ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 850

ตอนที่ 850

แต่ทางด้านเฉินเฟิงเองที่เคยฝึกฝนการต่อสู้มาก็เริ่มทำความคุ้นชินได้อย่างรวดเร็ว

และเพียงไม่นานเขาก็สามารถเต้นตามจังหวะของคนอื่นๆ ได้แล้ว จนกลมกลืนเป็นนักเต้นคนหนึ่งในนั้น

ด้วยความใกล้ชิดที่ขยับเข้ามาเรื่อยๆ ทำให้เฉินเฟิงสามารถรับรู้ถึงกลิ่นหอมอ่อนๆ จากตัวของหลี่จื่อเยว่ กระโปรงสีแดงของเธอเริงระบำอย่างพลิ้วไหว อีกทั้งเธอยังเขย่าแขนของเขาไปมาอย่างไม่หยุดหย่อน

และมีอยู่ครู่หนึ่งที่ทำให้เฉินเฟิงเกิดความลุ่มหลงขึ้นมา

หลี่จื่อเยว่หลับตาลงอย่างไม่รู้ตัว ราวกับว่าเธอไม่สนใจเลยว่าเฉินเฟิงจะสัมผัสตัวเธออยู่ ทั้งยังไม่ใส่ใจอีกด้วยว่าตัวเองจะแนบชิดกับเฉินเฟิงอีกด้วย เธอเพียงดยกย้ายร่างกายไปตามเสียงดนตรีเท่านั้น

และเพียงเวลาไม่นาน ทุกอย่างก็เริ่มสงบลงอย่างช้าๆ เสียงดนตรีเองก็ค่อยๆ อ่อนโยน

หลี่จื่อเยว่แหงนหน้าขึ้นสามารถมองเห็นใบหน้าของเฉินเฟิง แต่ไม่รู้ว่าเพราะสาเหตุใดทำให้เธอหลบหน้าไปไม่กล้าที่จะมอง

ทว่าเฉินเฟิงกลับไม่ได้รู้ตัวเลยสักนิด เขาเพียงแค่สงสัยว่าทำไมกลุ่มคนนี้ถึงไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้ากันเลย

ส่วนเรื่องที่เขาไม่ได้รู้สึกเหนื่อยล้าเลยเป็นเพราะว่าร่างกายของเขามีความแข็งแรงกว่าคนทั่วไปนั่นเอง แต่ดูเหมือนว่าร่างกายของหลี่จื่อเยว่จะเต็มไปด้วยความพละกำลัง ซึ่งทำให้เขายิ่งเกิดความสงสัยมากขึ้นเรื่อยๆ

เขาดึงตัวหลี่จื่อเยว่เข้ามาอยู่ในอ้อมแขนตัวเอง

โดยที่หลี่จื่อเยว่ไม่มีการต่อต้านใดเลยสักนิด เธอเพียงปล่อยให้เฉินเฟิงกอดเธอไว้ในอ้อมแขนของเขาอยู่อย่างนั้น

และสิ่งนี้ก็ยิ่งน่าสงสัยมากขึ้น เพราะต่อให้เขาและหลี่จื่อเยว่จะมีความสนิทสนมกันมากขึ้นแล้ว แต่เขาไม่เชื่อว่าหลี่จื่อเยว่จะยินยอมให้เขาดึงเอาตัวเธอเข้ามากอดแบบนี้โดยไม่ต่อต้านใดๆ แน่นอน

เขาก้มลงมองหน้าเธออย่างละเอียด ตอนนี้สีหน้าของเธอนั้นแดงระเรื่ออย่างเห็นได้ชัดเหมือนกับกำลังเมาเหล้า

ซึ่งเฉินเฟิงสามารถรับรู้ได้เลยว่านั่นไม่ได้เกิดจากแสงของกองไฟที่สาดส่องมากระทบแน่นอน และตอนนี้ร่างกายของเธอก็มีไอร้อนแผ่ออกมาอย่างต่อเนื่องอีกด้วย และพอเฉินเฟิงหันไปดูคนอื่นๆ ที่อยู่รอบๆ ก็พบว่าพวกเขาก็เป็นเหมือนกัน แต่กลับไม่มีใครสังเกตเห็นเรื่องนี้เลย

บางทีอาจจะมีบางอย่างในอากาศ เมื่อมีความคิดแบบนี้ เฉินเฟิงจึงคิดจะพาหลี่จื่อเยว่ออกไปจากตรงนี้

แต่เขากลับพบว่าร่างกายของตัวเองก็เริ่มมีไอความร้อนแผ่ออกมาเหมือนกัน และยิ่งในตอนที่เขามองดูหลี่จื่อเยว่ก็เกิดความรู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมาก และเพียงแค่ได้มองเธอแบบนี้เขาก็เหมือนจะไม่สนใจอะไรอีกแล้ว

เฉินเฟิงรีบสะบัดหัวของตัวเองเพื่อที่จะทำให้ตัวเขาได้สติขึ้นมา

พวกเขาจะต้องถูกวางยาแน่นอน และในตอนที่เขากำลังสับสน เขาก็รับรู้ถึงมือคู่หนึ่งที่โอบรัดเขาเอาไว้ ซึ่งก็คือหลี่จื่อเยว่

เขาอยากที่จะดึงตัวเธอออกแล้วพาหลี่จื่อเยว่หนีออกไปจากที่นี่ซะ แต่เหมือนว่าเขาจะได้สูดกลิ่นหอมบนร่างของหลี่จื่อเยว่เข้าไป และกลิ่นนั้นก็ทำให้เฉินเฟิงไร้ความสามารถในการต่อต้านไปในทันที

จากนั้นมือทั้งสองของเขาก็โอบกอดร่างอันอ่อนนุ่มและบอบบางที่อยู่ในอ้อมแขนนั้นอีกครั้ง

แล้วเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น เขาก็จำไม่ได้อีกเลย

ราวกับว่าได้สะดุ้งตื่นมาจากฝันร้าย เฉินเฟิงกระตุกร่างกายลุกขึ้นนั่งอย่างรวดเร็ว พอมองดูรอบๆ กลับพบว่าพวกเขายังอยู่ในสถานที่เมื่อวานนี้ ส่วนหลี่จื่อเยว่ที่เอนตัวหลับอยู่ข้างๆ เขาก็สะดุ้งตื่นขึ้นมาจากการเคลื่อนไหวเมื่อสักครู่นี้ของเขา

และสิ่งที่เกิดขึ้นนี้ทำให้เฉินเฟิงรู้สึกตื่นตระหนกขึ้นมา ถ้าหากว่ามีคนต้องการทำไม่ดีกับพวกเขา ถ้าอย่างนั้นเฉินเฟิงที่แม้อยากจะต่อต้านก็คงจะทำไม่ได้

ทางด้านหนุ่มสาวที่อยู่ข้างๆ ก็ค่อยๆ เริ่มตื่นขึ้นมาทีละคน แต่ดูเหมือนว่าพวกเขาจะไม่ได้ใส่ใจเรื่องนี้มากนัก พวกเขาลุกขึ้นยืนดูแล้วไม่มีอะไรเกิดขึ้น จากนั้นพวกเขาก็แยกย้ายออกไปจากที่นี่

ราวกับว่าเรื่องแบบนี้เป็นเรื่องปกติสำหรับพวกเขา

เฉินเฟิงครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง พร้อมทั้งสังเกตร่างกายของตัวเองจนมั่นใจว่าไม่ได้เกิดเรื่องอะไรขึ้น ส่วนหลี่จื่อเยว่ที่อยู่ข้างๆ ก็ดูปกติที่ดีทุกอย่าง จึงทำให้เขาโล่งอกขึ้นมา

แต่ในใจจะไม่ปล่อยเรื่องนี้ได้

เขาลากตัวหลี่จื่อเยว่กลับไปที่รถ เขานั่งลงตรงที่นั่งคนขับก่อนจะพยายามคิดถึงเรื่องที่เกิดเมื่อคืนนี้อย่างละเอียด เผื่อว่าบางทีเขาอาจจะรับรู้ถึงบางอย่างที่ผิดปกติ

แต่ไม่ว่าเขาจะพยายามคิดยังไงก็ไม่อาจนึกถึงส่วนไหนที่ดูน่าสงสัยได้เลย อีกทั้งความทรงจำส่วนมากของเขาก็ถูกความอบอุ่นในตอนที่ได้อยู่ร่วมกับหลี่จื่อเยว่บดบังไปจนหมด

และเขาก็นึกขึ้นได้เพียงใบหน้ายิ้มแย้มของหลี่จื่อเยว่ ไม่ก็นึกถึงกลิ่นอันหอมละมุนบนร่างกายของเธอรวมทั้งความใกล้ชิดอันแสนอ่อนโยนนั้น

เฉินเฟิงเตรียมจะหยุดคิดเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดไปก่อน เขาเหลียวหันไปมองดูหลี่จื่อเยว่ แต่คงเป็นเพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นเมื่อคืนนี้ทำให้หลี่จื่อเยว่พยายามหลบสายตาของเฉินเฟิงอยู่ตลอดเวลา

เฉินฟิงเองก็รับรู้ถึงความน่าอึดอัดนี้ ดังนั้นเขาจึงล้มเลิกสิ่งที่ตัวเองอยากจะถาม ก่อนจะขับรถออกไปจากตรงนั้นด้วยความเงียบอันน่าประหลาดนี้

แต่เมื่อขับรถไปได้เพียงไม่นาน เขาก็รู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่น่าจะจบลงง่ายดายขนาดนี้ แต่เขาก็ไม่อยากที่จะกลับไปที่นั่นอีก เพราะอย่างไรเสียพวกเขาก็ไม่ได้รับบาดเจ็บอะไร

แต่แล้วเมื่อตกกลางคืน เหตุการณ์ก็เปลี่ยนไปอย่างไม่คาดฝัน

ในช่วงเวลาที่ใกล้เคียงกับเมื่อคืนนี้ หลี่จื่อเยว่ที่นั่งอยู่ด้านหลังก็เหมือนจะหลับไปแล้ว เธอนั่งพิงอยู่ตรงนั้น แต่กลับมีการขยับตัวเต้นรำอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้ว่าพื้นที่ในรถจะมีอยู่อย่างจำกัดแต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้สนใจเลยแม้แต่น้อย ทั้งยังพยายามจะลุกขึ้นมาเต้นอีกต่างหาก

“เธอกำลังทำอะไรเนี่ย?” เฉินเฟิงถาม

หลี่จื่อเยว่ไม่มีการตอบสนองกลับใดๆ เพียงแต่ขยับตามท่วงท่าที่ตัวเองอยากทำเท่านั้น

“นี่!หลี่จื่อเยว่” เฉินเฟิงตะโกนใส่เธอ: “อย่ามาเล่นตลก เรื่องนี้มันไม่ตลกเลยนะ”

แต่นั่นยิ่งทำให้เห็นว่าหลี่จื่อเยว่ไม่ได้ยินสิ่งที่เฉินเฟิงพูดเลย

เฉินเฟิงรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างมาก เขารีบเลี้ยวรถเข้าข้างทางทันที ก่อนจะเดินลงไปเปิดประตูหลังเพื่อดูอาการของหลี่จื่อเยว่ แต่ในตอนที่เขาเข้าไปดูก็เห็นว่าตอนนี้เธอกำลังนอนอยู่บนเบาะรถ ร่างกายเกิดอาการชักกระตุกอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับมีน้ำลายไหลออกมาจากมุมปากจนเปื้อนลงบนชุดกระโปรงสีแดงของเธอจนกลายเป็นจุดๆ

เมื่อเห็นอย่างนั้นเฉินเฟิงจึงเข้าใจได้เลยว่าหลี่จื่อเยว่ไม่ได้ล้อเล่นอีกแล้ว

เขาอุ้มเธอลงมาจากที่นั่งด้านหลังแล้ววางเธอลงบนพื้น โดยพยายามทำให้เธอหายใจอย่างสะดวกมากที่สุด พร้อมกับพยายามหยุดร่างกายที่กำลังชักกระตุกไม่หยุดของเธอ

เมื่อทำแบบนี้ร่างกายของเธอก็เริ่มหยุดกระตุก ผ่านไปสักพัก ร่างกายของหลี่จื่อเยว่ก็สงบลง การหายใจก็กลับมาราบรื่นมากขึ้น

แต่ถึงอย่างนั้นเฉินเฟิงยังคงไม่ยอมปล่อยเธอ

เพียงไม่นานนักหลี่จื่อเยว่ก็เหมือนตื่นขึ้นมาจากฝันสักที เธอมองเห็นเฉินเฟิงที่กำลังอยู่ตรงหน้าของตัวเองอีกทั้งแขนทั้งสองข้างก็ถูกเขากดเอาไว้ จึงทำให้เธอคิดถึงเรื่องไม่ดีบางอย่างขึ้น ก่อนจะกรีดร้องออกมาเสียงดัง

“อ๊า!คุณจะทำอะไร” เมื่อพูดไปเธอก็พยายามที่จะหลุดจากการควบคุมของเฉินเฟิง

เฉินเฟิงมองดูเธอที่เหมือนว่าจะตื่นแล้วจริงๆ จึงค่อยๆ ปล่อยเธอ

“คุณทำอะไรกับหนู?” หลังจากที่เฉินเฟิงปล่อยหลี่จื่อเยว่ เธอก็โอบปกป้องตัวเองด้วยความหวาดกลัว พร้อมกับมองเฉินเฟิงด้วยความตกใจ

เฉินเฟิงถอนหายใจออกมาอย่างโล่งใจ แต่บนใบหน้าของเขายังคงความแข็งกระด้าง : “ฉันกำลังช่วยเธออยู่ เธอดูไม่ออกหรือไง ?”

“มีใครที่ช่วยคนแบบนี้เหมือนคุณกัน?” หลี่จื่อเยว่ยังกล่าวด้วยความข้องใจ

แต่เฉินเฟิงกลับไม่อยากจะถกเถียงกับเธอ เขากำลังครุ่นคิดว่าเรื่องที่เกิดกับหลี่จื่อเยว่ในตอนนี้จะต้องมีความเกี่ยวข้องกับเรื่องประหลาดที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้แน่นอน

เขาหันไปจ้องมองท่าทีของหลี่จื่อเยว่หวังจะสังเกตความผิดปกติบางอย่างในตัวเธอ

เมื่อถูกจ้องมองด้วยสายตาน่าแปลกแบบนี้หลี่จื่อเยว่จึงแย้งด้วยความขุ่นเคือง “ยังจะดูอีก คุณนี่มันคนนิสัยไม่ดีจริงๆ หนูไม่อยากสนใจคุณแล้ว”

เมื่อพูดจบเธอก็ลุกขึ้นแล้วกลับไปยังรถ

แต่เฉินเฟิงไม่ได้ใส่ใจอะไรกับเรื่องแบบนี้ เขาเพียงกำลังพิจารณาว่าควรจะกลับไปตรวจสอบเรื่องนี้ให้หายข้องใจก่อนดีกว่า

กระทั่งเขาลุกขึ้นยืนแล้วกลับไปในรถ

หลี่จื่อเยว่ก็นั่งกอดเข่าด้วยท่าทางน้อยใจอย่างมากอยู่ตรงเบาะหลังแล้ว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท