บทที่ 752 อาเธอร์ขึ้นประลอง
ส่วนเติ้งนีก็สืบทอดวิชาโยคะแบบโบราณมา ดูลึกลับมาก ทำให้คนจับทางไม่ถูก แต่ในสายตาเฉินเฟิงก็ยังไม่พออยู่ดี นั่นคืออานุภาพการทำลายล้างไม่หนักเท่าของมูเนียร์
การประลองรอบที่แล้วมูเนียร์ฝีมือหนักแน่น บีบจนเติ้งนียอมใช้ฝีมือที่แท้จริง งั้นการแข่งครั้งนี้ล็อกฟ์สะกีจะสามารถบีบให้อาเธอร์แสดงฝีมือที่แท้จริงออกมาได้ไหมนะ?
ดนตรีหยุดลงแล้ว ไม่รู้ใครพูดขึ้นมา ทุกคนเริ่มวิพากษ์วิจารณ์กัน บางคนคิดว่าน่าจะได้ แต่คนส่วนใหญ่คิดว่าอาเธอร์น่าจะชนะ เพียงแต่จะบีบให้อาเธอร์แสดงฝีมือออกมาได้ไหมนั้นยังคาดเดาได้ยากอยู่
ท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของผู้ชม เวลาค่อยๆผ่านไป เริ่มเข้าใกล้เวลาประลองเข้าไปทุกที ผู้ชมที่ออกไปเริ่มทยอยกลับมากันแล้ว นอกจากโซนวีไอพียังมีที่นั่งว่าง ทางโซนผู้ชมธรรมดาได้เต็มจนไม่เหลือที่ว่างแล้ว
“ดูสิ พระสันตะปาปาโจ้ส์มาแล้ว!”
ไม่รู้ใครตะโกนขึ้นมา ทุกคนพากันหันมองไป พวกโมดริชเลขาธิการขององค์การศิลปะการต่อสู้ของโลกและพระสันตะปาปาโจ้ส์ค่อยๆเข้าสู่สนามแข่งเพื่อมาชมการแข่ง
“ไม่แปลก อาเธอร์เป็นจอมยุทธ์ที่อายุน้อยที่สุดของพรรค ฝีมือใช่ย่อย แถมยังเป็นหัวหน้าองครักษ์ของพระสันตะปาปาโจ้ส์ การแข่งของเขาพระสันตะปาปาต้องมาดูแน่นอนอยู่แล้ว!”
ในหมู่ผู้ชมไม่ขาดผู้มีความรู้ ตอนนี้กำลังอธิบายอยู่
พวกพระสันตะปาปาโจ้ส์กับโมดริชเลขาธิการขององค์การศิลปะการต่อสู้ของโลกนั่งลง ตอนนี้เองสายตาพระสันตะปาปาเหล่มองไปที่เฉินเฟิงที่อยู่ที่นั่งผู้ชม ก่อนยิ้มน้อยๆ
เฉินเฟิงจับสายตานั่นได้ เขาไม่รู้ว่าอีกฝ่ายคิดยังไง แต่รอยยิ้มนั่นต้องมีนัยยะแอบแฝงแน่
ถึงจะรู้ว่าต้องเป็นแบบนั้นแต่เฉินเฟิงก็ไม่คิดจะเสียเวลาคิดเรื่องอะไรแบบนี้ เขากลับไปโฟกัสที่การแข่ง รอชมการประลองของล็อกฟ์สะกีกับอาเธอร์
การแข่งจะเริ่มขึ้นแล้ว ล็อกฟ์สะกีที่เป็นอาวุธลับของรัสเซียมาถึงสนามแข่ง
ถึงแม้ว่าอากาศวันนี้จะอุ่นถึงสามสิบกว่าองศา แต่ล็อกฟ์สะกีกลับยังใส่ชุดต่อสู้ชนิดพิเศษอยู่
รูปร่างกำยำของเขายกเสื้อผ้าขึ้นก้าวเดินไปข้างหน้า มีเสียงดังเป็นจังหวะจากรองเท้าบูทของเขา คล้ายกับกลองรบก็ไม่ปาน
พอล็อกฟ์สะกีมาถึงใจกลางสนามแข่ง อาเธอร์ก็ปรากฏตัวขึ้น เขายังคงมีสีหน้าเย็นชาเย่อหยิ่งเหมือนเดิม ผมทองพลิ้วไสวอย่างเป็นธรรมชาติ
“อาเธอร์มาแล้ว!”
เทียบกับล็อกฟ์สะกีแล้ว ความนิยมของอาเธอร์มีมากกว่า แค่ปรากฏตัวก็มีคนเห็นแล้วโห่ร้องอย่างดีใจ
เพียงแต่อาเธอร์กลับไม่แยแสอะไรกับพวกนี้ เขาดูเหมือนอารมณ์ไม่ดีด้วย
ที่จริงอารมณ์เขาแย่มากในตอนนี้ การแข่งครั้งนี้เขาเห็นแค่พระสันตะปาปาโจ้ส์ แต่ธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่กลับไม่มา
สิ่งนี้ทำอาเธอร์เสียศูนย์ไม่น้อย
เพราะที่อาเธอร์ทำมาทั้งหมดจนถึงตอนนี้ ก็เพื่อจะแสดงฝีมือต่อหน้าธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่
ในฐานะหัวหน้าองครักษ์พระสันตะปาปา มีแม่ชีจำนวนมากในพรรคแอบรักเขา มีมากจนแทบจะกลายเป็นกองทัพองครักษ์ได้แล้ว
เพียงแต่ว่าอาเธอร์ไม่สนใจแม่ชี และพุ่งความสนใจไปที่ธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่เพียงคนเดียว
เพื่อจะได้แสดงฝีมือต่อหน้าธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ เขาฝึกฝนอย่างเอาเป็นเอาตาย พยายามเป็นที่หนึ่งในหมู่คนรุ่นใหม่นี่ให้ได้
พอเขารู้ว่า พระสันตะปาปาจะเลือกคู่ครองให้ธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่จากการแข่งขันศิลปะการต่อสู้ครั้งนี้ เขายิ่งพยายามมากขึ้น เขาคิดว่ามันเป็นโอกาสที่หาได้ยาก เขาตัดสินใจจะคว้าแชมป์การแข่งศิลปะการต่อสู้ระดับโลกนี้ มาเป็นของขวัญแทนใจให้กับธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่
เขารอคอยวันนี้เป็นอย่างมาก และแทบจะคิดจินตนาการถึงภาพอันสุดแสนเพอร์เฟคส์
แต่ทั้งหมดนี่สลายหายไปหมดสิ้นตั้งแต่ครั้งที่แล้วเขาใช้วิชาอ่านปากการสนทนาของพระสันตะปาปาโจ้ส์กับธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ และได้รู้ว่าธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่สนใจในตัวเฉินเฟิง ทำให้เขาโกรธมาก ภาพจินตนาการทั้งหมดพังทลาย
เขาไม่รู้ว่าเฉินเฟิงจากจีนนั่นมีสิทธิ์อะไรมาเทียบเคียงเขา แต่ถึงเขาจะโกรธแค่ไหนก็ไม่กล้าแสดงออกมาต่อหน้าพระสันตะปาปาโจ้ส์กับธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่
พอเขารู้ว่าธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ไม่มาดูการแข่งของเขา ข่าวนี้ยิ่งทำให้เขาโกรธมากขึ้น ความโกรธในใจพุ่งปรี๊ด มีหรือจะมีกะจิตกะใจสนใจผู้ชม
อาเธอร์ปรายตามองผู้ชม พอเขาเห็นเฉินเฟิง ตอนแรกตะลึงก่อน จากนั้นแววตามีประกายไฟโชติช่วง
เพราะอาเธอร์รู้สึกว่าถ้าไม่มีเฉินเฟิง เขาต้องได้เป็นสามีของธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่จะเปลี่ยนท่าทีไวขนาดนี้ แต่ตอนนี้เขาโดนความโกรธทำให้หัวหมุน ไม่ยอมเสียเวลาคิดอีกแล้ว
เดิมอาเธอร์รับปากน้องชายเขาไว้อยู่แล้วว่าจะสั่งสอนเฉินเฟิงสักตั้ง แต่ตอนนี้เขามีความอยากฆ่า แทบจะฉีกเฉินเฟิงออกเป็นชิ้นๆ
ถึงแม้จะพูดอย่างนั้น แต่อาเธอร์รู้ดีว่าตอนนี้ยังไม่ถึงเวลา ยังต้องรอเวลาก่อน
“ล็อกฟ์สะกีจากรัสเซีย ฉันจะให้ทางเลือกนายสองทาง หนึ่งยอมแพ้เอง สองโดนฉันฆ่า!”
เดิมอาเธอร์ก็โกรธพอดูแล้ว ตอนนี้ไม่ชอบหน้าใครทั้งนั้น เลยพูดจาใส่ล็อกฟ์สะกีอย่างไม่เกรงใจเท่าไหร่
“เหอะ อาเธอร์ นายจะมั่นใจเกินไปแล้ว!”
ล็อกฟ์สะกีตอนนี้ก็เริ่มโมโห เขาโมโหกับท่าทีไม่เห็นหัวของอาเธอร์
อาเธอร์ไม่ได้ตอบอะไร แต่ปรายตามองไปทางกรรมการเพื่อรอให้อีกฝ่ายประกาศเริ่มต้นการแข่งขัน
กรรมการก็มองออกว่าเขาคิดอะไร ไม่รีรออะไรและเอ่ยปากเปิดการแข่งขันทันที
“ทั้งสองฝ่ายเตรียมพร้อม การแข่งขัน…เริ่มได้!”
เมื่อกี้คำพูดของอาเธอร์ทุกคนได้ยินอย่างชัดเจน ตอนนี้ทุกคนเลยพากันวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาเธอร์จะเอาชนะอีกฝ่ายในท่าเดียวได้ไหม
“ปึ้ก!”
มีเสียงดังขึ้น ดึงสติผู้ชมกลับมา
ภายใต้แสงอาทิตย์ ผมทองของอาเธอร์สะดุดตามาก เห็นแค่สองมือประกบติด แวบร่างไปอยู่ต่อหน้าล็อกฟ์สะกี และฟาดลงไปอย่างไม่เกรงใจ
อาเธอร์เล่นใช้ท่าฟันเทพเจ้าแห่งสงคราม
ท่าฟันเทพเจ้าแห่งสงครามเป็นท่าไม้ตายของดาบสับเทพ บางทีอาจจะเพราะอาเธอร์หาที่ระบายความโกรธในใจ หรือบางทีอาจเพราะเขาจะทำตามคำมั่นเมื่อครู่ที่ว่าจะชนะอีกฝ่ายในพริบตา เลยใช้ท่าไม้ตายแบบไม่ยั้งเลย
วินาทีที่อาเธอร์ใช้ท่าฟันเทพเจ้าแห่งสงคราม ออร่าเขาพุ่งขึ้นสูงสุด ลมปราณมารวมกันที่สองมือ วินาทีนี้สองมือเขามีแรงขนาดสามารถฟันภูเขาและก้อนหินได้เลย
ลมปราณแผ่ซ่านออกมาจากสองมือ คมปลาบราวรังสีกระบี่ กระบี่ยังไม่มา รังสีมาถึงก่อน
รังสีพุ่งเข้าหาล็อกฟ์สะกี วินาทีนี้ทุกคนพากันสีหน้าเปลี่ยน แม้แต่เฉินเฟิงเองก็ด้วย
พระสันตะปาปาโจ้ส์ก็ไม่ยกเว้น ถึงเขาจะรู้ว่าฝีมืออาเธอร์ไม่เลว แต่ไม่คิดว่าเวลาอาเธอร์ทุ่มสุดแรงจะร้ายกาจแบบนี้
ล็อกฟ์สะกีกระตุกวูบ เขาหลบไม่ทัน เลยได้แต่ยกมือขึ้นตั้งรับโดยอัตโนมัติ ได้แต่เห็นเขาใส่ลมปราณลงไปที่มือ ตวัดฝ่ามือไปข้างหน้าราวหมีตัวหนึ่ง
ท่านี้เป็นวิทยายุทธ์ที่มีชื่อเสียงมากของรัสเซีย ท่าฝ่ามือนี้คิดค้นจากการเลียนแบบการโจมตีของหมี พลังทำลายล้างสูงมาก
ตอนนี้ทั้งสนามเงียบกริบ ทุกคนกลั้นหายใจ กลัวพลาดช็อตเด็ดไป
