ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 854

ตอนที่ 854

ถึงแม้ความทรงจำของอีกฝ่ายจะเลือนราง แต่เฉินเฟิงก็ยังคงเดินทางมาแถวนี้ตามคำบอกเล่าของเธอ

ที่นี่มีคฤหาสน์ขนาดใหญ่หลังหนึ่งตั้งตระหง่านอยู่ ซึ่งว่ากันว่าที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล เขายืนมองอยู่ริมริ้ว และในทุกระยะห่างจะมีกล้องวงจรปิดคอยสอดส่อง

และในตอนที่ยืนอยู่ริมรั้ว เฉินเฟิงก็ได้เห็นเฮลิคอปเตอร์ลำหนึ่งจอดอยู่ตรงลานจอด ซึ่งเหมือนว่าทุกอย่างกำลังนิ่งสงบอย่างมาก ในขณะที่ข้างๆ นั้นยังมีรถหรูอีกหลายคันจอดอยู่เช่นกัน

บริเวณนี้เหมือนจะไม่มีคนอยู่ เฉินเฟิงจึงใช้เวลานานกว่าจะหาประตูทางเข้าของคฤหาสน์แห่งนี้ได้

และแน่นอนว่าเข้าไม่สามารถเดินเข้าไปด้านในได้อย่างสุ่มสี่สุ่มห้า เพราะทันทีที่เดินไปถึงประตูก็มี รปภ.คนหนึ่งเข้ามาขวางทางเขาเอาไว้ซะแล้ว

ตอนนี้เฉินเฟิงร้อนรนเรื่องความปลอดภัยของหลี่จื่อเยว่ ต่อให้จะถูกอีกฝ่ายขวางทางเอาไว้ เขาก็ไม่ได้สนใจอะไรทั้งสิ้น

“หยุด ที่นี่เป็นพื้นที่ส่วนบุคคล”

เฉินเฟิงไม่ได้สนใจเขา ก่อนจะเดินตรงไปยังเสาประตูอีกด้านหนึ่ง ก่อนจะมีคนเข้ามาขวางเขาเอาไว้อีกครั้ง

รปภ.ดึงแขนของเขาแล้วพูดว่า: “คุณเป็นใคร ถึงได้กล้ามาสร้างความวุ่นวายที่นี่ ”

เฉินเฟิงขยับหลังสะบัดเขาออก ชายคนนั้นก็ถูกกระเด็นออกไปอีกทางทันที ตอนนี้เขาโมโหขึ้นมา พลางตะโกนร้องเรียกคนอื่น

เพียงครู่เดียวก็มี รปภ.อีกสามสี่คนเดินออกมาจากห้องรักษาความปลอดภัย โดยในมือถือกระบองเอาไว้อีกด้วย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?” หนึ่งในนั้นถามขึ้นมา

“ฉันจะไปรู้ได้ยังไงเล่า หมอนั่นเข้ามาก็สร้างเรื่องเลย”

จากนั้นคนอื่นๆ ก็พากันหันมามองทางเฉินเฟิง

แต่ว่าตอนนี้เฉินเฟิงได้ก้าวเข้าไปด้านในเรียบร้อยแล้ว

“นี่ คุณหยุดเดี๋ยวนี้” คนเหล่านั้นตามเข้าไปหวังจะหยุดเฉินเฟิงเอาไว้

พวกเขาเปิดประตู ก่อนที่แต่ละคนจะไล่ตามเข้าไป

ในใจของเฉินเฟิงเอาแต่เป็นห่วงความปลอดภัยของหลี่จื่อเยว่ ดังนั้นเมื่อเห็นบ้านที่ตั้งอยู่ไม่ไกลเขาจึงรีบวิ่งตรงไปทางนั้นทันที ส่วน รปภ.ที่วิ่งตามเขามา ไม่ว่าจะไล่ตามยังไงก็วิ่งไม่ทันเขาสักที

และในที่สุดเมื่อมาถึงประตูใหญ่ของบ้านแห่งนั้น เฉินเฟิงก็ชะงักฝีเท้าพลางมองดูบ้านหลังนี้ ซึ่งเป็นราวกับพระราชวังอันงดงามแห่งหนึ่งเลย เพราะเพียงแค่การตกแต่งภายนอกก็มีความแตกต่างจากบ้านของคนธรรมดาทั่วไปแล้ว

และในที่สุดคนเหล่านั้นที่อยู่ด้านหลังก็ตามมาถึงสักที ในขณะที่เฉินเฟิงกำลังจะเข้าไปด้านใน ประตูไม้อันโอฬารนั้นก็ถูกเปิดออกมาก่อน

ชายสวมชุดสีเทาคนหนึ่งเดินออกมาจากด้านใน สีหน้าของเขานิ่งเรียบ สะอาดสะอ้าน

ซึ่งสามารถมองออกได้เลยว่าเขาเป็นคนที่เคยได้รับการฝึกฝนวิชาต่อสู้อย่างแน่นอน

เมื่อเห็นอย่างนั้นเฉินเฟิงเองก็หยุดฝีเท้าลง พร้อมกับมองไปยังอีกฝ่าย ซึ่งเขาคนนั้นก็กำลังจ้องมองมายังเฉินเฟิงพอดี

“คุณจะวิ่งอะไรนักหนา?ช่างวิ่งจริงๆ !”

รปภ.ไม่กี่คนที่อยู่ด้านหลังนั้นเมื่อพวกเขาวิ่งมาถึง เฉินเฟิงก็กลับคร้านที่จะไปสนใจพวกเขา พลางเดินก้าวไปยังบันไดที่อยู่ข้างหน้า ก่อนที่เขาจะปล่อยหมัดออกไปอย่างไม่มีการแจ้งเตือนล่วงหน้าใดๆ ทั้งสิ้น

และดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะคาดการณ์ไว้อยู่แล้วว่าเฉินเฟิงจะต้องลงมือแน่นอน ดังนั้นเขาจึงตั้งรับเอาไว้ได้ทัน

ซึ่งในช่วงพริบตาเดียวพวกเขาทั้งสองคนก็ต่อสู้กันจนเกิดสิบกระบวนท่าไปแล้ว และสามารถมองเห็นได้อย่างชัดเจนเลยว่าอีกฝ่ายก็เป็นยอดฝีมือคนหนึ่งเหมือนกัน อย่างน้อยหากจัดอันดับในระดับชั้นของหั้วจิ้งแล้วเขาคงนับว่าเป็นหั้วจิ้งชั้นสูงสุดได้เลย

แต่หลังจากที่ต่อสู้กันได้อีกสองสามกระบวนท่า เฉินเฟิงถึงได้รู้สึกว่ากระบวนท่าของอีกฝ่ายนั้นร้ายกาจอย่างมาก ไม่เหมือนกับวิชาต่อสู้ทั่วๆ ไป

แม้แต่การเคลื่อนไหวก็ยังเป็นอันตรายถึงชีวิตได้โดยไม่ต้องสงสัยเลย และในทุกกระบวนท่าที่ถูกปล่อยออกมาล้วนใช้เทคนิคการต่อสู้แบบกะใช้ชีวิตแลกด้วยชีวิต ซึ่งหากจะยับยั้งกระบวนท่าเหล่านี้คงจะยากไม่น้อย

อย่างไรก็ตามหลังจากพักหายใจไม่กี่อึดใจ ทั้งสองก็ถอยหลังแยกกันออกมา และอยู่ๆ ก็มีหญิงสาวคนหนึ่งที่มายืนอยู่หน้าประตูใหญ่ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้ สั่งห้ามอีกฝ่ายเอาไว้

เฉินเฟิงเองก็หันไปมองอีกฝ่าย เธอเป็นหญิงสาวที่มีเสน่ห์เย้ายวน สวมใส่เสื้อผ้าที่เปิดเผย โดยในมือถือมีดสั้นเล่มหนึ่งเอาไว้

ซึ่งในตอนที่เฉินเฟิงมองเธอนั้น เธอเองก็มองมายังเฉินเฟิงด้วยรอยยิ้มทรงเสน่ห์ เหมือนกับว่าพวกเขาเป็นคนสนิทสนมกันเสียอย่างนั้น

แต่ความจริงแล้วเฉินเฟิงไม่รู้จักเธอเลยสักนิด

“วิชาต่อสู้ของเขาแข็งแกร่งมาก ไม่ถึงร้อยกระบวนท่าคุณต้องแพ้แน่นอน ”

หญิงสาวพูดประโยคนี้ให้กับชายที่สวมชุดรัดกุม (ชุดจิ้นจวง) คนนั้น แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับไม่เห็นด้วย พลางมองมายังเฉินเฟิงด้วยความเย็นชาเท่านั้น

แต่หญิงสาวกลับไม่ได้สนใจอะไรก่อนจะหันไปพูดกับเฉินเฟิง: “ไม่ทราบว่าทำไมคุณชายท่านนี้ถึงมายังหอจิ่วโหยวของพวกเราได้คะ ดูเหมือนว่าที่นี่จะไม่ได้เชื้อเชิญคุณชายนะคะ ”

เฉินเฟิงไม่อยากจะไปสนใจว่าที่นี่คือที่ไหน จะเป็นหอจิ่วโหยวหรือตึกปาเป่าก็ช่าง เขามาที่นี่ก็เพื่อช่วยคนเท่านั้น

“ส่งคนออกมาเดี๋ยวนี้ หรือจะให้ผมเข้าไปหาเอง ”

เมื่อได้ยินประโยคนั้น ชายสวมชุดรัดกุม (ชุดจิ้นจวง) คนนั้นก็ตอกกลับด้วยความเดือดดาลทันที : “ถ้าหากว่าคุณอยากจะต่อสู้ ผมจะเป็นคู่มือให้ ”

แต่หญิงสาวกลับกล่าวห้ามเอาไว้เสียก่อน: “หลินเฉิงจื้อ แกอยากลิ้มรสกฎสำนักงั้นหรอ?”

และเหมือนว่าพอได้ยินคำว่ากฎสำนักสองคำนี้ หลินเฉิงจื้อถึงยอมถอยหลังออกไปด้วยความขุ่นเคือง จากนั้นหญิงสาวคนนั้นถึงค่อยหันมาพูดด้วยรอยยิ้มกับเฉินเฟิงอีกครั้ง : “ ถ้าหากคุณมาที่นี่เพื่อตามหาคน อย่างนั้นก็ตกลงกันได้ง่ายหน่อย เพียงแต่ว่าการเข้ามาก่อเรื่องแบบนี้ของคุณมันดูไม่ค่อยสมเหตุสมผลเท่าไหร่เลยนะคะ คุณจะเข้าไปนั่งด้านในก่อนหรือเปล่าคะ ฉันจะช่วยไปถามให้กับคุณ ”

ที่จริงเฉินเฟิงเองก็ไม่รู้ว่าใช่ที่นี่หรือเปล่า แต่ในเมื่อมาถึงที่นี่แล้ว อย่างน้อยๆ เขาจะต้องถามให้ได้เรื่องบางอย่างก่อนที่จะออกไปจากที่นี่

จากนั้นเขาจึงเดินตามอีกฝ่ายเข้าไปด้านในของอาคารหรูหรางดงามแห่งนี้

ภายในนั้นเป็นห้องรับแขกขนาดใหญ่ บนพื้นปูด้วยพรม ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์จากไม้เรดวูดทั้งหมด พร้อมทั้งภาชนะประดับคริสตัลราคามหาศาล ซึ่งต้องเป็นคนที่ร่ำรวยมากจริงๆ ถึงจะมีของพวกนี้ไว้ในครอบครองได้

แต่สำหรับเฉินเฟิงแล้วของเหล่านี้ล้วนเป็นเพียงแค่ของตายเท่านั้น เพราะอะไรก็ตามที่สามารถซื้อมาได้ด้วยเงินก็ล้วนเป็นของตายทั้งนั้น

หญิงสาวพาเขาเดินมาถึงตรงหน้าเก้าอี้ไม้เรดวูด เฉินเฟิงนั่งลงอย่างใจใหญ่ ก่อนที่เขาจะหันไปถามหญิงสาว : “งานรอบกองไฟที่นอกเมืองนั้นเป็นฝีมือพวกคุณหรือเปล่า ?”

และเหมือนเป็นเพราะว่าได้ยินเรื่องของงานรอบไฟ หญิงสาวถึงเข้าใจได้ทันที

“ที่แท้คุณก็มาที่นี่เพราะเรื่องนี้นี่เอง แต่ฉันไม่คิดว่าจะมีผู้หญิงที่คุณกำลังตามหาหรอกนะคะ ”

เมื่อเฉินเฟิงได้ยินอีกฝ่ายพูดว่าผู้หญิง เขาก็คาดเดาได้ทันทีเลยว่าตอนนี้หลี่จื่อเยว่อยู่ในกำมือของพวกเขาจริงๆ

ก่อนจะซักถามอีกครั้ง: “ผมไม่สนหรอกนะว่าพวกคุณกำลังทำอะไรกันอยู่ แต่รีบส่งคนของผมมาเดี๋ยวนี้ ”

แต่หญิงสาวกลับตอบกลับด้วยรอยยิ้ม: “นั่นแน่นอนอยู่แล้วค่ะ พวกเราไม่กล้าไปมีปัญหากับหั้วจิ้งชั้นสูงสุดหรอกนะคะ เพราะหากเกิดปัญหาขึ้นก็จะยิ่งยุ่งยากมากขึ้นเท่านั้น ”

ถึงเฉินเฟิงจะไม่รู้ว่าสิ่งที่เธอพูดจะเป็นความจริงหรือเท็จ แต่ว่าตอนนี้เขาทำได้เพียงต้องเชื่อเท่านั้น ก่อนจะกล่าวต่อ: “เธอถูกพวกคุณเอาตัวไปเมื่อคืนนี้”

หญิงสาวยังคงตอบกลับด้วยรอยยิ้มจางๆ ดังเดิม: “ถ้าอย่างนั้นคุณรอสักครู่นะคะ ฉันจะเข้าไปดูให้คุณก่อน ถ้าหากว่ามาถึงที่นี่แล้ว ฉันจะพาตัวเธอออกมาให้คุณทันที แต่หากลองคำนวณเวลาดูแล้วบางทีอาจจะยังมาไม่ถึง ซึ่งนั่นแสดงว่าคุณจะต้องรอจนถึงช่วงเย็นถึงจะได้เจอนะคะ ”

แน่นอนว่าเฉินเฟิงไม่ยินยอมที่จะถูกพวกเขาถ่วงเวลา จึงรีบถามกลับทันที: “ถ้าหากเธอยังมาไม่ถึงที่นี่ แล้วตอนนี้อยู่ที่ไหน?”

หญิงสาวตอบกลับอย่างไม่แน่ใจ: “เรื่องนี้ฉันเองก็ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ยังไงซะก็เป็นเรื่องที่อีกไม่นานก็จะต้องเกิดขึ้น แต่คุณวางใจได้ คนพวกนั้นไม่มีทางแตะต้องของของพวกเราอยู่แล้ว ”

เมื่อได้ยินอีกฝ่ายพูดเหมือนที่ดีลี่จื่อเยว่เป็นสินค้าชิ้นหนึ่งอย่างนั้น ในใจของเฉินเฟิงก็โกรธเคืองขึ้นมา แต่เขาก็พยายามทำให้ตัวเองอดทนเอาไว้จนได้

ก่อนที่เขาจะพูดต่อ: “หวังว่าคุณจะไม่โกหกผม”

หญิงสาวยิ้มให้กับเฉินเฟิงก่อนจะเดินออกจากห้องไป

ตอนนี้ก็เหลือหลินเฉิงจื้อที่ยืนอยู่อีกมุมหนึ่งเท่านั้น และเพียงไม่นานก็มีสาวใช้นำน้ำและชาเข้ามาเสิร์ฟ เมื่อมองดูไอร้อนที่อบอวลออกมา พร้อมกับถ้วยชาที่มีใบชาอยู่ด้านใน เขาก็ไม่แม้แต่ที่จะแตะต้องมันเลย เขาระมัดระวังตัวอย่างมาก เพราะสำหรับความเจ้าเล่ห์เพทุบายของคนกลุ่มนี้แล้ว เขาไม่กล้าที่จะประมาทเลยแม้แต่น้อย

แต่เมื่อนั่งอยู่ตรงนั้นได้พักใหญ่ เขาก็ยังไม่เห็นว่าหญิงสาวจะกลับมาสักที เฉินเฟิงจึงคิดอยากจะเดินออกไปดูข้างนอก แต่ว่ากลับถูกหลินเฉิงจื้อห้ามเอาไว้

“ไม่มีคำอนุญาตของเธอ คุณจะออกไปไหนไม่ได้เด็ดขาด ” เขาพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกระด้าง

และแน่นอนว่าเฉินเฟิงไม่มีทางยอมอ่อนข้อให้กับอีกฝ่าย: “แล้วถ้าหากว่า ฉันจะออกไปให้ได้ล่ะ?”

และทันทีที่เขาพูดจบ สายตาของหลินเฉิงจื้อก็บอกกับเฉินเฟิงว่าเขาเองก็รอไม่ไหวที่จะต่อสู้กับเขาแล้ว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท