ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 857

ตอนที่ 857

และคำตอบอันเด็ดเดี่ยวนี้ของเฉินเฟิงทำให้เซียงหลันเหมือนจะสูญเสียความหวังสุดท้ายไปในพริบตา เธอทรุดตัวลงนั่งกับพื้นโดยไม่ขวางทางเฉินเฟิงอีก

เฉินเฟิงปล่อยเธอไปก่อนจะมุ่งหน้าไปยังทางที่เคยเข้ามา

แต่กระทั่งตอนที่เขากำลังจะเดินออกจากประตูใหญ่ไป หลินเฉิงจื้อก็เข้ามาขวางทางเขาไว้ด้วยอีกคน

ตอนนี้เขาไม่ได้ต่างอะไรกับเซียงหลันเลย ทว่าเขาแค่ไม่ได้ร้องขอด้วยท่าทางที่ตกต่ำแบบนั้น ก่อนจะถามออกมา : “ต้องทำยังไงคุณถึงจะยอมออกมือช่วยเหลือ ”

เฺฉินเฟิงมองดูใบหน้าที่ยังคงนิ่งเฉยของเขา พลางตอบกลับอย่างเย็นชา : “ช่องว่างในการเข้าหากันเพียงครั้งเดียวของพวกเรายังดูไม่เป็นมิตรแบบนี้ คุณคิดว่าผมจะยังช่วยพวกคุณได้อย่างไร”

“ผมเข้าใจแล้ว” เมื่อพูดจบเขาก็หลีกทางให้

ท้องฟ้ามืดลง แต่หลี่จื่อเยว่ยังคงไร้สติอยู่อย่างนั้น เฉินเฟิงจึงพาหลี่จื่อเยว่กลับมาพักในเมือง

และเขาก็นั่งเฝ้าอยู่ข้างกายหลี่จื่อเยว่ไม่ไปไหน เพื่อรอจนกว่าเธอจะฟื้นขึ้นมา

และในที่สุดหลี่จื่อเยว่ก็ค่อยๆ ลืมตาขึ้นมา หลังจากที่เหมือนกับได้ตื่นมาจากฝัน สิ่งแรกที่เธอได้เห็นก็คือเฉินเฟิง

ทว่าสำหรับเธอแล้วทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นเธอจำอะไรไม่ได้เลย ดังนั้นจึงเกิดความสงสัยขึ้นมาว่าทำไมตัวเองถึงมานอนอยู่ที่นี่ได้

เฉินเฟิงมองเธอด้วยรอยยิ้ม แต่ใบหน้าของหลี่จื่อเยว่กลับเต็มไปด้วยความงุนงง ซึ่งเฉินเฟิงเองก็ไม่ได้คิดที่จะอธิบายอะไรกับเธอทั้งสิ้น

เขาเพียงบอกให้เธอพักผ่อนเยอะๆ จากนั้นเฉินเฟิงก็กลับไปยังห้องพักของตัวเอง

และเพียงรอให้ถึงเช้าในวันถัดไป พวกเขาก็จะได้เริ่มเดินทางใหม่อีกครั้งแล้ว

เฉินเฟิงคิดแบบนี้

จนในช่วงเที่ยงคืน ประตูห้องของเขาก็ถูกใครบางค่อยๆ เปิดเข้ามา เพราะเฉินเฟิงเป็นคนที่หลับตื้น ดังนั้นจึงเป็นเรื่องง่ายที่เขาจะรู้ตัวเมื่อมีเสียงดังขึ้น

เขาลุกขึ้นนั่งรอให้คนคนนั้นเข้ามาด้านใน

ภายใต้ความมืดมิด เงาร่างเล็กๆ กุมหน้าอกของตัวเองเดินเข้ามาอย่างโซซัดโซเซ

เฉินเฟิงไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูอย่างเงียบๆ แต่ดูเหมือนว่าอีกฝ่ายจะยังไม่รู้ตัวว่าเฉินเฟิงได้ตื่นขึ้นมาแล้ว จึงเดินเข้าไปในห้องน้ำ ผ่านไปสักพักเสียงน้ำไหลก็ดังออกมาจากด้านใน

อีกฝ่ายไม่ได้ เหมือนกับว่ากลัวว่าจะถูกคนที่อยู่ด้านนอกเห็นเข้า

และเฉินเฟิงก็นั่งเงียบอยู่อย่างนั้นเพื่อฟังเสียงที่ด้านใน จากนั้นคนคนนั้นก็เดินออกมา ราวกับเตรียมตัวจะเดินออกไป

ทว่าเฉินเฟิงกลับพูดขึ้นมาอย่างเบาๆ : “ในเมื่อเข้ามาแล้ว ทำไมถึงไม่อยู่นานหน่อยล่ะ ”

ร่างนั้นสะดุ้งพลางเอนเข้าไปติดกำแพงราวกับนกน้อยที่กำลังหวาดกลัว

และในตอนที่เฉินเฟิงเตรียมตัวจะเปิดไฟตรงหัวเตียง เสียงใสของหญิงสาวก็ดังขึ้นมา

“อย่า!”

เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฟิงก็รู้สึกคุ้นหูทันที พลางถาม : “เซียงหลัน?”

และร่างนั้นเองก็เหมือนจะตกใจไม่น้อย เธออุทานออกมาด้วยความตะลึง : “ท่านเฝิง?”

“ผมเคยบอกแล้วนี่ว่าผมจะไม่ช่วยพวกคุณ ทำไมคุณยังมาที่นี่อีก ”

และนั่นก็คือสิ่งแรกที่เฉินเฟิงคิดได้ว่าเซียงหลันมาร้องขอเขาอีกครั้ง

แต่ว่าครั้งนี้เป็นเพียงความบังเอิญเท่านั้น เซียงหลานจึงตอบกลับ: “ไม่คิดจริงๆ ว่าจะเป็นท่านเฝิง ฉันเพียงแค่ถูกคนไล่ฆ่าจนหนีมาถึงที่นี่เท่านั้น ”

เฉินเฟิงอุทานอย่างไม่อยากจะเชื่อ: “ถูกไล่ฆ่า?”

“ในเมื่อท่านเฝิงไม่ยอมช่วยเหลือ อย่างนั้นฉันจึงต้องพึ่งตัวเองแล้วเท่านั้น ”

“แล้วหลินเฉิงจื้อล่ะ?” เฉินเฟิงถาม

“คงอาจจะตายไปแล้ว” เซียงหลันพูดออกมา แต่กลับเหมือนไม่ได้มีความรู้สึกใดๆ ทั้งสิ้น อย่างกับเป็นเพียงคนไม่รู้จักคนหนึ่งตายไปเท่านั้น

เฉินเฟิงไม่ได้ถามอะไรต่อ เพียงแต่บอกกับเธอว่า: “คุณสามารถพักอยู่ที่นี่จนกว่าจะถึงเช้า”

นี่ถือเป็นความช่วยเหลือเล็กๆ น้อยๆ จากเฉินเฟิงที่มีให้เธอ แต่แล้วเซียงหลันกลับส่ายหน้า : “ไม่ดีกว่าค่ะ เรื่องบางอย่างใช่ว่าจะไม่ต้องลงมือทำ การหนีไปเรื่อยๆ แบบนี้ก็ช่วยอะไรไม่ได้ขึ้นมา”

เมื่อพูดจบเธอก็หันหลังเดินตรงไปยังประตูทางออก

เสียง “ปัง” ดังขึ้น

หน้าต่างกระจกในห้องพักของเฉินเฟิงแตกออกเป็นเสี่ยงๆ เขาจึงรีบหลบเศษกระจกที่กระเด็นเข้ามาทันที แล้วทันใดนั้นก็มีร่างของใครอีกคนเข้ามาอยู่ในห้องโดยกำลังยืนอยู่ตรงหน้าหน้าต่างที่เพิ่งแตกออกไปเมื่อสักครู่นี้

นี่อยู่ถึงชั้นหก การที่อีกฝ่ายสามารถกระโดดเข้ามาด้วยการเคลื่อนไหวอันง่ายดายแบบนี้แสดงว่าต้องเป็นคนที่มีความแข็งแกร่งอย่างมาก

เฉินเฟิงยังไม่ทันที่จะได้มองเห็นหน้าของอีกฝ่าย ชายคนนั้นกลับจำเขาได้ก่อนซะแล้ว

“เป็นคุณนี่เอง” ชายคนนั้นมองมายังเฉินเฟิงด้วยความประหลาด

จากนั้นเฉินเฟิงจึงค่อยมองกลับไปด้วยความสงสัย

ปรากฏว่าเป็นคนที่เขารู้จักจริงๆ นกกระเรียนพันลี้ตู๋กูหยุน แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะได้มาเจอเขาที่นี่ได้

เฉินเฟิงพูดออกมาด้วยรอยยิ้ม: “คุณก็รู้นี่ว่าคนที่เข้ามาทางหน้าต่างล้วนเป็นโจรกันทั้งนั้น เป็นคนดีๆ ไม่ชอบกลับชอบทำตัวเป็นโจร คุณบ้าไปแล้วหรือเปล่า ”

ตู๋กูหยุนเองก็เหมือนจะคิดไม่ถึงเหมือนกันว่าประโยคแรกที่เฉินเฟิงพูดกับเขาจะเป็นคำพูดที่น่าเบื่อแบบนี้ แต่เขาก็เพียงตอบกลับ

: “ฮ่าฮ่า คิดไม่ถึงจริงๆ ว่าคุณจะมาอยู่ที่นี่ วันนั้นคุณบีบบังคับให้ผมต้องหนีไป วันนี้ผมจะทำให้คุณได้รู้ว่าผมนั้นเก่งกาจขนาดไหน ”

เขาพูดจบก็กระโจนเข้าไปโดยไม่สนใจอะไรทั้งสิ้น

เฉินเฟิงขยับตัวหลบฝ่ามือนั้น พร้อมกับสะบัดผ้าห่ม ก่อนจะกระโดดไปยืนอยู่ข้างเตียง เพราะก่อนที่จะนอนเขาได้ถอดเสื้อผ้าออกจนบนเรือนร่างของเขาเหลือเพียงแค่กางเกงชั้นในตัวเดียวเท่านั้น ถึงแม้จะมีผู้หญิงอยู่ในเหตุการณ์ แต่คิดแล้วเหมือนว่าเธอคงจะไม่ถือสาเรื่องพวกนี้

“หึ ผู้หญิงคนนั้นไปอยู่ไหนแล้ว?”

อยู่ๆ ตู๋กูหยุนก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ ก่อนที่เขาจะหันไปถามเฉินเฟิง

เฉินเฟิงเข้าใจได้ทันทีเลยว่าเขากำลังพูดถึงชิงจือ เขาจึงได้เพียงยิ้มออกมา : “จะให้ผมไปเรียกเธอ หรือว่าจะให้พวกเราต่อสู้กันให้เสียงดังสักหน่อยดีล่ะ แบบนี้เดี๋ยวเธอก็จะเข้ามาที่นี่เอง”

ตู๋กูหยุนยืนไตร่ตรองอยู่ตรงนั้น เพราะตอนนี้เขายังคงหวาดกลัวในตัวชิงจืออย่างมาก

เขาตวาดสายตาเย้นชามองไปยังเฉินเฟิงก่อนจะหันไปทางเซียงหลัน พร้อมกับลังเลอยู่พักหนึ่ง แต่เพราะเฉินเฟิงไม่ได้รีบร้อนอะไรจึงพูดขึ้นมา : “ คุณกำลังทำอะไรอยู่ จะสู้ก็รีบสู้ ถ้าหากรอนานเดี๋ยวเธอมาคุณก็จะหนีไปอีก แบบนั้นมันดูไม่มีความหมายอะไรเลยสักนิด ”

เมื่อเฉินเฟิงพูด ทางด้านตู๋กูหยุนก็เหมือนจะตัดสินใจอย่างเด็ดขาดแล้ว จากนั้นเขาจึงพูดต่อ : “วันนี้ผมจะไว้ชีวิตคุณไปก่อน ผมจะคอยดูว่าหมอนี่จะปกป้องคุณไปได้นานแค่ไหนกัน ”

เห็นได้ชัดเลยว่าประโยคนี้เขาพูดกับเซียงหลัน

หลังจากที่เขาพูดจบก็กระโดดออกไปจากหน้าต่างที่อยู่ด้านหลัง ในเมื่อสามารถกระโดดขึ้นมาถึงชั้นหกนี้ได้อย่างง่ายดาย อย่างนั้นการจะกระโดดกลับลงไปคงไม่ใช่เรื่องยากอะไร

หลังจากผ่านไปหลายนาที ภายในห้องก็กลับมาสงบอีกครั้ง

เฉินเฟิงมองไปยังหน้าต่างและเห็นว่าไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ อีก ถึงค่อยพูดขึ้น : “เขาน่าจะไปแล้ว”

เมื่อหันกลับไปมองเซียงหลินอีกครั้ง เฉินเฟิงเองก็ไม่คิดเลยว่าคนที่เธอไปบาดหมางด้วยจะเป็นตู๋กูหยุน แต่ตอนนี้สิ่งที่ไม่ใช่ความตั้งใจของเขาในตอนนี้คือการช่วยเหลือเซียงหลันเอาไว้

และเขาก็ไม่ได้คาดหวังให้เซียงตอบแทนอะไรอีกด้วย

เซียงหลันที่เห็นอย่างนั้นจึงพูดขึ้น: “อย่างนั้นฉันก็ควรที่จะไปได้แล้ว”

เฉินเฟิงคิดอยู่สักพัก ก่อนจะห้ามเธอเอาไว้: “เขาคงไม่กล้ากลับมาอีกแล้ว คุณค้างคืนที่นี่สักคืนไปก่อน ผมไม่ไล่คุณออกไปหรอกนะ ”

เซียงหลันเหมือนต้องการที่จะยืนหยัดด้วยตัวเอง แต่เฉินเฟิงกลับพูดขึ้นมาอีกครั้ง : “คุณก็เห็นแล้ว ว่าผมมีความเรื่องบาดหมางกับเขาอยู่แล้ว ในเมื่อเขารู้ว่าคุณอยู่ข้างผม แน่นอนว่าคงจะไม่กล้ากลับมาอีก ซึ่งสำหรับผมแล้วเรื่องพวกนี้ก็เป็นแค่เรื่องไม่สำคัญอะไรเท่านั้น ”

เดิมทีเซียงหลันยังอยากที่จะร้องขอความคุ้มครองจากเฉินเฟิง แต่เมื่อนึกถึงการปฏิเสธอันไม่อ้อมค้อมนั้นของเขา เธอจึงรู้สึกว่าเฉินเฟิงไม่มีทางเก็บเธอเอาไว้แน่ แต่ในเมื่อตอนนี้เฉินเฟิงพูดอย่างนี้แล้วเธอจึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องยืนกรานอีกต่อไป

“ถ้าอย่างนั้นจะซ่อนตัวอยู่ที่นี่ไปก่อน พรุ่งนี้ฉันจะไปทันที ” เธอยังคงมีความกังวลใจว่าเฉินเฟิงจะเปลี่ยนใจ

แต่ว่าเฉินเฟิงกลับไม่ได้พูดอะไร พรุ่งนี้ก็คือเรื่องของวันพรุ่งนี้ เขาไม่มีความจำเป็นอะไรที่จะต้องไปไล่ตาม แต่ว่าตอนนี้ในห้องมีเตียงแค่เตียงเดียว แบบนี้เหมือนจะเป็นเรื่องยากในการตัดสินใจ

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท