข้อดีของหลายตระกูลเข้าด้วยกัน ทว่ามวยสิงอี้เหมาะกับเขาเป็นอย่างมาก ตอนนี้หมัดของเขาพุ่งไปยังจุดขมับของจั่วจู้แล้ว

ต้องรู้ก่อนว่าจุดขมับคือจุดเปราะบางในร่างกายมนุษย์ สามารถเรียกได้ว่าเป็นจุดตายเลยก็ว่าได้ หากถูกกระแทกอาการอย่างเบาคือหมดสติ อาการหนักนั้นถึงขั้นเสียชีวิต

ถึงจอมยุทธ์จะสามารถใช้พลังในร่างกายปกป้องจุดตาย ทว่าเมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีที่แรงพอกันก็ไม่กล้าฝืนรับ

แน่นอนว่าจั่วจู้รู้เรื่องนี้ดีจึงไม่กล้าฝืนรับ เขาจึงรีบขยับถอยหลังอย่างรวดเร็ว

“จะหนีไปไหน!”

เฉินเฟิงตะโกนออกมาก่อนจะรีบพุ่งเข้าหาจั่วจู้อย่างรวดเร็ว ความเร็วของเขาแตะจุดสูงสุดในชั่วพริบตา จากนั้นก็โจมตีอย่างบ้าคลั่งราวกับลมพายุจนข่มจั่วจู้ได้อย่างสิ้นเชิง

เรียกได้ว่าประสบการณ์การต่อสู้ของเฉินเฟิงได้ปรากฏให้เห็นแล้วในวินาทีนี้

“ตายซะเถอะ!”

จั่วจู้ที่โดนเฉินเฟิงโจมตีไฟโทสะก็ปะทุออกมาจึงฟันดาบออกไปครั้งหนึ่ง

ดาบนี้คือท่าไม้ตายแบ่งคลื่นอย่างแท้จริงและก็เป็นท่าไม้ตายของจั่วจู้ เขาใช้ท่านี้ได้อย่างชาญฉลาด ในระหว่างที่เฉินเฟิงกำลังโจมตีเขาอย่างบ้าคลั่ง ฉับพลันเขาก็โจมตีกลับ

ท่าไม้ตายแบ่งคลื่นถือว่าเป็นศิลปะการต่อสู้ระดับสูงสุดของประเทศญี่ปุ่นไม่ใช่เพียงเพราะชื่อเสียงโด่งดัง เมื่อท่านี้ถูกปล่อยออกไปราวกับว่าพลังทั้งหมดระหว่างโลกและสวรรค์มารวมกันอยู่ที่มือของจั่วจู้ เมื่อเขาตวัดดาบ เงาดาบที่แข็งแกร่งมหาศาลค่อยๆแปลงร่างแล้วร่วงหล่นลงมาจากฟ้า

วินาทีนี้เฉินเฟิงรู้สึกว่าระหว่างโลกและสวรรค์เหลือเพียงแค่เงาดาบขนาดยักษ์นั่นเท่านั้น ผู้ชมหายไป จั่วจู้ก็หายไปเหลือแต่เพียงเงาดาบที่น่ากลัว

เฉินเฟิงอึ้ง คิดไม่ถึงว่าท่าไม้ตายแบ่งคลื่นไม่ได้เป็นเพียงแค่พลังเท่านั้น มันยังมีผลต่อจิตใจด้วย

พูดเหมือนนานทว่าความจริงรวดเร็วเป็นอย่างมาก ภายใต้แสงอาทิตย์เหมือนว่าเฉินเฟิงจะตกใจจนเดินเข้าไปหาเงาดาบ

“แย่แล้ว เฉินเฟิงแย่แล้ว!”

ตอนนี้เหล่าผู้ชมล้วนมีความคิดนี้โผล่ขึ้นมาเหมือนกันโดยไม่ได้นัดหมาย

ถึงแม้บรรดาผู้ชมจะไม่รู้ว่ากระบวนท่านี้ของจั่วจู้มีชื่อว่าอะไร ทว่าพวกเขาสามารถสัมผัสได้ถึงอานุภาพของดาบนี้ เมื่อเผชิญกับดาบนี้เฉินเฟิงกลับแน่นิ่งราวกับกำลังเหม่อ ไม่ขยับหลบและไม่มีท่าทีจะปัดป้อง เช่นนั้นเขาต้องตายแน่ๆ

“มันจบแล้ว!”

จั่วจู้เผยยิ้มเยือกเย็น ราวกับว่าเขาเห็นภาพเฉินเฟิงตายคาสนามแห่งนี้

ดาบนี้เขาต้องการฆ่าเฉินเฟิงให้สิ้นซาก หากเป็นจอมยุทธ์คนอื่นเจอท่านี้เข้าไปคงตายอย่างไม่ต้องสงสัย แม้แต่จอมยุทธ์ขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางหากไม่มีวิทยายุทธ์ที่แข็งแกร่งพอจุดจบก็คือตายเหมือนกัน

ทว่าคนที่เขาเจอคือเฉินเฟิง ถึงจั่วจู้จะเป็นอัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้เป็นจอมยุทธ์เยาวชนที่หาตัวจับยากของประเทศญี่ปุ่น มีความสามารถขนาดนี้ทั้งที่อายุยังน้อย ทว่าเมื่อเทียบกับเฉินเฟิงแล้วยังห่างชั้นกันอยู่ไม่น้อย

ยังไม่พูดถึงเรื่องความสามารถ แค่ประสบการณ์ของเฉินเฟิงตลอดหลายปีที่ผ่านมา ไม่ใช่จั่วจู้คนเดียวจะเทียบเคียงได้

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน