ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 741

ตอนที่ 741

บทที่ 741 นิสัยของเทียนอิง

จากเรื่องนี้จึงเห็นได้ว่าทุกคนให้ความสำคัญกับการแข่งขันของเฉินเฟิงและจั่วจู้ จอมยุทธ์ที่เป็นตัวเต็งในการคว้าตำแหน่งแชมป์ทั้งสองคนอย่างอาเธอร์และวิลเลียมก็มาที่สนามแข่งขันด้วย

ในช่วงที่เหลือเวลาไม่ถึงสองก้านธูปก่อนการแข่งขัน พระสันตะปาปาแห่งคูเรียวาติกันและธิดาเทพทิฟฟานี่ก็มาถึงสนามแข่งขัน และคนที่มาพร้อมกันคือโมดริชเลขาธิการขององค์การศิลปะการต่อสู้ระดับโลก การมาของพวกเขาเกิดเป็นกระแสใหญ่โตพอสมควร

อาเธอร์และผู้เข้าแข่งขันคนอื่นเดินมุ่งไปยังพื้นที่สำหรับผู้เข้าแข่งขัน ส่วนพระสันตะปาปามุ่งไปยังพื้นที่วีไอพีภายใต้การดูแลของทิฟฟานี่และเลขาธิการโมดริช

“การแข่งขันรอบนี้คงน่าตื่นตาตื่นใจมาก คุณคิดว่ายังไงโมดริช?” ฉับพลันพระสันตะปาปาที่นั่งอยู่บนที่นั่งวีไอพีก็เอ่ยถามเลขาธิการที่อยู่ด้านข้าง

เลขาธิการโมดริชครุ่นคิดก่อนเอ่ย “กระผมคิดว่าจั่วจู้จากประเทศญี่ปุ่นจะเป็นผู้ชนะในการแข่งขันครั้งนี้!”

“เอ๋? ทำไมคุณถึงสรุปแบบนั้นล่ะ?” คำตอบของเลขาธิการโมดริชเหนือความคาดหมายของพระสันตะปาปา อีกฝ่ายจึงอดที่จะเอ่ยถามเหตุผลไม่ได้

“เท่าที่ดูมา เฉินเฟิงจากประเทศหวาคนนั้นเผยความสามารถของตัวเองออกมาแล้ว เริ่มจากฆ่าหลี่ชางซีและรอน ต่อด้วยการดวลกับหงอี้ จึงเห็นได้ว่าเขาใช้พลังจนหมดแล้ว ด้านจั่วจู้นั้นไม่เหมือนกัน เขาคืออัจฉริยะด้านศิลปะการต่อสู้ที่แทบจะไม่ปรากฏตัว ที่ปรากฏตัวในครั้งนี้ก็เพื่อมาฆ่าเฉินเฟิง!”

เลขาธิการโมดริชเอ่ยแสดงความคิดเห็นของตัวเองอย่างค่อยเป็นค่อยไป “หลังจากได้เห็นฝีมือของเฉินเฟิงแล้ว จั่วจู้ยังคงยืนยันที่จะดวลกับเขา อีกทั้งยังกลัวว่าเฉินเฟิงจะถอนตัวก่อนจนต้องเอ่ยปากท้าทาย ส่วนเฉินเฟิงกลับไม่มีปฏิกิริยาใดๆ กระผมจึงคิดว่าเฉินเฟิงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของจั่วจู้!”

เรียกได้ว่าเลขาธิการโมดริชอธิบายอย่างละเอียดเลยทีเดียว เขาเพิ่งเอ่ยจบพระสันตะปาปายังไม่ทันได้เอ่ยปาก ธิดาเทพทิฟฟานี่ก็เอ่ยขึ้น “ท่านเลขาธิการ ท่านรู้ไหมว่าหลี่ชางซี รอนและหงอี้ แต่ละคนล้วนอวดเก่งและหยิ่งยโสแต่สุดท้ายก็แพ้ให้กับเฉินเฟิงอยู่ดี อีกทั้งเท่าที่ฉันรู้มีอิทธิพลมากมายที่ต้องการชีวิตของเฉินเฟิง แต่สุดท้ายเฉินเฟิงก็รอดมาได้ตลอด ส่วนคนพวกนั้นกลับจากโลกนี้ไปก่อนแล้ว!”

“จริงหรือ เห็นที่ว่ากระผมจะพลาดข่าวไป ได้ฟังธิดาเทพวิเคราะห์เช่นนี้ ความคิดเห็นของผมที่ว่าจั่วจู้จะเป็นผู้ชนะเกิดการสั่นคลอนแล้วล่ะ!”เลขาธิการโมดริชเอ่ยปนหัวเราะ ทว่าใจเขากระตุกครั้งหนึ่ง เขาไม่รู้ว่าทำไมธิดาเทพถึงรู้จักเฉินเฟิงดีขนาดนี้ อีกทั้งเมื่อสักครู่บทที่เขาบอกว่าเฉินเฟิงไม่มีทางชนะ สีหน้าของธิดาเทพปรากฏความไม่พอใจอย่างเห็นได้ชัด เรื่องนี้มีอะไรแอบแฝงอยู่แน่

“ฮ่าฮ่า ทิฟฟานี่พูดถูก ฉันก็คิดว่าเฉินเฟิงมีโอกาสเป็นผู้ชนะมากกว่า!” ขณะนั้นเองพระสันตะปาปาก็หันไปมองธิดาเทพทิฟฟานี่ด้วยสีหน้าประดับรอยยิ้ม ราวกับว่าเห็นความคิดของอีกฝ่ายอย่างทะลุปรุโปร่ง

ธิดาเทพทิฟฟานี่แก้มแดงเป็นริ้ว นิ่งเงียบไม่พูดไม่จา ดวงตาคู่สวยสอดส่องไปยังด้านในสนามเพื่อตามหาร่างนั้น

แม้แต่คนในระดับพระสันตะปาปาและธิดาเทพยังถกเถียงกันเรื่องการแข่งขันในครั้งนี้ คนอื่นยิ่งไม่ต้องพูดถึง คนทั้งสนามไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธ์ ผู้เข้าแข่งขัน คนระดับชั้นแนวหน้าหรือแม้แต่คนทั่วไปล้วนมีการถกเถียงผลการแข่งขันในครั้งนี้อย่างไม่มีข้อยกเว้น คนบางส่วนคิดว่าเฉินเฟิงผู้มีชื่อเสียงโด่งดัง มีความสามารถแข็งแกร่งจะเป็นผู้ชนะ และก็มีคนที่คิดว่าอัจฉริยะที่หาตัวจับยากจากประเทศญี่ปุ่นอย่างจั่วจู้ที่ถูกส่งมาเพื่อฆ่าเฉินเฟิงนั้น ความสามารถคงไม่ธรรมดา

คนจำนวนมากกำลังถกเถียงกันอยู่จนเกิดเสียงดังวุ่นวาย ฉับพลันในสนามก็ครึกครื้นเป็นอย่างมาก

บรรยากาศในสนามครึกครื้นกว่าปกติ ทว่าคนที่เป็นตัวละครเด่นอย่างจั่วจู้ตอนนี้นั่งอยู่บนรถเก๋งสีดำที่จอดสนิทคันหนึ่ง

กงปุ่นเหย่อู่เอ่ยปนหัวเราะ “จั่วจู้แกวางใจได้ อีกเดี๋ยวไอ้เฉินเฟิงก็มาแล้ว!”

พูดยังไม่ทันจบก็มีรถเอ็มพีวีคันหนึ่งขับเข้ามา กงปุ่นเหย่อู่และจั่วจู้รู้ว่าคนที่นั่งอยู่บนรถคันนั้นคือเฉินเฟิง

“อาจารย์วางใจได้ ผมจะเอาเลือดเฉินเฟิงมาล้างความอัปยศของประเทศญี่ปุ่นให้ได้!”

จั่วจู้มองรถคันที่ขับเข้ามาพลางแสยะยิ้มอย่างเลือดเย็น เขารอวันนี้มานานมากแล้ว

เพื่อแก้แค้นเฉินเฟิง เขาได้ศึกษาข้อมูลของเฉินเฟิงมาตั้งแต่แรก จนรู้ว่าเฉินเฟิงเป็นคนให้ความสำคัญกับความสัมพันธ์ ยิ่งกับพวกพ้องยิ่งไม่ต้องพูดถึง ดังนั้นเพื่อที่จะได้ดวลกับเฉินเฟิงและไม่ให้เฉินเฟิงยอมแพ้ เขาจึงลากเทียนอิงเข้ามาเกี่ยวเพื่อที่เฉินเฟิงจะได้ไม่ปฏิเสธการแข่งขัน

และในตอนนี้เฉินเฟิงมาแล้ว เช่นนั้นพวกเขาสองคนก็จะได้เข้าสู่สงครามแห่งความเป็นความตาย นี่คือความคิดของจั่วจู้

“จั่วจู้อย่าประมาทเด็ดขาด ถึงแม้แกจะมีท่าไม้ตายแบ่งคลื่นที่สามารถฆ่าเฉินเฟิงได้อย่างไม่มีปัญหา แต่ไอ้เด็กนั่นมีประสบการณ์การต่อสู้อย่างมาอย่างมากมาย อย่าประมาทเด็ดขาด!”

เพื่อความปลอดภัย กงปุ่นเหย่อู่จึงอดที่จะเอ่ยเตือนสติจั่วจู้ไม่ได้

“อาจารย์วางใจได้ ฆ่ามันไม่ใช่เรื่องยาก!” ถึงแม้จั่วจู้จะเอ่ยสั้นๆทว่าความมั่นใจเต็มเปี่ยม ราวกับว่าในสายตาเขาเฉินเฟิงเป็นเพียงคนที่ตายแล้ว

กงปุ่นเหย่อู่ที่เห็นท่าทีมั่นใจของจั่วจู้ก็คิดจะเอ่ยเตือนสติอีกครั้ง ทว่าก็เกรงว่าหากใช้คำพูดผิดจะเป็นการทำลายความมั่นใจของจั่วจู้ได้ เขาจึงไม่ได้เอ่ยอะไรออกไป ก่อนจะให้จั่วจู้ไปที่ห้องสำหรับรอการแข่งขัน

ในขณะเดียวกันด้านเฉินเฟิง อู่จื่อโจว ชางโป๋ ปรมาจารย์ฟางเจิ้ง จีอู๋ฉางและจียุ่นที่นั่งอยู่ในรถเอ็มพีวีก็เห็นจั่วจู้และอาจารย์ของเขาเช่นกัน จียุ่นจึงอดที่จะเอ่ยถามไม่ได้ “เฉินเฟิง ก่อนหน้านี้ที่ไอ้ญี่ปุ่นนั่นพูดท้าทายนาย ทำไมนายถึงไม่ตอบโต้ล่ะ?”

“ที่ควรพูดเทียนอิงก็พูดไปหมดแล้ว ฉันไม่มีเวลามาพูดซ้ำอีกรอบ!” เฉินเฟิงตอบกลับด้วยสีหน้าไร้อารมณ์

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง ทุกคนก็ชะงักไปก่อนจะย้อนนึกถึงคำพูดของเทียนอิงบทที่พ่ายแพ้ “บทที่สู้กับเฉินเฟิงในวันพรุ่งนี้ ฉันหวังว่าแกจะโอหังแบบตอนนี้นะ หากเฉินเฟิงแพ้นาย ฉันจะปลิดชีวิตตัวเองต่อหน้าทุกคน!”

ทุกคนต่างเงียบไม่พูดไม่จา ขณะนั้นเองด้านหลังก็มีรถเก๋งคันหนึ่งขับเข้ามาด้วยความเร็ว ชั่วพริบตารถเก๋งคันนั้นก็แซงรถเอ็มพีวีของพวกเขาไป กระทั่งไปจอดอยู่ด้านหน้ารถของพวกเขา

คนขับรถเอ็มพีวีจึงรีบเหยียบเบรกทันที เหตุการณ์นี้ทำให้จียุ่นขมวดคิ้วมุ่น

“ขับรถประสาอะไร ไม่มีตาหรือไง!” คนขับรถอดที่จะด่าออกมาไม่ได้

กระทั่งประตูรถเก๋งคันนั้นเปิดออก ก่อนที่เทียนอิงที่ยังมีผ้าพันแผลอยู่บนร่างกายจะกระโดดลงมาจากรถ

ชางโป๋จึงลงจากรถแล้วรีบวิ่งเข้าไปหาก่อนเอ่ย “เทียนอิง ทำไมแกไม่นอนพักอยู่ที่โรงพยาบาล มาที่นี่ทำไม!”

“วันนี้เป็นการแข่งขันของเฉินเฟิงและไอ้ญี่ปุ่นนั่น ผมจะมาดูเฉินเฟิงจัดการมันด้วยตาตัวเอง!”

น้ำเสียงของเทียนอิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความอาฆาตและความคาดหวัง

การที่เทียนอิงมาถึงที่นี่ เฉินเฟิงไม่ประหลาดใจเลยแม้แต่น้อย ถึงแม้เทียนอิงจะเป็นคนพูดน้อยทว่าในใจลึกๆเป็นคนดื้อด้าน เขาแพ้อย่างคับข้องใจ ฉะนั้นการดวลระหว่างเฉินเฟิงและจั่วจู้จะขาดเขาไปได้อย่างไร

อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ตอนนี้เทียนอิงจะกระโดดขาเดียว ดูเหมือนว่าจะธรรมดาทว่ากระโดดได้ไกลและมั่นคงขนาดนี้ คนธรรมดาทั่วไปไม่มีทางทำได้ แม้แต่นักกีฬามืออาชีพบางคนก็ยังทำไม่ได้

เพื่อมาเป็นพยานดูเฉินเฟิงกำราบจั่วจู้ด้วยตาตัวเอง เขาถึงกับไม่สนใจคำเตือนของแพทย์และพยาบาล กระโดดขาเดียวออกมาจนถึงประตูโรงพยาบาลแล้วเรียกรถแท็กซี่มาที่นี่โดยเร็วที่สุด

“อืม ไหนๆก็มาแล้ว คงไม่ให้แกกลับไปอีกรอบหรอก!”

ชางโป๋ไม่ได้ยืนหยัดจะให้เทียนอิงกลับไป เพราะว่าเขารู้จักนิสัยของเทียนอิงดี ถึงแม้เฉินเฟิงจะชี้แนะเทียนอิงแล้วแต่ภายในใจของเทียนอิงก็ยังมีปมอยู่ หากได้ดูการแข่งขันในครั้งนี้แล้ว ไม่แน่ว่าปมในใจของเทียนอิงอาจจะหายไปก็ได้

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท