ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 848

ตอนที่ 848

หลี่จื่อเยว่ลองใส่ชุดกระโปรงยาวตัวหนึ่งเดินมาตรงหน้าเฉินเฟิงพร้อมกับถามด้วยความตื่นเต้น : “คุณว่าชุดกระโปรงตัวนี้สวยหรือเปล่า?”

นั่นเป็นชุดกระโปรงยาวสีแดงลายดอก ซึ่งด้วยเดิมทีหุ่นของหลี่จื่อเยว่นั้นดีอยู่แล้ว เมื่อมาสวมใส่เสื้อผ้าที่สะท้อนรูปร่างของเธอแบบนี้ จึงทำให้ดูดีเป็นอย่างมาก

แต่ว่าเธอยังไม่รอให้เฉินเหิงได้ตอบอะไร ก็รีบเดินกลับเข้าไปในห้องลองเสื้อผ้าแล้ว

และครั้งนี้เธอก็ออกมาพร้อมกับเสื้อยืดเปิดไหล่สีแดง ยิ่งดูเซ็กซี่กว่าชุดกระโปรงลายดอกเมื่อสักครู่นี้

เธอถามคำถามเดิมขึ้นมาอีกครั้ง แต่ดูเหมือนว่าเธอจะไม่ได้เฝ้ารอคำตอบจากเฉินเฟิงเลย

การที่นั่งอยู่ตรงนั้นคอยมองดูหลี่จื่อเยว่เดินเข้าๆ ออกๆ หลายครั้ง สุดท้ายเฉินเฟิงจึงถามขึ้นมาอย่างอดไม่ได้ : “นี่เธอจะดูจนถึงเมื่อไหร่กัน?”

จากนั้นหลี่จื่อเยว่จึงรู้ตัวพร้อมกับหยุดการกระทำของตัวเอง เธอเลือกเอาเสื้อผ้าไม่กี่ตัวที่ตัวเองดูแล้วไม่เลวมา ก่อนจะเดินไปยังเคาน์เตอร์เพื่อชำระเงิน

หญิงสาวเซ็กซี่คนหนึ่งที่อยู่ข้างๆ อยู่ก็พูดลอยๆ ออกมา: “พวกผู้หญิงสำส่อนสมัยนี้แต่ละคนแข่งกันโปรยเสน่ห์ใส่ผู้ชายอย่างไม่ยอมกันซะเลย แม้แต่ในสถานที่แบบนี้ยังทำลงไปได้ แถมยังไม่รู้จักกลัวเลยว่าเดือนหน้าตัวเองจะไม่มีกินแล้ว”

เฉินเฟิงไม่รู้ตัวว่าเป็นตัวเอง แต่หลี่จื่อเยว่กลับถามทันที: “คุณกำลังว่าใคร?”

หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นทำเป็นไม่สนใจ ราวกับว่าหากทำแบบนั้นแล้วจะเป็นการลดตัวเองลงไป จึงได้เพียงเดินไปยังเคาน์เตอร์ก่อนจะวางเอาเสื้อผ้าที่ตัวเองเลือกเอาไว้วางลงไป

เธอหันไปพูดกับพนักงาน: “คอลเลคชั่นใหม่ในเดือนนี้ไม่ค่อยจะถูกใจเลยจริงๆ ฉันไม่มีความอยากซื้อเลยสักเท่าไหร่”

พนักงานคนนั้นตอบกลับหญิงสาวคนนั้นด้วยรอยยิ้ม: “พี่เหมย ต้องขอโทษจริงๆ ด้วยนะคะ เดือนหน้าหากคอลเลกชั่นใหม่เข้าแล้วสัญญาเลยว่าจะแจ้งให้กับคุณเป็นคนแรกเลยค่ะ”

หญิงสาวคนนั้นตอบกลับอย่างหมดความสนใจ: “เอาเถอะๆ ฉันไม่ได้ว่าอะไรพวกเธอสักหน่อย ฉันก็แค่ถูกคนบางคนทำลายความรู้สึกสนใจก็เท่านั้น”

เดิมทีหลี่จื่อเยว่ไม่อยากที่จะทะเลาะกับเธออีก แต่เมื่อได้ยินประโยคนี้ทำให้เธอต้องเดินเข้าไปด้วยสีหน้าที่โกรธเคือง

“คุณกำลังว่าใครกันแน่?คุณเองนั่นแหละที่สำส่อน สำส่อนทั้งตระกูล”

ทางด้านเฉินเฟิงเองก็เพิ่งรู้ตัวว่าเมื่อกี้ที่หญิงสาวคนนั้นพูดถึงคือตัวเองและหลี่จื่อเยว่ เขาจึงเดินเข้าไปด้วยความไม่พอใจเช่นกัน

แต่หญิงสาวคนนั้นกลับมองหลี่จื่อเยว่ด้วยท่าทีรังเกียจ ก่อนจะพูดอย่างเยาะเย้ย: “ไร้การสั่งสอนก็คือไร้การสั่งสอน อย่าคิดว่าตัวเองสวยแล้วจะไม่มียางอาย เวลาซื้อของก็ต้องเกาะแกะผู้ชาย ไม่รู้จริงๆ ว่าใช้เงินของใคร”

เมื่อพูดจบ เธอก็ยกถุงเสื้อผ้าพร้อมเดินออกไป

แน่นอนว่าเมื่อเป็นแบบนี้หลี่จื่อเยว่ไม่มีทางปล่อยเธอไปอยู่แล้ว ทั้งยังเดินเข้าไปขวางหน้าเธอคนนั้นทันที พร้อมกับพูดด้วยความขุ่นเคือง : “ฉันใช้เงินของตัวเอง ทั้งหมดล้วนเป็นเงินของตัวเอง ฉันไม่ได้เป็นคนแบบนั้นสักหน่อย คุณอย่ามากล่าวหากันมั่วซั่วแบบนี้”

“หลีกไป อย่าให้ฉันต้องตบเธอ” หลังจากที่ถูกขวางทางเอาไว้ หญิงสาวที่แต่งตัวเซ็กซี่คนนั้นก็ดึงหลี่จื่อเยว่หวังจะให้เธอหลีกทางให้

แต่หลี่จื่อเยว่กลับยิ่งดึงดันที่จะขวางทางมากขึ้นกว่าเดิม

“ไม่หลีก นอกเสียจากว่าคุณจะขอโทษฉันก่อน ไม่อย่างนั้นฉันก็จะขวางคุณอยู่อย่างนี้แหละ”

ยังไม่ทันที่จะพูดจบ หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นก็ยกมือขึ้นด้วยท่าทีที่จะตบหลี่จื่อเยว่จริงๆ

หลี่จื่อเยว่กลัวจนปิดตาแน่นพร้อมกับจะหันหน้าหนี แต่ผ่านไปพักหนึ่งก็ยังไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ เธอจึงลืมตาขึ้นมาแล้วได้เห็นว่าเฉินเฟิงกำลังใช้มือข้างหนึ่งของเขาจับข้อมือของอีกฝ่ายไว้อยู่

“ยังไม่ถึงคราวที่คุณจะมาสั่งสอนเธอ”

เฉินเฟิงพูดกับหญิงสาวคนนั้นอย่างเยือกเย็น

หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นพยายามดิ้นรนอยู่พักหนึ่งกว่าเฉินเฟิงจะยอมปล่อยมือของเธอ

หลังจากหลุดพ้นมาได้ หญิงสาวคนนั้นก็หันไปตะคอกกับเฉินเฟิงอย่างความเกลียดชังด้วยน้ำเสียงที่โมโหจัด: “กับแค่ไอ้คนจนอย่างนาย ยังมีหน้ากล้ามาทำตัวเป็นฮีโร่ปกป้องหญิงงั้นหรอ ไม่หัดลองไปส่องกระจกดูตัวเองสักหน่อยหล่ะ คิดว่าตัวเองเป็นพ่อนักบุญหรือไง?”

เฉินเฟิงไม่ได้โกรธเคืองแต่กลับยิ้มตอบ: “คุณรวยมากงั้นสินะ?ถ้าอย่างนั้นพวกเรามาพนันกันดีไหม ถ้าเกิดว่าผมมีเงินมากกว่าคุณ คุณจะต้องเปลือยกายเดินออกไปจากที่นี่”

หญิงสาวคนนั้นมองไปยังเฉินเฟิงด้วยความประหลาดใจราวกับไม่คิดว่าเฉินเฟิงจะพูดประโยคแบบนี้ออกมาได้ จากนั้นเธอก็เงียบไปครู่หนึ่งก่อนจะตอบกลับอีกครั้ง : “ประสาท พวกคุณทั้งสองคนมันประสาทแดก”

เมื่อพูดจบเธอก็หวังจะถือของเดินออกไป

แต่ทางด้านเฉินเฟิงไม่ยอมที่จะปล่อยผู้หญิงคนนี้ไปง่ายๆ แบบนี้ เขาจึงเข้าไปขวางหน้าอีกฝ่ายเอาไว้ ก่อนจะยิ้มออกมา : “ทำไม ไม่กล้าแล้วหรือไง?คุณบอกว่าผมมันไอ้คนจนไม่ใช่หรือไง นี่กับแค่ไอ้คนจนคนหนึ่งคุณก็สู้ด้วยไม่ได้งั้นหรอ”

“หลีกไป!” หญิงสาวคนนั้นตะโกน

เฉินเฟิงถูกเธอผลักออก จากนั้นพนักงานที่อยู่อีกด้านก็เดินเข้ามากล่าวเกลี้ยกล่อม

“คุณผู้ชายค่ะ ที่นี่เป็นพื้นที่สาธารณะ คุณผู้ชายได้โปรดอย่าก่อความวุ่นวายแบบนี้อีกเลยนะคะ”

หลี่จื่อเยว่ที่ได้ยินพนักงานพูดแบบนี้ก็รู้สึกโกรธขึ้นมา: “เมื่อกี้ที่เธอว่าพวกเราทำไมไม่เห็นว่าพวกคุณจะพูดอะไรเลย ทำไมตอนนี้ถึงได้ออกหน้ามาช่วยพูดแทนหล่อนด้วย”

พนักงานคนนั้นรีบแย้งขึ้นมา : “คุณผู้ชายค่ะ คุณอย่าได้ไปถือความกับสุภาพสตรีคนหนึ่งเลยนะคะ ?แบบนี้มันจะดูไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษเลยนะคะ”

เฉินเฟิงยิ้มขึ้นมาก่อนจะพูดต่อ: “สุภาพบุรุษ ?ผมไม่ต้องการ ผมก็แค่อยากรู้ว่าที่จริงแล้วผู้หญิงคนนี้มีเงินเยอะกว่าผมหรือเปล่า”

พนักงานตะเบ็งเสียงดังขึ้น: “คุณผู้ชายค่ะ ถ้าหากคุณยังทำแบบนี้ฉันคงจะต้องเรียก รปภ.แล้วนะคะ”

เห็นได้ชัดเลยว่าพนักงานคนนี้ไม่กล้าที่จะมีเรื่องกับลูกค้าที่ชื่อพี่เหมยคนนี้ จึงทำให้เธอเลือกที่จะอยู่ข้างหญิงสาวเพื่อต่อกรกับเฉินเฟิง

เฉินเฟิงกวาดสายตาไปมองยังเสื้อผ้าทั้งหมดในร้านก่อนจะพูดแนะนำ : “ก็แค่เงินไม่ใช่หรือไง ผมจะซื้อเสื้อผ้าในร้านของพวกคุณเลย คุณหยุดพูดได้ล่ะ ?”

พนักงานคนนั้นคิดไม่ถึงว่าเฉินเฟิงจะพูดแบบนั้นออกมา แต่สิ่งที่ทำให้เธอคิดหนักกว่านั้นก็คือสิ่งที่เฉินเฟิงพูดเป็นความจริงหรือเปล่า ทั้งยังคิดอีกว่าหากถูกกว้านซื้อจนหมดจริงๆ อย่างนั้นเธอจะสามารถได้ค่าคอมมิชชั่นเท่าไหร่กัน

ทำให้ตอนนี้ในแววตาของเธอเต็มไปด้วยเงินจำนวนมาก

หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นหันไปตะคอกใส่เฉินเฟิงอีกครั้ง: “คนบ้า เป็นคนบ้าที่เกินจะเยียวยาจริงๆ”

เฉินเฟิงไม่อยากที่จะไปต่อล้อต่อเถียงกับเธอ เพราะเขาไม่ได้มีความสนใจอะไรพวกนี้

หลี่จื่อเยว่ที่เห็นว่าเรื่องกำลังวุ่นวายมากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่อยากให้ดึงดันกันแบบนี้ต่อไป เธอเลยเดินเข้าไปข้างๆ เฉินเฟิงแล้วพูดด้วยเสียงเบาๆ: “เอาเป็นว่าเราช่างมันเถอะ ยังไงซะพวกเราก็ไม่ได้มีอะไรเสียหาย”

เฉินเฟิงมองดูท่าทีตกใจกลัวของเธอก่อนพูดด้วยเสียงอ่อนๆ : “ตอนที่ออกมาเธอบอกว่าจะเชื่อฟังฉัน ทำไมตอนนี้ถึงได้เปลี่ยนใจแล้วล่ะ ?”

หลี่จื่อเยว่ส่ายหน้า แต่เธอแค่รู้สึกว่าไม่อยากให้เป็นแบบนี้ต่อไป ทว่าเธอกลับลังเลจนไม่รู้จะพูดยังไง

เมื่อเห็นว่าหลี่จื่อเยว่ไม่พูดอะไรอีก เฉินเฟิงจึงหันกลับไปมองหญิงสาวเซ็กซี่คนนั้น พร้อมกับพูดย้ำอีกครั้ง: “ถ้าหากว่าคุณไม่กล้าพนัน ก็รีบขอโทษเธอซะ ว่าคุณแค่พูดจาเหลวไหลก็เท่านั้น ไม่อย่างนั้นผมสัญญาเลยว่าจะลงมือถอดเสื้อผ้าคุณออกด้วยมือของตัวเอง”

เมื่อพูดถึงสิ่งที่จะเกิดขึ้นหลังจากนี้ น้ำเสียงของเฉินเฟิงกลายเป็นเย็นชามากกว่าเดิมราวกับว่าเขากล้าทำอย่างที่ได้พูดไปจริงๆ

หญิงสาวเซ็กซี่คนนั้นกำถุงในมืออย่างแน่น ราวกับกำลังครุ่นคิดถึงคำแนะนำของเฉินเฟิงอยู่ เพียงแต่เรื่องนี้สำหรับเธอแล้วมันจะทำให้ต้องขายหน้าอย่างมาก

แต่การเฉินเฟิงที่ยังคงแสดงสีหน้าดุดันยืนอยู่ตรงนั้น จึงทำให้เธอรู้สึกหวาดกลัวไม่น้อย

เฉินเฟิงเขี่ยจมูกของตัวเองด้วยความรู้สึกเบื่อหน่าย ก่อนที่เขาจะพูดอีกครั้ง : “ว่ายังไง ผมไม่ได้มีเวลามากนักหรอกนะ”

สุดท้ายหญิงสาวคนนั้นก็ไม่อาจที่จะคัดค้านได้อีก เธอแสดงสีหน้าที่กำลังหวาดหวั่นจนแทบจะร้องไห้ออกมาแล้วหันไปมองเฉินเฟิงพร้อมกับเสียงครวญ : “ขอ ……โทษ”

แต่เฉินเฟิงกลับตอบด้วยเสียงอันเรียบเฉย: “อะไรนะ ผมไม่ได้ยิน”

หญิงสาวคนนั้นแทบอยากจะขาดใจตายซะตรงนั้น ก่อนจะเพิ่มระดับเสียงขึ้น: “ขอโทษ”

“ผมให้คุณพูดขอโทษกับหล่อน คุณกำลังทำอะไรกัน ?”

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท