ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 829

ตอนที่ 829

“อืม!ได้ราคา”

เพื่อนของเขาที่กำลังตกใจไม่ได้มีการตอบสนองกลับอะไรมากนัก เพียงแค่ตอบกลับอย่างสั้นๆ เท่านั้น

“นายบอกให้ชัดเจนมาเลยว่านาฬิกานี้ได้ราคาเท่าไหร่ นี่มันสามารถแลกกับคอนโดในTomson Rivieraได้เลยจริงๆ งั้นหรอ”

ทันทีที่เขาพูดจบ เพื่อนของเขาก็พยักหน้าเบาๆ

ตอนแรกเขานั้นยังไม่มีการตอบสนองใดๆ แต่พอเขารู้สึกตัวก็ถึงกับนิ่งอึ้งไปโดยทันที

ถึงขนาดที่ต้องถามด้วยเสียงเบาๆ

“ที่นายพูดเป็นความจริงงั้นหรอ ดูผิดไปหรือเปล่า? ”

“จะดูผิดได้ยังไงเล่า นี่เป็นคอลเล็กชั่นใหม่ที่เพิ่งออกวางขายปีนี้เลยเชียวนะ เมื่อไม่กี่วันก่อนฉันยังแอบถอนหายใจอยู่เลย”

“คือนาฬิกาอันนั้นของพวกคนรวยที่นายดูไม่เข้าใจอันนั้นน่ะหรอ”

เพื่อนของเขาพยักหน้าอีกครั้ง ตอนนี้ชายหนุ่มถึงเพิ่งได้รู้ว่าตัวเองได้แกว่งเท้าหาเสี้ยนเข้าแล้ว

แต่แล้วเพื่อนของเขาก็ส่งนาฬิกาให้เขาด้วยความเร่งรีบ เขาเองก็ตกใจเช่นกัน ของราคาสูงแบบนี้หากมาเสียในมือของเขา คงจะต้องซื้อบ้านสักหลังถึงจะทดแทนกันแล้วเท่านั้น

เขาถือนาฬิกาอย่างระมัดระวังแล้วยื่นไปตรงหน้าของเฉินเฟิง พร้อมกับพูด

“พี่ชาย นาฬิกาของคุณพวกเราดูเสร็จแล้ว คุณเอากลับคืนไปจะดีกว่า ขอโทษด้วยจริงๆ พี่ชาย เป็นเพราะผมเป็นคนมีตาแต่หามีแววไม่ คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าพี่ชายจะเป็นคนร่ำรวย ผมเองที่เป็นตาบื้อคนนั้น”

เฉินเฟิงหันหน้าไปยังชายหนุ่มที่กำลังพูดเยินยอแล้วคิดเพียงแต่อยากจะไล่ให้พวกเขารีบไปให้เร็วที่สุด ก่อเรื่องวุ่นวายนานขนาดนี้ ชิงจือคงจะโมโหมากแล้ว

เขายื่นมือไปรับนาฬิกาคืนพร้อมกับใส่นาฬิกาไว้ที่ข้อมืออีกครั้ง

“คราวหลังออกไปไหนให้รู้จักถ่อมตนหน่อย ในโลกนี้ยังมีคนรวยอีกเยอะ”

อีกฝ่ายรีบพยักหน้าตอบรับอย่างรวดเร็ว

“พวกเราไม่รบกวนพี่ชายท่านนี้แล้ว”

เมื่อพูดจบทั้งสองก็รีบวิ่งออกไปทันที

เรื่องราววุ่นวายที่เกิดบนรถไฟจบลงเพียงเท่านี้ โชคดีที่สุดท้ายแล้วชิงจือไม่ได้ต่อว่าอะไร แต่ดูจากสีหน้าของชิงจือแล้วมักจะทำให้เกิดความรู้สึกแปลกๆ บางอย่าง

เมื่อเดินทางมาถึงทะเลทรายตะวันตกเฉียงเหนือ ตอนที่อยู่ในตัวเมืองก็ไม่ได้มีความรู้สึกแปลกอะไร แต่เมื่อเดินทางมาถึงชายฝั่งทะเลทรายพวกเขาถึงค่อยรู้สึกได้ถึงความรกร้าง

บนที่ดินขนาดใหญ่สามารถมองเห็นอีกฝั่งได้อย่างชัดเจน แต่ในเวลาเดียวกันทันทีที่ได้เห็นเช่นนี้ก็สามารถรับรู้ได้ถึงความอ้างว้าง ชีวิตที่นี่กลับกลายเป็นความขาดแคลน พื้นดินที่ไร้ความชุ่มชื้น ก็เป็นดั่งชีวิตที่ไร้ความน่าสนใจ

ในขณะที่นั่งอยู่บนเกวียน เฉินเฟิงได้หันไปกล่าวถามกับชายร่างใหญ่

“ที่นี่เป็นแบบนี้มาตลอดเลยหรอ?”

“ก็ไม่ใช่ว่าทุกที่จะเป็นแบบนี้หรอก เดี๋ยวผ่านไปสักช่วงก็จะเจอกับโอเอซิสแล้ว ที่นั่นมีความอุดมสมบูรณ์ มีทั้งแพะทั้งวัวจำนวนมากมายเลยล่ะ” ชายร่างใหญ่กล่าวตอบ

เฉินเฟิงยังมีความรู้สึกสงสัยมาตลอดทาง

จนกระทั่งพวกเขาเดินทางมาไปถึงที่นั่น ซึ่งมันเป็นดั่งที่ชายร่างใหญ่ได้พูดเอาไว้ พวกเขาสามารถมองเห็นฝูงแพะและวัวจำนวนมากมาย

แต่ทว่ามีบางอย่างที่ต่างไปจากที่ชายร่างใหญ่เคยพูดเอาไว้

เพราะตอนนี้แม้แต่นอนอยู่กับพื้นเฉินเฟิงยังรู้สึกว่าหายใจไม่ออก เขาคิดไม่ถึงเลยจริงๆ ว่าคนที่ดูจิตใจดีอย่างชายร่างใหญ่จะทำแบบนี้ได้

“ทำไมคุณถึงทำแบบนี้?” เฉินเฟิงถาม

“ผมไม่มีทางเลือกจริงๆ พวกเขาจับลูกสาวของผมเอาไว้เป็นตัวประกัน ถ้าผมไม่ทำตามที่พวกเขาสั่ง พวกเขาก็จะฆ่าเธอ” ชายร่างใหญ่พูดพลางร้องไห้

เมื่อมองดูใบหน้าที่กำลังร้องไห้ของชายร่างใหญ่ เขาก็ไม่รู้ว่าจะระบายความเกลียดแค้นนี้อย่างไรดี

ทางด้านชิงจือที่อิงหลังเข้าหาเฉินเฟิงไม่ได้ส่งเสียงอะไร เธอเพียงแต่มองไปยังเหล่าฝูงคนที่กำลังเดินเข้ามาล้อมรอบพวกเขาด้วยความเย็นชาเท่านั้น

“เรื่องนี้คงจะโทษคนอื่นไม่ได้นะ เพราะว่าพวกคุณเองที่โง่เกินไป”

ชายสวมหมวกหนังพูดด้วยเสียงหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง

เมื่อไม่มีเรี่ยวแรงที่จะต่อต้าน เฉินเฟิงจึงถูกพวกเขามัดไปเสียอย่างนั้น ก่อนจะถูกโยนเข้าไปในกรง โดยที่ไม่รู้ว่ากำลังจะเดินทางไปอย่างที่แห่งใด

หลังจากที่ผ่านการกระแทกบนรถม้ามาเป็นเวลานาน ในที่สุดพวกเขาก็มองเห็นเป้าหมายสักที

ที่นี่เป็นบ่อนำมันร้างที่ถูกสร้างขึ้นกลางทะเลทราย ตรงนั้นมีคนจำนวนหนึ่งกำลังยืนอยู่หน้าบ้านที่ไม่รู้ว่าถูกทิ้งร้างมานานแค่ไหนแล้ว ซึ่งคาดว่าคงจะเป็นพวกเดียวกับพวกที่จับเขามาแน่นอน

เมื่อเห็นชายสวมหมวกหนังเดินทางกลับมา ก็มีคนเดินเข้ามาต้อนรับทันที

“พาคนกลับมาด้วยหรือเปล่า?”

“ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว พวกนั้นกลายเป็นไก่เปื่อยไปแล้ว ไม่ต้องลงแรงอะไรก็พามาได้แล้ว” ชายสวมหมวกหนังหัวเราะออกมาเสียงดัง

“อย่างนั้นนายก็ทำงานใหญ่สำเร็จแล้วสิ นายใหญ่จะต้องมอบรางวัลให้นายแน่ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าเรื่องดีแบบนี้จะหล่นมาทับหัวนายได้ ”

ชายที่เข้ามากล่าวต้อนรับกล่าวด้วยความรู้สึกอิจฉา

“เอาล่ะ ไม่คุยกับนายแล้ว ฉันยังต้องพาผู้หญิงคนนั้นไปหานายใหญ่ก่อน นี่เป็นถึงสมบัติสำคัญที่จะทำให้นายใหญ่เข้าไปในแดนมหาปรมาจารย์ได้ ฉันไม่อยากเสียเวลา”

เฉินเฟิงที่ได้ยินแบบนี้ถึงได้เข้าใจแล้วว่าทำไมพวกเขาถึงต้องวางแผนจับชิงจือมาแบบนี้ ที่แท้เป็นเพราะแดนมหาปรมาจารย์นี่เอง

แต่น่าสมเพช ตัวเขาเป็นเพียงคนที่ติดแหเข้ามาด้วยเท่านั้น เมื่อถึงตอนที่เห็นว่าเขาไม่มีประโยชน์อะไร ไม่นานเขาก็คงจะถูกฆ่าทิ้งแน่นอน

รถม้าถูกลากไปข้างหน้าอีกครั้ง หลังจากผ่านบ้านเหล่านั้นมา ข้างหน้าก็มีอาคารสำนักที่มีขนาดใหญ่ตั้งตระหง่านอยู่ และรถม้าก็หยุดลง พวกเขาปล่อยตัวเฉินเฟิงและชิงจือลงมา โดยมีคนจำนวนหนึ่งแบกพวกเขาเข้าไปยังอาคารสำนักงาน

แต่ตอนนี้ดูเหมือนว่านายใหญ่ที่พวกเขาพูดคนนั้นจะไม่ได้อยู่ที่นี่ ชายสวมหมากหนังจึงสั่งให้คนไปรายงานทันที ผ่านไปสักพักในที่สุดพวกเขาก็เจอกับอีกฝ่ายสักที

เฉินเฟิงสังเกตลักษณะของอีกฝ่าย พลางรู้สึกว่าเหมือนเคยเจอเขาที่ไหนมาก่อน

นี่ไม่ใช่เซวี่ยผิงคนนั้นหรอกหรือ ?เขานึกถึงนักเดินทางที่ลอบทำร้ายชิงจือ และคนที่จะพาเฉินเฟิงไปดูพระอาทิตย์ขึ้นคนนั้น

แต่ทำไมเขาถึงมาอยู่ที่นี่ได้

ดูเหมือนว่าเพียงครู่เดียวเขาก็เข้าใจถึงเรื่องที่เกิดขึ้น พวกเขาคงจะคิดว่าหากชิงจือถูกฆ่าตายไปแล้ว แดนมหาปรมาจารย์ก็คงจะตกมาอยู่ในกำมือของเขาได้อย่างง่ายดาย แต่หลังจากที่รอมาเนิ่นนานก็ยังไม่สามารถที่จะทะลุผ่านไปได้ พวกเขาถึงได้รู้ว่าเกิดปัญหาขึ้นแล้ว

ส่วนชายร่างใหญ่คนนั้นเป็นเพียงคนอีกคนในแผนการของพวกเขาเท่านั้น ครั้งแรกที่เขาไปไม่พบกับชิงจือ จนครั้งที่สองเสี่ยงดวงกลับไปอีกครั้งถึงได้พบกับเธอโดยบังเอิญ

แต่นี่มันไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลย เพื่อที่จะทำแผนการให้สำเร็จ พวกเขาจึงจับตัวชิงจือมาโดยตรงเลย ส่วนเขาที่เป็นคนทำลายแผนการของพวกเขาแค่เผอิญถูกจับมาพร้อมกันก็เท่านั้น

เฉินเฟิงรู้สึกหงุดหงิดมากขึ้นกว่าเดิมไปอีก เพราะเมื่อสักครู่นี้เขายังคิดว่าตัวเองไม่ใช่เป้าหมายหลัก อาจมีความเป็นไปได้ที่จะถูกปล่อยไป แต่ตอนนี้เขาไม่มีทางเลือกอะไรอีกแล้ว

“ฮ่าๆๆ คิดไม่ถึงเลยว่าแผนการจะราบรื่นแบบนี้”

เมื่อมองดูพวกเขาสองคนที่นอนราบอยู่กับพื้น เซวี่ยผิงถึงกับหัวเราะออกมาเสียงดังลั่น

“คิดไม่ถึงเลยว่าจะเป็นคุณ ดูแล้วคุณคงจะเชื่อเรื่องของชะตากรรมมหาปรมาจารย์สินะ” เฉินเฟิงเอ่ยปากอย่างนิ่งสงบ

เมื่อได้ยินเสียงของเฉินเฟิง เซวี่ยผิงก็ตวาดสายตามองไปยังเฉินเฟิง

“อ๋อ ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง ครั้งที่แล้วแผนการของผมคงจะถูกคุณเป็นคนทำลายสินะ คิดไม่ถึงจริงๆ เลยว่าคุณจะพาตัวเองมาส่งถึงที่แบบนี้ คุณว่าผมจะเอาคืนคุณยังไงดีนะ ฆ่าเลยดีไหม ?แต่แบบนี้ดูเหมือนจะดูถูกคุณเกินไป”

เขาพูดกับเฉินเฟิงราวกับกำลังล้อเลียนเสียอย่างนั้น

“ผมคิดว่าคุณควรจะคิดว่าตัวเองจะสามารถทะลุไปได้หรือไม่ถึงจะเป็นเรื่องสำคัญมากกว่า เรื่องเล่าของชะตากรรมมหาปรมาจารย์พวกนี้ยังไม่เคยมีใครพิสูจน์ได้เลย ถ้าหากว่าคุณเกิดล้มเหลวขึ้นมา ถึงตอนนั้นคนที่คุณจะบาดหมางด้วยจะเป็นคนที่อยู่เบื้องหลังมหาปรมาจารย์ท่านนี้แล้ว” เฉินเฟิงไม่สนใจว่าเขาจะเอาคืนตนอย่างไร ตอนนี้เขาต้องการให้อีกฝ่ายเปลี่ยนเป้าหมาย หรือหาโอกาสที่จะพอหลบหนีได้เท่านั้น

แต่เซวี่ยผิงกลับยังคงหัวเราะเยาะ

“คุณนี่ยังทำตัวเป็นเด็กจริงๆ คุณคิดว่าแค่คำพูดสองสามประโยคของคุณจะทำให้ผมยอมปล่อยพวกคุณไปงั้นสิ วันนี้ต่อให้ชะตากรรมมหาปรมาจารย์นั้นจะเป็นเรื่องโกหก พวกคุณก็ไม่มีทางหลุดพ้นไปได้หรอก”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท