ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 809

ตอนที่ 809

แต่คิดไม่ถึงว่ายามผู้นั้นก็ยังคงยืนหยัดตามความคิดของตน

“ฉันออกไปจากตรงนี้ไม่ได้จริง ๆ พวกเรามีกฎระเบียบ ฉันมีหน้าที่ตรวจสอบคนที่สามารถเข้าออกได้ ไม่ว่าใครก็ตามที่มา หากว่าไม่มีการแจ้งมาที่ฉันก็ไม่มีทางที่จะให้เขาเข้าไปด้านในได้”

เขาพูดออกมาแบบนี้ ทำให้ฝ่ายตรงข้ามเกิดความโมโหขึ้น ชายวัยกลางคนที่สุภาพและหนักแน่นก็สะบัดมือแล้วเดินกลับมายืนอยู่ด้านหลัง

แต่ก็มีคนเข้ามาพูดคุยกับยามต่ออีก

“นายพูดว่าไม่สามารถให้คนเข้าไปด้านในได้ แต่ว่าทำไมไอ้คนบ้านนอกสองคนนั้นถึงเข้าไปได้ล่ะ นายจงใจที่จะลำเอียงใช่ไหม”

ตอนที่ผู้หญิงร่างผอมบางคนนั้นชี้ไปยังเฉินเฟิง เฉินเฟิงก็ยังไม่ทันได้พูดตอบกลับออกไป

ยามก็หันไปมองที่เฉินเฟิง เขารู้จักเฉินเฟิง แต่ไม่ทราบว่าตอนนี้เฉินเฟิงเป็นเจ้าของสวนแห่งนี้ แต่ที่เฉินเฟิงเข้าไปด้านในได้นั้นก็เพราะได้รับการอนุญาตแล้ว เขาก็หมดปัญญา ทำได้เพียงพูดตามความจริงให้กับคนนั้นฟัง

“พวกเขาเป็นสมาชิกของที่นี่ ดังนั้นฉันจึงปล่อยให้เขาเข้าไปด้านในได้”

คำพูดนี้ทำให้ทุกคนโวยวายกันยกใหญ่

“นายพูดอะไรนะ สองคนนี้ที่แต่งตัวอย่างกับคนบ้านนอกก็เป็นสมาชิกของที่ด้วยงั้นเหรอ นายล้อเล่นกันใช่ไหม ฮ่าฮ่า ฉันไม่เคยได้ฟังเรื่องตลกขบขันอะไรอย่างนี้มาก่อนเลย”

เธอทำท่าทางงุนงง แสดงออกได้เหมือนกับที่ตัวเองรู้สึกว่าเป็นเรื่องที่น่าขันจริง ๆ

เฉินเฟิงเอือมระอาเป็นอย่างมาก ที่พูดว่าเขาเป็นคนบ้านนอกซึ่งอาจเป็นเพราะเขาไม่ค่อยชอบที่จะแต่งตัว แต่หากพูดว่าหลินหวั่นชิงด้วยล่ะก็คงจะเกินไปหน่อยแล้ว

ตอนนี้หลินหวั่นชิงอยู่ในชุดว่ายน้ำที่เย็นสบาย และเป็นชุดที่สั่งตัดขึ้นเป็นพิเศษ ซึ่งบุคลิกท่าทางดูดีกว่าพวกคุณน้าคุณป้าที่ยืนอยู่หน้าประตูหลายเท่า ผิวขาวเนียนเรียวขายาวและงดงาม โดยที่หลินหวั่นชิวมีดีกว่าในทุกส่วน

เฉินเฟิงเดินเข้ามาด้วยความไม่พอใจ

“เมื่อครู่คุณว่าใครที่เป็นคนบ้านนอก? พวกคุณเข้ามาไม่ได้ก็ไม่ต้องเข้ามา ที่นี่คือคลับส่วนบุคคล ไม่ได้รับอนุญาตไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ ไม่ใช่ว่าคนบ้านนอกที่ไหนก็จะสามารถเข้ามาด้านในได้”

คำพูดของเฉินเฟิงฟังแล้วยิ่งรุนแรงกว่า หญิงวัยกลางคนผู้นั้นยกมือขึ้น แล้วชี้ไปทางเฉินเฟิงและพูดว่า

“นายคิดว่าตนเองเป็นใครกัน ที่นี่คือยันเจียง บุคคลที่มีหน้ามีตาในยันเจียงไม่มีใครที่ฉันไม่รู้จัก แต่ว่าฉันไม่เคยเห็นนายมาก่อน นายไม่ใช่คนบ้านนอกแล้วนายเป็นใครกัน”

พูดได้อย่างมีเหตุมีผล ละเอียดรอบคอบ

เฉินเฟิงยิ้มและพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า

“คนบ้านนอกอยู่หน้าประตู คนบ้านนอกอยู่ในประตู นี่มันมองเห็นก็ทราบดีอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ”

หญิงผู้นั้นเผยอปากขึ้น โมโหจนสั่นไปทั้งตัว เตรียมที่พุ่งเข้ามาแล้ว

ก็เป็นยามผู้นั้นที่ได้ขัดขวางเธอเอาไว้

“นายปล่อยให้ฉันเข้าไป นายรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร? หากนายยังกล้าที่จะขัดขวางฉันอีก ฉันจะให้นายรับผิดชอบในสิ่งที่นายกระทำขึ้น”

และก็ยังคงไม่พูดว่าตัวเองเป็นใคร แต่ก็พูดติดปากอยู่ตลอดว่าตัวเองเป็นใคร

เฉินเฟิงโอบกอดหลินหวั่นชิวเข้าสู่อ้อมอก แล้วก็กลับไปนั่งบนเก้าอี้ในโซนพักผ่อน และก็มองดูพวกคนที่ถูกขัดขวางเอาไว้อยู่ด้านนอกประตู

“นายทำได้ดีมาก ฉันจะจดจำนายเอาไว้”

อีกคนหนึ่งโมโหสุดขีด เขาจึงได้พูดแบบนี้กับยามผู้นั้นเอาไว้

แต่แม้จะเป็นแบบนี้ ยามก็ยังคงปฏิบัติตามหน้าที่เท่าที่ตนเองจะปฏิบัติได้

สุดท้ายก็ยังไม่มีวิธีใดที่จะสามารถเข้ามาด้านในได้ คนเหล่านั้นก็ยังคงยืนกันอยู่ด้านนอก และมีคนหนึ่งได้เริ่มโทรศัพท์ขึ้น โดยไม่รู้ว่ากำลังโทรศัพท์ไปหาใคร

พุดคุยอยู่ตรงนั้นอยู่ช่วงหนึ่ง และดูเหมือนว่าจะจัดการสำเร็จแล้ว

เฉินเฟิงมองดูเขาที่มีสีหน้าภาคภูมิใจ เหมือนกับว่าอีกไม่นานก็สามารถเข้ามาด้านในได้แล้ว เฉินเฟิงจึงได้กระซิบถามหลินหวั่นชิวขึ้น

“คุณคิดว่าเขาหาใครเพื่อที่จะมาช่วยเหลือ หากว่าเมื่อถึงเวลานั้นเห็นฉันอยู่ที่นี่ คนผู้นั้นคงจะตกใจจนปัสสาวะรดใส่กางเกงเลยไหม”

หลินหวั่นชิวหยิกไปที่ตัวของเฉินเฟิงเล็กน้อย พูดขึ้นอย่างออดอ้อนว่า

“คุณทำไมถึงเป็นแบบนี้”

เฉินเฟิงพูดอธิบายว่า

“ฉันไม่ได้ทำอะไรสักหน่อย ฉันก็แค่นั่งดูอยู่ที่ตรงนี้ก็เท่านั้น”

“แต่แค่คุณมองดู ก็เลวร้ายพออยู่แล้ว”

ขณะที่ทั้งสองพูดคุยหยอกล้อกัน ก็มีคนเดินมาเข้าหาจริง ๆ

เฉินเฟิงมองดูคนที่มานั้น ทำให้เขาขำขันขึ้นเล็กน้อย

นึกไม่ถึงว่าจะเป็นไอ้อ้วน

เขานั่งอยู่ที่ตรงนั้น ส่วนไอ้อ้วนเองก็มองเห็นว่าเฉินเฟิงอยู่ที่ตรงนั้น ขณะเดียวกันเขาก็เห็นพวกคนที่ยืนอยู่หน้าประตู แต่เหมือนว่าจะไม่สนใจเรื่องที่คนอื่นขอความช่วยเหลือแล้ว โดยหันหลังเตรียมที่จะวิ่งหนีไป

“นายมานี่”

เฉินเฟิงตะโกนเรียกไปทางไอ้อ้วน

ไอ้อ้วนรู้ตัวดีว่าตนเองวิ่งหนีไปไม่ทันแล้วจึงได้หมุนตัวกลับมา และเดินเข้าไปหาเฉินเฟิง

ท่าทางของเขาดูแย่มาก เหมือนกับว่ามีญาติพี่น้องเสียชีวิตอย่างไรอย่างนั้น

เป็นไปได้ว่ากำลังแอบด่าคนพวกนั้นอยู่ในใจว่าทำไมไม่ไปหาเรื่องหาราวกับคนอื่น แต่ดันมาหาเรื่องกับเฉินเฟิงผู้นี้

แต่ในที่สุดก็เดินมาอยู่ตรงหน้าของเฉินเฟิงอย่างตรงไปตรงมา

“คุณชายเฉิน ท่านเรียกข้าเหรอ! ”

เฉินเฟิงยิ้มและพูดว่า

“นายมาที่นี่เพื่อเตรียมตัวที่จะทำอะไร? ”

ไอ้อ้วนรับโบกมือปฏิเสธและพูดว่า

“เปล่า ข้าไม่ได้ตั้งใจที่จะมา หากไม่ใช่เพราะคุณชายเฉินเรียกข้า ข้ากำลังที่จะไปด้านหลังสวน”

เขาแก้ต่างเล่นลิ้นอย่างรวดเร็ว แต่มีคนที่อยู่ด้านนอกประตูกลับเห็นและรู้จักเขา

“เถ้าแก่ซุน คุณไม่รู้จักฉันแล้วเหรอ ฉันโจวซิงยังไงล่ะ”

ไอ้อ้วนถึงขนาดอยากที่จะโบกมือให้เขาหยุดเรียกได้แล้ว แต่ฝ่ายตรงข้ามมองเห็นแล้วแต่ก็ยังไม่เข้าใจถึงความหมายที่ไอ้อ้วนต้องการจะบอกกล่าว

“เถ้าแก่ซุน คุณทำไมถึงลืมกันแล้วล่ะ ครั้งก่อนพวกเรายังทานข้าวด้วยกันอยู่เลย? ไม่ใช่จะหลงลืมกันง่าย ๆ อย่างนี้แล้ว”

เฉินเฟิงหัวเราะเบา ๆ

“เพื่อของนายเหรอ? ”

ไอ้อ้วนปฏิเสธทันทีโดยไม่ต้องคิด

“เป็นไปได้อย่างไร ข้าเองไม่รู้จักกับพวกเขาสักหน่อย”

“นายไม่รู้จักพวกเขาจริง ๆ ใช่ไหม? แต่ทำไมข้าดูว่ามันไม่เหมือนล่ะ! ที่จริงแล้วก็ไม่เป็นไร หากว่าเป็นเพื่อนของนายจริง ๆ ข้าเองก็ไม่ใช่คนที่เลวร้ายอะไร ข้าเป็นคนที่พูดง่ายอยู่แล้ว”

แต่ไอ้อ้วนก็ยังคงยืนกรานหนักแน่นที่ปฏิเสธว่าไม่รู้จัก

“คุณชายเฉิน ข้าไม่รู้จักจริง ๆ ท่านปล่อยข้าไปเถอะ ที่นั่นยังมีเรื่องที่ข้าต้องไปจัดการอีก หากว่าท่านไม่มีเรื่องอะไรรับสั่งแล้ว ข้าก็ขอตัวไปทำงานก่อน”

เขาแสดงท่าทางที่ต้องการจะเดินจากไปอย่างเดียว

“นายรอสักครู่ ข้าก็ไม่ได้ต้องการที่จะทำอะไรนายสักหน่อย พวกคนเหล่านี้อยู่ตรงนี้เสียงดังรบกวน นายไปขับไล่พวกเขาให้หน่อย ที่นี่เป็นคลับส่วนบุคคล เรื่องนี้คิดว่านายคงจะสามารถทำมันได้นะ”

ไอ้อ้วนทราบดีว่าตนเองหนีไปไม่พ้นแล้ว จึงกัดฟันตอบรับเอาไว้

“รับทราบ คุณชายเฉิน! ”

เขาเดินไปยังประตูทางเข้า คนเมื่อสักครู่ที่ทักทายเขาก็ได้ทักทายกับเขาอีกครั้ง

“เถ้าแก่ซุน คุณมาเพื่อที่จะปล่อยให้พวกเราเข้าไปด้านในใช่ไหม ไอ้คนบ้านนอกเมื่อครู่นี้คุณรู้จักเขาด้วยเหรอ? ”

ไอ้อ้วนหน้าเขียวขึ้นโดยพลัน จนถึงตอนนี้พวกเขายังจะสร้างความโกรธแค้นให้กับตัวเขาอีก จึงได้ ดุด่าอย่างรุนแรงออกไป

“คนบ้านนอกอะไรกัน ผู้นั้นคือเจ้าของคนครอบครองสวนซวนหยวนแห่งนี้ พวกนายยังจะมาพูดว่าคนบ้านนอกอะไรกันอีก ยังไม่รู้ตัวเองอีกหรือยังไงกัน”

เมื่อไอ้อ้วนพูดจบ คนเหล่านี้ก็ถึงกับตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

เหมือนกับว่าแสงสว่างของดวงอาทิตย์มอดดับลงอย่างไรอย่างนั้น ไม่อยากจะเชื่อเลยจริง ๆ

แต่ไอ้อ้วนคงจะไม่ล้อเล่นเรื่องนี้กับพวกเขาอย่างแน่นอน

ผู้หญิงร่างผอมบางผู้นั้นถามขึ้นอย่างระมัดระวังว่า

“ท่านไม่ได้โกหกพวกเราไช่ไหม”

ไอ้อ้วนพูดด้วยอารมณ์โกรธเคือง

“ข้าโกหกคุณ ข้าทำไมจะต้องโกหกคุณด้วยล่ะ มันมีประโยชน์อะไรกับข้าบ้าง”

พูดจบ เขาก็ได้แสดงท่าทางขับไล่

“นี่ท่านกำลังหมายความว่าอย่างไร? ”

มีคนถามขึ้น

“คุณชายเฉินไม่ยอมที่จะให้พวกคุณเข้ามา ดังนั้นพวกคุณกลับกันไปเถอะ ที่นี่เป็นสถานที่ส่วนบุคคล เป็นสถานที่ของคุณชายเฉิน เขาไม่อยากในคนอื่นเข้ามา ข้าเองก็จนปัญญา”

ยังมีคนที่พยายามดิ้นรนไม่ยอมอยู่อีก

“นี่……ต่อให้เป็นสถานที่ส่วนบุคคล แต่อยู่ในยันเจียง เขาก็คงต้องการที่จะสานสัมพันธ์กับผู้อื่นบ้าง ซึ่งพวกเราต่างก็รู้จักผู้คนจำนวนมากมาย……

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท