ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 844

ตอนที่ 844

เมื่อกลับมาถึงรถ เฉินเฟิงเห็นว่าน้ำมันยังเติมไม่เต็มถัง เขาจึงหยิบหัวจ่ายน้ำมันมาเติมน้ำมันเอง

ก่อนจะหันไปคุยกับชิงจือ “การพาเด็กคนนี้ไปด้วยจะต้องเจอปัญหาแบบนี้แน่นอน”

ชิงจือเปิดประตูพลันตอบเขา: “ฉันรู้”

ในเมื่อเธอคิดว่าจะเกิดอะไรก็ช่างมัน เฉินเฟิงจึงได้เพียงแค่นิ่งเงียบยอมรับเท่านั้น

พวกเขาขับรถออกจากปั๊มน้ำมัน เหลือเพียงสถานการณ์วุ่นวายไว้ข้างหลัง ส่วนเยว่เอ๋อก็ดูหวาดกลัวจนเอาแต่หลบอยู่ด้านหลัง ดูจากสีหน้าของเธอในตอนนี้แล้วเหมือนว่าเธอกำลังนึกเสียใจกับสิ่งที่ทำลงไป

นี่เป็นครั้งแรกที่เด็กสาวหนีออกจากบ้าน จึงทำให้เธอยังมีความลังเล

เฉินเฟิงหันไปมองเธอเพียงแวบเดียวโดยไม่สนใจว่าเธอจะตัดสินใจอย่างไรต่อ

หลังจากขับรถมาเป็นเวลานาน ในที่สุดเยว่เอ๋อก็ยอมเอ๋ยปากพูดออกมา

“หนูทำอะไรผิดไปหรือเปล่า หนูไม่ควรจะทำแบบนี้ใช่หรือเปล่าคะ”

ไม่รู้ว่าเธอกำลังถามใครอยู่ แต่ชิงจือที่กำลังมองดูบรรยากาศนอกหน้าต่างก็ตอบกลับ: “เรื่องแบบนี้ไม่มีถูกหรือผิด เธอโตแล้ว มีความคิดของตัวเอง ไม่ใช่ทุกสิ่งหรอกนะที่จะสามารถยับยั้งเธอเอาไว้ได้”

เฉินเฟิงได้แต่เหลียวมองไปยังชิงจือ คำพูดแบบนี้ดูจะไม่เหมาะกับนิสัยของชิงจือสักเท่าไหร่

“แต่ที่จริงแล้วคุณปู่ก็ดีกับหนูมาก……”

“เธออยากกลับไปงั้นหรอ?” ชิงจือขัดคำของเธออย่างเย็นชา

เยว่เอ๋อที่โดนถามแบบนี้ก็เงียบลงทันที เธออาจจะมีความลังเลอยู่ในใจ

ในขณะที่กำลังขับรถไปเรื่อยๆ อยู่ๆ ก็มีกระดาษแผ่นหนึ่งลอยมาติดอยู่หน้ากระจกรถ เฉินเฟิงมองอย่างละเอียดก็พบว่านั่นคือแบงก์หนึ่งร้อยหยวน ซึ่งในตอนที่เขากำลังแปลกใจอยู่นั้น เงินอีกใบก็ลอยผ่านหน้ากระจกข้างไปก่อนจะเห็นเป็นธนบัตรเงินที่โปรยปรายลงมาราวกับสายฝน

แบงก์ธนบัตรสีแดงปลิวว่อนไปด้านหลัง เขาจึงมองไปยังต้นทางที่แบงก์เงินนั้นลอยมาก็เห็นว่ามีคนอยู่ในรถมาเซราติคันสีเหลืองกำลังโปรยเงินออกมา

“ผมมีเงินยังไม่กล้าเล่นพิเรนทร์แบบนี้เลย คนสมัยนี้ไม่มีจิตสาธารณะเลยสักนิด” เฉินเฟิงพูดด้วยความหงุดหงิด

แต่ในขณะที่ขับรถตามหลังไปเรื่อยๆ รถคันนั้นที่อยู่ข้างหน้าก็เริ่มส่ายไปมาบนท้องถนน รถตวาดซ้ายตวาดขวาราวกับว่าคนขับกำลังเมาเหล้าซะอย่างนั้น

เฉินเฟิงที่ขับรถตามหลังไม่กล้าที่จะเร่งความเร็วเพื่อแซงพวกเขาไปเพราะกลัวว่าจะไปโดนอีกฝ่ายชนเข้า

แต่ผ่านไปได้ไม่นาน รถคันหน้าก็เลี้ยวเข้าไปจอดข้างทาง เฉินเฟิงที่กำลังจะขับรถแซงพวกเขาไป แต่ดันมีชายหญิงคู่หนึ่งพุ่งออกมาทำเอาเฉินเฟิงต้องเหยียบเบรคจนสุดเท้าถึงไม่ไปชนเข้ากับพวกเขา

ถึงแม้ว่ารถจะหยุดทันแต่นั่นทำให้เฉินเฟิงรู้สึกหงุดหงิดอย่างมาก จะว่าไปใครที่เจอเหตุการณ์แบบนี้คงไม่มีใครดีใจหรอก

เขาได้แต่จอดรถอย่างไม่เต็มใจ ในขณะที่ชายหญิงคู่นั้นกำลังเดินมายังทางของพวกเขา

เฉินเฟิงหันไปบอกกับหญิงสาวสองคนที่นั่งอยู่ในรถ: “ผมจะลงไปดูสักหน่อย” เมื่อพูดจบเขาก็เดินลงรถไป

เขาเดินไปยังหลังรถ อีกฝ่ายเป็นชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่ง ฝ่ายชายแต่งกายอย่างหรูหรา ทั้งตัวของเขาสวมชุดสูทแบรนด์เนม พร้อมด้วยนาฬิการาคาแพง และคาดเข็มขัดที่ประดับหมุดทอง

ทางฝั่งหญิงสาวก็เหมือนกันเธอเป็นผู้หญิงหน้าตาสะสวย เมื่อดูจากการแต่งตัวแล้ว เธอสวมใส่ชุดเดรสรัดรูปที่เผยให้เห็นสัดส่วนเว้าโค้งของร่างกาย พร้อมเติมแต่งด้วยสร้อยคอและเครื่องประดับ เธอถือกระเป๋าหนังใบหนึ่งซึ่งดูก็รู้ได้เลยว่าเป็นของแท้แน่นอน

แต่ว่าเฉินเฟิงไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ เขาเพียงเดินตรงไปตรงหน้าของพวกเขาก่อนจะตะคอกใส่หน้าของชายหนุ่ม

“รนหาที่ตายหรือไง ทำไมไม่ดูหน่อยว่าที่นี่คือที่ไหน”

เมื่อได้ยินคนกำลังตะคอกใส่พวกเขา ชายหนุ่มจึงหันไปมองเฉินเฟิงโดยที่ไม่ได้มีความรู้สึกผิดต่อความผิดที่ตัวเองได้ทำลงไปเลยสักนิด ทั้งยังตะคอกเฉินเฟิงกลับอีกด้วย

“แกนี่ชอบแส่เรื่องชาวบ้านเสียจริง นี่เป็นบ้านแกหรือไง ฉันอยากจะทำอะไรมันก็เรื่องของฉัน แกรีบไสหัวไปซะ”

เฉินเฟิงไม่สนใจอะไรเขาทั้งนั้นก่อนจะเดินเข้าไปต่อยเขาทีหนึ่ง ชายหนุ่มที่โดนต่อยถึงกับสะลึมสะลือ จนหญิงสาวที่เห็นผู้ชายของตัวเองถูกทำร้ายก็เกิดอาการโมโหเลือดขึ้นหน้าทันที

แล้วหันไปตวาดใส่เฉินเฟิง: “ทำไมถึงต้องทำร้ายคนอื่นด้วย บ้าไปแล้วหรือไง”

พูดไป เธอก็เดินเข้าไปประคองชายหนุ่มที่ถูกเฉินเฟิงซัดหมัดใส่คนนั้น ราวกับลืมไปแล้วว่าเมื่อกี้นี้ใครเป็นคนผลักเธอลงมาจากรถ

เฉินเฟิงเองไม่อยากจะไม่สนใจพวกเขา จึงเตรียมจะเดินกลับไปขึ้นรถ

แต่แล้วหญิงสาวคนนั้นกลับเข้ามาจับเฉินเฟิงเอาไว้ก่อนจะตะโกนใส่หน้าเขา : “อย่าเพิ่งไป”

เฉินเฟิงใช้แรงเบาๆ ผลักหญิงสาวออกไปข้างทาง

ซึ่งเรื่องของพวกเขาทำให้เกิดจราจรติดขัด ทำให้มีรถหลายคันที่ตามหลังมาค่อยๆ แล่นมาจอด ส่วนหญิงสาวที่ถูกผลักออกไปอีกทางก็กรีดร้องออกมาเสียงดัง

และในที่สุดชายหนุ่มคนนั้นก็ลุกขึ้นมาเสียที เขาจ้องมองเฉินเฟิงก่อนจะพูดใส่อารมณ์ทันที

“แกกล้าต่อยฉันงั้นหรอ แกรู้หรือเปล่าว่าฉันคือใคร ฉันจะบอกอะไรให้เลย แกตายแน่”

ต่อให้เขาจะพูดอย่างนั้นแต่ก็ยังคงถอยหลังออกไปอยู่ห่างจากเฉินเฟิง ซึ่งคงเป็นเพราะเมื่อกี้นี้ที่ถูกเฉินเฟิงต่อยเลยทำให้เขาหวาดกลัว

เฉินเฟิงเริ่มรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาทันที พลางมองไปหาเขาพร้อมคำถาม

“แล้วผมจำเป็นต้องรู้ด้วยหรือเปล่าว่าคุณคือใคร?”

“หึ แกรู้หรือเปล่าว่านั่นมันรถอะไร?” อีกฝ่ายไม่ได้ตอบคำถามของเขา แต่กลับถามเฉินเฟิงพร้อมกับชี้ไปยังรถแลมโบกีนีของตัวเอง

เฉินเฟิงส่ายหน้า: “ไม่รู้”

ชายคนนั้นถึงกับเปล่งเสียงเยาะเย้ยออกมา

“ไอ้บ้านนอก แกรู้หรือเปล่าว่าชุดสูทอาร์มานี่ของฉันมีราคาเท่าไร่?และนาฬิกาอันนี้ เมื่อกี้นี้ฉันว่าจะให้แกชดใช้เอาให้แกล้มละลายไปเลย”

จากนั้นกลุ่มคนที่อยู่ข้างทางก็เริ่มซุบซิบกัน ดูเหมือนว่าในกลุ่มพวกเขาจะมีคนรู้ว่าชายคนนี้คือทายาทเศรษฐี จึงมีคนเดินเข้าไปหวังจะสนทนาด้วย

ชายร่างอ้วนคนหนึ่งเดินเข้าไปพร้อมกับเรียกชายหนุ่มคนนั้นอย่างประจบสอพลอ

“คุณชายหลัว เกิดอะไรขึ้นหรอครับ?”

คุณชายหลัวคนนั้นหันไปมองเขาก่อนจะตอบกลับอย่างไม่สบอารมณ์

“ไม่รู้ว่าไอ้บ้านนอกจากไหน กล้าเข้ามาแส่เรื่องของฉัน แล้วยังกล้าทำร้ายฉันด้วย”

ชายคนนั้นที่ได้ยินว่าคุณชายหลัวถูกทำร้าย สีหน้าของเขาจึงเปลี่ยนไปทันที พร้อมกับรีบถามด้วยความห่วงใย

“คุณชายหลัว ไม่ได้รับบาดเจ็บมากใช่ไหมครับ เป็นอะไรหรือเปล่า ให้ผมพาไปส่งโรงพยาบาลไหมครับ”

คุณชายหลัวตอบกลับอย่างไม่สนใจ: “ไม่เป็นไร แต่ว่าเจ้าหมอนี้ยังไงซะฉันจะเอามันเข้าคุกให้ได้ นายรู้จักคนนั้นหรือเปล่า ช่วยโทรหาเขาให้ฉันหน่อย”

หญิงสาวที่ยืนอยู่ข้างๆ ก็ตวาดเสียงออกมาเช่นกัน: “ใช่ ปล่อยไปไม่ได้เด็ดขาด จะต้องให้เขาได้รู้รสชาติของการติดคุกซะบ้าง”

เฉินเฟิงที่เห็นทั้งหมดนี้ได้แต่รู้สึกเยาะเย้ยเท่านั้น จากนั้นชายหนุ่มที่ดูเหมือนจะเข้ามาช่วยเหลือสองคนนั้นก็เดินเข้ามาหาเฉินเฟิง ก่อนจะแสร้งปั้นสีหน้าอ่อนโยนพูดคุยกับเฉินเฟิง

“คุณรู้หรือเปล่าว่ากำลังหาเรื่องกับใคร?”

เฉินเฟิงนิ่งไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบด้วยความแปลกใจ

“เมื่อกี้ผมถามเขาแล้ว แต่เขาไม่ตอบ”

เมื่อได้ยินคำตอบนี้ของเฉินเฟิง ชายคนนั้นก็แสดงท่าทีเหมือนกำลังทุกข์ใจออกมา

“คุณไปมีเรื่องกับคนที่ไม่ควรหาเรื่องด้วย คุณแย่แน่ๆ ”

แล้วคุณชายหลัวคนนั้นก็หันมาตะคอกใส่ทางฝั่งเฉินเฟิง: “นายจะพูดอะไรกับมันนักหนา รีบเรียกคนมา ฉันจะเอามันให้ตาย จะให้มันต้องชดใช้จนล้มละลายไปเลย”

ชายหนุ่มที่เข้ามาช่วยแก้ปัญหาหันมาพูดกับเฉินเฟิงอีกครั้ง

“คุณก้มหน้ารับผิดกับคุณชายหลัว ผมจะช่วยหาทางช่วยเกลี้ยกล่อมแทนคุณ ให้คุณชดใช้น้อยลง”

เฉินเฟิงหัวเราะอยู่ในใจ พลางถามด้วยความสงสัย

“ถ้าผมไม่ยอมรับผิดจะเป็นยังไง?”

ชายคนนั้นได้แต่ส่ายหน้าอย่างสิ้นหวัง: “อย่างนั้นก็ไม่มีทางช่วยแล้ว คุณอาจจะต้องติดคุกไปด้วย พร้อมกับชดใช้ค่าเสียหาย”

เฉินเฟิงตอบกลับ: “แค่นี้หรอ ถ้าไม่มีอะไรแล้วผมก็จะไปแล้ว”

“ทำไมคุณถึงไม่ฟังนะ สิ่งที่ผมพูดคุณไม่เข้าใจหรือไง คุณมีเรื่องกับใคร เขาคนนั้นคือคุณชายหลัวเชียวนะ คุณคิดว่าคุณจะหนีพ้นงั้นหรอ ให้คุณยอมรับผิดคุณกลับไม่ยอมทำ อย่างนั้นคุณก็รอให้ถูกจับไปแล้วกัน”

ชายคนนั้นพูดไปพลางแสดงสีหน้าเอือมระอา

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท