ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 749

ตอนที่ 749

บทที่ 749 หักขาทั้งสองข้าง

สำหรับคำพูดเยาะเย้ยของเฉินเฟิง จั่วจู้ไม่ได้โต้ตอบอะไรอีก เขาพ่ายแพ้แล้วนี่คือความจริง คำพูดทั้งหมดจึงไม่มีความหมายใดๆ

อีกทั้งเขาไม่รู้ว่าตัวเองเป็นอะไรไปในส่วนลึกของจิตใต้สำนึกถึงได้คิดว่าเฉินเฟิงพูดถูก หากเขาอยู่ในระดับเดียวกับเฉินเฟิงและไม่ได้ฉีดยาพันธุกรรม เขาไม่อาจสู้เฉินเฟิงได้เลย

คิดมาถึงตรงนี้จั่วจู้ยิ่งรู้สึกขมขื่น ฝึกฝนการต่อสู้มาตั้งหลายปีเขาแทบจะไม่เคยมีคู่ต่อสู้ อีกทั้งคนภายนอกยังสรรเสริญว่าเขาคืออัจฉริยะด้านการต่อสู้ที่หาตัวจับยากของประเทศญี่ปุ่น ขึ้นสู่จุดสูงสุดของยอดพีระมิดของรุ่นเยาวชน

เมื่อพูดบ่อยเข้า เรื่องไม่จริงก็กลายเป็นเรื่องจริง จนถึงขั้นที่ว่าจั่วจู้ยกระดับตัวเองให้อยู่สูงกว่าคนอื่น เขาคิดว่าตัวเองคืออันดับหนึ่งของคนในรุ่นเดียวกัน เป็นอันดับหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้รุ่นเยาวชน

ส่วนเฉินเฟิงที่เขาเคยดูถูก ตอนนี้จัดการเขาจนอยู่ในสภาพน่าสังเวชแบบนี้ เขาอัดอั้นใจมากจนไม่กล้าสู้หน้าใครแล้ว

เรื่องนี้ไม่โทษคนอื่น โทษตัวเขาเองที่ตอนแข่งมั่นใจเกินไป คุยโวมากไป อีกทั้งเนื่องจากความเย็นชาของเขา เหล่าผู้ชมจึงไม่ค่อยชอบเขานัก

ตอนนี้จั่วจู้คุกเข่าอยู่บนเวที ดูอ้างว้างถึงขีดสุด ทว่าทั้งหมดนี้เขาทำตัวเองทั้งนั้น

“นายวางใจได้ ฉันเคยบอกแล้วว่าจะไม่ฆ่านาย ฉันจะรักษาสัญญาแน่นอน แต่ไม่ได้หมายความว่าฉันจะไม่ทำอะไรเลย เรายังมีเวลาอีกมาก ค่อยๆคิดก็ได้ว่าแค้นนี้จะชำระยังไง!”

เฉินเฟิงก้าวไปหาจั่วจู้พลางเอ่ย “เมื่อวานนายคิดว่าตัวเองเก่งมากเลยทำร้ายเทียนอิงพวกพ้องของฉัน แถมยังหักขาเขาไปข้างหนึ่ง อีกทั้งยังปากเสียดูถูกวงการศิลปะการต่อสู้ประเทศหวาของฉัน วันนี้ฉันจะคืนให้นายทั้งหมด!”

เอ่ยจบเฉินเฟิงก็สะบัดขาเร็วดั่งสายฟ้าและเตะเข้าที่ขาข้างหนึ่งของจั่วจู้

เสียงกร๊อบดังขึ้นครั้งหนึ่ง กระดูกต้นขาของจั่วจู้แตกหักทว่าไม่ได้แตกละเอียด นั่นก็เป็นเพราะเฉินเฟิงตั้งใจควบคุมแรงเตะไว้ แค่พอให้จั่วจู้ได้รู้สึกเจ็บ และเมื่อจบการแข่งขันแค่ไปพบแพทย์เพื่อต่อกระดูกก็สามารถกลับมาเป็นปกติได้ เช่นนี้เทียนอิงก็จะสามารถลบล้างความอัปยศที่เกิดขึ้นเมื่อวานด้วยตัวเองได้

“วันนี้หักขานายทั้งสองข้าง ถือว่าทำโทษที่นายหักขาพวกพ้องฉันไปข้างหนึ่ง!”

เฉินเฟิงเก็บขากลับมาจากนั้นก็กระชากผมจั่วจู้แล้วหิ้วอีกฝ่ายขึ้นมา ทำให้หน้าของอีกฝ่ายหันไปยังทิศทางที่เทียนอิงอยู่

“ตอนนี้นายต้องสำนึกผิดที่เมื่อวานนายดูถูกศักดิ์ศรีเพื่อนฉัน!”

เอ่ยจบเฉินเฟิงก็ไม่รอให้จั่วจู้ได้แสดงความเห็น เขากดศีรษะของจั่วจู้ให้แนบลงกับพื้นทันที

เสียงตุบดังขึ้นครั้งหนึ่ง จั่วจู้รู้สึกเพียงว่าเวียนศีรษะตาลายและเจ็บบริเวณหน้าผากราวกับถูกไฟเผา

เทียนอิงที่นั่งอยู่บริเวณที่นั่งของผู้ชมได้ยินคำพูดของเฉินเฟิงอย่างชัดเจน เมื่อเห็นการกระทำของอีกฝ่ายเทียนอิงก็รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนน้ำตาคลอเบ้า ภาพเหตุการณ์ในวันนี้เขาจะไม่มีวันลืม

เทียนอิงและเฉินเฟิงเจอกันตอนคัดเลือกตัวแทนที่จะเข้าร่วมการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ตอนนั้นเทียนอิงก็สนใจเฉินเฟิงที่พอมีชื่อเสียงอยู่แล้ว ส่วนเทียนอิงที่เป็นคนซื่อตรงก็ได้รับความรู้สึกดีๆจากเฉินเฟิง

ตอนหลังพวกเขาทั้งสองคนกลายเป็นตัวแทนของประเทศหวาเพื่อมาแข่งขันศิลปะการต่อสู้ระดับโลก ถึงแม้เทียนอิงจะมองเฉินเฟิงเป็นคู่แข่งและแบบอย่างของตัวเองมาโดยตลอด ทว่าเขารู้ดีแก่ใจว่าเฉินเฟิงเก่งกว่าเขามาก

ถึงแม้จะเป็นแบบนั้นแต่เขาก็ไม่ย่อท้อ ฝ่าฟันอุปสรรคจนเข้าสู่รอบแปดคน เรียกได้ว่าเป็นปาฏิหาริย์เล็กๆเลยก็ว่าได้ จนกระทั่งเขามาเจอกับจั่วจู้และโดนหักขาไปข้างหนึ่ง

หลังจากขาหักเทียนอิงก็ถึงกับมีความคิดที่จะอยากตาย สูญเสียความตั้งใจในฐานะจอมยุทธ์ไปแล้ว ทว่าตอนนี้เฉินเฟิงลุกขึ้นมาพาเขาออกจากเงามืดนี้

วันนี้เฉินเฟิงทำให้จั่วจู้คุกเข่าสำนึกผิดต่อเพื่อนคนนี้ท่ามกลางคนมากมาย ตอนนี้เขารู้สึกเพียงว่าขอแค่เฉินเฟิงเอ่ยปาก เขาก็พร้อมจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปพร้อมกับเฉินเฟิง

บางครั้งความรู้สึกแบบนั้นก็ไม่จำเป็นต้องพูดออกมา

“ไอ้……สวะ……”

ตอนนี้ใบหน้าของจั่วจู้อาบไปด้วยเลือดจนไม่เห็นเค้าเดิม ทว่าความรู้สึกอัปยศทำให้เขาดิ้นรนขัดขืนที่จะลุกขึ้นยืน

“หากไม่ใช่เพราะตอนนั้นประเทศญี่ปุ่นแพร่งพรายร่องรอยของเย่หนานเทียนศิษย์พี่ของฉัน ทำให้พวกออกัสตัสรุมโจมตีศิษย์พี่ของฉันจนสุดท้ายศิษย์พี่ของฉันต้องพิการ เรื่องนี้นายต้องเป็นตัวแทนประเทศญี่ปุ่นขอโทษเขาต่อหน้า!”

จั่วจู้ขัดขืนอย่างรุนแรง ทว่าเฉินเฟิงไม่ได้ตื่นตกใจยังคงลากจั่วจู้มาก้มหัวคารวะต่ออู่จื่อโจวอีกครั้ง

อู่จื่อโจวที่นั่งอยู่บนที่นั่งวีไอพีเห็นดังนั้นก็ตื้นตันใจเป็นอย่างมาก ถึงแม้เขาจะเป็นถึงอันดับหนึ่งของวงการศิลปะการต่อสู้แล้ว ทว่าวันนี้เขาก็ยังอดที่จะตื่นเต้นไม่ได้

เขาทั้งรู้สึกโมโหกับเรื่องของเย่หนานเทียนในอดีต ขณะเดียวกันก็รู้สึกภาคภูมิใจกับการกระทำของเฉินเฟิงในวันนี้

ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งอาวุโสที่อยู่บนเวทีล้วนสีหน้าเปลี่ยนกันหมด แม้แต่พระสันตะปาปาอย่างโจ้ส์ก็ใจกระตุกครั้งหนึ่ง หรี่ตาทั้งสองข้างลงไม่รู้ว่ากำลังคิดอะไรอยู่

ความจริงแล้วผู้แข็งแกร่งที่อยู่บนเวทีทุกท่านล้วนทราบถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในอดีต เนื่องจากเย่หนานเทียนก็ถือเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงพอสมควร พวกเขาอาจจะไม่รู้จักทว่าล้วนรู้ว่าอีกฝ่ายคือใคร ส่วนเรื่องที่เย่หนานเทียนถูกรุมโจมตีโดยพวกออกัสตัสพวกเขาก็รู้ ทว่าพวกเขาไม่รู้ว่าประเทศญี่ปุ่นคือฝ่ายแพร่งพรายข้อมูลให้กับพวกออกัสตัส

“เด็กน้อย นายอย่าพูดเพ้อเจ้อ ประเทศญี่ปุ่นไปแพร่งพรายข้อมูลของศิษย์พี่นายให้กับออกัสตัสตอนไหนกัน?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเฉินเฟิง กงปุ่นเหย่อู่ที่อยู่บนเวทีก็เริ่มนั่งไม่ติดเก้าอี้ หยัดตัวขึ้นก่อนตะโกนออกมา

ออกัสตัสคือหัวหน้าขององค์กรนักฆ่าใต้ดินระดับโลก และเป็นตัวการสำคัญที่ทำลายความสงบของโลก หากคนทั้งโลกรู้ว่าประเทศญี่ปุ่นกล้าไปสมรู้ร่วมคิดกับพวกมัน เช่นนั้นเรื่องยาพันธุกรรมก็จะแพร่งพรายออกไป

นี่ไม่ใช่เรื่องหลัก เรื่องหลักคือประเทศญี่ปุ่นจะโดนหางเลขไปด้วย

พูดให้ถูกก็คือไม่ใช่แค่โดนหางเลขธรรมดาแบบนั้น ออกัสตัสและองค์กรมีชื่อเสียงฉาวโฉ่เรื่องการทำลายความสงบ หากพิสูจน์แล้วว่าประเทศญี่ปุ่นสมรู้ร่วมคิดกับพวกมันจริง เช่นนั้นคนทั้งโลกจะประณามประเทศญี่ปุ่นเหมือนที่ประณามองค์กรของออกัสตัส

ถึงตอนนั้นจะไม่เป็นผลดีต่อประเทศญี่ปุ่น จนถึงขั้นที่ว่าต้องชดใช้อย่างสาหัส ซึ่งสิ่งที่ต้องชดใช้นี้ประเทศญี่ปุ่นแบกรับไม่ไหวแน่

ตอนนี้กงปุ่นเหย่อู่โมโหมากแต่ก็ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายไม่รู้เรื่องจริงหรือเปล่า เขายอมรับความพ่ายแพ้ของจั่วจู้แล้วทว่าตอนนี้เฉินเฟิงกลับให้ร้ายประเทศญี่ปุ่นต่อหน้าคนมากมายขนาดนี้กงปุ่นเหย่อู่ทนไม่ได้จริงๆ

เมื่อเห็นสีหน้าโมโหของกงปุ่นเหย่อู่เฉินเฟิงก็ไม่ได้สนใจ เขายังคงเหยียบศีรษะของจั่วจู้อยู่อย่างนั้นพลางหันไปทางกงปุ่นเหย่อู่ “ตอนนั้นผมบุกประเทศญี่ปุ่นตัวคนเดียว อีกทั้งยังฆ่าจอมยุทธ์ไปมากมายจนสร้างความอัปยศให้กับวงการศิลปะการต่อสู้ของประเทศญี่ปุ่นของพวกคุณ แต่ถึงพวกคุณจะอยากฆ่าผมก็ไม่ถึงกับต้องส่งสวะแบบนี้มานี่!”

“สารเลว……”

กงปุ่นเหย่อู่ตะโกนด่าออกมาก่อนจะหยัดตัวขึ้น ตอนนี้เขาโมโหจนถึงขีดสุดแล้ว หากไม่ใช่เพราะเขาเห็นอู่จื่อโจวและพวกในสภาพเตรียมโจมตี อีกทั้งรองประธานขององค์กรศิลปะการต่อสู้ระดับโลกยืนอยู่ในสนามแล้ว เขาต้องพุ่งขึ้นไปทรมานเฉินเฟิงจนตายอยู่บนเวทีอย่างแน่นอน ถึงจะระบายความเคียดแค้นของเขาได้

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน