ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 861

ตอนที่ 861

“สอง”

ร้องตะโกนอีกครั้งหนึ่ง ส่วนเฉินเฟิงก็เตะสวนออกไปอย่างแรงหนึ่งที เฉี่ยวผ่านศีรษะของตู๋กูหยุนไปพอดี แต่เสียดายที่เฉี่ยวผ่านไปเพียงนิดเดียว

“สาม”

เมื่อสิ้นเสียงลง ทั้งสองคนต่างก็ถอยหลังไปหลายก้าว เพื่อเพิ่มความห่างออกไป

“ก็รักษาคำพูดดีเหมือนกันนะ” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้ม

“อย่าพูดมาก ด้านหลังเป็นที่โล่งกว้าง แกกับฉันไปที่นั่นค่อยมาประลองแพ้ชนะกันอีกที”

ถึงแม้ตอนนี้ทั้งสองคนห่างออกจากกันมากแล้ว เฉินเฟิงก็มีโอกาสมากพอที่จะสามารถหนีไปคนเดียวได้ แต่เขาก็ไม่เคยคิดเลย เขาไม่อยากเห็นหลี่จื่อเยว่ถูกจับกลับไป นึกถึงนังหนูคนนั้นเป็นเพื่อนเดินทางที่ดีมาโดยตลอด ก็มีความรู้สึกเสียดายบ้างเล็กน้อย

จึงบอกตกลง จากนั้นก็วิ่งนำหน้าไปยังทิศทางที่เขาชี้ไป

ส่วนสถานที่นั้น ก็เป็นสถานที่เงียบสงบดีจริงๆ ตั้งอยู่ที่เปลี่ยวห่างไกลความเจริญ ต้นไม้ใบหญ้าขึ้นรกเต็มไปหมด แสงแดดยามเย็นสาดส่องลงมา ทำให้สะท้อนเงาต้นไม้ใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลนั้นทอดเงายาวไปตามทางออกไป

สายลมยามเย็นพัดโชยมา ยอดหญ้าไหวเอนขึ้นลงลู่ไปตามแรงลมที่พัดผ่าน แลดูแล้วงดงามตระการตายิ่งนัก

“ที่นี่เหมาะสำหรับเป็นที่ฝังศพของแกเลย”

“แกกับฉันยังไม่รู้ว่าใครจะตายก่อนใครกันแน่?”

ทั้งสองคนพูดจบ แล้วก็เริ่มรบราฆ่าฟันกันต่อไปอีกครั้ง

ถึงแม้ว่าตู๋กูหยุนจะมีพลังที่แข็งแกร่งกว่าบ้างเล็กน้อยก็ตาม แต่ว่าถ้าอยากจะเอาชนะเฉินเฟิงในเวลาอันสั้นนั้น ก็คงไม่ใช่เป็นเรื่องที่ง่ายเลย อีกทั้งบริเวณรอบนอกก็ไม่มีสิ่งกีดขวางใดๆ กระบวนท่าที่ใช้ในการต่อสู้ของทั้งสองคนจึงขยายวงกว้างออกไปมากขึ้น อย่างไม่มีความกังวลใดๆทั้งสิ้น

นี่กลับทำให้เฉินเฟิงรู้สึกมีความกดดันเพิ่มมากขึ้น ตู๋กูหยุนเดิมทีก็ถนัดกับการต่อสู้ในกระบวนท่าที่ดุเดือดเลือดพล่านเช่นนี้อยู่แล้ว อีกทั้งสถานที่โล่งกว้างเช่นนี้ก็ยิ่งทำให้เขาสามารถแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่ จังหวะในการหลบหลีกของเฉินเฟิงก็ยิ่งยุ่งยากมากขึ้น

แต่ก็ไม่รู้เพราะเหตุใด เซียงหลันและเชียนเสี่ยวหยุนก็ติดตามมาทัน ยืนห่างจากเฉินเฟิงพวกเขาไม่ไกลนัก แล้วหยุดยืนดูอยู่ตรงนั้น

“แกว่าพวกเขาสองคนใครจะเป็นคนชนะ?” ตอนนี้เซียงหลันแลดูซีดเสียวไปมาก มองดู การต่อสู้ของเฉินเฟิงพวกเขาสองคน เธอก็ถามเชียนเสี่ยวหยุนที่อยู่ด้านข้างด้วยความอยากรู้

เชียนเสี่ยวหยุนส่ายหน้า “ฉันก็ยังดูไม่ออกเลย พละกำลังของพวกเขาทั้งสองคนก็สูงด้วยกันทั้งคู่”

เซียงหลันพูดว่า “มันเก่งกาจกันจริงๆเลย อย่างน้อยก็ต้องอยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นสุดแล้วล่ะ”

เชียนเสี่ยวหยุนพูดว่า “น่าจะเกินกว่านั้นนะ ที่บ้านฉันมีผู้อาวุโสที่อยู่ในขั้นหั้วจิ้งชั้นสุด หลายท่าน ก็ยังแทบจะสู้ความเร็วอย่างนี้ของพวกเขาไม่ได้เลย”

เซียงหลันพูดอย่างตกตะลึงว่า “หรือว่าระดับขั้นปรมาจารย์แล้วเหรอ? นี่คงเป็นไปไม่ได้มั้ง ปรมาจารย์ใต้หล้านี้ก็มีเพียงไม่กี่คนเอง”

เชียนเสี่ยวหยุนส่ายหน้าอีกครั้งหนึ่ง “ถึงแม้ว่าฉันไม่รู้ว่าปรมาจารย์จะร้ายกาจมากขนาดไหน แต่ระหว่างพวกเขาก็ดูเหมือนว่ายังไม่ค่อยคล่องแคล่ว อีกทั้งยังใช้กระบวนท่าเดิมๆวนเวียนอยู่อีก”

เชียนเสี่ยวหยุนสามารถวิเคราะห์ได้อย่างชัดเจนอย่างนั้น เซียงหลันไม่รู้สึกประหลาดใจอะไร เธอรู้ว่าถึงแม้ว่าเชียนเสี่ยวหยุนจะไม่เป็นวรยุทธ์เลยก็ตาม แต่ยังไงก็ย่อมมีความรู้มากกว่าตัวเธออย่างแน่นอน ภายในบ้านตระกูลเชียนนั้นมียอดฝีมือมากมายขนาดนั้น ก็ย่อมต้องได้ซึมซับจากที่เคยได้ยินได้เห็นมาเป็นประจำ จึงได้รู้เรื่องราวมากมายเช่นนี้

“เสียดายที่ว่า การต่อสู้ที่ดุเดือดขนาดนี้ของพวกเขาสองคนยังไม่มีใครมาชมดูกันเลย” เซียงหลันพูดด้วยความเห็นที่แปลกประหลาด

เชียนเสี่ยวหยุนพูดด้วยรอยยิ้มว่า “แกกับฉันไม่ใช่คนหรือไง? การต่อสู้แบบนี้หรือว่าไม่ได้ช่วยอะไรแกเลยเหรอ?”

เซียงหลันส่ายหน้าแล้วพูดว่า “ตั้งแต่ที่ฉันเข้าไปอยู่ในหอจิ่วโหยวแล้ว ก็ไม่เคยชอบเรื่องพวกนี้เลย ต่อให้ฉันมีโอกาสได้เห็นทั้งสองท่านที่อยู่ในระดับชั้นสูงสุดนี้แล้ว ฉันก็ยังไม่รู้สึกอยากจะสนใจอะไรเลย”

เชียนเสี่ยวหยุนพูดว่า “ก็เพราะว่านิสัยเอื่อยเฉื่อยขี้เกียจของแกอย่างนี้ไง เมื่อได้พบกับยอดฝีมือที่แท้จริงแล้ว แม้แต่จะหนีเอาชีวิตรอดยังทำไม่ได้เลย”

พูดพลางก็มีความรู้สึกว่ากำลังตำหนิเซียงหลันอยู่ จึงพูดเสริมขึ้นว่า

“แต่ว่าถ้าหากด้วยนิสัยของแกอย่างนี้ หากตั้งใจอย่างจริงจังที่จะฝึกวรยุทธ์แล้วละก็ ไม่มีทางที่จะทำได้ถึงระดับชั้นนี้หรอก”

เซียงหลันพูดอย่างดีใจว่า “แกเป็นคนเดียวที่เข้าใจฉันดีที่สุดเลย ยิ่งกว่านั้นฉันก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพวกเรานิสัยคนหนึ่งกระตือรือร้นอีกคนหนึ่งเอื่อยเฉื่อยขี้เกียจ ก็ยังเป็นเพื่อนสนิทกันแบบนี้ได้เลย”

เชียนเสี่ยวหยุนครุ่นคิดแล้วพูดว่า “ก็อาจเป็นเพราะว่านิสัยที่ต่างเกื้อกูลกัน แกกับฉันต่างก็เติมเต็มนิสัยของตัวเองที่ขาดหายไป”

ในระหว่างที่พวกเธอพูดคุยกันอยู่นั้น การต่อสู้ทางนั้นดูเหมือนจะยิ่งมายิ่งดุเดือดมากขึ้น

ลมหายใจของเฉินเฟิงตามไม่ทันจังหวะจู่โจมตู๋กูหยุนแล้ว ถ้าหากยังรับทั้งหน้าหลังไม่ทันละก็ งั้นเขาก็จะต้องพบกับความพ่ายแพ้ไป

ส่วนเขาก็พยายามที่จะหลีกเลี่ยงปัญหาเช่นนี้

แต่ตู๋กูหยุนกลับมองออกว่าเฉินเฟิงเริ่มจะหมดแรงแล้ว ก็ยิ่งเพิ่มพละกำลังอย่างฮึกเหิม หัวเราะแล้วพูดว่า “ฉันจะดูว่าแกยังจะฝืนทนไปได้อีกกี่น้ำ?”

เฉินเฟิงก็หัวเราะแล้วพูดว่า “รอให้แกตายก่อนแล้วกัน”

“ฮึ่ม ปากดีนักนะ อีกประเดี๋ยวดูว่าแกยังจะหัวเราะออกอีกหรือเปล่า?”

หมัดทะลวงเขาไล่ชกไปยังหน้าอกของเฉินเฟิงจนหลบหนีไม่ทัน เฉินเฟิงจึงจำเป็นต้องต้านทานเอาไว้ ด้วยสองมือประสานกันไว้ตรงหน้าอก รับกระบวนท่าหมัดของเขาไว้

หลังจากที่ถอนร่นไปหลายก้าว เฉินเฟิงก็ยังไม่สามารถทนต่อแรงปะทะตรงหน้าอกของเขาได้ รู้สึกแต่เพียงว่าเจ็บปวดตรงนั้นอย่างรุนแรง

ตู๋กูหยุนดูเหมือนจะรู้แล้วว่าหลังจากที่เฉินเฟิงฝืนรับกระบวนท่านี้แล้วจะต้องมีอาการเช่นนี้ จึงพุ่งตัวตามเข้าไปหาทันที อาศัยจังหวะที่เฉินเฟิงกำลังหมดเรี่ยวแรง เป็นการเข้าถล่มซ้ำที่ดีที่สุด

ส่วนเฉินเฟิงตอนนี้ก็ตกอยู่ภาวะลำบาก หายใจแทบไม่ทั่วท้อง ยังดีที่เขามีประสบการณ์ที่โชกโชนมาก่อน จึงได้เตรียมพร้อมไว้ล่วงหน้าแล้ว

อาศัยพลังแรงที่ถอยออกไปเมื่อครู่ จึงรีบถอยหลังต่อไปอีกอย่างรวดเร็ว ทำให้กระบวนท่าจู่โจมของตู๋กูหยุน ดูเหมือนชกลงไปยังกองสำลี มีแต่ลมแต่ไม่มีแรง

แต่ว่าถึงจะรอดพ้นจากครั้งนี้ไปได้ ครั้งต่อไป ก็ยังต้องตกอยู่ภายใต้จังหวะการจู่โจมที่ต่อเนื่องของตู๋กูหยุนต่อไปอีก

“แกดูซิว่านั่นคืออะไร?” ทันใดนั้นเซียงหลันตะโกนด้วยความแตกตื่น

เชียนเสี่ยวหยุนก็มองไปยังทิศทางที่เซียงหลันชี้ไป เงาร่างคนหนึ่งพุ่งเข้าไปยังเฉินเฟิง สองคนนั้น ส่วนด้านหน้าของเงาร่างคนนั้น กลับเป็นลำแสงสว่างลำหนึ่ง

แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป้าหมายของเขาจะเป็นคนไหนระหว่างเฉินเฟิงสองคนนั้น

แต่ว่าเฉินเฟิงสองคนถึงแม้กำลังอยู่ในระหว่างการต่อสู้นั้น ก็ไม่ได้สนใจปฏิกิริยาที่เกิดขึ้นจากภายนอกเลยแม้แต่นิดเดียว เมื่อกระบี่ยาวพุ่งเข้ามาใส่ ทั้งสองคนต่างก็ผละออกจากกันทันที หลบพ้นจากการฆ่าสังหารอันว่องไวของกระบี่นั้น

รอให้ยืมตั้งตัวได้แล้ว ก็หันไปมองเจ้าของกระบี่นั้น กลับเป็นเด็กหนุ่มที่ยังไร้เดียงสาคนหนึ่ง

แต่ทั้งสองคนก็ไม่กล้าประมาณแม้แต่นิดเดียว เพียงแค่กระบวนท่ากระบี่นั้น ก็แสดงถึง ความสามารถที่ปรากฏออกมาให้เห็นแล้ว เกรงว่าฝีมือของเขาจะอยู่ระดับชั้นที่ไม่แตกต่างไปจากเฉินเฟิงสองคนนั้นเท่าไรนัก

อายุเพียงเท่านี้ก็สามารถที่จะฝึกฝนได้ถึงขั้นนี้แล้ว มันไม่ใช่จะได้เห็นกันบ่อยนัก ก็เห็นจะมีแต่สามารถเทียบได้กับเน่เจิ้งแห่งสำนักเทียนซานที่ตายไปแล้วคนนั้นเท่านั้น

“เจ้าทารกน้อย แกก็มาจากไหนกันล่ะ” ตู๋กูหยุนถูกรบกวนอย่างไม่ทันรู้ตัว ถึงแม้ว่าในใจรู้สึกไม่พอใจ ก็พูดกับคนนั้นอย่างไม่เกรงใจ

ส่วนเด็กหนุ่มนั้นก็รู้สึกโกรธมากเมื่อได้ยินที่ถูกเรียกเช่นนั้น แสดงสีหน้าโกรธเคือง ออกมาให้เห็นชัด เกรงว่าไม่จำเป็นต้องร่วมมือกับเฉินเฟิง ทั้งสองคนก็ต้องต่อสู้กันเองอย่างแน่นอน

“ในเมื่อแกกล้าจะแตะต้องตัวคุณหนูตระกูลเรา ก็ย่อมจะต้องเตรียมตัวรับมือจากการสั่งสอนของตระกูลเชียนพวกเราด้วย” เด็กหนุ่มทำท่าทางเคร่งขรึมเยือกเย็น แต่ว่าด้วยอายุเพียงแค่นี้ ท่าทางก็แลดูเหมือนเสแสร้งแกล้งทำ

ตู๋กูหยุนพูดว่า “คุณหนูตระกูลแกเหรอ? หรือว่าแกจะเป็นคนตระกูลเชียน?”

เฉินเฟิงยืนฟังด้วยความฉงนมึนงง ไม่รู้เหมือนกันว่าตระกูลเชียนนี้มันคืออะไรกัน

ส่วนเด็กหนุ่มคนนั้นกลับตะคอกว่า “ในเมื่อแกรู้แล้ว แกยังไม่ยอมแพ้มาให้จับแต่โดยดี”

ถึงแม้ตู๋กูหยุนจะเกรงกลัวตระกูลเชียนก็ตาม แต่ก็ไม่มีทางที่จะให้คนมาเหยียบหยามถึงเพียงนี้ พูดด้วยความโกรธเคืองว่า “ทารกน้อย ตอนที่ฉันออกท่องยุทธภพนั้นแกยังอยู่ในครรภ์มารดาอยู่เลย”

ถึงแม้จะเป็นเรื่องจริงก็ตาม แต่เมื่อได้ยินคำพูดเช่นนั้นแล้ว เด็กหนุ่มคนนั้นสีหน้าเยือกเย็น เห็นทีจะต้องได้ลงมือต่อสู้กันแล้ว

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท