ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 781

ตอนที่ 781

บทที่ 781 อู๋คุนสิ้นชีพ

ในขณะนี้เฉินเฟิงกำลังยืนอยู่ในลาน เขาโคจรลมปราณภายในร่างกายและหลังจากนั้นประสานลมปราณเข้ากับเส้นเลือดทั้งหมดในร่างกาย เช่นเดียวกันเฉินเฟิงไม่คิดจะเก็บไพ่ตายไว้ทีหลังแต่ในทางกลับกันเขาใช้ท่าไม้ตายทะลุฟ้าที่ตัวเองคิดขึ้น

การที่เฉินเฟิงใช้สุดยอดวิชาของตัวเอง จัดการชีวิตของศัตรูอู๋คุนอย่างสาสม

เฉินเฟิงเรียกได้ว่าเป็นอันดับหนึ่งของคนหนุ่มรุ่นหลังเรื่องนี้ไม่ได้พูดเกินจริงเลย ยิ่งไปกว่านั้นความแข็งแกร่งของเฉินเฟิงเป็นที่รู้จักไปทั่ว ที่สำคัญเฉินเฟิงคือเด็กหนุ่มรุ่นหลังหนึ่งในเพียงไม่กี่คนที่สามารถคิดค้นเคล็ดวิชาการต่อสู้ของตัวเองได้

ไม่ว่าจะเป็นวิชาอะไรหรือผู้ที่แข็งแกร่งแค่ไหนถ้าหากฝึกวิชาของผู้อื่นไม่ว่ายังไงก็ยังห่างชั้นกับกระบวนท่าที่ตัวเองคิดค้นขึ้นมา เพราะกระบวนท่าที่คิดค้นขึ้นมานั้นจำเป็นต้องแก้ไขให้สอดคล้องกับเงื่อนไขของสภาพร่างกายดังนั้นจึงทำให้พลังที่คิดค้นขึ้นมาเองนั้นรุนแรงกว่ามาก

ตอนที่เฉินเฟิงอยู่ในระดับหั้วจิ้งชั้นต้นก็สามารถใช้เคล็ดวิชานี้ล้มอาเธอร์ได้ ต้องบอกก่อนว่าอาเธอร์เป็นถึงนักสู้ระดับหั้วจิ้งชั้นกลางถือว่าเป็นคนที่แข็งแกร่งมาก แต่ว่าถึงแม้จะเป็นแบบนั้นก็ไม่สามารถหยุดท่าไม้ตายทะลุฟ้าของเฉินเฟิงได้

ถึงแม้จะบอกว่าอาเธอร์ประมาทไปเอง แต่ผลของเหตุการณ์ก็สามารถเป็นเครื่องยืนยันบ่งบอกถึงความแข็งแกร่งของเฉินเฟิง

ในตอนนี้เฉินเฟิงได้ทะลวงไปถึงขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางแล้วและความแข็งแกร่งของเขาแตกต่างกับก่อนหน้านี้ไปมาก นี่เป็นครั้งที่สองที่ใช้กระบวนท่านี้หลังจากที่คิดค้นเคล็ดวิชาทะลุฟ้าได้สำเร็จ

อู๋คุนในตอนนี้ยอมสูญเสียทุกอย่างแล้ว นี่เป็นความหวังสุดท้ายของเขา นี่เป็นการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของเขา

เฉินเฟิงเริ่มร่ายรำกระบวนท่าใช้สุดยอดวิชาทะลุฟ้า ทันทีที่ทั้งสองประทะเข้าหากันและในขณะเดียวกันลมปราณของทั้งสองก็ปะทะเข้าหากันเช่นกันส่งผลทำให้เกิดพายุที่รุนแรงซึ่งรุนแรงกว่าก่อนหน้านี้ไปมาก

เพียงแต่ว่าครั้งแรกนั้นอู๋คุนไม่ได้ต้านนานมากนัก สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในทันที แขนซ้ายของเขาถูกพลังที่รุนแรงนี้ทำให้ระเบิดเป็นจุณ อวัยวะภายในของเขาเดิมทีก็ได้รับบาดเจ็บถูกโจมตีซ้ำอีกครั้ง

เห็นเพียงร่างของอู๋คุนเป็นเหมือนกับใบไม้ในสายลมที่รุนแรงถูกพัดปลิวกระเด็นออกไปหลังจากนั้นก็กระแทกลงกับพื้นอย่างแรง

พื้นดินเกิดเป็นหลุมขนาดใหญ่ ครั้งนี้อู๋คุนถือว่าได้สูญเสียทักษะการต่อสู้ไปโดยสิ้นเชิงและไม่สามารถยืนขึ้นได้อีกแล้ว

“การต่อสู้จบลงแล้วเหรอ?”

ในความคิดของเหล่าผู้ชมปรากฏความคิดนี้ขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว

อู๋คุนในตอนนี้นอนอยู่กับพื้นและมีเลือดสีแดงสดของเขาย้อมเสื้อผ้าที่สวมใส่จนแดงฉ่ำ ยิ่งไปกว่านั้นร่างกายที่ได้รับบาดเจ็บหนักของอู๋คุนสั่นสะท้านมีเลือดออกจากทวารทั้งเจ็ดเรียกได้ว่ามาถึงก้าวสุดท้ายของชีวิตแล้ว

แม้ว่าเฉินเฟิงไม่ลงมืออู๋คุนก็อยู่ต่อไปไม่รอดแล้ว

อู๋คุนที่นอนอยู่กับพื้นในแววตาของเขาเต็มไปด้วยความตกตะลึงที่ไม่สามารถปกปิดได้และอดไม่ได้ที่จะพึมพำกับตัวเอง “เป็นไปไม่ได้ เป็นไปได้ยังไง เขาเพิ่งจะฝ่าทะลวงขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางแต่ทำไมถึงมีพลังที่แข็งแกร่งแบบนี้!”

ในตอนนี้ทุกคนตกอยู่ในความเงียบ ไม่เพียงแต่ผู้ชมธรรมดาเท่านั้นแม้กระทั่งพระสันตะปาปาโจ้ส์ อู่จื่อโจว ท่านเลขาโมดริชและรวมไปถึงนักสู้ที่แข็งแกร่งคนอื่นๆที่นั่งอยู่บนโซนแขกผู้ทรงเกียรติก็เงียบขรึมลงเช่นกัน ทักษะการต่อสู้ที่เฉินเฟิงแสดงออกมามันเกินกว่าที่พวกเขาจินตนาการไปมาก

และในขณะนั้นเองเฉินเฟิงเริ่มเคลื่อนไหว เขาเดินเข้าไปหาอู๋คุนทีละก้าวด้วยสีหน้าที่เรียบเฉย

“วิชาที่แกใช้เป็นวิชาอะไร ประเทศหวาไม่มีวิชาแบบนี้แน่นอน แกไปเรียนมาจากที่ไหน?”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงเดินเข้ามาอู๋คุนอดไม่ได้ที่จะตะโกนถามเสียงดัง

“มันก็จริงประเทศหวาไม่มีวิชาแบบนี้ เพราะนี่เป็นวิชาที่ฉันคิดค้นขึ้นเอง!”

เฉินเฟิงตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบาและสีหน้าที่เรียบเฉย

แต่ว่าคำพูดของเฉินเฟิงที่ดังเข้าไปในหูของอู๋คุนมันทำให้เขายากที่จะเชื่อได้

“ผายลม เป็นไปไม่ได้แกเพิ่งจะบรรลุ เป็นไปได้ยังไงที่จะสามารถคิดค้นวิชาด้วยตัวเอง นี่มันเป็นไปไม่ได้!”

อู๋คุนคำรามสุดเสียง เขาไม่เชื่อและไม่กล้าเชื่อเรื่องทั้งหมดที่เกิดขึ้น

“แกถึงเวลาตายได้แล้ว!”

เฉินเฟิงกระชากผมของอู๋คุนแล้วยกขึ้น ในขณะที่พูดก็โคจรลมปราณไปที่ฝ่ามือด้วย หลังจากนั้นฟันไปที่คอของอู๋คุนอย่างแรง!

หัวของอู๋คุนแยกออกจากร่างกายทันที ร่างกายของเขากระตุกไม่กี่ครั้งแล้วล้มลงกับพื้นไม่สามารถลุกขึ้นมาได้อีก ส่วนหัวของอู๋คุนที่อยู่ในมือของเฉินเฟิงแม้ว่าจะสิ้นชีพไปแล้วแต่ดวงตาของเขายังคงเบิกกว้างในแววตาเต็มไปด้วยความตกตะลึงและไม่อยากเชื่อ

“ศิษย์พี่ศัตรูได้ตายแล้ว!”

เฉินเฟิงถือหัวของอู๋คุนไว้ในมือพร้อมกับเงยหน้าขึ้นมองท้องฟ้าด้วยสายตาที่เย็นชา

วิลเลียม แม้ว่าอู๋คุนจะถึงคราวเคราะห์แล้วแต่หัวของเขาก็ยังคงถูกเฉินเฟิงตัดลงมา

เฉินเฟิงหิ้วหัวของอู๋คุนไว้และในแววตาของเขายังหลงเหลือจิตแห่งการสังหารของเมื่อกี้

เฉินเฟิงในตอนนี้ยืดอกหลังตรงสายตาที่เย็นชากวาดมองไปทั่ว ไม่ว่าใครก็ตามที่สบตากลับเขาก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเย็นวูบในใจ

ใบหน้าของเฉินเฟิงในตอนนี้ถูกผู้คนจดจำไว้ในใจเป็นอย่างดี แม้แต่ช่างภาพจากองค์กรศิลปะการต่อสู้โลกก็บันทึกภาพเหล่านี้ไว้อย่างรวดเร็ว

“เฉินเฟิง!”

“เฉินเฟิงแห่งประเทศหวา!”

“เจ้าแห่งชัยชนะ!”

หลังจากที่เงียบขรึมไปสักพักเสียงโห่ร้องก็ดังกึกก้องขึ้นจากสนามประลอง พวกเขาต่างพากันตะโกนเรียกชื่อของเฉินเฟิงด้วยน้ำเสียงที่สั่นเทาเห็นได้ชัดว่าอารมณ์ของผู้ชมดูตื่นเต้นมาก

อารมณ์ของผู้ชมทุกคนเปลี่ยนไปเพราะเฉินเฟิงคนเดียว เดิมทีผู้ชมที่รู้สึกสงสัยความสามารถของเฉินเฟิงในตอนนี้ก็เริ่มส่งเสียงตะโกนเรียกชื่อเขาด้วยเช่นกัน

การกระทำของเฉินเฟิงได้ทำให้ทุกคนเปลี่ยนแนวคิดใหม่ ในช่วงแรกของการแข่งขันเฉินเฟิงทำได้ไม่น่าพอใจมากนัก แต่หลังจากที่เขาฝ่าทะลวงขั้นหั้วจิ้งชั้นกลางซึ่งไม่เคยมีใครคิดถึงมาก่อน

ยิ่งไปกว่านั้นสิ่งที่สำคัญที่สุดคือหลังจากที่เฉินเฟิงบรรลุหั้วจิ้งชั้นกลางกลับใช้พลังขั้นสุดยอดโจมตีอู๋คุนจนไม่มีโอกาสได้โต้กลับ

“ดี สุดยอดมาก!”

จียุ่นที่อยู่ในฝูงชนอดไม่ได้ที่จะตะโกนเสียงดังเพื่อปลดปล่อยอารมณ์ของตัวเอง บางทีอาจจะเป็นเพราะว่ารู้สึกตื่นเต้นมากเกินไปดวงตาของเขาในตอนนี้เปียกชื้นเล็กน้อย

ศีลสามก็รู้สึกตื่นเต้นมากเช่นกัน เขาลุกขึ้นมาด้วยร่างกายที่สั่นเทาแล้วตะโกนพูด “พวกแกดูสิฉันพูดถูกไหมล่ะ? ฉันบอกตั้งแต่แรกแล้วว่าศิษย์พี่ใหญ่เฉินเฟิงจะต้องชนะการแข่ง เห็นไหมฉันพูดถูกหรือเปล่า!”

หลังจากที่ศีลสามเพิ่งพูดจบก็ดึงดูดสายตาของจียุ่นทันที ราวกับว่าสายตาของเขากำลังพูดว่า “แกเคยพูดแบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่! ”

มีเพียงเทียนอิงเท่านั้นที่ตอนนี้เงียบขรึมไม่พูดอะไร เฉินเฟิงสามารถคว้าชัยชนะมาได้เขาก็รู้สึกดีใจด้วยเช่นกัน เพียงแต่ว่าไม่รู้ว่าทำไมในใจถึงมีความรู้สึกอิจฉา

“ระหว่างเรามันยิ่งห่างกันขึ้นเรื่อยๆ ดูเหมือนชีวิตนี้คงจะไม่มีโอกาสได้สู้กับเขาแล้ว!”

เทียนอิงถอนหายใจเงียบๆในใจ ความแข็งแกร่งของเฉินเฟิงไปไกลเกินกว่าที่เขาจะเทียบได้แล้ว

“มันเหลือเชื่อมาก เดิมทีตอนที่ท่านอู่ประเมินตัวของเฉินเฟิงในมุมมองของฉันรู้สึกว่ามันเว่อร์เกินไป แต่ดูเหมือนว่าตอนนี้การประเมินของท่านอู่เรียกได้ว่าแม่นยำมาก เฉินเฟิงคนนี้ก็ถือว่าแข็งแกร่งเกินความเข้าใจของคนทั่วไป!”

จีอู๋ฉางมองเฉินเฟิงที่อยู่บนสนามประลองอดไม่ได้ที่จะพูดชม

“ถูกต้อง แม้ว่าจะให้ฉันสู้กับเฉินเฟิงตอนนี้ก็ไม่มั่นใจว่าจะสามารถเอาชนะเขาได้!” ปรมาจารย์ชางโป๋พูดเสริม

ทุกคนที่นั่งอยู่ตรงนี้ อู่จื่อโจว จีอู๋ฉาง อาจารย์ฟางเจิ้น ชางโป๋ บุคคลพวกนี้ล้วนแต่เป็นผู้ที่ยืนอยู่บนจุดสูงสุดของแวดวงศิลปะการต่อสู้ของประเทศหวา

ต้องบอกก่อนไม่ต้องพูดถึงหั้วจิ้งชั้นกลาง แม้แต่หั้วจิ้งชั้นสุดก็ไม่แน่ว่าจะเป็นคู่ต่อสู้ของปรมาจารย์ทั้งหลายที่นั่งอยู่ตรงนี้

แต่ว่าจากการประลองศิลปะการต่อสู้ในครั้งนี้เรียกได้ว่าการกระทำของเฉินเฟิงเกินความเข้าใจของพวกเขาไปมาก ดังนั้นจึงไม่สามารถนำเฉินเฟิงมาเทียบกับนักสู้ทั่วไป

“อามิตตาพุทธ เป็นเรื่องที่น่ายินดีจริงๆที่มีลูกศิษย์เช่นนี้ ปรมาจารย์เย่ต้องขอคำชี้แนะจากท่านด้วย ต้องทำเช่นไรถึงจะสามารถฝึกฝนลูกศิษย์ได้โดดเด่นเช่นนี้!”

อาจารย์ฟางเจิ้นพนมมือเข้าด้วยกันและพูดด้วยท่าทีที่ถ่อมตน ดูเหมือนว่าเขากำลังขอคำชี้แนะจากเย่หนานเทียนจากใจจริง

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท