ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 814

ตอนที่ 814

พลังของเฉินเฟิงเพิ่มขึ้นอย่างมาก เลือดของบาดแผลที่ท่อนขาได้หยุดไหลลงแล้ว และเขายิ่งไม่รับรู้ถึงความเจ็บปวดอะไรเลย ดังนั้นขณะต่อสู้กับสองพี่น้องเขาจึงไม่มีความหวาดกลัวใด ๆ เลยแม้แต่น้อย

ปะทะกระบวนท่ากัน เขากลับดูมีความได้เปรียบมากขึ้น

แต่ขณะที่เฉินเฟิงกำลังเข้าจู่โจมต่อสู้อย่างดุเดือด ทางชิงจือกลับตกอยู่ในสภาพที่กำลังครุ่นคิดอย่างน่าประหลาดใจ

เหมือนกับว่าภาพสองเหตุการณ์ที่แตกต่างกันโดยสิ้นเชิงปรากฏอยู่ในช่วงเวลาเดียวกัน

แบบหนึ่งเงียบแบบหนึ่งเคลื่อนไหว แบบหนึ่งเป็นผู้ชายแบบหนึ่งเป็นผู้หญิง

สถานการณ์ดังกล่าวนี้เหมือนกับทำให้เวลาหยุดชะงักลง

แต่นั่นคือเวลาที่เป็นเพียงความรู้สึก โดยที่เฉินเฟิงได้ชกเข้าไปที่หน้าอกของเน่เฉินหนึ่งหมัด บีบให้เขาต้องถอยร่นไปสิบกว่าก้าว ทุกอย่างก็เกิดการเปลี่ยนแปลงขึ้น

เน่เฉินรู้สึกว่ามีความหวานในปาก จากนั้นจึงได้กระอักเลือดออกมา พลังของหมัดนี้อย่างน้อยทำให้ม้ามและปอดของเขาได้รับบาดเจ็บ

เน่เจิ้งก็กระวนกระวายใจขึ้น กระบี่ยาวในมือยังคงไม่หยุดที่จะร่ายรำกระบวนท่า และเห็นว่ากำลัง ตกเป็นรองบ้าง เขาจึงได้แต่ประคับประคองสถานการณ์เอาไว้

เวลานี้เน่เฉินหันกลับไปมองที่ชิงจือ โดยที่เขาทราบดีว่าในเมื่อพวกเขาสองพี่น้องไม่สามารถที่จะต่อกรหยุดยั้งเฉินเฟิงได้ ดังนั้นจึงต้องขอความช่วยเหลือจากชิงจือ เมื่อครู่ที่เห็นเพียงแค่กระบวนท่าเดียว แต่พวกเขาก็มองออกว่าชิงจือมีพลังความสามารถที่สูงส่ง

หากว่ามีเธอเข้ามาสมทบ ถ้าอย่างนั้นการจับกุมคนชั่วเฉินเฟิงก็จะยิ่งง่ายดายมากขึ้น

แต่ชิงจือยืนนิ่งไม่ขยับ ไม่ได้สนใจความคิดของพวกเขาเลยแม้แต่น้อย

หมดหนทาง เขาจึงกลับเข้าสู่การต่อสู้อีกครั้ง เพราะลำพังเน่เจิ้งคนเดียวไม่สามารถรับมือกับการ จู่โจมของเฉินเฟิงได้

หมัดของเฉินเฟิงรวดเร็วมาก ถึงขนาดรู้สึกว่ายิ่งชกยิ่งรวดเร็วมากขึ้น เมื่อครู่เน่เจิ้งใช้กระบี่ต้านรับจนกระบี่ยาวม้วนตัวเป็นคันธนู แต่เขาก็ยังคงถูกหมัดชกเข้าอีกครั้ง

เขาถอยร่นหนึ่งก้าว จากนั้นก็เห็นเน่เฉินถูกชกเข้าอีกหมัด และก็ต้องถอยร่นเช่นกัน

สองพี่น้องทราบดีว่าหากปะทะต่อสู้ต่อไปพวกเขาคงอาจจะต้องตายอยู่ที่นี่ ทั้งสองคนจ้องมองซึ่งกันและกัน ความเข้าใจกันที่บ่มเพาะมาเป็นเวลาหลายปีทำให้พวกเขารู้ว่าแต่ละฝ่ายกำลังคิดอะไรอยู่

ชั่วครู่หลังจากนั้น เน่เจิ้งแกล้งทำเป็นโจมตี เน่เฉินก็กลับตัวเพื่อคิดจะหลบหนี

แต่เฉินเฟิงไม่ได้คิดที่จะปล่อยให้เน่เฉินหลบหนีไปได้ เขาสะบัดกระบี่ยาวของเน่เจิ้งออก แล้ววิ่งไล่ตามเน่เฉิน ขณะที่กำลังเข้าประชิดตัว ทางฝ่ายเน่เจิ้งก็รีบเร่งฝีเท้า หนีห่างออกไปจากเฉินเฟิง

เฉินเฟิงโมโห รู้สึกเหมือนว่าโดนเล่นตลก จึงรีบที่จะไปจับตัวของเน่เจิ้งเอาไว้ ส่วนเน่เฉินคงไม่มีทางที่จะจับตัวได้ทันแล้ว

เมื่อตั้งสติกลับขึ้นได้ นึกไม่ถึงว่าสองพี่น้องได้หลบหนีออกไปคนละทิศคนละทางจากบริเวณที่ต่อสู้

พลังการต่อสู้ที่ไร้ขีดกำจัดของเฉินเฟิงกลับสูญเสียช่องทางการปลดปล่อย ไม่มีสองพี่น้องนั้นเป็นเป้าหมาย เขาจึงทำได้เพียงเข้าไปสู้รบกับชิงจือที่อยู่ใกล้บริเวณนั้น

ยังคงปล่อยหมัด ซึ่งเป็นหมัดที่ดุดัน

แต่เหมือนกับว่าด้านหลังมีดวงตา ชิงจือไม่แม้แต่หันกลับมามองก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้อย่างง่ายดาย

เฉินเฟิงรีบพุ่งเข้าไปจับที่ไหล่ของชิงจือ แต่มือหนึ่งข้างที่ยื่นมาทันใดนั้นก็บิดกลับจับไปที่หลังมือของเขาเอง เสียงดังแกร็ก ข้อมือของเขาหักเป็นสองท่อน

เฉินเฟิงไม่รู้สึกเจ็บปวด แต่ข้อมือไม่สามารถใช้งานได้อีก ปล่อยทิ้งมือข้างขวาลง และใช้มือซ้ายมาต่อสู้แทน

แต่ทว่าก็เหมือนกับเป็นการฉายซ้ำฉากเดิม ภาพเหตุการณ์เมื่อสักครู่ได้ปรากฏซ้ำขึ้นอีกครั้ง

เขาลากสองมือที่ใช้งานไม่ได้ โดยเหลือแต่ขาสองข้างที่สามารถใช้ในการต่อสู้

แต่เขาอาจจะไม่มีโอกาสอีกครั้งก็เป็นได้ โดยมีดเล่มหนึ่งตีเข้าไปที่หน้าผากของเขา ดวงตาที่สามารถมองเห็นได้ปกติทันใดนั้นก็ได้เลือนลางขึ้น

เฉินเฟิงล้มลงไปที่พื้น สาวน้อยที่นั่งอยู่ที่นั่งข้างคนขับในที่สุดก็มีการตอบสนองขึ้นบ้างแล้ว

ชิงจือมองออกว่าสาวน้อยคนนี้เหมือนกับเป็นห่วงเฉินเฟิง จึงพูดขึ้นว่า

“คุณรู้จักเขาเหรอ? ”

สาวน้อยได้ยินเสียงของชิงจือ เดิมทีมีความคิดที่จะไปดูเฉินเฟิงสักหน่อยแต่ก็ต้องถอยร่นกลับมา

“ดูเหมือนว่าคุณจะไม่รู้จักเขา ถ้าอย่างนั้นฉันก็ฆ่าเขาเลยก็แล้วกัน”

ชิงจือมองไปที่เฉินเฟิงอย่างเย็นชา จากนั้นก็เตรียมที่จะลงมือ

“อย่า! ”

ในที่สุดสาวน้อยก็พูดออกเสียงแล้ว โดยเธอได้พูดขัดขวางเอาไว้

ชิงจือยิ้มเล็กน้อย โดยเธอไม่ได้สนใจว่าเฉินเฟิงจะอยู่หรือตาย หากว่าเมื่อครู่สาวน้อยไม่ได้ขัดขวางเอาไว้ เธอก็คงอาจจะลงมือฆ่าเฉินเฟิงไปแล้ว เพราะว่าไอ้คนนี้ก็เป็นเพียงแค่คนที่ไร้ความสำคัญเท่านั้น

“ว่าแล้วคุณคงจะรู้จักเขา เป็นคนรักของคุณเหรอ? ”

ชิงจือพูดในสิ่งที่ฟังแล้วแปลกประหลาดออกมาอีกครั้ง

ทางสาวน้อยก็เหมือนว่ากลับคืนสู่สภาพที่หวาดกลัวอีกครั้ง

“ตกลง ฉันจะไม่ฆ่าเขา”

พูดจบ เธอก็เปิดประตูหลังรถ ใช้มือข้างหนึ่งยกร่างของเฉินเฟิงขึ้นมา แล้วก็โยนร่างของเขาเหมือนกับโยนขยะลงไปที่เบาะที่นั่งด้านหลัง

โดยที่เฉินเฟิงไม่รับรู้รับทราบอะไรแล้ว ส่วนรถของเขานั้นชิงจือก็เป็นคนขับ และพาสองคนที่เป็นผู้ใหญ่และเด็กโดยที่ไม่รู้ว่าจะไปยังสถานที่แห่งใด

เฉินเฟิงเจ็บปวดมากจนได้สติขึ้นมา ความเจ็บปวดที่ทะลุเข้าไปถึงกระดูกแม้เขาจะสลบไปก็ไม่อาจทนต่อความเจ็บปวดได้ และบางทีอาจจะเจ็บปวดจนต้องสลบไปอีกครั้ง

แต่เมื่อเขาลืมตาขึ้นแล้วพบว่า ตอนนี้เขาถูกแช่อยู่ในอ่างน้ำ

ซึ่งก็คืออ่างน้ำที่ไว้ใช้แช่ผักดอง โดยที่แช่เขาลงไปทั้งคนได้อย่างไม่มีปัญหา

ที่ปลายจมูกได้กลิ่นที่แปลกประหลาดและมีกลิ่นเหม็น ไม่รู้ว่าคืออะไร แต่แน่นอนว่าเป็นกลิ่นของเหลวที่ใช้แช่ร่างกายของเขาได้ระบายออกมา

เขาคิดที่จะลุกขึ้นยืน แต่เหมือนกับว่าทั้งแขนและขาไม่มีการรับรู้ นอกเสียจากรับรู้ว่าเป็นร่างกาย แต่ส่วนอื่น ๆ กลับเหมือนว่าไม่มีอย่างไรอย่างนั้น

อาจจะเป็นไปได้ว่าเป็นเพราะสรรพคุณของยาน้ำ

ส่วนความเจ็บปวดในร่างกายนั้นก็ยังมีเหมือนเดิม ร่างกายไม่สามารถขยับเขยื้อนได้ แม้ว่าเขาจะพยายามสักเท่าไหร่ก็ไม่สามารถทำได้ ซึ่งทำได้เพียงอาศัยสมองรับรู้ถึงความเจ็บปวดเหล่านั้น

ไม่ว่าคนนั้นจะมีจิตใจที่แน่วแน่สักเท่าไหร่ก็ไม่อาจอดทนกับความเจ็บปวดนี้ได้ โชคดีที่ว่า เฉินเฟิงได้สลบลงไปอีกครั้ง

แต่ว่าในครั้งนี้ สลบไปเป็นเวลานานมาก ความเจ็บปวดแพร่กระจายไปทั่วร่างกายของเขา ซึ่งหากไม่มีการรับส่งทางประสาทการรับรู้ เขาก็ไม่รู้สึกอะไรทั้งนั้น

ยาน้ำที่ประหลาดเหล่านี้ก็เริ่มที่จะเจือจาง เหมือนว่าได้อาศัยเฉินเฟิงเป็นตัวคัดกรอง โดยที่สิ่งเจือปนในตัวยาได้เข้าซึมไปในร่างกายของเขา ซึ่งยังไม่รู้ว่าเขาจะสลบไปอีกนานเท่าไหร่ถึงจะฟื้นขึ้นมา

แต่หลังจากที่ฟื้นได้สติขึ้นมา ก็ไม่มีความเจ็บปวดแล้ว

สดชื่นแจ่มใสอย่างกับเป็นคนใหม่ ลมยามค่ำคืนของฤดูร้อนพัดโบกอย่างเย็นสบาย

เงาข้างหลังที่ยืนอยู่ไปไม่ไกลมากนัก เฉินเฟิงรู้จัก

เธอกำลังบดสิ่งของอะไรให้แตกละเอียด เสียงทุบบดตึง ๆ ดังขึ้นอย่างไม่ขาดสาย

แต่เมื่อเฉินเฟิงได้สติขึ้นมา เธอเหมือนกับว่ามองเห็น จึงหันหลังกลับไปมองเฉินเฟิง

“คุณฟื้นแล้วเหรอ? ”

“นี่คือที่ไหน ? ” เฉินเฟิงถามขึ้น

“ที่นี่คือบ้านของฉัน คุณไม่ต้องกังวล ฉันไม่ทำอะไรคุณหรอก เพียงแต่วิชาพลังที่แปลกประหลาดของคุณนั้นมันช่างเลวร้ายเสียจริง ฉันจึงต้องใช้สมุนไพรเพื่อบรรเทาความเจ็บปวดของคุณ”

เฉินเฟิงมองไปที่ชิงจืออย่างจริงจัง เขาคิดซาบซึ้งกับฝ่ายตรงข้ามอยู่บ้าง เขารู้ว่าความเจ็บปวดที่ทำให้เขาทรมานนี้ หากว่าไม่ใช่พวกยาสมุนไพรนี้แล้ว เขาคงอาจจะต้องอดทนต่อความเจ็บปวดนี้ไปอีกนาน ครั้งก่อนก็ประมาณหนึ่งสัปดาห์ ครั้งนี้อาจจะนานมากกว่านั้น

ตอนนี้ ชิงจือได้พูดขึ้นว่า

“แม้ว่าฉันจะมองไม่ออกว่าที่คุณเรียนมานั้นคือพลังวิชาอะไร แต่ต่อไปคุณไม่ควรที่จะใช้มันอีก มันไม่เป็นประโยชน์สำหรับตัวคุณ”

เฉินเฟิงไม่มีการตอบรับอะไร เขาเองก็ทราบดีว่า ในบางครั้งเรื่องราวแบบนี้ไม่ใช่ว่าเขาจะสามารถกำหนดตัดสินใจได้เองที่ไหนกัน

จากนั้น ชิงจือก็ไม่ได้พูดอะไรเพิ่มอีก บดยาสมุนไพรเสร็จแล้วก็เดินออกไป

เฉินเฟิงนอนแช่อยู่ในนั้นตามลำพัง ทำอะไรก็ไม่ได้ แต่เวลาผ่านไปนานพอสมควร ก็มีเงาร่างของเด็กน้อยคนหนึ่งเดินเข้ามา

เด็กน้อยน่ารักสวยงาม สาวใส่เสื้อคลุมสีขาว ใบหน้าแดงก่ำ

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท