ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 810

ตอนที่ 810

ไอ้อ้วนต้องการเพียงแค่ขับไล่คนพวกนี้ออกไปจากที่นี่

แต่ที่คนผู้นี้พูดออกมามันช่างน่าขันเสียจริง เฉินเฟิงในตอนนี้ยังต้องการจะสานสัมพันธ์อีกเหรอ ถึงขนาดสามารถที่จะพูดอย่างไม่เกรงใจว่า เขาเองก็คือเส้นสายความสัมพันธ์

รอจนขับไล่คนพวกนั้นกลับไปกันหมดแล้ว ไอ้อ้วนก็กลับมาหาเฉินเฟิงด้วยท่าทางที่เขินอาย

“คุณชายเฉิน ท่านว่า ข้าสามารถที่จะกลับไปได้แล้วหรือยัง”

เขาคิดที่จะหลบหนี แต่เฉินเฟิงก็ยังคงไม่ยอมปล่อยเขาไป

“นายจัดการเรื่องจนเสร็จเรียบร้อยอย่างดีแล้ว ข้าคิดว่าข้าควรจะต้องมอบรางวัลให้แก่นายด้วย”

ไอ้อ้วนรีบโบกมือปฏิเสธ

“คุณชายเฉิน ไม่ต้องหรอก มันคือสิ่งที่ข้าควรจะทำอยู่แล้ว”

เฉินเฟิงกลับพูดขึ้นว่า

“นายปฏิบัติหน้าที่ตามที่ข้าสั่งจนสำเร็จ แน่นอนว่าข้าจะต้องมอบรางวัลให้กับนาย แต่ที่นายเตรียมที่จะแอบอนุญาตให้คนอื่นเข้ามาภายในคลับ ข้าก็จะไม่ยกโทษให้ ดังนั้นสองเรื่องที่ว่านี้ทดแทนกันเรียบร้อย ข้าก็ไม่ได้ต้องการจะให้นายทำอะไรมาก โดยการเฝ้ายามของที่นี่ จะให้นายมาปฏิบัติหน้าที่แทนชั่วคราวจะว่าอย่างไร”

ไอ้อ้วนถึงกับร้องไห้ แต่เขาก็ทราบดีว่าตนเองได้ไปก่อเรื่องวุ่นวายให้กับเฉินเฟิงซึ่งการถูกลงโทษแบบนี้นั้นก็ถือว่าดีมากเท่าไหร่แล้ว จึงรีบกล่าวขอบคุณขึ้นโดยไม่ต้องคิด

แต่กลับเป็นว่ายามที่ยืนอยู่ตรงนั้นมองมาที่เฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจ

เฉินเฟิงยิ้มให้กับเขาเล็กน้อย

“นายหยุดงานพักผ่อนสองวันแล้วกัน เป็นการพักผ่อนแบบที่ยังคงได้รับเงินเดือนปกติ”

เรื่องที่เกิดขึ้นในสวนซวนหยวนเป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น และก็ไม่ได้ส่งผลกระทบอะไรกับการใช้ชีวิตของเฉินเฟิง

แต่การใช้ชีวิตที่สงบเงียบนั้นมันช่างแสนสั้นยิ่งนัก

เป็นเพราะว่าการต่อสู้ที่พ่ายแพ้ของยอดฝีมือของภาคตะวันออกเฉียงเหนือในยันเจียงเหมือนว่าจะทำให้ทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือรู้สึกเสียหน้าอับอายเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ภายในผับแห่งหนึ่งในเมืองในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เจี่ยตงกำลังนั่งดื่มเหล้าอยู่กับพวกพ้องในผับแห่งนี้

โดยหนึ่งในนั้นก็คือลูกชายของหวางลั่วปิง ที่ชื่อว่าหวางเสวเต้าซึ่งเป็นผู้ที่ชื่นชอบนาฬิกาข้อมือ แบรนด์หรู

“พี่เสวเต้า ลุงหวางต่อสู้พ่ายแพ้ให้กับไอ้หนุ่มน้อยนั่นจริง ๆ เหรอ? ”

แม้ว่าภายนอกจะมีข่าวลือกระจายไปทั่วแล้ว แต่ก็ยังไม่มีผู้ใดที่รับทราบข่าวข้อมูลที่เป็นความจริง ซึ่งหวางลั่วปิงก็กำลังพักรักษาตัว ไม่มีทางที่จะออกมายืนยันว่าตนเองได้พ่ายแพ้อย่างแน่นอน

ส่วนเฉินเฟิงนั้นก็เกียจคร้านที่จะออกมาโอ้อวดว่าเอาชนะการต่อสู้ในครั้งนี้

ดังนั้นเจี่ยตงจึงได้ถามขึ้นด้วยความหวังอันเลือนลางว่าเป็นเพียงแค่ข่าวลือ

แต่หวางเสวเต้ากลับมีสีหน้าที่ขมขื่น และพูดขึ้นอย่างโหดเหี้ยมว่า

“ก็เป็นเพราะเฉินเฟิงนั้นที่โหดร้าย มีวิทยายุทธเก่งกาจแต่กลับใช้ในทางที่ผิด ตอนนั้นข้าก็อยู่ที่ตรงนั้นด้วย พ่อของข้าเกือบที่จะเอาชนะเขาได้แล้ว แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไร ดวงตาสองข้างของเขากลับ แดงก่ำขึ้น มีเกล็ดดำขึ้นตามร่างกาย เหมือนกับว่าเป็นปีศาจร้ายอย่างไรอย่างนั้น”

“ทันใดนั้น พละกำลังก็มหาศาลขึ้น แม้แต่บาดแผลก็ไม่มีความรู้สึกเจ็บ ไม่ว่าพ่อของข้าจะจู่โจมอย่างไร เขาก็ไม่ขยับเขยื้อนเลยแม้แต่น้อย”

แม้ว่าเจี่ยตงจะไม่ได้เห็น แต่ได้ฟังแล้วรู้สึกว่ามันช่างชั่วร้ายเสียจริง เขาจึงถามขึ้น

“นี่มันเป็นวิชาต่อสู้อะไรกัน ทำไมถึงน่ากลัวขนาดนี้”

“ตอนนั้นข้าเองก็ไม่รู้ แต่หลังจากที่ข้ากลับมาแล้วก็ได้ตรวจสอบค้นหา จนข้าทราบถึงชื่อของวิชาต่อสู้ที่ชั่วร้ายนี้จริง ๆ ด้วย”

“คืออะไร? ”

ทุกคนต่างก็มองไปที่หวางเสวเต้าด้วยความอยากรู้อยากเห็น

หวางเสวเต้าจงใจทำเสียงให้ต่ำลง ที่เขาออกมาพูดซี้ซั้วแบบนี้ก็เพราะต้องการที่จะกอบกู้ชื่อเสียงของพ่อเขากลับคืนมา ไม่อย่างนั้นเรื่องที่พ่ายแพ้ในการต่อสู้รวมถึงเรื่องการเสียชีวิต เขาจะกล้าออกมาพูดได้อย่างไรกัน

ดังนั้นเขาจึงตั้งใจที่จะไปค้นคว้าข้อมูลเพื่อทำให้สิ่งที่เขาพูดออกไปนั้นมีความน่าเชื่อถือมากขึ้น

“เมื่อสามสิบปีก่อนพวกนายรู้จัก ปรมาจารย์กัณหธรรมที่ชื่อว่าเซ่หยิ่งไหม”

ทุกคนต่างก็ส่ายศีรษะ มีเพียงเจี่ยตงที่ครุ่นคิดและพูดขึ้นว่า

“ข้าเคยได้ยินที่พ่อข้าพูด แต่ว่าเขาไม่ได้ตายไปแล้วหรอกเหรอ? ทำไมเหรอ เรื่องนี้เกี่ยวข้องกับเขา”

“ใช่ตามนี้เลย วิชาต่อสู้ชั่วร้ายที่เฉินเฟิงได้ฝึกฝนนั้นก็คือวิชากังฟูที่เซ่หยิ่งสืบทอดต่อกันมา ซึ่งเป็นวิชากังฟูที่ใช้เลือดในการฝึกฝน”

ทุกคนต่างก็ไม่ทราบว่ามันมีความชั่วร้ายอย่างไร แต่ได้ฟังแล้วก็เกิดความหวาดกลัว ซึ่งต่างก็ทราบกันดีว่าเฉินเฟิงนั้นก็ไม่ใช่คนดีอะไร เดิมทีทุกคนก็เกลียดชังกันอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งจะมีเหตุผลที่ชัดเจนมากยิ่งขึ้นอีก

พูดจบ เจี่ยตงก็ถอนหายใจและพูดว่า

“แต่น่าเสียดายที่ลุงหวางถูกคนชั่วร้ายนั้นทำร้าย ยอดฝีมือแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเราตกอยู่ในมือของคนชั่วร้าย ทำไมพระเจ้าไม่สงสารกันบ้าง ทำให้ทั้งภาคตะวันตกของเรารู้สึกว่ามืดมิดลงไปช่วงเวลาหนึ่ง”

เสียงถอนหายในของเขาในครั้งนี้ก็เหมือนไปสะกิดโดนความเสียใจของหวางเสวเต้า เจี่ยตงยกแก้วขึ้น มองไปที่หวางเสวเต้า และพูดขึ้นอย่างโศกเศร้าว่า

“พี่เสวเต้า พี่กับข้าจะต้องมีสักวันที่สามารถลบล้างความอัปยศนี้ไปได้ จับตัวไอ้คนชั่วร้ายเฉินเฟิงมาดำเนินคดีตามกฎหมายให้ได้ มาชนแก้วกัน แก้วนี้ข้าขอคารวะ”

เหล้าเป็นเหล้าที่ดี แต่คนไม่ใช่คนดี

แต่นี่ไม่ใช่ว่าทุกคนจะรับรู้

บริเวณด้านข้างของพวกเขามีวัยรุ่นคนหนึ่งอายุราวสิบเจ็ดสิบแปดปีมองมาที่พวกเขาด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“พี่ เซ่หยิ่งที่พวกเขาพูดถึงกันนั้นมีจริงเหรอ? ”

หนุ่มน้อยสอบถามไปยังวัยรุ่นที่มีอายุมากกว่าเขา

วัยรุ่นคนนั้นพูดว่า

“เรื่องนี้เป็นความจริง เซ่หยิ่งเป็นมหาปรมาจารย์ที่แกร่งกล้า ทั่วทั้งวงการต่อสู้ไม่มีผู้ใดสามารถต่อกรกับเขาได้ ตอนนั้นเกิดความวุ่นวายโกลาหลในสังคมจนไม่มีความปลอดภัย”

หนุ่มน้อยได้ยินแล้ว ก็มีสีหน้าที่สงสัยและพูดขึ้นว่า

“แต่ตอนนั้นคุณพ่อกับคุณลุงก็เป็นมหาปรมาจารย์ไม่ใช่เหรอ พวกเขาทำไมถึงไม่ไปจัดการปีศาจชั่วร้ายตนนี้”

เมื่อหนุ่มน้อยได้พูดถามออกไป ซึ่งถือเป็นการวิจารณ์ที่น่าทึ่งมาก มหาปรมาจารย์ตั้งสองคน มีใครกล้าที่จะคิดอย่างนี้บ้าง หรือว่าหนุ่มน้อยคนนี้จงใจที่จะคุยโว

แต่วัยรุ่นด้านข้างกลับอธิบายว่า

“คุณพ่อกับคุณลุงแม้ว่าจะเป็นมหาปรมาจารย์ แต่เซ่หยิ่งมีวิชากังฟูที่ชั่วร้าย แม้ว่าจะสามารถร่วมมือกันต่อสู้เอาชนะเขาได้ แต่ก็ยากที่จะจับกุมตัวเขาไว้ หากเขาต้องการจะหลบหนี ก็แทบจะไม่ต้องออกแรงอะไรเลยด้วยซ้ำ”

หนุ่มน้อยพูดขึ้นอย่างตกตะลึงว่า

“แล้วตอนสุดท้ายเขาตายได้อย่างไร? ”

วัยรุ่นส่ายศีรษะ

“เรื่องนี้ไม่มีข้อมูลอะไรเลย ได้ยินแค่ว่าเขาได้ตายไปแล้ว แต่กลับไม่มีใครทราบว่าเขาตายได้อย่างไร และก็ไม่ทราบว่าเขาถูกใครฆ่าตาย”

“โอ้ว! ”

หนุ่มน้อยก็พยักหน้าอย่างเชื่อฟัง

คนสองกลุ่มในผับแห่งเดียวกันเดิมทีคงน่าจะไม่มีเรื่องราวอะไรที่เกี่ยวข้องกัน แต่กลับเป็นเพราะเรื่องราวเรื่องหนึ่งที่ทำให้พวกเขาได้มาพบเจอกัน

มีคนดื่มเหล้าจนเมาแล้ว เริ่มจะเอะอะโวยวายขึ้น

เขายกเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างขึ้นมา แล้วพูดกับหญิงสาวที่ตกใจกลัวจนตัวสั่นว่าเขาต้องการที่จะดู เรือนร่างของเธอที่เปลือยเปล่า

ทะเลาะวุ่นวายกันอย่างหนัก มีคนเข้าไปห้ามปรามขัดขวาง แต่เขายกเก้าอี้ขึ้นมา คนสองสามคนไม่สามารถที่จะเข้าไปใกล้กับตัวเขาได้

เจี่ยตงที่กำลังเสียใจอยู่ตรงนั้นได้เห็นเข้าพอดี ก็เกิดไม่พอใจขึ้นในทันที

เขากับเพื่อนรักของเขากำลังเกลียดชังและเคียดแค้นศัตรูอยู่ และกำลังระบายความอัดอั้นข่มขื่นที่อยู่ภายในใจ แต่กลับมีคนมาขัดจังหวะทำลายบรรยากาศระหว่างพวกเขา

“นี่มันเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น? ”

เจี่ยตงเดินเข้าไปใกล้กับคนที่กำลังทะเลาะกัน

มีคนรู้จักว่าคนผู้นี้เป็นลูกชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ก็รีบเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้กับเขาฟัง

“ก็แค่คนกระจอกอ่อนแอคนหนึ่ง พวกนายมีกันตั้งสองสามคนยังไม่กล้าที่จะเข้าไปจัดการอีก รอดูนะ ดูว่าข้าจะจัดการปราบปรามเขาได้อย่างไร”

เจี่ยตงเคยฝึกฝนวิชาต่อสู้มาก่อน แน่นอนว่าไม่กลัว เขาเดินเข้าไปข้างหน้า ไม่ทันจะครบยก ก็จัดการไอ้คนนั้นลงไปนอนกองอยู่กับพื้น

รอจนเจี่ยตงปรบมือ ภายในผับก็มีเสียงโห่ร้องดีใจกันไปทั่ว

คนพวกนี้ประจบสอพลอเจี่ยตงอยู่บ้าง และก็มีบางคนเป็นเพราะเจี่ยตงได้กระทำเรื่องที่ดีขึ้น แต่เรื่องนี้เป็นเพียงเรื่องราวที่หลงลืมกันได้โดยง่าย คงอีกไม่นานก็ไม่มีผู้ใดจดจำมันได้แล้ว

แต่หนุ่มน้อยกับวัยรุ่นที่ยืนดูอยู่ด้านข้างกลับแอบจดจำใบหน้าลักษณะของเจี่ยตงเอาไว้แล้ว

รอจนพวกเขาได้พบเจอกันอีกครั้ง แต่ก็ผ่านพ้นไปเพียงแค่วันเดียวเท่านั้น

“กษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ” แม้ว่าเจี่ยหวั้นเหาจะถูกขนานนามว่ากษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ แต่ไม่ใช่ว่าจะเอาชนะกันด้วยฝีมือและกำลังต่อสู้ ซึ่งเมื่อพูดถึงการต่อสู้แล้ว หวางลั่วปิงยอดฝีมือแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือผู้นี้เก่งกาจกว่าอย่างแน่นอน

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท