บทที่ 754 เข้าสู่สี่คนสุดท้าย
จากนั้นพระสันตะปาปาโจ้ส์ก็ออกไปจากห้องโดยไม่เหลียวหลังกลับ
“เป็นไปไม่ได้เลยหรอ?”
ธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่เหมือนโดนดูดแรงออกไปหมด เธอนั่งแบบบนเก้าอี้ เสียใจอย่างพูดไม่ออก
เรื่องของเธอพักไว้ก่อน ย้อนไปที่พระราชวังอังกฤษที่อยู่ไกลออกไป
เจ้าหญิงแอนนี่กำลังฮัมเพลง เดินไปที่ห้องโถงงานเลี้ยงท่ามกลางการปรนนิบัติของนางกำนัล อารมณ์ดีเยี่ยม
งานเลี้ยงคืนนี้จัดขึ้นเป็นพิเศษเพื่อชาร์ลีสมาชิกราชวงศ์ที่เข้าร่วมการแข่งศิลปะการต่อสู้ระดับโลกในฐานะตัวแทนจากอังกฤษ
กษัตริย์ได้แจ้งไปยังสมาชิกราชวงศ์มาร่วมกันฉลองให้ชาร์ลีเพื่ออวยพรให้เขาทำผลงานได้ดีในการแข่งขัน
แอนนี่มาแล้ว!
ในห้องโถงงานเลี้ยงมีคนร้องขึ้นมา แอนนี่รีบถวายบังคม: “พระราชา!”
“แอนนี่วันนี้ดูมีความสุขนะ ไปเดินเล่นเป็นเพื่อนพ่อหน่อยละกัน!”
กษัตริย์ชาร์ลตันสีหน้ายิ้มแย้ม จัดการให้นางกำลังกับทหารองครักษ์ถอยไปก่อน
แอนนี่พยักหน้าอย่างว่าง่าย
“วันนี้ลูกดีใจขนาดนี้เป็นเพราะนายเฉินเฟิงจากจีนนั่นทำผลงานได้ดีในการแข่งขันใช่ไหม?” พระราชาถามยิ้มๆเมื่อเห็นรอบข้างไม่มีผู้ติดตาม
“ใช่ค่ะ พ่อ!”
แอนนี่ก็ไม่ได้ปิดบังอะไร เธอพูดตรงๆออกมาเลย
“เฮ้อ แอนนี่ ถึงจะบอกว่านายเฉินเฟิงนั่นเข้ารอบสี่คนสุดท้าย แต่อย่าดีใจเร็วไปนัก ต่อมาเขาต้องปะทะกับอาเธอร์หัวหน้าองครักษ์คูเรียเลยนะ!
ชาร์ลตันถอนหายใจก่อนพูดต่อ: “หลังจากชาร์ลีกลับมาพ่อได้คุยกับเขาสองสามคำ ได้ยินว่าอาเธอร์นั่นเป็นยอดฝีมือของคนรุ่นใหม่เลย โดยเฉพาะกระบวนท่าแข็งแกร่งทีเดียวจอดนั่น ชาร์ลียอมรับออกมาเลยว่าเขาเองไม่มีทางรับมือท่านั้นได้ และเท่าที่เขาว่า นายเฉินเฟิงไม่ได้แกร่งกว่าเขาเท่าไหร่หรอก!”
พระราชาชาร์ลตันพูดความกังวลในใจออกมา
แอนนี่คิ้วขมวดหลังจากได้ยินอย่างนั้น เธอถามด้วยสีหน้ากังวลว่า “พ่อคะ ความหมายของพ่อคือเฉินเฟิงจะแพ้อาเธอร์หรอ?”
“ถ้าแค่แพ้การแข่งนั่นยังดีนะ พ่อกลัวเขาจะตายเพราะงานนี้มากกว่า เฮ้อ ดังนั้นลูกต้องทำใจไว้ก่อนนะ!”
ชาร์ลตันน้ำเสียงหนักแน่น เขามีสายข่าวกรอง รายงานบอกชัดว่า อาเธอร์แสดงความเป็นศัตรูกับเฉินเฟิงหลังจากเอาชนะอาวุธลับของรัสเซียไป และดูจะเกลียดแค้นหนักมากด้วย
แอนนี่อึ้งตะลึงไปแล้ว ความกังวลในใจเริ่มมากขึ้นเรื่อยๆ เธอไม่กล้าคิดถึงผลแบบนี้ ถึงจะบอกว่าการแข่งยังไม่เริ่ม แต่เธอรู้จักพ่อเธอดี พ่อไม่มีทางสรุปง่ายแบบนี้ และเพราะแบบนี้เธอถึงกังวล เธอหวังว่าเฉินเฟิงจะสร้างปาฏิหาริย์ขึ้นอีกครั้ง
ตกดึก พระจันทร์ขึ้นกลางฟ้า แสงจันทร์นวลกระจ่างกลายเป็นเหมือนผ้าปิดหน้าลึกลับหลายชั้นให้กับพระราชวังคูเรีย
อาเธอร์ยังคงทำหน้าที่องครักษ์อยู่หน้าห้องโจ้ส์เหมือนที่เคยเป็นมา
อาเธอร์ไม่ได้หลับตาฝึกยุทธ แต่กลับยืนมองนิ่งไปทางห้องของธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ ตอนนี้สายตาเขาเต็มไปด้วยความโกรธอย่างเห็นได้ชัด
ถึงเขาจะเอาชนะอาวุธลับรัสเซียได้ในกระบวนท่าเดียว และรู้สึกได้ถึงท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดของพระสันตะปาปาโจ้ส์ แต่ธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่ยังคงทำตัวแบบเดิม ไม่สนใจเขาและไม่ไปดูการแข่งของเขาด้วย ทำให้อาเธอร์โกรธจัด
“กริ๊ง!”
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อาเธอร์มองดูเป็นข่ายซ่าน้องชายของเขาโทรมา อาเธอร์กดรับสาย
“พี่ ยินดีด้วยที่เข้ารอบสี่คนสุดท้าย!” พอกดรับสาย ข่ายซ่าก็อวยพรมาก่อนเลย
“มีอะไรน่ายินดีกัน!” อาเธอร์พูดเสียงเรียบ
“ใช่ จริงด้วย ฝีมืออย่างพี่ชายเป็นเรื่องแน่นอนอยู่แล้วนี่!”
ข่ายซ่ากระอักกระอ่วนเล็กน้อย เรื่องจริงเป็นไงก็แล้วแต่พี่ชายจะพูดละกัน
“นายโทรหาฉันเพราะเรื่องเฉินเฟิงจากจีนนั่นใช่ไหม?” อาเธอร์เข้าใจน้องชายคนนี้ดี เลยพูดเปิดอกไป
“ใช่เลย พี่ ฝีมือเจ้าลิงจีนนั่นดีกว่าที่ผมคิดไว้ นี่ก็เข้ารอบสี่คนสุดท้ายมาด้วย แถมผมยังแอบได้ยินมาว่ามีคนไม่น้อยตายในเงื้อมมือเขามาแล้ว?”
“นี่นายเป็นห่วงฉันหรืออยากกระแทกใจฉันให้สู้กับเขา?”
อาเธอร์ไม่เกรงใจ พูดแสกหน้าไปเลย เขารู้จักน้องชายเขาดี มันนะตีสองหน้าเก่ง
“พี่ ผมพูดจริงนะ มีทั้งสองอย่างเลย!” พ่อหนุ่มตีสองหน้าเก่งอย่างข่ายซ่าตอนนี้เลิกเก๊กละ
“เหอะ นายเอาฉันไปเปรียบกับเจ้าเฉินเฟิงนั่นได้ไง ในสายตาคนอื่นเขาอาจจะแกร่ง แต่ในสายตาฉัน เขามีอะไรล่ะ!”
“การแข่งในวันมะรืน ฉันจะให้เขารู้จักความเก่งของฉัน เขาจะอยู่ไม่ถึงกลางคืนหรอก!” คำพูดของอาเธอร์เต็มไปด้วยความมั่นใจ แทบจะเรียกได้ว่าบ้าคลั่ง
ได้ยินคำพูดของอาเธอร์ซึ่งเป็นพี่ชาย ข่ายซ่าอึ้งไป ไม่คิดว่าพี่ชายจะฆ่าเฉินเฟิง วันนั้นที่เขาโทรมา อาเธอร์บอกว่าจะสั่งสอนเฉินเฟิงซักหน่อย แต่ไม่คิดว่าตอนนี้จะอยากฆ่าอีกฝ่าย
“พี่คะ เกิดอะไรขึ้น? หรือว่าเจ้าลิงจีนนั่นหาเรื่องพี่!”
ข่ายซ่าถามสิ่งที่สงสัยในใจ แต่ปลายสายกลับมีเสียงตู๊ดๆดังมา อาเธอร์วางสายไปนานแล้ว
“เหอะ มะรืน การแข่งในวันมะรืนฉันจะทำให้พระสันตะปาปาและธิดาเทพแห่งพรรคทิฟฟานี่รู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นสุดยอดฝีมือของคนรุ่นใหม่ เฉินเฟิงเป็นตัวอะไร กล้าคิดมาเทียบเคียงฉัน!”
อาเธอร์ตัดสินใจ เขาจะใช้เลือดและสมองของเฉินเฟิงมาสร้างชื่อเสียงให้ตัวเอง เขาจะเหยียบกระดูกอีกฝ่ายขึ้นไปจุดสูงสุด
ประเทศจีน เสี้ยเมิ่งเหยามาที่บริษัทแต่เช้าตรู่
“คุณหนู”
การ์ดบ้านเสี้ยเห็นเสี้ยเมิ่งเหยาเดินเข้ามา รีบโค้งเคารพทักทาย
“คุณอาฉินฉันบอกกี่ครั้งแล้ว ไม่ต้องกลัวฉันขนาดนี้!”
เสี้ยเมิ่งเหยาพูดยิ้มๆพลางนั่งลงที่โซฟา ถามต่อ: “คุณอาฉิน เรื่องที่ฉันรบกวนคุณอา ตอนนี้เป็นยังไงบ้างหรอคะ?”
“เรียนคุณหนู มีผลแล้วครับ!”
ฉินจวูนคิดๆพลางว่า: “ผมรวบรวมข้อมูลไว้แล้ว จนถึงตอนนี้นอกจากวิลเลียมที่ดูลึกลับนั่นยังไม่ได้แสดงฝีมือที่แท้จริง อาเธอร์กับเฉินเฟิงต่างแสดงฝีมือแล้ว!”
“ดูจากสถานการณ์ตอนนี้แล้ว อาเธอร์แกร่งที่สุด รองมาเป็นเติ้งนี จากนั้นถึงเป็นเฉินเฟิง ส่วนวิลเลียมถึงจะยังไม่ได้แสดงฝีมือ แต่รับรองว่าเก่งกว่าเฉินเฟิงแน่!”
“งั้นเฉินเฟิงด้อยกว่าพวกเขามากไหม?” เสี้ยเมิ่งเหยาคิ้วขมวดแน่น
“เอ่อ..คุณหนูไม่ใช่จอมยุทธ์ ความแตกต่างนี่อธิบายได้ยาก!”
ฉินจวูนลังเลเล็กน้อยก่อนพูดต่อว่า: “เท่าที่ดูจากข้อมูลบริษัทลอตเตอรี ข้อมูลบ่งบอกว่าหลายคนไม่มั่นใจในตัวเฉินเฟิง ตัวเลขของเขาอยู่ในอันดับท้าย!”
เสี้ยเมิ่งเหยาไม่ได้พูดอะไร แต่สั่งการลงไป อย่างแรกตรวจสอบว่าบริษัทยังมีเงินทุนสามารถโยกย้ายได้เท่าไหร่ อีกด้านก็ตรวจสอบดูบริษัทลอตเตอรีให้แน่ใจว่าเงินทุนขั้นสุดได้เท่าไหร่
เสี้ยเมิ่งเหยาไม่รู้เรื่องศิลปะการต่อสู้ แต่ฉินจวูนก็พอเข้าใจเรื่องอยู่บ้าง เลยจงใจถามว่า: “คุณอาฉิน อาว่าครั้งนี้เฉินเฟิงมีเปอร์เซ็นต์ชนะเท่าไหร่?”
ฉินจวูนลังเลก่อนพูด: “น่าจะไม่ถึงหนึ่งในสิบ!”
“อืม!”
เสี้ยเมิ่งเหยาคิ้วขมวด สีหน้าเป็นกังวล เรื่องบาดหมางของเฉินเฟิงกับข่ายซ่าเขารู้หมดแล้ว แถมข่ายซ่าเป็นน้องชายของอาเธอร์ งั้นการแข่งครั้งนี้อาเธอร์ต้องสู้สุดแรงแน่
การแข่งครั้งนี้ไม่ว่าจะเป็นอาเธอร์ หรือวิลเลียมที่ยังไม่แสดงฝีมือนั่นต่างมีเรื่องกับเฉินเฟิงทั้งนั้น แบบนี้สถานการณ์ของเฉินเฟิงถือว่าอันตรายมาก แค่ผิดพลาดนิดเดียวอาจหมายถึงชีวิต
