ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 851

ตอนที่ 851

เฉินเฟิงมองเธอ พลางนึกย้อนถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อสักครู่นี้หวังจะถามอะไรบางอย่าง แต่เมื่อไตร่ตรองแล้วหากถามเธอไปโดยตรงเธอคงจะไม่ยอมตอบแน่นอน

ดังนั้นเฉินเฟิงจึงตัดสินใจกล่าวขอโทษกับเธอด้วยน้ำเสียงที่อ่อนโยน: “เรื่องเมื่อกี้นี้ฉันต้องขอโทษด้วย แต่ฉันรีบร้อนอยากจะช่วยเธอเท่านั้นจริงๆ ”

หลี่จื่อเยว่รู้สึกผ่อนคลายขึ้นมาทันทีที่ได้ยินคำขอโทษจากเฉินเฟิง เธอแอบลอบมองไปยังตัวเฉินเฟิงก่อนจะเปล่งเสียงอันน้อยใจออกมา: “คุณไม่ได้รังแกหนูจริงๆ นะ?”

เฉินเฟิงตอบกลับอย่างทันควัน: “ถ้าหากเธอไม่เชื่อ จะให้ฉันสาบานก็ได้”

เมื่อได้ยินแบบนั้นหลี่จื่อเยว่จึงรีบตอบกลับอย่างรวดเร็ว: “หนูเชื่อคุณก็สิ้นเรื่องแล้ว”

หลี่จื่อเยว่กลับไปเอนเข้ากับเบาะนั่งอีกครั้งหลังจากที่เมื่อสักครู่นี้เธอเด้งตัวขึ้นนั่งอย่างไม่ทันรู้ตัว ก่อนจะพูดต่อ: “แต่ว่าเมื่อกี้นี้เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่ หนูหลับไปแล้วไม่ใช่งั้นหรอ ?”

เฉินเฟิงจ้องมองใบหน้าของเธอที่ดูเหมือนจะมึนงงไม่ต่างกันพร้อมกับกล่าวถาม: “เธอจำอะไรไม่ได้เลยจริงๆ หรอ?จำไม่ได้เลยหรอว่าเมื่อกี้เธอทำอะไรลงไป ?”

หลี่จื่อเยว่ส่ายหน้าพลางพูด: “ไม่มีความทรงจำเลย”

เฉินเฟิงครุ่นคิดอย่างจริงจัง ในเมื่อคนตอนนี้หลี่จื่อเยว่ไม่มีปัญญาที่พูดออกมา ถ้าอย่างนั้นคงต้องกลับไปยังสถานที่เมื่อวานนี้ เพราะมีเพียงที่นั่นเท่านั้นที่จะทำให้รู้ถึงสาเหตุที่แท้จริงได้

เฉินเฟิงกล่าวปลอบใจหลี่จื่อเยว่สองสามคำ ก่อนจะเลี้ยวรถกลับไปยังสถานที่ก่อนหน้านี้อย่างรวดเร็ว

หลังจากที่พักผ่อนอยู่ข้างทางมาเป็นเวลาหนึ่งคืน ในช่วงบ่ายของวันถัดมาเฉินเฟิงก็ขับรถกลับมาถึงสถานที่ที่จัดกิจกรรมรอบกองไฟเสียที

หลี่จื่อเยว่ถามอย่างสงสัย: “ทำไมถึงมีแค่หนูที่เกิดปัญหาล่ะ คุณเองก็อยู่ด้วยไม่ใช่หรือไง ?”

เฉินเฟิงเองก็เคยคิดเรื่องนี้เหมือนกัน แต่สุดท้ายเขาเพียงคิดว่าคงเป็นเพราะร่างกายของตัวเองมีความแข็งแกร่งมากขึ้นเท่านั้น

เมื่อมาถึงที่ที่จัดกิจกรรมรอบกองไฟ ผู้คนมากมายก็มารวมตัวกันอยู่ที่นี่แล้ว ทั้งยังมีรถอีกหลายคันที่ดูคุ้นตาอีกด้วย

แต่ว่าเฉินเฟิงก็ไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้มากนัก ตอนนี้กองไฟตรงกลางทุ่งโล่งยังไม่ถูกก่อขึ้น จึงทำให้ผู้คนต่างรวมตัวกันเป็นกลุ่มเพื่อสนทนา และมีบางกลุ่มที่กำลังเล่นเกมกัน

ซึ่งทุกอย่างดูเหมือนจะลงตัวกันไปหมด

“ไม่มีใครเกิดเหตุการณ์เดียวกันกับหลี่จื่อเยว่เลยหรือไงกันนะ?” เฉินเฟิงแอบคิดอยู่ในใจ

แต่เมื่อมองดูสถานการณ์ในตอนนี้แล้ว ดูเหมือนว่าจะไม่มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆ

เขาเดินเข้าไปบริเวณนั้นเพื่อหวังจะไถ่ถาม

และสิ่งที่ทำให้คิดไม่ถึงคือเขาได้พบกับชายร่างบางที่เจอกันวันนั้นด้วย เฉินเฟิงที่เห็นเขาจึงเดินเข้าไปหาทันที

“พวกนายมาที่นี่ทุกวันเลยงั้นหรอ?” เฉินเฟิงถาม

ชายคนนั้นเหมือนจะยังจำเฉินเฟิงได้จึงทำให้เขาไม่ได้มีอาการแปลกใจอะไร ก่อนจะตอบกลับ : “นี่นายกำลังพูดอะไรกัน นายเองก็มาที่นี่ทุกวันไม่ใช่หรือไง?”

เฉินเฟิงมองเขาด้วยความสงสัย ก่อนจะถามขึ้นมาอีกครั้ง : “ทำไม?ทำไมพวกนายถึงมาที่นี่ทุกวันด้วย?”

ชายคนนั้นมีความสับสนอย่างมาก ก่อนตอบกลับเขาอย่างไม่ชัดเจน : “ก็เพื่อสวดภาวนายังไงหล่ะ!ขอเพียงสวรรค์ได้ยินคำภาวนาของเราแล้วเท่านั้นถึงจะหยุดได้”

เฉินเฟิงจ้องมองเขาอย่างไร้หนทางเข้าใจคำพูดของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงยอมแพ้ไปก่อนเท่านั้น

หลังจากออกมา เฉินเฟิงก็เดินกลับมาที่รถ ครั้งนี้เขาไม่อนุญาตให้หลี่จื่อเยว่ลงจากรถ เพราะกลัวว่าที่นี่จะทำให้เธอได้รับอันตรายอีกครั้ง

แต่ในตอนที่เฉินเฟิงขึ้นรถหลี่จื่อเยว่ก็ถามด้วยความกังวลทันที: “เป็นยังไงบ้าง?คุณได้ถามอะไรพวกเขาหรือเปล่า?”

เฉินเฟิงส่ายหน้าพร้อมกับพูด : “ตอนนี้ทุกอย่างล้วนไม่ชัดเจน เหมือนกับว่าคนพวกนี้จะถูกดึงดูดให้มาอยู่ที่นี่ รอให้ถึงตอนกลางคืนก็คงน่าจะมีเรื่องบางอย่างเกิดขึ้นมาให้เห็นเอง”

หลี่จื่อเยว่ที่ได้ยินแบบนั้นได้เพียงแค่พยักหน้ารับเท่านั้น

ทั้งสองคนนั่งรออยู่ในรถ กระทั่งกองไฟนั้นได้ถูกจุดขึ้นท่ามกลางทุ่งโล่งอีกครั้ง เฉินเฟิงถึงได้ลงรถไป

เสียงจังหวะเพลงค่อยๆ ดังขึ้นมาหลังจากที่มีการจุดไฟ เฉินเฟิงลองสำรวจดูอย่างถี่ถ้วนถึงได้เห็นว่าเสียงดนตรีนั้นดังมาจากรถที่พวกเขาขับมา

และหลังจากที่เสียงเพลงดังขึ้น กลุ่มหนุ่มสาวก็พากันเดินเข้าไปใกล้กองไฟ ก่อนจะเริ่มเต้นรำขึ้นมา เหมือนว่าพวกเขาเข้าไปรวมตัวตรงนั้นด้วยตัวเอง แต่ว่าเฉินเฟิงกลับคิดว่าในนั้นมีบางอย่างที่ผิดปกติ

ราวกับว่าเสียงดนตรีกำลังควบคุมพวกเขาเอาไว้

เฉินเฟิงพยายามสูดดมกลิ่นในอากาศ แต่ก็ไม่มีได้กลิ่นยาหอมสำหรับกล่อมประสาทอะไรแบบนั้นตามที่เขาได้คิดเอาไว้ เลยสักนิด แต่จะว่าไปหลี่จื่อเยว่ก็ไม่ได้เข้าใกล้หรือสัมผัสกับใครเลย นอกจากตัวเขาด้วย

แต่เมื่อมองดูไปยังคนที่ยืนล้อมอยู่ด้านนอกวง พวกเขาเหมือนจะไม่ได้ถูกเสียงดนตรีดึงดูดเลยสักนิด เฉินเฟิงเดินเข้าไป แล้วถามชายหนุ่มคนหนึ่งที่อยู่ตรงนั้น

“ทำไมคุณถึงไม่เข้าไปเต้นในนั้นหล่ะ?”

ชายคนนั้นตอบกลับ: “คุณไม่เห็นหรอว่าในนั้นมีแต่พวกคู่หนุ่มสาวเท่านั้น?”

เฉินเฟิงมองเขาพร้อมกับคิดว่าเขาคงจะเป็นชายโสด จากนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าจะพูดอะไรต่อดี

เมื่อคิดไปคิดมาเขายังคงถามออกมาอีกครั้ง: “แล้วคุณอยากจะเข้าไปเต้นรำตรงนั้นหรือเปล่า?”

ชายคนนั้นพยักหน้า: “แน่นอนว่าต้องอยากอยู่แล้ว รอให้ผมหาคู่เต้นรำของตัวเองได้ ผมก็จะเข้าไปเต้นรำกับพวกเขาในนั้น”

เฉินเฟิงสังเกตเห็นแววตาอันลุ่มหลงในความรักตอนที่เขาคนนั้นจ้องมองไปยังใจกลางกองไฟนั้น เฉินเฟิงจึงเชื่อเขาทันที ขอเพียงแค่มีคู่เต้นรำ เขาจะต้องเข้าไปเต้นรำในนั้นแน่นอน

แต่ตอนนี้ดูแล้วเหมือนจะไม่ใช่แค่คู่หนุ่มสาวที่อยู่ในนั้น แม้แต่คนที่ล้อมรอบอยู่ด้านนอกก็ถูกบางอย่างดึงดูดไปด้วย

และในตอนที่เขากำลังคิดวิเคราะห์อยู่นั่นเอง หลี่จื่อเยว่ก็เดินลงมาจากรถ ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยความปรารถนาอันลุ่มหลง และเดินตรงมายังบริเวณที่เฉินเฟิงยืนอยู่

ในขณะที่เฉินเฟิงกำลังจะถามว่าทำไมเธอถึงลงมา เขาก็ถูกเธอดึงแขนเอาไว้แล้วราวกับเธออยากจะเข้าไปตรงใจกลางนั้น

เฉินเฟิงต้องการที่จะหยุดการกระทำของเธอ ดังนั้นตอนที่ถูกเธอดึงตัวไปเขาจึงยืนนิ่งไม่ยอมขยับไปด้วย

แต่ในตอนที่หลี่จื่อเยว่ไม่สามารถดึงตัวเฉินเฟิงให้ไปยังข้างกองไฟนั้นได้ ร่างกายของเธอก็เริ่มมีอาการสั่นอย่างผิดปกติ ราวกับว่าอีกไม่นานมันจะกลายเป็นอาการชักขึ้นมา

เฉินเฟิงนึกย้อนไปถึงความทรมานของหลี่จื่อเยว่ในตอนที่เธอมีอาการชักก่อนหน้านี้ ทำให้เขาได้เพียงยอมแพ้ไปเท่านั้น

อีกอย่างเขาก็ยังอยากจะกลับไปสัมผัสกับบรรยากาศอันแปลกประหลาดนั้นอีกครั้งด้วย เพื่อลองหาสาเหตุของเรื่องที่เกิดขึ้น

ส่วนหลี่จื่อเยว่ที่ถูกปลดปล่อยก็กลับมามีพละกำลังอีกครั้ง ก่อนที่เธอจะลากตัวของเฉินเฟิงเข้าไปด้านใน จากนั้นร่างกายของเธอก็เริ่มเต้นรำขึ้นมาอย่างไม่ได้รู้ตัว

เฉินเฟิงที่เข้าไปในนั้นจึงทำได้เพียงขยับตัวเบาๆ ตามท่วงทำนองดนตรี โดยที่สายตาของเขาไม่ได้จ้องมองกับสิ่งที่อยู่ตรงหน้า แต่เขากลับหันไปกวาดตามองความเปลี่ยนแปลงของคนที่อยู่ข้างๆ แทน

พวกเขากำลังหมกมุ่นอยู่กับความลุ่มหลง คู่หนุ่มสาวโยกย้ายร่างกายของพวกเขาอย่างใกล้ชิดราวกับว่ากำลังมัวเมากับความสุขที่ได้รับ บางคนก็ปิดตาทั้งสองลงแล้วใช้ร่างกายสัมผัสกับเสียงดนตรีพร้อมกับความใกล้ชิดและกลิ่นหอมที่แผ่ซ่านออกมาจากอีกฝ่าย

ท้องฟ้าค่อยๆ มืดลงอย่างช้าๆ ทำให้แสงที่สาดส่องออกมาจากกองไฟในทุ่งยิ่งสว่างมากขึ้น แสงไฟกระทบลงบนใบหน้าของทุกคนจนแดงระเรื่อราวกับเมฆที่ถูกกระทบในยามพระอาทิตย์ตกดิน

และยิ่งเหมือนกับความลุ่มร้อนที่เกิดขึ้นจากความตื่นเต้น

เขาเหลียวหันกลับมามองหลี่จื่อเยวว่ที่อยู่ข้างกาย เธอก็ไม่ได้ต่างอะไรกับคนพวกนั้นเลย

เธอเต้นรำอยู่ข้างกายของเฉินเฟิงอย่างต่อเนื่องพร้อมทั้งขยับเข้ามาแนบชิดเขาเรื่อยๆ ราวกับว่าต้องการจะดึงตัวเองและเฉินเข้ามาแนบชิดอย่างไร้ช่องว่าง

เฉินเฟิงกระซิบเรียกเบาๆ : “หลี่จื่อเยว่ ตื่นเดี๋ยวนี้!”

แต่ว่าเธอกลับไม่ได้มีการตอบสนองใดๆ เฉินเฟิงจึงลองกระตุกเสื้อของเธอแต่ยังคงไม่มีการตอบสนองดังเดิม

หลี่จื่อเยว่จับกระโปรงของตัวเองขึ้นมาพร้อมกับดึงตัวเขาไปเต้นรำราวกับว่ากำลังโยกย้ายโบยบินไปตามสายลม จนทำให้พวกเขาเหมือนคู่รักที่สนิทสนมใกล้ชิดกัน

เมื่อมองดูสิ่งที่อยู่ตรงหน้าได้สักพัก และได้เห็นพวกเขาทุกคนเหมือนคนกำลังมัวเมาเท่านั้น เฉินเฟิงจึงไม่อยากจะอยู่ที่นี่อีกต่อไปได้

บางทีทุกอย่างนี้อาจเกิดมาจากเสียงดนตรี

เขาเดินออกมาจากลานเต้นรำ มุ่งตรงไปยังที่มาของเสียงดนตรีจากรถที่จอดอยู่ข้างๆ

เดิมที่เขาคิดว่าในเมื่ออยู่ที่นี่แล้วดังนั้นหลี่จื่อเยว่คงจะไม่เป็นอะไรแล้ว แต่หลังจากที่เขาออกมา เฉินเฟิงก็เพิ่งสังเกตเห็นว่าตอนนี้เธอขยับตัวไปอยู่ข้างชายหนุ่มที่มีคู่เต้นรำแล้ว

จากนั้นพวกเขาสามคนก็เต้นรำด้วยกัน

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท