ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 811

ตอนที่ 811

เจี่ยว่างเหามีอายุเกือบจะครึ่งร้อยอยู่แล้วแต่กลับมีพลังความสามารถแค่ในระดับหั้วจิ้งชั้นต้น ถึงขนาดว่าในอนาคตลูกชายของเขาอาจจะแซงหน้าเขาก็เป็นไปได้

แต่ที่ฝึกฝนการต่อสู้ก็แค่สามารถนำไปใช้ป้องกันตัวได้ก็เพียงพอแล้ว ส่วนชื่อเสียงเรียงนามของเขาที่ว่าเป็นกษัตริย์แห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือนั้นจะต้องพูดถึงในมุมที่เขาควบคุมเศรษฐกิจทั่วทั้งภาคตะวันออกเฉียงเหนือเกือบจะทั้งหมด

ตั้งแต่ทรัพยากรไปจนถึงการดำรงชีวิต การศึกษาไปจนถึงวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ในทุก ๆ ด้านและทุก ๆ ประเภท โดยที่ในกรอบโครงสร้างของอุตสาหกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือแต่ไหนแต่ไรไม่เคยปราศจากเงาของเจี่ยว่างเหาเลย

หลังจากหมดยุคเวลาของการลงทุนเพื่อขยายอุตสาหกรรมแล้ว เจี่ยว่างเหาเริ่มที่จะแสวงหาโอกาสการร่วมทุนการเงินในอนาคต โดยเวลาผ่านไปไม่ถึงสิบปี ทรัพย์สินก็เพิ่มพูนขึ้นเกือบที่จะขึ้นแท่นเป็นมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งเอเชียแล้ว

เงินของเขาอยู่ในตลาดหุ้นและในตลาดอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งไม่ว่าในที่แห่งใดที่เงินสามารถทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาได้ เขาก็ไปทดลองดูทั้งนั้น

ดังนั้นการเริ่มต้นก่อร่างสร้างตัวขึ้นจากศูนย์ โดยใช้เวลายี่สิบสามสิบปี เขาก็สามารถที่จะก่อตั้งอาณาจักรของตนเองได้แล้ว

โดยเฉพาะในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เขาก็คือ “กษัตริย์” ตัวจริงเสียงจริงที่เหมาะสมผู้นั้น

แต่ต่อให้มาอยู่บนสถานะตำแหน่งที่สูงศักดิ์แล้ว เขาก็ยังคงวางตัวเรียบง่ายธรรมดา อย่างน้อยเขาก็เพียงแค่พัฒนาขยายความรุ่งเรืองในพื้นที่ภาคตะวันออกแห่งนี้ โดยไม่เคยคิดที่จะยื่นมือก้าวก่ายออกไปจากสถานที่แห่งนี้

เพราะเขาทราบดีว่าโลกใบนี้เหนือฟ้ายังมีฟ้า เหนือโลกหล้าย่อมมีคนที่เก่งกว่า

แต่กลับมีบางคนที่ไม่ได้คิดเช่นนี้ ซึ่งเจี่ยตงอาจจะเป็นหนึ่งคนในนั้น แต่ก็คงไม่ใช่เพียงคนเดียว

เจี่ยว่างเหามีน้องชายลูกผู้น้องคนหนึ่ง ชื่อว่าเจี่ยว่างเล่ ตอนนี้เขาก็เป็นผู้ที่ครอบครองทรัพย์สินจำนวนมากคนหนึ่งในตระกูลเจี่ยเช่นกัน โดยใครคนหนึ่งในตระกูลได้ดี ญาติพี่น้องก็พลอยได้ดีตามไปด้วย ซึ่งเจี่ยว่างเล่ไม่จำเป็นที่จะต้องมีปัญญาความสามารถอะไร แต่เขาก็สามารถที่จะครอบครองทรัพย์สินเงินทองจำนวนมากที่คนอื่นทั่วไปไม่มีทางที่จะแสวงหามาได้ตลอดชีวิต

แต่เขากลับยังไม่พอเพียง

ภายในห้องโถงบรรพบุรุษตระกูลเจี่ย

ทุกคนของตระกูลเจี่ยที่เพิ่งกราบไหว้บรรพบุรุษเสร็จและกำลังเตรียมที่จะแยกย้าย เจี่ยตงได้ถูกลุงลูกผู้น้องเรียกตัวเอาไว้

ทั้งสองคนมาอยู่ที่มุมหนึ่งของห้องโถง เจี่ยว่างเล่พูดขึ้นว่า

“ได้ยินว่าช่วงก่อนหน้านี้นายไปที่ยันเจียง ได้เรื่องได้ราวอะไรมาบ้างล่ะ? ”

เจี่ยตงมองไปที่เจี่ยว่างเล่ด้วยท่าทางที่สงสัย เขาไม่ทราบว่าทำไมลุงลูกผู้น้องคนนี้ถึงได้ทราบการเดินทางไปไหนมาไหนของตนเอง แต่ก็ยังคงตอบกลับตามความจริงว่า

“ก็แค่ได้ไปรู้จักกับเพื่อนใหม่ไม่กี่คน! ”

“คุณชายของตระกูลเฉินใช่ไหม? ”

เจี่ยตงตกตะลึงมากยิ่งขึ้น ทำไมถึงขนาดว่าไปรู้จักกับใครก็ยังทราบอีกด้วย

“ในเมื่อลุงลูกผู้น้องก็ทราบอยู่แล้ว ยังจะต้องมาถามข้าอีกทำไมล่ะ? ”

เจี่ยว่างเล่ยิ้มและพูดขึ้นว่า

“ข้าเองก็ไม่ได้อยากที่จะเฝ้าติดตามการเคลื่อนไหวของนายหรอก แต่มีบางเรื่องที่พูดคุยกับพ่อของนายไม่ได้ โดยคิดไม่ถึงว่านายกลับมีความตั้งใจ ดังนั้นข้าจึงให้ความสนใจนายมากขึ้นก็เท่านั้น”

“คุณลุง หมายความว่าอย่างไร? ”

“แน่นอนว่าต้องการที่จะทำให้อิทธิพลของตระกูลเจี่ยแผ่ขยายออกไปมากขึ้น ไม่ว่าอย่างไรภาคตะวันออกเฉียงเหนือก็เป็นเพียงแค่ดินแดนตอนใน หากไม่มีแนวแถบชายฝั่งทะเล แม้แต่โลกใบนี้ก็คงจะไม่สมบูรณ์”

เจี่ยตงเข้าใจในความหมายและพูดตอบไปว่า

“ลุงลูกผู้น้องก้าวหน้าพัฒนาไปตามกาลเวลาจริง ๆ โดยในยุคสมัยนี้เปรียบได้ว่าหากไม่มีการพัฒนาก้าวหน้าก็จะเป็นการก้าวถอยหลัง ซึ่งหากยังยึดติดอยู่กับธุรกิจเดิม ๆ ของตน อีกไม่นานก็คงจะถูกคนอื่นควบรวมเอาได้โดยง่าย”

เจี่ยว่างเล่กำลังคิดที่จะพูดอะไรเพิ่มเติม แต่พอดีมีคนอื่นเดินเข้ามา เจี่ยว่างเล่จึงได้หยุดลง โดยเขาได้พูดกับเจี่ยตงว่า

“ครั้งหน้าข้าจะนัดคุยรายละเอียดกับนายอีกครั้ง และจะแนะนำพวกเพื่อน ๆ ให้นายได้รู้จัก”

โดยที่พวกเพื่อน ๆ เหล่านี้ก็รวมไปถึงหนุ่มน้อยกับวัยรุ่นสองคนนั้นด้วย

ห้องวีไอพีขนาดใหญ่ที่สุดในโรงแรมที่หรูหราที่สุดแห่งภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เจี่ยว่างเล่กำลังถือแก้วเหล้า เพื่อคารวะเหล้ากับเพื่อนเจ็ดแปดคนรอบข้าง

“วันนี้ทุกท่านได้ให้เกียรติข้าเจี่ยว่างเล่ ข้ารู้สึกดีใจเป็นอย่างมาก ข้าขอคารวะทุกท่านหนึ่งแก้ว”

เมื่อเขาดื่มหมด พวกคนอื่น ๆ ก็รีบยกเหล้าดื่มตามทันที

โดยผู้ที่สามารถมานั่งอยู่ที่นี่ได้นั้นต่างก็ไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ต่างก็เป็นกลุ่มคนที่เจี่ยว่างเล่ให้ความสำคัญเป็นพิเศษ

พวกเขาเหล่านั้นมีทั้งข้าราชการระดับสูง วงศ์ตระกูลบูโด นักธุรกิจใหญ่ แต่ไม่ว่าจะเป็นใคร ต่างก็เป็นผู้นำในแต่ละขอบเขตสาขาของพวกเขา

แต่จะมีคนหนึ่งที่ยกเว้นไว้ นั่นก็คือเจี่ยตงที่นั่งอยู่ข้างกายของเขา ซึ่งก็คือคุณชายแห่งตระกูลเจี่ย

ในจำนวนเพื่อนเจ็ดแปดคนนั้น หนุ่มน้อยกับวัยรุ่นดูเหมือนว่าจะมีคุณวุฒิประสบการณ์ที่น้อยที่สุด ดังนั้นจึงนั่งกันอยู่ที่บริเวณด้านหลัง อยู่ห่างจากเจี่ยตงไปไกลที่สุด

แต่เมื่อดื่มเหล้ากันครบวงสามรอบแล้ว เจี่ยว่างเล่ก็ได้พาตัวเจี่ยตงมายังเบื้องหน้าของพี่น้องคู่นี้

“เสี่ยวตง พี่น้องคู่นี้นายรู้จักแล้วเหรอยัง? ”

เจี่ยตงไม่รู้จักอย่างแน่นอน จึงได้ส่ายศีรษะ

เจี่ยว่างเล่ยิ้มและพูดขึ้นว่า

“อย่างนั้นนายคงน่าเสียใจมากจริง ๆ ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือนี้หากว่าไม่รู้จักวีรบุรุษอายุน้อยสองคนนี้แห่งสำนักเทียนซานแล้ว โลกใบนี้คงจะขาดเรื่องราวความสนุกสนานไปมากเลยทีเดียว”

เจี่ยตงเกิดความสงสัย แต่ในเมื่อลุงลูกผู้น้องของตนแนะนำให้รู้จัก เขาก็คงจะไม่มองข้ามไปอย่างแน่นอน และได้แนะนำตนเองอย่างสุภาพ

“ฉันชื่อเจี่ยตง ไม่ทราบว่าพี่น้องทั้งสองมีนามว่าอย่างไร”

วัยรุ่นทั้งสองจำได้ว่าเจี่ยตงก็คือผู้ที่ได้ช่วยเหลือคนในผับเมื่อวันก่อนนั้น แต่เห็นว่าเจี่ยตงจำพวกเขาไม่ได้ จึงได้แนะนำตนเองขึ้น

“เน่เฉิน”

“เน่เจิ้ง”

เจี่ยตงก็ทำความเคารพกลับ และตอนนี้เจี่ยว่างเล่ก็ได้แนะนำขึ้นอีกครั้ง

“แม้ว่านายจะฝึกฝนการต่อสู้ แต่หากพูดถึงสำนักเทียนซานแล้ว ข้าแน่ใจได้ว่านายคงยังไม่คุ้นเคยอย่างแน่นอน”

เจี่ยตงพูดขึ้นอย่างสุภาพว่า

“หวังว่าคุณลุงจะให้คำแนะนำ หรือว่าสำนักเทียนซานนี้จะมีอะไรที่พิเศษ”

“ใต้หล้านี้มีมหาปรมาจารย์อยู่เท่าไหร่กัน ก็คงไม่น่าจะเกินจำนวนนิ้วของทั้งสองมือ แต่นายรู้ไหมว่าแค่สำนักเทียนซานแห่งเดียวนี้ก็มีมหาปรมาจารย์อยู่ถึงสองท่านเลยทีเดียว โดยในวงการศิลปะการต่อสู้นี้ ไม่เคยมีมาก่อน ทว่าไม่เพียงเท่านี้ หากมีเพียงมหาปรมาจารย์สองท่านนี้ ก็ยังสามารถเรียกได้ว่าเป็นสำนักระดับแนวหน้า แต่เมื่อดูจากลูกศิษย์ของสำนักเทียนซานแล้ว เต็มไปด้วยยอดฝีมือ ที่เก่งกาจมากมาย ซึ่งสองพี่น้องที่อยู่เบื้องหน้าของนายนี้อายุน้อยกว่านายมาก แต่ว่าฝีมือการต่อสู้เหนือกว่านายหลายเท่านัก”

ได้ยินเจี่ยว่างเล่ชื่นชมสำนักเทียนซาน เน่เฉินกับเน่เจิ้งสองพี่น้องต่างก็รู้สึกมีเกียรติ ซึ่งนี่ถือเป็นครั้งแรกที่อยู่ด้านนอกแล้วได้ยินคนอื่นชื่นชมสำนักของตนเอง

เจี่ยตงรีบถามขึ้นว่า

“นึกไม่ถึงว่าทั้งสองคนจะเก่งกาจมีความสามารถถึงขนาดนี้ พี่ที่โง่เขลาขอละลาบละล้วง ขอถามหน่อยว่าพวกนายทั้งสองฝึกฝนถึงระดับขั้นไหนกันแล้ว? ”

นี่มันค่อนข้างจะกะทันหันเกินไปบ้าง แต่เน่เจิ้งนาน ๆ ทีจะได้แสดงออกบ้าง จึงรีบตอบกลับทันที

“พี่ชายอยู่ขั้นหั้วจิ้งชั้นสูงสุดแล้ว ส่วนข้าก็ถึงขั้นหั้วจิ้งชั้นสุดแล้ว”

เจี่ยตงมองไปที่พี่น้องคู่นี้อย่างตกตะลึง

โดยที่เขาตกตะลึงนั้นก็มีเหตุผลที่เหมาะสม เพราะทั้งสองคนอายุยังน้อย คนที่อายุมากหน่อยก็คงประมาณยี่สิบปีต้น ๆ ส่วนคนที่อายุน้อยกว่านั้นแม้แต่กระดูกในร่างกายก็เติบโตยังไม่สมบูรณ์ดี

แต่ระดับขั้นศิลปะการต่อสู้นั้นกลับสูงส่งลึกล้ำมากกว่าหลายคนที่ฝึกฝนอย่างลำบากเป็นเวลานานหลายปี

แน่นอนว่าสภาพร่างกายของคนเรานั้นไม่สามารถที่จะสรุปโดยชัดเจนได้

แต่ความลำเอียงจากฟ้าเบื้องบนนี้กลับไม่ได้ทำให้เจี่ยตงเกิดความอิจฉาริษยาใด ๆ

เขายังคงรักษาสภาพจิตใจของการเป็นคุณชายของกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือได้เป็นอย่างดี

แต่นี่ไม่ใช่ว่าเป็นเพราะพฤติกรรมที่มีคุณธรรมของเขา หากแต่เขาคิดถึงเรื่องที่มีความเป็นไปได้เรื่องหนึ่งขึ้น

“ข้าช่างเป็นกบในกะลาเสียจริง ภาคตะวันออกเฉียงเหนือมียอดฝีมือต่อสู้ระดับนี้ แต่ข้ากลับไม่เคยได้ทำความรู้จักสานสัมพันธ์ เป็นเรื่องที่น่าเสียใจจริง ๆ ”

“หากว่าข้าได้รู้จักกับพวกนายสองคนก่อนหน้านี้ เป็นไปได้ที่พวกเราคงจะไม่…… โธ่ ช่างมันเถอะ วันนี้มีความสุข ข้าเองก็ไม่อยากที่จะพูดเรื่องที่ทำให้เสียบรรยากาศ”

แต่พูดเพียงแค่ครึ่งหนึ่ง ยิ่งทำให้คนอื่นอยากจะรับฟังมากขึ้น และทำให้คนอื่นรู้สึกทรมานใจ เน่เฉินจึงได้รีบถามขึ้นด้วยความอยากรู้อยากเห็น

“พี่เจี่ยตงประสบกับปัญหาเรื่องราวอะไรเหรอ? ทำไมถึงต้องหน้านิ่วคิ้วขมวดขนาดนี้ด้วย”

เจี่ยตงแกว่งมือไปมาและพูดขึ้นว่า

“เป็นเรื่องที่ทำให้หมดกำลังใจ ไม่พูดถึงมันดีกว่า ไม่พูดถึงมันดีกว่า”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท
Close Ads ufanance
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตออนไลน์
Click to Hide Advanced Floating Content สมัคร ufabet
Click to Hide Advanced Floating Content สล็อตฟรีสปิน