ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 843

ตอนที่ 843

เมื่อทั้งสองขึ้นรถ เขาก็ขับรถออกไปทันที รถอันโดดเดี่ยววิ่งแล่นอยู่กลางถนนบนพื้นที่อันกว้างใหญ่ มุ่งทะยานไปสู่เส้นทางสุดขอบฟ้า

ในเวลานี้บนท้องฟ้าเต็มไปด้วยปุยเมฆสีขาวสะอาด ท่ามกลางผืนฟ้าอันไร้ขอบเขตนี้ หมู่เมฆค่อยๆ เปลี่ยนรูปร่าง ราวกับได้เห็นภาพลวงตา

ก่อนที่แสงแดดอันอบอุ่นสาดส่องมาบนตัวของเฉินเฟิงในขณะที่เขากำลังขับรถ โดยมีชิงจือนั่งอยู่ข้างๆ ส่วนเยว่เอ๋อที่นั่งอยู่ด้านหลังก็ถอดกระเป๋าเป้ของตัวเองมาวางไว้หน้าตักเหมือนว่าต้องการจะงีบหลับ

หลังจากผ่านไปไม่นานเขาก็ขับรถเข้าไปในปั๊มน้ำมันแห่งหนึ่ง เฉินเฟิงเดินลงจากรถแล้วปล่อยให้พนักงานเติมน้ำมันไปในขณะที่เขาเดินลงไปยังร้านสะดวกซื้อที่อยู่ข้างๆ เพื่อซื้อของกินและน้ำดื่ม

กระทั่งเขาเดินออกมาจากร้านก็เห็นว่ามีรถตู้SUVสีดำหลายคันกำลังขับแล่นเข้ามาในปั๊มน้ำมัน ก่อนจะล้อมรถของเฉินเฟิงเอาไว้

เยว่เอ๋อที่นั่งอยู่ด้านหลังเห็นแบบนั้นถึงกับตื่นตระหนกขึ้นมาซึ่งเฉินเฟิงก็พอจะคาดเดาได้เลยว่าอีกฝ่ายคือใคร

เขารีบสาวเท้าเดินกลับไปทันที

แล้วคนที่เดินลงมาจากรถก็คือชายชราที่มือถือไม้เท้าคนนั้นจริงๆ ไม้เท้าเหล็กนั่นของเขากระทบลงบนพื้นจนเกิดเสียงกระแทกดังขึ้นมา

เขาเหลียวหันไปมองเฉินเฟิงที่กำลังเดินออกมาจากร้านสะดวกซื้อ

ก่อนจะพูดด้วยเสียงที่เคร่งขรึม: “ในเมื่อคุณชายไม่เชื่อในตัวผม ก็ไม่ควรจะทำเรื่องแบบนี้

เฉินเฟิงแอบหัวเราะเยาะเย้ยอยู่ในใจ นี่ไม่ใช่เรื่องที่เขาอยากจะทำสักหน่อย

แต่ด้วยเดิมทีเขาไม่ค่อยชอบใจกับการได้เจอกับเขาอยู่แล้ว จึงตอบกลับอย่างไม่ไยดี

“คุณพาคนมาเยอะขนาดนี้ ดูแล้วคงคิดจะมาแย่งคนกลับไปสินะ แต่ไม่รู้ว่าคุณจะมีความสามารถนั้นหรือเปล่า”

ชายชราตอบกลับอย่างเยือกเย็น: “ผมรู้ว่าคุณอยู่ในระดับชั้นสูง ในดินแดนแห่งนี้คนที่จะเอาชนะคุณได้คงมีไม่มาก แต่หากคุณกล้าดูถูกนักสู้แห่งใต้หล้า คุณก็อยู่ไม่ไกลจากความตายมากแล้ว”

เฉินเฟิงตอบกลับพร้อมรอยยิ้ม: “ผมไม่ได้ดูถูกนักสู้แห่งใต้หล้าหรอก หรอก ผมก็แค่ดูถูกคุณเท่านั้น”

สีหน้าของชายชราเปลี่ยนไปอย่างน่ากลัว ก่อนที่จะมีชายคนหนึ่งเดินลงมาจากรถ เขาใช้มือลูบหนวดเล็กๆ ที่ห้อยลงมาตรงคาง แล้วมองเฉินเฟิงด้วยความเบื่อหน่าย

“คุณก็คือเฉินเฟิง?ดูแล้วในเมื่อคุณสามารถหนีรอดมาจากสำนักเทียนซานได้ แสดงว่าคุณก็คงมีความสามารถไม่น้อยเลยทีเดียว”

เฉินเฟิงเริ่มระมัดระวังตัวต่อการกระทำของอีกฝ่าย เขาไม่เคยเจอกับผู้ชายคนนี้มาก่อน แต่ในเมื่อหลังจากที่รู้จักตัวตนของเขาแล้วยังกล้าพูดจาแบบนี้ แสดงว่าเขาคงจะไม่ใช่คนธรรมดาไร้ความสามารถแน่นอน

“จะว่าไปคุณเป็นใครอีก หรือจะเป็นแค่คนนิรนามคนหนึ่ง ซึ่งผมเองก็ยังคร้านที่จะเล่นด้วย”

ชายหนวดแคระยิ้มเยาะออกมา : “งั้นก็จะทำให้คุณได้รู้ว่าคุณจะต้องมาตายในเงื้อมมือของคนที่ถูกขนานนามว่าตู๋กูหยุนกระเรียนพันลี้”

เฉินเฟิงได้ยินอย่างนั้นจึงพูดขึ้นมาทันที: “ที่แท้ก็เป็นคุณนี่เอง!”

ชื่อนี้เฉินเฟิงเคยได้ยินมาก่อน เขานั้นเป็นนักต่อสู้ที่มีชื่อเสียงที่สุดในโม่เป่ย แต่ด้วยนิสัยรักสันโดษของเขาจึงทำให้น้อยคนนักที่จะได้ยินเรื่องราวของเขา

และเรื่องที่มีชื่อเสียงของเขาที่สุดคือเมื่อสามปีก่อนเขาสามารถต่อสู้กับมหาปรมาจารย์ท่านหนึ่งได้ถึงสิบแปดกระบวนท่ากว่าจะล้มลงไปได้ ซึ่งสามารถนับได้ว่าเขาเป็นหั้วจิ้งชั้นสูงสุดผู้มีฝีมือชั้นยอดเลยทีเดียว

เฉินเฟิงรู้ดีว่าตัวเองไม่มีปัญญาต่อสู้กับชิงจือเกินสามกระบวนท่า ฉะนั้นดูท่าแล้วอีกฝ่ายน่าจะมีความเก่งกาจกว่าเขามาก

แต่ว่าเฉินเฟิงไม่ได้มีนิสัยยอมแพ้ก่อนที่จะลงมือสู้ และเลวร้ายไปกว่านั้นคือยังมีอีกคนที่นั่งรออยู่ในรถด้วย

ในตอนนั้นเองชายชราที่อยู่อีกฝั่งก็พูดขึ้น : “คุณชายเฉิน ก่อนหน้านี้ด้วยความสัมพันธ์ของพวกเรา ผมถึงไม่ได้คิดทำอะไรกับคุณ แม้แต่ทางสำนักเทียนซานผมก็ไม่ได้แจ้งข่าวของคุณด้วย แต่คิดไม่ถึงเลยว่าคุณจะกล้าทำเรื่องน่ารังเกียจแบบนี้ได้ และเมื่อเป็นแบบนี้ผมคงจะเอาคุณไว้ไม่ได้แล้ว”

เฉินเฟิงตอกกลับทันที: “อย่ามาเสียเวลาพูดไร้สาระ จะสู้ก็รีบสู้ ผมจะเป็นคู่มือให้เอง”

ยังพูดไม่ทันขาดคำ ตู๋กูหยุนก็กระโจนเข้ามาหาเขาแล้ว ร่างกายของเขานั้นแข็งแกร่งไร้เทียมทัน เพราะเพียงแค่เขาตวาดหมัดออกมาเบาๆ ก็สามารถนำเอาลมพัดผ่านเข้ามาด้วย

เฉินเฟิงที่เห็นอย่างนั้นจึงรีบหลบทันที แต่ทว่าอีกฝ่ายกลับปล่อยหมัดออกมาอีกครั้งอย่างรวดเร็ว หมัดนั้นดูรุนแรงอย่างมาก ซึ่งถ้าหากโดนหมัดนี้ซัดเข้าไป เกรงว่าเขาคงจะต้องได้รับบาดเจ็บสาหัสแน่นอน และมันอาจจะบาดเจ็บไปถึงอวัยวะภายในเลยก็ว่าได้

เฉินเฟิงที่คิดได้แบบนั้นก็รีบถอยหลังไปอย่างรวดเร็ว จนกระแทกเข้ากับประตูกระจกที่อยู่ด้านหลัง ด้วยแผ่นกระจกนั้นถูกออกแบบมาให้มีความแข็งแรงทนทานจึงไม่ได้เสียหายอะไร แต่แล้วตู๋กูหยุนก็กระโจนเข้ามาก่อนจะฟาดเท้าเข้าไปโดนกระจกจนแตก

เหล่าพนักงานที่เมื่อสักครู่นี้ที่ดูยังคึกคักอยู่ ตอนนี้ต่างพากันหนีไปหาที่กำบังตัว บางคนก็พยายามหยิบโทรศัพท์ออกมาเพื่อร้องขอความช่วยเหลือ ในขณะที่บางคนก็หลบซ่อนอยู่ในมุมไม่กล้าออกมา

ครั้งนี้เฉินเฟิงหลบฝ่าเท้าของตู๋กูหยุนได้อีกครั้ง ส่วนของที่เสียหายในครั้งนี้คือป้ายหน้าร้าน ซึ่งการเคลื่อนไหวที่รุนแรงพร้อมด้วยความรวดเร็ว ทำให้ยากที่จะรับจะมือได้

ตอนนี้ดูจากสถานการณ์เฉินเฟิงทำได้แค่เพียงหลบเลี่ยงอย่างต่อเนื่องเท่านั้น แม้ในใจของเขาก็แอบกรีดร้องออกมา เพราะชายคนนั้นดันมีความเก่งกาจถึงขั้นที่สามารถโจมตีได้อย่างต่อเนื่องจนไม่มีโอกาสให้เฉินเฟิงได้ตอบโต้เลย

แต่ถึงอย่างนั้นเขาจะไม่ยอมแพ้เด็ดขาด

และแล้วในที่สุดเฉินเฟิงก็สามารถหาโอกาสเอาคืนได้ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังผ่อนลมหายใจ เขาปล่อยกระบวนท่าติดต่อกันจนอีกฝ่ายต้องถอยออกไปเพื่อปัดป้อง

ซึ่งในตอนที่พวกเขาสองคนกำลังต่อสู้กันไปมาอยู่นั้น ชายชราก็ถือไม้เท้าพยุงตัวเองเดินไปยังรถของเฉินเฟิง เขาเปิดประตูออก โดยที่เยว่เอ๋อกำลังนั่งอยู่ด้านในมองมายังเขาด้วยความหมดอาลัย

“ยังจะไม่ออกมาอีก ทำไมยิ่งโตยิ่งไม่เชื่อฟังแล้วนะ”

ทว่าเยว่เอ๋อกลับหวาดกลัวจนถอยไปข้างหลัง ชายชราที่เห็นอย่างนั้นก็หวังจะเข้าไปจับตัว

ชิงจือคว้าข้อมือของชายชราเอาไว้ก่อนจะพูดด้วยเสียงเบาบาง: “ฉันเป็นคนพาเธอมา การที่เธอจะกลับไปด้วยหรือไม่ฉันเป็นคนตัดสินเอง”

ชายชรามองไปยังชิงจือ เขาไม่คิดเลยว่าชิงจือจะเข้ามาขัดขวางเขาแบบนี้ แต่น่าเสียดายที่เขาไม่รู้จักชิงจือฉะนั้นเขาจึงยิ่งใช้น้ำเสียงข่มขู่มากยิ่งขึ้น

“แม่สาว ฉันว่าเธออย่าเข้ามายุ่งจะดีกว่า”

ชิงจือไม่พูดอะไรทั้งนั้นก่อนจะผลักเขาออกไป

ชายชราถอยหลังไปแม้กระทั่งไม้เท้ายังไม่สามารถช่วยพยุงเอาไว้ได้อีกแล้ว แต่ยังโชคดีที่ด้านหลังมีคนเข้ามาช่วยประคองเขาไว้ จึงทำให้เขาไม่ได้ล้มลงไป

ส่วนอีกด้านหนึ่ง การต่อสู้ระหว่างเฉินเฟิงและตู๋กูหยุนก็ยังคงดำเนินต่อไปเรื่อยๆ อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยที่เฉินเฟิงดูจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบเล็กน้อย

“ก็ดี!” ชายชราอุทานออกมา

“ในเมื่อเป็นแบบนี้ ก็อย่ามาหาว่าฉันไม่เกรงใจแล้วกัน”

เมื่อพูดจบเขาก็ส่งสัญญาณมือให้คนที่อยู่ข้างๆ เริ่มลงมือได้ ก่อนที่ชายกลุ่มหนึ่งจะเดินลงจากรถพร้อมกับอาวุธมากมายที่อยู่ในมือ

แต่สิ่งที่น่าเสียดายคือคนที่พวกเขากำลังเผชิญหน้าคือชิงจือ

ชิงจือเปิดประตูรถออกพลางเดินลงมาจากรถอย่างช้าๆ เพื่อรับมือกับพวกเขาที่ฝีมือไม่เทียบเท่ากับเธอเลยแม้แต่น้อย

และเพราะอย่างนั้นเธอเลยตัดสินใจจะจบเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด

ในขณะที่ตู๋กูหยุนกำลังฟาดเท้าใส่เฉินเฟิงจนถอยหลังไปสองก้าว ทางด้านชิงจือก็ได้กระทืบพวกเขาที่อยู่ตรงนั้นจนกระเด็นไปนอนลงกับพื้นระเนระนาดได้หลายคนแล้ว

ชายชราที่เห็นแบบนั้นจึงถอยเข้าไปอิงกับรถ แม้แต่ไม้เท้ายังไม่สามารถพยุงให้เขายืนได้อีกแล้ว ตอนนี้เขาได้แต่มองไปยังชิงจือด้วยความหวาดกลัว

“เธอเป็นใครกันแน่”

ซึ่งในตอนนั้นเองตู๋กูหยุนที่ต่อสู้กับเฉินเฟิงก็สังเกตเห็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทางนั้น

ตอนที่เขาได้เห็นใบหน้าของชิงจือก็ถึงกับตะลึงงันไปเลยทันที จึงถูกเฉินเฟิงที่ใช้โอกาสในตอนนั้นปล่อยหมัดใส่เขาทันที

ปากของเขาพึมพำออกมา: “ทำไมเธอถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”

แต่เฉินเฟิงกลับไม่สนใจว่าเขากำลังหวั่นใจกลัวอะไร เพียงแต่ตวาดฝ่าเท้าออกไปกระแทกบนใบหน้าของเขา

ตู๋กูหยุนที่เรียกสติกลับมาได้ใช้มือทั้งสองประกบใบหน้าเอาไว้ เขาเพียงแต่โดนเตะจนถอยหลังไปหลายก้าว แต่ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไรมากมาย

เขามองไปยังเฉินเฟิงก่อนจะพูดขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่เย่อหยิ่ง: “คิดไม่ถึงเลยว่าเธอจะมาอยู่กับคุณได้ ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นวันนี้ผมจะไว้ชีวิตคุณไปก่อน หากได้เจอกันครั้งหน้าผมไม่มีทางออมมือให้คุณอีกเด็ดขาด”

เขาพูดจบก็หันหลังวิ่งหนีไป เฉินเฟิงเห็นดังนั้นจึงรีบวิ่งตามไปทันที แต่เมื่อหันไปมองยังชิงจือ เขาก็ล้มเลิกความคิดนั้นไป

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท