ลูกเขยมังกร – ตอนที่ 864

ตอนที่ 864

หลังจากที่เฉินเฟิงและเซียงหลันกลับมาถึงที่พักแล้ว ก็มีคนเข้ามาถามเขา

“คุณผู้หญิงคนนั้นที่มากับคุณท่านได้คืนห้องออกไปแล้ว ไม่ทราบว่าท่านจะคืนห้องเมื่อไหร่?”

เฉินเฟิงถามด้วยความสงสัยว่า “เด็กสาวที่ผอมๆคนนั้นเหรอ? เธอทำไมคืนห้องไปแล้วล่ะ?”

คนนั้นตอบว่า “อันนี้พวกเราก็ไม่ทราบแน่ชัดได้ แต่ตัวเธอเองมาคืนห้องตรงหน้าเคาน์เตอร์จริงๆ ไม่เช่นนั้นท่านก็ลองถามเธอด้วยตัวเองดีมั๊ย?”

เฉินเฟิงสีหน้าบึ้งตึงทันที เดิมทีนึกว่าน่าจะเป็นตู๋กูหยุน เขารับปากกับหลี่จื่อเยว่ว่าจะพาเธอไปหาชิงจือ แต่ว่าตอนนี้เธอกลับหายตัวไปเสียแล้ว

เมื่อเห็นสีหน้าของเฉินเฟิงแฝงด้วยความโกรธ เซียงหลันจึงถาม “ท่านเฝิง นี่มันเกิดเรื่องอะไรขึ้นเหรอคะ?”

เฉินเฟิงตอบด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ไม่เกี่ยวกับแก”

เซียงหลันอยู่ดีๆหาเรื่องใส่ตัว เมื่อครู่ก็ได้ยินว่าเด็กสาวที่อยู่ด้วยกันกับเฉินเฟิงนั้นถูกคนพาตัวไปแล้ว เธอคาดเดาว่าคงเป็นสาเหตุเรื่องนี้ แต่ก็ไม่รู้แน่ชัดว่าความสัมพันธ์ระหว่างเด็กสาวกับเฉินเฟิงนั้นเป็นอย่างไร ดังนั้นก็ไม่กล้าถามให้ชัดเจน

จึงได้แต่รอคอย กลับได้ยินเฉินเฟิงถามเธอว่า “แกสามารถจะหาตัวตู๋กูหยุนมาได้ไหมล่ะ”

เซียงหลันตกตะลึงสักพัก เธอจะไปหาเขาอย่างไรกัน แม้แต่หลบหลีกยังไม่ทันเลย กำลังคิดจะพูดแซวเล่น แต่เห็นสีหน้าของเฉินเฟิงยังบึ้งตึงเหมือนเดิม จึงพูดอย่างจริงจังว่า “ถึงแม้ว่าตู๋กูหยุนได้ฉายาว่ากระเรียนพันลี้ แต่ว่าก็ต้องมีที่พักอาศัยเป็นที่เป็นทางบ้าง เพียงแต่ว่า เบื้องหลังเขามีหมาป่าทะเลทรายหนุนหลังอยู่ ในทะเลทรายที่กว้างใหญ่แห่งนี้ คิดจะหาเขาคงเป็นเรื่องที่ยากลำบากมากทีเดียว”

เฉินเฟิงพูดอย่างรำคาญใจว่า “ฉันก็แค่อยากรู้ว่าหาเขาได้ยังไงเท่านั้นเอง”

เซียงหลันรู้สึกไม่สบายใจอย่างมากเมื่อถูกสายตาที่จ้องจะฆ่าคนเช่นนั้นมองมายังเธอ จึงพูดอย่างลังเลว่า “ถ้าหากคุณอยากจะตามหาตู๋กูหยุนจริงละก็ วิธีที่ดีที่สุดก็คือไปขอความช่วยเหลือจากตระกูลเชียน”

เฉินเฟิงจ้องมองเซียงหลันเขม็ง แล้วพูดอย่างเรียบๆว่า “ได้ งั้นก็พาฉันไปบ้านตระกูลเชียนแล้วกัน”

ในใจเซียงหลันก็ย่อมไม่เต็มใจเป็นธรรมดา เดิมทีเธอก็ไม่ชอบอยู่แล้ว ยิ่งไปกว่านั้นเชียนหนิงได้พาเพื่อนสนิทของเธอจากไป เพียงแต่ว่าเธอก็เกรงกลัวเฉินเฟิง เมื่อคิดดูแล้ว ก็ต้องยอมตกลงตามนั้น

ถึงแม้ว่าในสองปีนี้ชื่อเสียงใช่ว่าจะโดดเด่นมากนักก็จริง แต่ว่าตระกูลเชียนยังไงก็เป็น ตระกูลใหญ่ที่สืบทอดกันมายาวนานนับพันปีแล้ว เพียงแค่ทรัพย์สมบัติแต่ละยุคสมัยที่ได้สั่งสมมานั้น ก็มากพอที่จะให้ตระกูลเชียนนั้นอยู่เหนือคนอื่นอีกเป็นจำนวนมาก

ศาลากลางน้ำสิ่งก่อสร้างริมทางตระการตา ตึกรามบ้านช่องอาคารคฤหาสน์หรูหราอร่าอร่าม ย่างเข้าเดือนเก้า ใบไม้ร่วงหล่น เห็นใบไม้ร่วงก็ให้รู้ฤดูใบไม้ร่วงมาเยือนแล้ว

เฉินเฟิงนั่งอยู่ในศาลาสุ่ยนั้น ภายในศาลามีคนยืนบริการอยู่ข้างๆ บนโต๊ะมีผลไม้วางอยู่ ไอร้อนจากน้ำชาร้อนแก้วหนึ่งค่อยๆลอยขึ้น แต่ว่าเจ้าของบ้านยังมาไม่ถึง เฉินเฟิงจึงได้แต่นั่งรอต่อไป

มีหญิงสาวหน้าใสคนหนึ่งจูงเด็กน้อยอายุรามแปดเก้าขวบกำลังเล่นน้ำอยู่ฝั่งตรงข้าม ส่งเสียงแจ้วเจ้ามาเป็นระยะๆ เด็กคนนั้นหน้าตาขาวใสสะอาด แต่งตัวก็ดูสวยงามดี คาดเดาว่าน่าจะเป็นลูกหลานเจ้าของบ้าน

ขณะกำลังนั่งมองเพลินๆอยู่นั้น ก็มีคนเดินเข้ามายังศาลาสุ่ย

หน้าตาท่าทางดูแล้วอายุก็ราวยี่สิบกว่า รุ่นราวคราวเดียวกับเฉินเฟิง ใบหน้าเกลี้ยงเกลาไร้หนวดเครา แขนขาเรียวยาว ก็นับว่าเป็นคุณชายที่หน้าตาสดใสหล่อเหลาเอาการทีเดียว

ยังไม่ทันที่จะได้เห็นหน้าเฉินเฟิงเลย ก็ส่งยิ้มเดินเข้ามาแต่ไกล

เมื่อได้พบว่าเฉินเฟิงแล้ว ก็รีบแนะนำตัวเองว่า “กระผมเชียนสวนยี่ ไม่ทราบว่าคุณท่านมีนามว่าอะไรเหรอ?”

เฉินเฟิงตอบว่า “เฉินเฟิง”

เดิมทีนึกว่าฝ่ายนั้นไม่น่าจะรู้จักตัวเอง แต่นึกไม่ถึงว่าเชียนสวนยี่กลับแสดงสีหน้าตกตะลึงแล้วพูดว่า “คุณท่านน่าจะเป็นคนที่สู้ชนะกษัตริย์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือที่ชื่อเฉินเฟิงคนที่สำนักเทียนซานกำลังตามจับตัวท่านนั้นสิ”

เฉินเฟิงยิ้มแหยๆ ในใจก็คิดว่า คงเป็นเพราะเรื่องนี้ ที่เขาอยากจะทำตัวให้สงบเงียบแต่ก็สงบไม่ลงเสียที

แต่มองดูฝ่ายนั้นก็ไม่ได้มีทีท่าว่าจะปฏิเสธตัวเอง จึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า “เป็นผมเองจริงๆ เพียงแต่ว่าเรื่องของสำนักเทียนซานเป็นเรื่องที่เข้าใจผิดที่ซับซ้อนมาก ผมก็ไม่มีโอกาสที่จะไปอธิบายให้กับปรมาจารย์ทั้งสองท่านนั้นให้เข้าใจเลย”

ดูเหมือนว่าเชียนสวนยี่ก็ไม่คิดอยากจะล้วงลึกเรื่องนี้ ได้แต่พูดตามมารยาทว่า “คุณท่านอุตส่าห์ให้เกียรติมาเยือนถึงถิ่น นับว่าเป็นเกียรติอย่างสูงสำหรับบ้านตระกูลเชียนพวกเรา เพียงแต่ไม่ทราบว่าเหตุใดคุณท่านถึงมาที่บ้านตระกูลเชียนได้ล่ะ”

ทั้งสองคนต่างนั่งเผชิญหน้าคุยกัน เฉินเฟิงสามารถสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายที่ห้าวหาญในตัวของเขา น่าจะเป็นคนที่ฝึกวรยุทธ์คนหนึ่ง เพียงแต่ไม่รู้ว่าฝึกถึงขั้นไหนแล้ว

เมื่อเชียนสวนยี่ถามขึ้นก่อน เฉินเฟิงจึงตอบอย่างตรงไปตรงมาว่า “ความจริงแล้วที่มาในวันนี้ ผมก็มีเรื่องหนึ่งที่จะมาไหว้วานขอร้อง”

เชียนสวนยี่มองไปยังเฉินเฟิงอย่างแปลกใจ แล้วพูดว่า “เท่าที่พวกเราพอทราบเกี่ยวกับคุณท่านแล้ว ดูเหมือนว่าเรื่องราวที่ทำให้คุณท่านไม่สามารถแก้ไขได้ มันคงเป็นเรื่องที่ไม่ธรรมดาเลย หรือว่าคุณท่านจะให้พวกเราช่วยรับมือกับสำนักเทียนซาน ถ้าเป็นเรื่องนี้ละก็ พวกเราก็ได้แต่กล่าวคำว่าขอโทษ”

เฉินเฟิงกลับนึกไม่ถึงว่าตระกูลเชียนจะรู้เรื่องราวของตัวเองได้เป็นอย่างดี แต่ว่าเชียนสวนยี่รีบปฏิเสธล่วงหน้าเกี่ยวกับเรื่องของสำนักเทียนซาน แต่ก็ไม่ได้ปฏิเสธที่จะช่วยเหลือเฉินเฟิงในเรื่องอื่น

เฉินเฟิงพูดว่า “ไม่ใช่เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับสำนักเทียนซานแน่นอน เรื่องนั้นสำหรับผมแล้ว ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่ยุ่งยากก็จริง แต่ก็ใช่ว่าจะไม่มีทางแก้ไขได้”

เชียนสวนยี่เพียงแต่ยิ้มอย่างเรียบๆ ไม่ได้แสดงความเห็นเกี่ยวกับคำพูดของเฉินเฟิงแต่อย่างไร แต่เฉินเฟิงก็รู้ว่าเขาไม่เชื่ออย่างแน่นอน นั่นมันไม่ใช่เรื่องสำคัญ ที่เขามาก็ไม่ใช่เพราะเรื่องนี้ด้วย

“ส่วนวันนี้ที่ผมมาที่นี่ ก็คิดอยากจะขอซื้อข้อมูลข่าวสารจากบ้านตระกูลเชียน และหวังว่าตระกูลเชียนจะยอมช่วยเหลือเรื่องเล็กน้อยนี้บ้าง ส่วนราคาเท่าไหร่ก็เสนอมาได้เลย”

เชียนสวนยี่พูดอย่างแปลกใจว่า “คุณท่านจะมาขอซื้อข้อมูลข่าวสารอะไรเหรอ ทำไมไม่ไปหาที่สหพันธ์สงครามล่ะ? ข้อมูลข่าวสารของพวกเขาน่าจะมีครบถ้วนมากกว่านะ”

เฉินเฟิงพูดว่า “นั่นก็เป็นเพราะว่าสหพันธ์สงครามไม่มีข่าวสารนี้อย่างแน่นอน ดังนั้นผมจึงต้องมาหาจากตระกูลใหญ่ที่มีบารมีมากที่สุดในทะเลทรายแห่งนี้ไงล่ะ”

เมื่อได้รับคำชมเชยเช่นนี้ เชียนสวนยี่ก็ย่อมดีใจเป็นธรรมดา แต่ว่าเขาก็ไม่เอ่ยปากตอบตกลงทันที แต่กลับถามว่า “แม้แต่สหพันธ์สงครามก็ยังไม่มีข่าวนี้เลย ตระกูลเชียนพวกเราก็ไม่กล้ารับประกันว่าจะมี แต่ว่าคุณท่านลองพูดมาก็ไม่น่าจะมีอะไรเสียหายเลย”

เฉินเฟิงจึงพูดว่า “ผมอยากจะหาคนคนหนึ่ง”

“ใครเหรอ?”

“กระเรียนพันลี้ ตู๋กูหยุน”

เชียนสวนยี่ได้แต่มองไปยังเฉินเฟิง แต่ไม่ได้รีบตอบรับทันที ผ่านไปสักครู่ เขาจึงพูดว่า “คนคนนี้เป็นคนของหมาป่าทะเลทราย ถ้าหากให้เขารู้ว่าตระกูลเชียนเรากำลังตามหาเขาอยู่ละก็ ไม่แน่อาจจะคิดว่าตระกูลเชียนเรากำลังจะลงมือจัดการกับหมาป่าทะเลทรายก็ได้ ดังนั้นเรื่องนี้เไม่ใช่เพราะว่าผมไม่อยากจะช่วยหรอกนะ แต่มันไม่สามารถช่วยได้จริงๆ”

เฉินเฟิงกลับนึกไม่ถึง เขาถามว่า “หรือว่าตระกูลเชียนก็เกรงกลัวหมาป่าทะเลทรายนี้ด้วยเหรอ?”

เชียนสวนยี่พูดด้วยรอยยิ้มว่า “คุณท่านก็ไม่จำเป็นต้องใช้วิธียั่วยุเช่นนี้หรอก ตระกูลเชียนพวกเรากับหมาป่าทะเลทรายต่างฝ่ายต่างก็มีอิทธิพลในทะเลทรายแห่งนี้ ที่ผ่านมาก็ไม่เคยข้องแวะก้าวก่ายซึ่งกันและกันอยู่แล้ว จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องไปยุ่งเกี่ยวกับพวกเขาเลย”

เฉินเฟิงพูดว่า “เพียงแค่ข่าวสารชิ้นเดียวก็ไม่ได้เลยเหรอ? ถ้าหากเขารู้ความจริงแล้ว คุณสามารถที่จะโยนมาให้ผมรับไปคนเดียวได้เลย”

เชียนสวนยี่พูดว่า “คุณท่านครับ ผมก็พูดไปแล้ว เรื่องนี้เป็นเรื่องที่ช่วยไม่ได้จริงๆ”

เฉินเฟิงผิดหวังบ้างเล็กน้อย เดิมทีเขาน่าจะหาซื้อข่าวคราวนี้ได้ เขาก็ยังเชื่อว่าในโลกนี้ไม่มีใครยอมที่จะปฏิเสธเงินตราได้ทั้งนั้น แต่นึกไม่ถึงว่าตระกูลเชียนกลับปฏิเสธอย่างสิ้นเชิง

ส่วนตอนนี้เชียนสวนยี่ก็พูดอีกว่า “ถึงแม้ไม่รู้ว่าคุณท่านมีบุญคุณความแค้นอะไรกับตู๋กูหยุนคนนี้ก็ตาม แต่ว่าสวนยี่ก็อยากจะขอเตือนคุณท่านว่า ในเขตบริเวณทะเลทรายทางเหนือนี้ ข้อห้ามที่ควรจะหลีกเลี่ยงที่สุดก็คืออย่าไปมีเรื่องกับหมาป่าทะเลทรายเป็นดีที่สุด หากเป็นเหยื่อที่พวกเขาจ้องไล่ล่าแล้ว ไม่มีทางที่จะหลุดรอดไปได้เลย”

เฉินเฟิงสามารถรับรู้ได้ถึงความจริงจังของเชียนสวนยี่

ลูกเขยมังกร

ลูกเขยมังกร

Status: Ongoing

อ่านนิยาย เรื่อง ลูกเขยมังกร ฟรี ได้ที่ novel-fast 


โดย เรื่อง ลูกเขยมังกร บ้างส่วนของนิยาย

บทที่ 1 ทรัพย์สินหลายล้านล้าน

“อยากให้ฉันกลับบ้านตระกูลเฉินงั้นหรือ?” ถนนคนเดิน ในเมืองชางโจวที่ทางเข้าร้าน อาหาร เฉินเฟิงใส่ชุดส่งอาหารเดลิเวอรี่สีเหลืองด้วย สีหน้าเย็นชา

“ใช่ นายท่านบอกว่า ตราบใดที่นายน้อยเต็มใจ ที่จะกลับไปยังตระกูลเฉิน ทรัพย์สินทั้งหมดหลาย ล้านล้านของตระกูลเฉินจะอยู่ภายใต้การควบคุม ของนายน้อย” ตรงข้ามกับเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถัง สีเทาพูดด้วยความเคารพ

“เห้อ…ทรัพย์สินหลายล้านล้าน? ” เฉินเฟิง หัวเราะกับตัวเอง และถอนหายใจเบาๆ : “ตระกูล เฉินนั้นรวยมากจริงๆ”

ราวกับว่าเขาสามารถฟังออกจากคำ กาง ของเฉินเฟิงชายชราใส่ชุดถังถามอย่างหมด หนทาง : ” นายน้อย คุณยังกังวลเกี่ยวกับสิ่งที่เกิด ขึ้นเมื่อสามปีก่อนหรือ? ”

เมื่อเห็นเฉินเฟิงไม่พูดเลย เฉินจงก็ยิ้มอย่าง ขมขื่น ” นายน้อย เรื่องของเมื่อสามปีก่อน นาย ท่านเป็นฝ่ายทำผิดจริงๆ แต่ในช่วงสามปีที่ผ่านมา นายท่านได้ชดใช้กรรมไปแล้วมากพอสมควร สำหรับสิ่งนั้น เหตุใดนายน้อยจึงไม่ให้โอกาสนาย ท่านบ้าง?”

” โอกาสงั้นเหรอ? ” เฉินเฟิงยกมุมปากยิ้มเยาะ %3D เย้ย ขอให้เขาให้โอกาสเฉินเจิ้นหนาน แต่เฉินเจิ้น หนานเคยให้โอกาสแม่ของเขาหรือไม่?

เฉินเฟิงจะไม่มีวันลืมเรื่องที่แม่ของเขาเสียชีวิต de ด้วยโรคร้ายต่อหน้าตัวเอง เมื่อสามปีก่อน

ตระกูลเฉินมีทรัพย์สินหลายล้านล้าน แต่เฉิน เจิ้นหนานไม่ยอมจ่ายเงินหนึ่งล้านเพื่อรักษาแม่ของ เขา แม้ว่าตัวเองจะเป็นเหมือนสุนัข คุกเข่าต่อหน้า เขา และขอความเมตตาจากเขา แต่เฉินเจิ้นหนานไม่ ได้สนใจเลยสักนิด และทำได้เพียงแค่เฝ้าดูแม่ของ เขาเสียชีวิตด้วยความเจ็บป่วยอย่างสิ้นหวัง

ตอนนี้ เฉินเจิ้นหนานต้องการโอกาสงั้นหรือ?

ที…

เฉินเฟิงส่ายหัวด้วยสีหน้าเย้ยหยันสุดจะพรรณนา

“หรือว่า นายน้อยเต็มใจที่จะเป็นคนส่งอาหารไป ตลอดชีวิตหรือ? ” เฉินจงถามพร้อมกับถอนหายใจ เมื่อเฉินเฟิงไม่ไหวติง เขารู้ว่าสามปีหลังจากที่เฉินเฟิ งออกจากบ้านของตระกูลเฉิน ชีวิตของเขาไม่ราบ รื่นเลย ไปเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยไม่ต้องพูดถึง ฐานะที่ต่ำต้อยของเขา ยังคงถูกคนในตระกูลเสี้ย ดูถูกอยู่ตลอดด้วย และวันเวลาของเขาที่อยู่ในตระ กูลเฉินนั้น แตกต่างกันโดยสิ้นเชิง

“ส่งอาหารดีกว่าตาย” เฉินเฟิงพูดด้วยรอยยิ้มจางๆ

สีหน้าของเฉินจงเปลี่ยนไป และเขาก็พูดว่า “นายน้อย คุณหมายถึงอะไร?”

“ไม่ได้หมายถึงอะไรเลย” เฉินเฟิงส่ายหัว “เฉิน จง คุณกลับไปได้แล้ว บอกเฉินเจิ้นหนานและคนใน ตระกูลเฉินด้วย สักวันหนึ่งผมจะกลับไปแน่นอน แต่ ไม่ใช่เพื่อทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น!”

เฉินจงผงะ มองดูเงาร่างด้านหลังของเฉินเฟิงที่ กำลังเดินจากไป ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็ซับ ซ้อน…

ตลอดทาง อารมณ์ของเฉินเฟิงซับซ้อนมาก

ตั้งแต่วันที่เขาเกิดมา เขาก็อาศัยอยู่ในบ้านของ ตระกูลเฉิน แต่เนื่องจากฐานะของเขาเป็นลูกนอก สมรส คนในตระกูลเฉินจึงไม่ค่อยชอบเขานัก แม้ กระทั่งคนรับใช้ของตระกูลเฉินก็สามารถดุด่าว่าเขา อย่างดุเดือด และดูถูกเขาได้ตามต้องการ

เดิมที่เฉินเฟิงเคยคิดว่าเขาจะเป็นตัวหนอนใน ตระกูลเฉินไปชั่วชีวิต จนกระทั่งแม่ของเขาล้มป่วย เมื่อสามปีก่อน เขาจึงตระหนักถึงว่า ตระกูลเฉินไม่ ได้ให้โอกาสเขาเป็นแม้แต่ตัวหนอนด้วยซ้ำ!

ในคืนนั้น แม่ของเขาป่วยหนักมาก เฉินเฟิง คุกเข่าต่อหน้าคนในครอบครัวเฉินเหมือนสุนัขตัว หนึ่ง ขอร้องให้พวกเขาช่วยชีวิตแม่ของเขา แต่ไม่มี ใครยื่นมือช่วยเหลือเลย

การแสดงออกของทุกคนนั้น เย็นชามาก

ในที่สุด แม่ของเขาก็ป่วยหนักจนเสียชีวิต เฉินเฟิงรู้สึกว้าวุ่นมาก ในตอนนั้น เขาก็เข้าใจ แล้วว่า ชีวิตของตัวเอง และแม่ของเขานั้น ด้อยกว่า มดอยู่ในสายตาของคนในตระกูลเฉิน!

ในวันนั้น เฉินเฟิงก็ออกจากบ้านของตระกูลเฉิน

ในวันนั้น เฉินเฟิงสาบานว่า วันหนึ่งเขาจะกลับ ไปที่ตระกูลเฉิน และใช้ความสามารถเข้มแข็งอย่าง เต็มที่ เพื่อให้ทุกคนในตระกูลเฉินคุกเข่าต่อหน้า หลุมฝังศพของแม่เขา และขอให้เธอยกโทษ!

แต่ท้ายที่สุดแล้ว มันเป็นเพียงความคิดเล็กๆ น้อยๆของเขาที่ยังเด็ก หลังจากที่เขาออกจากตระ กูลเฉิน และมาที่ชางโจวได้สองวันเฉินเฟิงก็ถูกกลุ่ม คนไล่ล่าและสังหาร หากไม่ได้รับความช่วยเหลือ จากเสี้ยเว่ยกั๋ว เขาก็คงกลายเป็นศพไปนานแล้ว

ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า คนที่ไล่ล่าเขานั้น ต้องมีส่วน เกี่ยวข้องกับตระกูลเฉินอย่างแน่นอน

อยู่ต่อหน้าคนในตระกูลเฉินที่ยักษ์ใหญ่ เฉินเฟิ งก็ต่ำต้อยราวกับมด

หลังจากกลายเป็นลูกเขยของตระกูลเสี้ยแล้ว ชีวิตของเฉินเฟิงก็ค่อยๆสงบลง แม้ว่าเขาจะถูกผู้คน นับพันหมื่นคนเยาะเย้ย แต่ยังไงเขาก็ยังเป็นคน ธรรมดาคนหนึ่ง

แต่ต้นไม้ต้องการความสงบลมพัดไม่ยอมหยุด และตระกูลเฉิน ก็ตามมาอีกครั้งโดยไม่คาดคิด

ยังจะให้เขากลับไปที่ตระกูลเฉิน และสืบทอดทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น

แต่ลูกหลานรุ่นที่สามของตระกูลเฉินที่ใหญ่โต นั้น มีผู้ชายมากกว่าหนึ่งร้อยคน ไม่ว่าจะวนกันไปกี่ รอบ ก็ไม่มีวันที่จะวนจนถึงลูกนอกสมรสที่จะ สืบทอดตระกูลเฉิน

ไม่ต้องสงสัยเลยว่า นี่เป็นแผนการชั่วร้ายของ พวกเขา

ครั้งหนึ่งเขาเคยถ่อมตัวเหมือนสุนัข แต่วันนี้ เขา มีค่าหลายล้านล้าน

แผนการชั่วร้ายนี้ปลอมเกินไป!

“เฉินเฟิง!” เมื่อเฉินเฟิงขมวดคิ้วอยู่ในความคิด ก็ มีหญิงสาวใส่ชุดเดรสสีขาวที่สง่างามปรากฏต่อหน้า เขา ผู้หญิงคนนั้นมีใบหน้าที่บอบบาง รูปร่างสูงสุด ส่วนอารมณ์ที่สวยงาม เพียงแค่ยืนอยู่ตรงนั้น ก็จะ ทำให้คนรู้สึกสดใสและน่าทึ่งมาก

ผู้หญิงคนนี้ ก็เป็นภรรยาของเฉินเฟิง มีชื่อว่า เสี้ยเมิ่งเหยา

“เมิ่งเหยา มีอะไรเหรอ?”

เมื่อเห็นเสี้ยเมิ่งเหยา ใบหน้าของเฉินเฟิงก็เต็มทรัพย์สินนับล้านล้านนั้น


และยังมี  นิยาย อ่านนิยาย นิยาย pdf นิยายวาย อ่านนิยายฟรี นิยายออนไลน์ อีกหลายเรื่องที่รอให้คุณอ่านที่ novel-fast.com

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท